news on November 09, 2016, 01:44:10 PM
กทปส. เดินหน้าสนับสนุน 6 โครงการวิจัยพัฒนาของคนไทย พร้อมทุ่มงบจัดสรรกองทุนกว่า 80 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมยกระดับประเทศก้าวสู่ยุคดิจิทัล



นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการ กทปส.


จำนวน 6 โครงการ ที่ผ่านเกณฑ์พิจารณาและได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงฯ ในโครงการประเภทที่ 2 ประจำปี 2558



“กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ” หรือ กทปส. ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. เดินหน้ามุ่งสู่การพัฒนา สนับสนุน และส่งเสริมกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะในระยะยาว ซึ่งถือเป็นอีกบทบาทสำคัญของ กทปส. ที่ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนทุนโครงการวิจัยและพัฒนาต่างๆ ที่ยื่นนำเสนอเข้ามาทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่สามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของกองทุนตามมาตรา 52(1) ด้านบริการอย่างทั่วถึง 52(2) ด้านการวิจัยพัฒนาและรู้เท่าทันสื่อ 52(3) ด้านการพัฒนาบุคลากร และ 52(4) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ และเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน

นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการ กทปส. เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่ประชุม กสทช.  มีมติเห็นชอบ โครงการจำนวน 6 โครงการผ่านเกณฑ์พิจารณาและได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงฯ ในโครงการประเภทที่ 2 ประจำปี 2558 โดยโครงการที่ได้รับการสนับสนุนดังกล่าวตอบโจทย์หลักเกณฑ์เงื่อนไขตามที่ กสทช. กำหนด และเป็นโครงการที่มีคุณค่าสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับประเทศได้ รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา การสร้างองค์ความรู้ ภูมิปัญญา นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ทางด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในชุมชน ถิ่นทุรกันดาร และส่งเสริมการเข้าถึงการให้บริการในด้านเทคโนโลยีสื่อสารในทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเท่าเทียมทั่วถึง โดยทั้ง 6 โครงการ จาก 11 หน่วยงาน ประกอบด้วย

1.   โครงการติดตั้งระบบ ICT และการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ในเขตพื้นที่สาธารณะของวัด หน่วยงาน สถาบันอาศรมศิลป์ จำนวนเงิน 9.24 ล้านบาท
2.   โครงการสร้างความเข้าใจของคนพิการและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่กิจการโทรทัศน์ดิจิตอล หน่วยงาน มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประเทศไทย จำนวนเงิน 4.43 ล้านบาท
3.   โครงการส่งเสริมการผลิตและออกอากาศรายการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว มี 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย
1)   โครงการส่งเสริมการผลิตและออกอากาศรายการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว หน่วยงาน มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวนเงิน 8.36 ล้านบาท
2)   โครงการรายการโทรทัศน์ ใต้ถุนลมโชย หน่วยงาน มูลนิธิเด็ก จำนวน 9.09 ล้านบาท
3)   โครงการสนามเด็กเล่น…สื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว หน่วยงาน สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวนเงิน 7.29 ล้านบาท
4)   โครงการสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ “ใต้หลังคา ฟ้ามีดาว” เพื่อการพัฒนาของเด็กปฐมวัย หน่วยงาน มหาวิทยาลัยรังสิต จำนวนเงิน 5.24 ล้านบาท
4.   โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการชุมชน (Community TV Prototype Station) มี 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย
1)   โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี หน่วยงาน มูลนิธิสื่อสร้างสุข จำนวน 3.49 ล้านบาท
2)   โครงการวิจัยและพัฒนาสถานีโทรทัศน์ชุมชน “พะเยาทีวี” หน่วยงาน สมาคมสื่อชุมชนจังหวัดพะเยา จำนวนเงิน 3.38 ล้านบาท
3)   โครงการทีวีชุมชนอันดามันมั่นคง หน่วยงาน มูลนิธิรักษ์ไทย จำนวนเงิน 3.92 ล้านบาท
5.   โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการจัดทำบริการคำบรรยายแทนเสียง ในช่วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกับเวลาออกอากาศ (Near Real-time Captioning) หน่วยงาน องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน 11.51 ล้านบาท
6.   โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT จิตอาสาแบ่งปันความรู้สู่โรงเรียนห่างไกลในถิ่นทุรกันดารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หน่วยงาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จำนวนเงิน 9.42 ล้านบาท

นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการ กทปส. กล่าวทิ้งท้ายว่า “โครงการผ่านการพิจารณาดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดสรรทุน โดยยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายโครงการโดยเฉพาะโครงการด้านการวิจัย ด้านการพัฒนาบุคลากรและด้านคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งจะทยอยพิจารณาและประกาศให้ทราบต่อไป ทั้งนี้  กทปส. คาดหวังว่าทั้ง 6 โครงการ จาก 11 หน่วยงานที่ผ่านการอนุมัติแล้วจะดำเนินการวิจัยและพัฒนาโครงการฯ ที่นำเสนอเข้ามาอย่างสุดความสามารถ รวมถึงใช้เม็ดเงินจากการจัดสรรเงินจากกองทุน กทปส. ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด เพื่อประโยชน์ต่อภาคการศึกษา สังคม และเศรษฐกิจในประเทศ”
« Last Edit: November 09, 2016, 02:13:58 PM by news »