MSN on November 03, 2016, 02:56:07 PM
บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) หนึ่งในผู้นำงานโครงสร้างเหล็กของไทยคว้างานโรงไฟฟ้าใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 372 ล้านบาท

บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ เผยข่าวดีรับไตรมาส 4 ชนะประมูลงานโรงไฟฟ้าใหม่ 3 โครงการทั้งในและต่างประเทศ คาดสิ้นปีมีแนวโน้มจะได้งานโครงการใหม่เพิ่ม






นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW เปิดเผยถึงงานโครงการใหม่ที่เพิ่งได้รับว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแกนของบริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) เพิ่งได้รับงานโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมมูลค่าทั้ง 3 โครงการกว่า 372 ล้านบาท สำหรับงานในประเทศเป็นงานผลิตระบบท่อและส่วนประกอบ FGD (Flue Gas Desulfurization) Utility Piping สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้กับบริษัท อัลสตอม (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - มกราคม 2560

ส่วนงานในต่างประเทศมี  2 โครงการคือ โครงการโรงไฟฟ้า เซนต์ ชาร์ลส์ รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการรับผลิตงานโครงสร้างเหล็กแปรรูป สำหรับ HRSG (Heat Recovery Steam Generator) จำนวน 2 ยูนิต ให้กับ Nooter/Eirksen ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - มิถุนายน 2560 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม Alba ประเทศบาห์เรน ซึ่งเป็นการรับผลิตงานเหล็กแปรรูปทั้งหมดสำหรับ HRSG (Heat Recovery Steam Generator) จำนวน 3 ยูนิต ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 - สิงหาคม 2560 ให้กับ Alstom Middle East FZE ซึ่งงานทั้ง 3 โครงการมีมูลค่ารวม 372 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมูลค่ารวมประมาณ 2,041 ล้านบาท เป็นมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้ 1,038 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ยังได้รับงานก่อสร้างแบบรับเหมาเบ็ดเสร็จ (Turnkey) สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด  จังหวัดตราด และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 5 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โครงการ รวม 10 เมกะวัตต์ มูลค่างานทั้ง 2 โครงการรวม 520 ล้านบาท และงานโครงการอื่นๆ ที่ได้มีการชนะประมูลในไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง”

นายโชติก กล่าวต่อว่า “การที่เบสท์เทค ซึ่งเป็นบริษัทแกนของ BTW มีความสามารถในการรับงานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการโครงสร้างเหล็กขนาดเล็กไปจนถึงงานโมดูล (Module) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกลยุทธ์การเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมอื่นๆ ในขณะที่อุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมันยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อีกทั้งบริษัทมีศักยภาพทั้งในด้านบุคคลากรและเครื่องจักรอันทันสมัย ประกอบกับการมีโรงงานอยู่ติดท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ อันถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าเลือกเราเป็นอันดับต้นๆ”

นายโชติก กล่าวทิ้งท้ายว่า “บริษัทฯ ยังไม่หยุดที่จะเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ และตอนนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมยื่นประมูลงานอีกหลายโครงการ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะทราบผล และจะเปิดเผยรายละเอียดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จากผลงานที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเราสามารถประมูลงานได้ในประเทศที่มีแนวโน้มพื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดี เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น”

บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company โดยมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกน ก่อตั้งในปี 2530 ประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์และโครงสร้างเหล็ก หรือ Steel Fabrication ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติร่วม 30 ปี โดยกลุ่มของงานบริการหลักประกอบด้วย งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ หรือ โมดูล (Modularization)  ซึ่งเป็นการผลิตกลุ่มชิ้นงานเหล็กหรือระบบการผลิตแยกเป็นหลายโมดูลเพื่อนำไปประกอบในโครงการอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่ และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก  หรือ Parts Fabrication ได้แก่  งานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุและงานโครงสร้างเหล็ก
« Last Edit: November 04, 2016, 01:56:29 PM by MSN »