news on November 14, 2016, 09:29:30 PM
เอ็ตด้า จับมือสถาบัน ASTRI ฮ่องกง ทำวิจัยและพัฒนาโครงการฟินเทค (FinTech)
 








สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กท รอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม จับมือสถาบันพัฒนาเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ฮ่องกง (Hong Kong Applied Science and Technology Research Institute: ASTRI) ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยแล ะพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน หรือฟินเทค(FinTech) เพื่อสนับสนุนการใช้งานระบบโครง สร้างธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ร่ วมกัน
 
สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่ วมมือ (MoU) ร่วมกับสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีและ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ฮ่องกง หรือ ASTRI (แอสทรี) ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญสำห รับเอ็ตด้าในการทำงานร่วมกับหน่ วยงานในต่างประเทศในโครงการวิจั ยและพัฒนาด้านฟินเทค เพื่อต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานเพื่ อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินข องทั้งสองประเทศร่วมกัน
 
“ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เปิดตัวระบบการชำระเงิ นของประเทศที่เรียกว่า ‘พร้อมเพย์’ (PromptPay) โดยมีเป้าหมายในการโปรโมตการใช้ งานระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิก ส์ให้เป็นไปในวงกว้างมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งานง่ายแ ละสะดวก ดังนั้น ฟินเทคจึงเป็นหนึ่งในทิศทางที่เ ราวางแผนที่จะมุ่งไปสู่การทำงาน ร่วมกันกับแอสทรีในโครงการวิจัย และพัฒนาที่มีจุดมุ่งหมายในการส ร้างความสะดวกและความมั่ นคงปลอดภัย ทั้งต่อภาคธุรกิจและประชาชนทั่ว ไปให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น” สุรางคณา กล่าว
 
ภายใต้การลงนามความร่วมมือดั งกล่าว ผู้เชี่ยวชาญจากเอ็ตด้า และแอสทรีจะทำงานร่วมกันในโครงก ารวิจัยและพัฒนาเพื่อสนับสนุนโค รงการที่เกี่ยวกับฟินเทค ครอบคลุมทั้งด้านการรักษาความมั่ นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไปจนถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain technology) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีด้านความมั่นค งปลอดภัยของข้อมูล เพื่อใช้ในการยืนยันตั วตนในการทำธุรกรรมการเงิ นออนไลน์ โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานกลาง และการพัฒนาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากการวิจัยและพัฒนา ความร่วมมือในครั้งนี้ยังรวมถึง การฝึกอบรมและบ่มเพาะผู้เชี่ยวช าญเพื่อสร้างมืออาชีพในด้านความ มั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่าง มาก โดยเอ็ตด้าและแอสทรีจะมองหาความ เป็นไปได้ในทุกทางที่จะแลกเปลี่ ยนความรู้และข้อมูลสำคัญในด้านค วามมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ผ่านระบ บที่เรียกว่า SecShare ที่ทางแอสทรีได้พัฒนาขึ้น และได้มีการนำไปใช้งานอย่างกว้า งขวางทั้งภาคธนาคารและสถาบันทาง การเงินในฮ่องกง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญซึ่ง นำไปใช้ป้องกันการโจมตีจากภัยคุ กคามไซเบอร์ที่มาในรูปแบบต่างๆ กัน

ดร.แฟรงค์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอสทรี กล่าวว่า “ในขณะที่ฮ่องกงอยู่ระหว่างการเ พิ่มศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการเงินเพื่อรองรับการเป็ นศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างปร ะเทศ ประเทศไทยเองก็มีการเติบโตด้ านอีคอมเมิร์ซอย่างมากในช่วงไม่ กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเป็นที่น่ายินดีว่าคว ามร่วมมือกับเอ็ตด้าในครั้งนี้เ ป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญ ด้านเทคนิคจากแอสทรี และเอ็ตด้าได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญระหว่างกันในส่ วนต่างๆ อาทิ อีเพย์เมนต์ และอื่น ๆ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากหน่ว ยงานทั้งสองจะเอื้อประโยชน์ให้ กับการพัฒนาทั้ งในประเทศไทยและฮ่องกงอย่างแน่ นอน”

ทั้งนี้ แอสทรีคือสถาบันการวิจัยที่ได้ รับการก่อตั้งจากรั ฐบาลของเขตการปกครองพิเศษฮ่ องกงในปี 2543 ด้วยเป้าหมายในการสร้างเสริมควา มแข็งแกร่ง พร้อมเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ให้แก่อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีข องฮ่องกงด้วยการวิจัยแบบประยุ กต์ ความสามารถที่เป็นแกนหลักของแอส ทรีในด้านการวิจัยและพัฒนาครอบค ลุมในหลายด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบวงจรรวม (IC) ทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ออปโตอิเล็กทรอนิกส์ ซิเคียวริตีและวิทยาศาสตร์ข้อมู ล (Data Science) ระบบและซอฟต์แวร์อัจฉริยะ นอกจากนี้ แอสทรียังดำเนินการวิจัยและพัฒน าแอปพลิเคชันใน 5 ส่วนหลัก ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีด้านการเงิน การผลิตแบบอัจฉริยะ ระบบเครือข่ายยุคหน้า ไปจนถึงสมาร์ตซิตี เป็นต้น
« Last Edit: November 14, 2016, 09:33:24 PM by news »