news on October 12, 2016, 08:52:46 PM
อีริคสันเผยรายงาน Digital Thailand ชี้ ไทยพร้อมสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

•   รายงาน Digital Thailand ของอีริคสันเกี่ยวกับทิศทางผู้บริโภคและอุตสาหกรรมเสนอวิธีการสำหรับ  รัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมที่จะทำให้วิสัยทัศน์ ประเทศดิจิทัล เป็นจริง

•   รายงานนี้บ่งชี้ว่าผู้บริโภคไทยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับทุกสถานการณ์ของชีวิตและพร้อมแล้วสำหรับ “อินเตอร์เน็ตสำหรับทุกสิ่ง” และไทยเป็นผู้นำในการรับเทคโนโลยีสารสนเทศในภูมิภาค

•   อีริคสันครบรอบ110 ปีในไทยปี พ.ศ. 2559 โดยได้ทำงานร่วมกับลูกค้า หุ้นส่วน และรัฐบาลในการปฏิวัติวิถีการใช้ชีวิต การทำงานและการสื่อสารของคนไทย



Dr.Magnus







Nadine Allen


Ericsson Group shot


Mrs.Nadine's cutting the ribbon



อีริคสันเปิดเผยรายงาน Digital Thailand ที่ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมในประเด็นความพร้อมของไทยที่จะก้าวสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ในโอกาสเปิดตัวสำนักงานในกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างเป็นทางการ

รายงาน Digital Thailand ซึ่งใช้ผลการวิจัยจาก Ericsson’s ConsumerLab และการสัมภาษณ์ผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศชี้ชัดว่าผู้บริโภคไทยนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้กับทุกสถานการณ์ในชีวิตและพร้อมแล้วสำหรับ “อินเตอร์เน็ตสำหรับทุกสิ่ง” และประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการปรับใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในภูมิภาค

ผู้บริโภคไทยนำหน้าหรือเท่ากับผู้บริโภคจากทั่วโลกในเรื่องของการหลอมรวมหรือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างเช่นร้อยละ 45  ของผู้บริโภคไทยเทียบกับร้อยละ 37  ของผู้บริโภคทั่วโลกเชื่อว่า การค้นพบผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากชุมชนออนไลน์ง่ายกว่าการค้นหาจากอินเตอร์เน็ต และร้อยละ 33  ของผู้บริโภคที่สำรวจในไทยมีกิจการรมเกี่ยวข้องกับการแบ่งปันบางอย่าง เช่น การแบ่งปันที่อยู่อาศัย อาหาร เสื้อผ้า ยานพาหนะ และ Wi-FI กับคนกลุ่มเดียวกันทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เทียบกับร้อยละ 34 ทั่วโลก

นาดีน อัลเลน ประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อีริคสันเป็นผู้สนับสนุนที่เข้มแข็งให้กับวิสัยทัศน์ Digital Thailand ของรัฐบาลไทยที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในเรื่องสังคมที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายซึ่งทำให้คนทุกคน ธุรกิจทุกอย่าง และสังคมทุกแห่งเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองผ่านการเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เราทำงานร่วมกับลูกค้าและหุ้นส่วนของเรา รวมถึงรัฐบาลไทยเป็นเวลา  110 ปี เพื่อปฏิรูปการใช้ชีวิต การทำงานและการสื่อสารของคนไทย และเราให้คำมั่นว่าจะทำเรื่องนี้ต่อเนื่องไปในอีก 110 ปี ข้างหน้า”

“รายงาน Digital Thailand ของเราตั้งประเด็นหารือที่สำคัญแก่รัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องถึงความร่วมมือที่ทุกฝ่ายสามารถทำได้เพื่อเร่งการปฏิรูปไทยให้เป็นประเทศดิจิทัลเร็วขึ้น”

เมื่อการรับเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพของเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้วิสัยทัศน์ ประเทศดิจิทัลเกิดขึ้นได้จริง ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับสองของภูมิภาคในเรื่องอัตราความเร็วสูงสุดในการส่งข้อมูลจากสถานีแม่ข่ายไปยังสถานีลูกข่าย (Peak Downlink Speed) และอัตราความเร็วในการส่งข้อมูล 1 แพ็คเกตจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง (Latency) บนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ไทยอยู่ในอันดับห้าสำหรับการส่งข้อมูลปริมาณต่ำสุด (Cell-edge Throughput) ซึ่งเหมาะสมกับการค้นหาข้อมูลทางเว็บไซต์ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับ Video หรือ Music Streaming  รวมทั้งการประชุมแบบทันทีผ่านระบบวิดิโอด้วย ผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศดำเนินการเพิ่มความครอบคลุมขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสนับสนุนการให้บริการคอนเทนต์สื่อขนาดใหญ่ (Media Rich Content) ซึ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้น ต้องจัดให้ประชาชนทั้งในเมืองและในชนบทสามารถรับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บรอดแบนด์ได้ ต้องนำปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมาตั้งเป็นโจทย์ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในประเทศ ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเร็วขึ้น

อีริคสันทำนายว่า “อินเตอร์เน็ตสำหรับทุกสิ่ง” จะกลายเป็นประเภทของอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดแซงหน้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีพ.ศ.  2561 และรายงาน Digital Thailand แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของผู้บริโภคไทยที่จะใช้ “อินเตอร์เน็ตสำหรับทุกสิ่ง”  ร้อยละ 43 ของผู้บริโภคในประเทศรู้สึกว่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์ต่างๆ และบริการทั้งหลายเข้ากับอินเตอร์เน็ตจะเป็นผลดีกับสังคม เปรียบเทียบกับผู้บริโภคร้อยละ 36 ทั่วโลก และร้อยละ 84 ของผู้บริโภคไทยต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ อย่างหรือสิ่งของหลายๆ ชิ้นเข้ากับอินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เทียบกับร้อยละ81 ทั่วโลก โทรทัศน์ รถยนต์ กล้องถ่ายภาพ และสัญญาณเตือนภัยในบ้านเป็นอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคไทยต้องการให้มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตสูงสุด

อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นตามมาจากการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น เศษหนึ่งส่วนสามของผู้บริโภคไทยเกรงว่ารายละเอียดของชีวิตส่วนตัวของตนจะถูกบันทึกไว้โดยพวกเขาไม่ได้รับรู้ด้วย

“ข้อกังวลเหล่านี้ต้องได้รับการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคไทยได้มีส่วนร่วมเชิงรุกในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลก อีริคสันรอที่จะผนวกข้อมูลระดับโลกเข้ากับข้อมูลระดับประเทศเพื่อให้ความร่วมมือกับอุตสาหกรรมและรัฐบาลในการทำให้วิสัยทัศน์ ประเทศดิจิทัลเกิดขึ้นจริง” นาดีน อัลเลน กล่าวเสริม

เส้นทางของอีริคสันในประเทศไทยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2449 จากการให้บริการโทรศัพท์สายพ่วงเป็นครั้งแรกของประเทศ อีริคสันบุกเบิกเทคโนโลยี 1G 2G และ 3G สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไทย และได้เริ่มให้บริการเทคโนโลยี 4G เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการใช้บรอดแบนด์เคลื่อนที่ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทย และการปรับปรุงสำนักงานในกรุงเทพมหานครซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารซันทาวเวอร์เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการตอกย้ำคำมั่นที่เราให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องอีกประการหนึ่ง การเปิดตัวสำนักงานนี้ประกอบด้วยการแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ 5G ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้ Digital Thailand เป็นจริงได้ รวมถึงหุ่นยนต์สมัยใหม่ที่สามารถทำงานที่ต้องอาศัยการประมวลผลสูงๆ และหน่วยความจำมหาศาลบนเซิฟเวอร์ผ่านการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Cloud หุ่นยนต์และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality)

อีริคสันเป็นพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังสังคมที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและบริการต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ยาวนานของเรากับผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่ทุกรายในโลกส่งผลให้ผู้คน ธุรกิจและสังคมสามารถใช้ศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่นำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

บริการ ซอฟแวร์ และโครงสร้างพื้นฐานของเรา โดยเฉพาะเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ และ Cloud ของเราทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบธุรกิจได้ดีขึ้น พัฒนาประสิทธิภาพ เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

ด้วยมืออาชีพราว 115,000 คนรวมกับลูกค้าใน 180 ประเทศ เราเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและบริการระดับโลก เราสนับสนุนเครือข่ายต่างๆ ที่เชื่อมโยงผู้ใช้บริการ 2.5 พันล้านคน ร้อยละ 40 ของการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายของเรา และการลงทุนในด้านการวิจัยและการพัฒนาของเราให้ความมั่นใจว่าวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ของเรา และลูกค้าของเราจะอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรม

อีริคสันก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ยอดขายสุทธิในปี พ.ศ. 2558 มีมูลค่า 246.9 พันล้านโครเนอร์สวีเดนหรือประมาณ 29.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ OMX ในกรุงสต็อกโฮล์ม และใน NASDAQ กรุงนิวยอร์ค

www.ericsson.com
www.ericsson.com/news
www.twitter.com/ericssonpress
www.facebook.com/ericsson
www.youtube.com/ericsson
« Last Edit: October 12, 2016, 10:44:46 PM by news »

news on October 12, 2016, 10:26:15 PM
Ericsson’s digital Thailand report discusses Thailand’s readiness for a digital economy

•   Ericsson’s Digital Thailand report on ICT consumer trends and industry insights provides key discussion points for government and industry on how to realize the Digital Thailand vision.

•   The report demonstrates how Thai consumers are embracing ICT in all facets of life and are ready for the Internet-of-Things (IoT) and Thailand is a leading nation in ICT adoption in the region.

•   2016 marks 110 years of Ericsson in Thailand and working with customers, partners, and government to revolutionize the way Thai people live, work and communicate with each other




Dr.Magnus







Nadine Allen


Ericsson Group shot


Mrs.Nadine's cutting the ribbon



Ericsson has today launched its Digital Thailand report, which provides key consumer and industry insights on Thailand’s readiness for a digital economy, at its official inauguration of its newly-renovated Bangkok office. 

The Digital Thailand report, based on Ericsson ConsumerLab’s research and interviews with local tech industry players, demonstrates how Thai consumers are embracing ICT in all facets of life, are ready for the Internet-of-Things (IoT) and that Thailand is a leading nation in ICT adoption in the region.

Thai consumers are ahead of or on par with the global peers when it comes to embracing  ICT. For example, 45 percent of Thai consumers (compared with 37 per cent globally) believe that discovering products through online communities is easier than searching the internet and 33 percent of consumers surveyed in Thailand engage in some form of sharing activity such as sharing accommodation, food, clothing, rides and Wi-Fi with peers using websites and smartphone apps (global average is 34 percent).

Nadine Allen, Head of Ericsson Thailand, says: “Ericsson is a strong supporter of the Thai Government’s vision for a Digital Thailand, as it is very aligned with our own vision of a Networked Society, in which every person, business and society is empowered to reach their full potential through connectivity. We have been working with our customers, partners and the Thai government for the last 110 years to transform the way Thai people live, work and communicate and we are committed to doing so for the next 110 years and more.”

“Our Digital Thailand Report provides important discussion points for government and industry around how we can collaborate to further accelerate the country’s transformation towards a Digital Thailand.”

As ICT adoption increases, network performance becomes critical to truly realize the Digital Thailand vision. Currently internet users in Thailand experience a cell-edge throughput of 225 Kbps, which is good for web browsing but not enough for video, music streaming and real-time video conferencing. In order to realize the Digital Nation vision, it is important that a good mobile broadband experience is available for consumers in both urban and rural Thailand. Local app development that addresses the everyday challenges of the consumers will also help to increase the pace of change towards a digital economy.

Ericsson predicts that the Internet of Things (IoT) is expected to surpass mobile phones as the largest category of connected devices globally in 2018 and the Digital Thailand report demonstrates the readiness of Thai consumers for the IoT. In Thailand, 43 percent of consumers feel that connecting household appliances, gadgets, and services to the internet would benefit society, compared to 36 percent globally, and 84 percent of consumers would like to connect different devices or things to the internet to make it more efficient compared to 81 percent globally. TV, car, camera and home alarm are the top devices that Thai consumers want to connect to the internet.

However, with the increasing internet usage, there are concerns related to the privacy and security of internet users. One-third of Thai consumers fear that details about their personal life are being recorded without their knowledge.

Nadine Allen says: ”These concerns have to be addressed to encourage Thai consumers to actively participate in the digital economy. As a global ICT leader, Ericsson looks forward to combining our global and local insights to collaborate with industry and government on the realization of a Digital Thailand.”

Ericsson’s journey in Thailand commenced in 1906 with the deployment of Thailand’s first ever telephone exchange. Ericsson pioneered 1G, 2G and 3G mobile technology in Thailand and we have been rolling out 4G with our customers to deliver an enhanced mobile broadband experience to Thai consumers. As part of our ongoing commitment to Thailand, which is one of the top 3 markets for Ericsson in South East Asia and Oceania, Ericsson recently renovated our Bangkok office located in the Suntower building. The office inauguration included demonstrations of ground-breaking technical innovations that will be enabled by 5G, including Cloud Robotics and Augmented Reality.

Ericsson is the driving force behind the Networked Society – a world leader in communications technology and services. Our long-term relationships with every major telecom operator in the world allow people, business and society to fulfill their potential and create a more sustainable future.

Our services, software and infrastructure – especially in mobility, broadband and the cloud – are enabling the telecom industry and other sectors to do better business, increase efficiency, improve the user experience and capture new opportunities.

With approximately 115,000 professionals and customers in 180 countries, we combine global scale with technology and services leadership. We support networks that connect more than 2.5 billion subscribers. Forty percent of the world’s mobile traffic is carried over Ericsson networks. And our investments in research and development ensure that our solutions – and our customers – stay in front.

Founded in 1876, Ericsson has its headquarters in Stockholm, Sweden. Net sales in 2015 were SEK 246.9 billion (USD 29.4 billion). Ericsson is listed on NASDAQ OMX stock exchange in Stockholm and the NASDAQ in New York.

www.ericsson.com 
www.ericsson.com/news
www.twitter.com/ericssonpress
www.facebook.com/ericsson
www.youtube.com/ericsson
« Last Edit: October 12, 2016, 10:52:04 PM by news »

news on October 12, 2016, 10:28:15 PM
การเปิดตัวสำนักงานของอีริคสัน ประเทศไทย และการเปิดเผยรายงาน Digital Thailand

อีริคสันได้แสดงวิสัยทัศน์ 5G พร้อมยกตัวอย่างหน้าที่ที่ระบบ 5G จะเข้ามารองรับในประเทศไทยในอนาคตเพื่ออธิบายถึงศักยภาพของเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวที่จะช่วยสนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทยสู่การเป็นเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

วิสัยทัศน์ 5G
เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้สังคมที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเกิดศักภาพสูงสุดอย่างแท้จริงโดยการสนับสนุนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ และการทำหน้าที่ของระบบต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ธุรกิจ และสังคม
5G หมายถึงระบบที่ผนวกการเข้าถึงคลื่นวิทยุ การทำงานร่วมกันของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากโดยแบ่งชั้นการประมวลผลออกจากชั้นเก็บข้อมูล (Cloud) ระบบงานหลัก และระบบจัดการเข้าด้วยกัน ซึ่งจะปฏิบัติการเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีการส่งข้อมูลที่ให้ความเร็วเหนือกว่า 3G ถึง 10 เท่า (Long Term Evolution: LTE) และใช้เทคโนโลยีเครือข่ายแยกส่วน (Network Slicing)

สาระสำคัญของเทคโนโลยี 5G คือการสร้างการเติบโตผ่านนวัตกรรม และอีริคสันกำลังทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราสร้างระบบนิเวศน์ที่แข็งแรงที่สุดสำหรับ 5G เพื่อทำให้การเติบโตนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เราทำสิ่งเหล่านี้ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดจนถือว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์กับผู้ประกอบการ ผู้จำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ผลิตอุปกรณ์ หน่วยงานควบคุมมาตรฐาน ผู้ผลิตโปรแกรมสาธารณะ และอุตสาหกรรมต่างๆ

เราสร้างนวัตกรรมด้วยการสร้างระบบ 5G ที่ดีที่สุดในโลกแห่งความจริง โครงสร้างพื้นฐานของระบบ 5G ของเราจะต้องส่งมอบความสามารถ ความหนาแน่น ความเร็ว และความคล่องตัวที่ได้รับการพัฒนาแล้ว เรากำลังนำระบบทดลองเทคโนโลยี 5G ที่ก้าวหน้าที่สุดมาสู่อุตสาหกรรมนี้เพื่อทดสอบการใช้งานจริงและสนับสนุนการสร้างมาตรฐานระดับโลก

การปฏิรูป 5G ประสบผลสำเร็จ เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายต่างๆ ให้สร้างรายรับสูงสุดบนความเสี่ยงต่ำสุดด้วยการยกระดับเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสี่เจนเนอเรชั่นและการปฏิบัติงานโดยบุคลากรมืออาชีพ 66,000 คนของเรา

ผลที่ได้รับจาก 5G
•   อัตราความเร็วของการส่งผ่านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า: การเข้าถึงบริการและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
•   ความรวดเร็วของการตอบสนองในการใช้งานบนเครือข่ายเพิ่มขึ้นห้าเท่า: เช่นกรณีในการใช้งานของระบบการขนส่งอัจฉริยะและระบบควบคุมเครื่องจักรจากระยะไกล
•   ปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านบนโทรศัพท์มือถือขยายถึง 1,000 เท่า
•   ความสามารถของการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นได้ในระยะเวลายาวนานเพิ่มขึ้น 10 เท่า: โดยเฉพาะอุปกรณ์ เก็บข้อมูลระยะไกล (Remote Sensor) ที่ต้องทำงานด้วยระบบแบตเตอรี่ และเครือข่ายที่ยากต่อการดูแลรักษา (Sustainable networks) 

สาธิตความสามารถของระบบ 5G

แขนของหุ่นยนต์ที่รับรู้การเคลื่อนไหว (Motion Sensing Robot Arm):
ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย 5G จะทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะถ่ายทอดการเคลื่อนไหวของมนุษย์ไปสู่หุ่นยนต์ได้อย่างถูกต้องและมีการตอบสนองที่ดีเพียงพอทั้งต่อการปฏิสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่อยู่ต่อหน้าและเครื่องจักรที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้การสื่อสารแบบไร้สาย การสาธิตนี้เป็นตัวอย่างของการตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือและนิ้วมือ ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับแขนของหุ่นยนต์ด้วยการเคลื่อนไหวมือและนิ้วสั่งให้แขนของหุ่นยนต์เคลื่อนไหวและทำให้หุ่นยนต์หยิบ เคลื่อนย้าย และปล่อยสิ่งของได้ การตรวจจับการควบคุมการเคลื่อนไหวนี้อาจถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้กับขั้นตอนต่างๆ ของอุตสาหกรรมและการผลิต นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และการศึกษา ตลอดจนเพื่อความเพลิดเพลินและการเล่นเกมส์ สิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานผ่านระบบนี้คือ ความรวดเร็วอย่างยิ่งในการตอบสนองการควบคุม  และจำเป็นอย่างยิ่งที่ระบบต้องมีความพร้อม ความเที่ยงตรง และความปลอดภัยในการใช้งานในระดับที่สูง (High Availability, reliability and security)  ทั้งนี้ 5G จะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่วางพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในสังคมที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย

การควบคุมการทรงตัวของหุ่นยนต์ (Balancing Robot):
เทคโนโลยี 5G เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์จำนวนมากที่ต้องการให้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว (Low Latency) โดยมีการควมคุมอุปกรณ์บนระบบ Cloud
การสาธิตนี้แสดงถึงการส่งข้อความและคำสั่งจำนวนมาก ระหว่างหุ่นยนต์ผ่านระบบ Cloud ทำให้การใช้แอพพลิเคชั่นบนระบบ Cloud  สามารถกำหนดตำแหน่งปัจจุบันของหุ่นยนต์ได้ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจทันทีว่าจะให้ตัวหุ่นยนต์อยู่ที่ตำแหน่งใด จากนั้นจึงส่งคำสั่งไปยังเครื่องจักรที่ควบคุมล้อกล การสาธิตนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ด้วย เทคโนโลยี 5G ทำให้ระบบควบคุมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้หุ่นยนต์มีการตอบสนองข้อมูลได้ในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว ซึ่งน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.01วินาที  ซี่งถ้า หุ่นยนต์ตอบสนองข้อมูลการควบคุมช้ากว่า 0.04 วินาที จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการทรงตัวของหุ่นยนต์ได้และจะทำให้หุ่นยนต์จะร่วงหล่นลงมา

แว่นตาความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality Glasses):
5G จะทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและ Cloud สามารถนำเสนอบริการและการใช้งานใหม่ๆ ได้ เช่น แอพพลิเคชั่นความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality: AR) การสาธิตนี้อธิบายว่าแว่นตาในความเป็นจริงเสริมนี้สามารถซ้อนแทน (Overlay) ข้อมูลเฉพาะเจาะจงและคำสั่งต่างๆ ที่สัมพันธ์กับวัตถุในโลกแห่งความจริงที่มองเห็นผ่านแว่นตานี้ได้ แอพพลิเคชั่นความเป็นจริงเสริมนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงและมีประโยชน์กับหลายสถานการณ์ในชีวิตจริง เช่น สำหรับผู้ควบคุมยานพาหนะและเครื่องจักร วิศวกร ช่างซ่อม และผู้ทำงานฝีมือต่างๆ นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ทางสังคมและความบันเทิง การที่ข้อมูลออนไลน์เชื่อมต่อกับบรอดแบนด์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานความเป็นจริงเสริมจำนวนมาก และเทคโนโลยี 5G เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการทำให้แอพพลิเคชั่นความเป็นจริงเสริมกลายเป็นอุตสาหกรรมและมีการนำไปใช้ในวงกว้าง

news on October 12, 2016, 10:29:41 PM
Ericsson Thailand Office Inauguration and Digital Thailand Report launch

To illustrate the potential of 5th Generation Mobile Technology (5G), which will help support Thailand’s transformation towards a digital economy and society, Ericsson is demonstrating our 5G Vision, and examples of future 5G Use Cases for Thailand.

5G Vision
By enabling new applications and use cases that benefit people, business and society, 5G will help realize the full potential of the Networked Society.

5G is a system that includes radio access, cloud, core and management systems; it will interwork with LTE and uses network slicing technologies.

Growth through innovation is the promise of 5G – and Ericsson is making it happen. We’re building the strongest global 5G ecosystem to enable rapid growth. We do this with closely interlinked, symbiotic relationships including operators, semiconductor vendors, IT-infrastructure providers, device manufacturers, standards bodies, open source communities and industries.

We’re leading innovation with the best 5G platforms for the real world. Our common 5G architecture will deliver on the promise of improved capacity, density, latency and agility. We are bringing the most advanced 5G trial systems to the field to test real-world applications and support global standardization.

Transforming to 5G successfully. With four generations of mobile technology shifts and 66,000 service professionals, we have the experience and expertise to transform networks for maximum revenue gain with minimal risk.

5G will deliver:
•   Up to 100 times faster data rates: instant access to services and applications
•    Network latency lowered by a factor of five:use cases in areas such as intelligent transport and remote machinery
•   Mobile data volumes expanded by a factor of 1,000
•   Ten times better battery life: remote sensors and more sustainable networks

5G Use Case Demonstrations

Motion Sensing Robot Arm:
With 5G, it will be possible to implement human to machine applications that are reliable and responsive enough not only to interact with machines in front of you but further away, via wireless communications. This demonstration is showcasing leap motion sensing. A user can interact with a robot arm via hand and finger motions, both moving the robot arm and also allowing the robotic arm to grip, move and release objects. The possible applications for motion sensing controls range from industrial and manufacturing processes, to medical and educational purposes, as well as for leisure and games. For thse applications, extremely low latency in combination with high availability, reliability and security will be crucial. 5G will be the key technology to pave the way for upcoming industry transformations in the networked society.

Balancing Robot:
5G will also bring the capability of low latency connectivity for large number of devices making it possible to move significant part of industrial control to the cloud. This demonstration shows the tight integration between a robot and the cloud, enabling the cloud based application to receive instant positioning data from the robot, analyzing the information and making real-time decisions for how to keep the robot upright, then sending commands to the engines controlling the robot wheels. Notably, with low latency settings in the range of 10 ms and less being enabled by 5G technology, the balancing works well, however with latency settings higher in the range of 40 ms and up as provided by current network technologies, the balancing will fail and the robot fall down.

Augmented Reality Glasses:
5G will enable high speed Internet and Cloud connectivity for new type of services and applications such as Augmented Reality (AR). This demonstration is illustrating how AR glasses can be used to overlay specific information and instructions related to real world objects that are seen through the glasses. AR applications are expected to be of high value and benefit for many real-life scenarios such as for operators of vehicles and machinery, engineers, repair and craftsmen, in additional to social and entertainment purposes. For many of these AR applications, broadband connectivity to online information will be a life-line, and 5G technology the natural choice for industrialization and wide adoption.

news on October 12, 2016, 10:31:02 PM


นาดีน อัลเลน ประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด (ตั้งแต่ สิงหาคม 2559)

นาดีน อัลเลน มีประสบการณ์ในบทบาทที่หลากหลายในอุตสาหกรรมไอซีที หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับโลก มากว่า 20 ปี รวมถึงได้รับตำแหน่งผู้บริหารที่อีริคสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

เธอเข้ารับตำแหน่งประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2559 ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของบริหารธุรกิจโดยรวมของอีริคสัน ประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ เธอเป็นรองประธานฝ่ายลูกค้าอุตสาหกรรมและสังคม อีริคสัน ยุโรปกลางและตะว้นตก รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินธุรกิจของอีริคสันอุตสาหกรรมรถยนต์ พลังงาน และระบบการขนส่งอัจฉริยะ ความปลอดภัยสาธารณะและการขนส่งสินค้าทางเรือ ใน 16 ประเทศของยุโรปตอนกลางและตะวันตก นอกจากนี้เธอยังมีประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาการบริหารการให้บริการและกลุ่มธุรกิจภายนอกของอีริคสัน เป็นเวลา 2 ปี 

ก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกับอีริคสัน นาดีนเคยเป็นรองประธานและผู้จัดการลูกค้าของบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะ EE (บริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร) และ MBNL (บริษัทร่วมกันระหว่าง EE และ3UK) มากว่า 6 ปี นาดีนยังมีประสบการณ์ในตำแน่งงานขายและการตลาดที่ Marconi PLC และ ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของการกำหนดทิศทางกลยุทธ์และการปฏิบัติการฝ่ายธุรกิจ เป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Marconi สำหรับการบริหารเครือข่ายและระบบสนับสนุนการปฎิบัติการ

อีริคสัน เอเชีย แปซิฟิค : อีริคสัน อินเดีย, อีริคสัน เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และอีริคสันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย
« Last Edit: October 12, 2016, 10:33:47 PM by news »

news on October 12, 2016, 10:31:53 PM


Mrs. Nadine Allen President and Head of Ericsson Thailand (Since August 2016)

Nadine Allen has held a variety of roles in the global ICT (information and communications technology) market for the past 20 years including executive positions with Ericsson since 2006.

Since August 1, 2016, she is the President and Head of Ericsson Thailand where she is responsible for managing Ericsson’s overall business in Thailand.

Previously, she was the Vice President of Ericsson’s Industry & Society Customer Unit, in Western Central Europe. In this role she was responsible for running Ericsson’s business with vertical industries in Automotive, Energy, Intelligent Transport Systems, Public Safety and Shipping Maritime, in 16 countries across Western Central Europe. Mrs Allen also gained experience as a consultant to Ericsson’s Managed Services and outsourcing business group for two years.

Before joining Ericsson, she was Vice President and Key Account Manager with Mobile Network Operators in the UK, particularly EE (the UK’s largest mobile operator) and MBNL (the joint venture between EE and 3UK) for over six years. Mrs Allen also held a variety of sales and marketing positions with Marconi PLC and was responsible for the strategic direction and operational performance of the business unit as the Head of Marconi’s Global Business Unit for Network Management and Operations Support Systems.

Ericsson in Asia-Pacific: Ericsson India, Ericsson North East Asia and Ericsson South East Asia and Oceania.
« Last Edit: October 12, 2016, 10:34:38 PM by news »