เรื่องย่อ: ดวงใจพิสุทธิ์
บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
บทโทรทัศน์ : พรดี
ผลิตโดย : บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ผู้จัด : ชุดาภา จันทเขตต์ และ ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล
กำกับโดย โอ๊ต-วรวุฒิ นิยมทรัพย์
"ดวงใจพิสุทธิ์ คือความบริสุทธิ์ในจิตใจ คือความสดใสของเด็กๆ ที่ผู้ใหญ่จะต้องดูแลและเอาใจใส่ด้วยความรักความอบอุ่นเพื่อการเติบโตที่ดีในวันข้างหน้า เรื่องราวเด็กสองคนที่คนหนึ่งเติบโตมาอย่างสดใส แต่อีกคนต้องเผชิญปัญหาที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ดวงใจพิสุทธิ์ที่ถูกทำลายไปจะกลับมางดงามสดใสได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคนรอบข้างที่จะช่วยกันให้ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป..."
เด็กชายชินกฤต หรือลูกหมี เกิดมาท่ามกลางความรักความอบอุ่นของพ่อชีร และแม่ธาดา แต่แล้วพ่อซึ่งเป็นนักการทูตก็มีความจำเป็นจะต้องไปประจำอยู่ประเทศแถบอัฟริกา ที่ยังมีปัญหาเรื่องความผันผวนทางสังคมและโรคระบาดร้ายแรง ทั้งคู่จึงตัดสินใจฝากลูกหมีไว้กับคุณย่าชนนีและชินานางหรืออาช้าง ที่เต็มใจรับดูแลหลานชายคนเดียวในดวงใจ ด้วยความรักความเอาใจใส่อย่างเปี่ยมล้น ทำให้ลูกหมีไม่รู้สึกว้าเหว่เมื่อต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ ลูกหมีได้รับการตามใจ ให้อิสระในการพูดและทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง ทำให้เป็นเด็กมีความสุข แจ่มใส ฉลาด มองโลกในแง่ดี มีจิตใจอ่อนโยน กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นจนบางครั้งดูออกจะทะเล้นปนเจ้าเล่ห์อย่างเด็กรู้จักเอาตัวรอด สร้างความปวดหัวให้ช้างที่ไม่คุ้นกับการดูแลเด็ก จนต้องปรึกษากับ จิรัช หรืออ้อยหวาน ชายหนุ่มเพื่อนรักที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เป็นนักศึกษา ซึ่งอ้อยหวานก็ให้คำปรึกษาอย่างคนที่มองโลกในแง่ดีมาโดยตลอด
ส่วนอีกครอบครัวหนึ่ง อยู่ห่างไกลออกไปถึงจังหวัดสงขลา เด็กหญิงหวันยิหวา หรือปุ๊คกี้ ที่เกิดมาในครอบครัวนักธุรกิจ ตระกูลมั่งคั่งในเมืองหาดใหญ่ ชีวิตของเด็กน้อยเริ่มต้นด้วยความรักความอบอุ่นจากพ่อวิริยะ แม่หรรษา และยังเป็นหลานคนโปรดของคุณย่าภาวนา ผู้เป็นประมุขของตระกูล แต่แล้ววิริยะกับหรรษาก็ต้องจากไปอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทิ้งปุ๊คกี้ลูกน้อยไร้เดียงสาให้เผชิญชีวิตตามลำพัง
ครอบครัวของแม่หรรษาของปุ๊คกี้ คือ พี่สาว หทยา และ น้องชาย หัฏฐ์ พยายามจะขอปุ๊คกี้มาดูแล แต่คุณภาวนาขอเป็นผู้ดูแลเองเพื่อไม่ให้ปุ๊คกี้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป คุณภาวนาเองก็รักและเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยนี้เกินกว่าจะปล่อยให้หลานไปอยู่ไกลตัวได้ หทยากับหัฏฐ์ จึงต้องยอมให้หลานอยู่กับคุณย่าด้วยเหตุผลที่สมควรกว่า แต่อีกไม่นานคุณภาวนาก็เริ่มล้มป่วย ปุ๊คกี้ต้องอยู่ในความดูแลของ ชลีกร ป้าสะใภ้ที่ปากบอกว่ารักปุ๊คกี้เหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ลับหลังชลีกรได้ทำการทารุณ บีบบังคับปุ๊คกี้ ทั้งร่างกายและจิตใจด้วยความชิงชังริษยาที่ปุ๊คกี้เป็นหลานคนโปรดของคุณภาวนา ชลีกรมีความเชื่อและแค้นใจเสมอมาว่าพ่อแม่ของสามีมีความลำเอียง รักและยกย่องพ่อของปุ๊คกี้ยิ่งกว่า สาวิตร สามีของเธอทั้งๆที่สาวิตรเป็นพี่ชายคนโต
ชลีกรไล่คนเก่าแก่ในบ้านของคุณภาวนาออกไปจนหมด แล้วจ้างพร้อมพรญาติห่างๆของเธอที่เป็นพยาบาลมาดูแลคุณภาวนาแทน หน้าที่หลักของพร้อมพรคือคอยกันไม่ให้ย่ากับหลานปุ๊คกี้ได้พบกัน คอยแต่งเรื่องโป้ปดมดเท็จช่วยสร้างภาพให้ชลีกรเป็นป้าที่แสนดี เป็นสะใภ้ที่แสนประเสริฐ และที่สำคัญพร้อมพรจะเป็นคนให้ยาที่ทำให้คุณภาวนาอ่อนเพลีย อาการทรุดหนักเร็วกว่าที่ควร
ทางกรุงเทพ หัฏฐ์ อาจารย์หนุ่มหล่อมาดขรึม ต้องทนรำคาญเสียงงิ้วโรงเล็ก ของอาช้างและลูกหมี ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้านได้ไม่กี่เดือน เขาเคยเห็นลูกหมีวิ่งเล่นอยู่ที่สนาม แต่อาสาวเสียงแปร๋นๆนั้นเขาไม่เคยเห็นหน้า แต่วาดภาพว่าคงจะอ้วนใหญ่เป็นช้างพังสมชื่อ หัฏฐ์ไม่เคยทักทายหรือทำความรู้จักครอบครัวข้าง แต่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับดร.จูน (หรือดร.จุไร) เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เป็นนักศึกษา ดร.จูนไกล่เกลี่ยให้หัฏฐ์ใจเย็นๆ หัฏฐ์ผู้มีระเบียบวินัย มีความมั่นใจในตัวเองสูง อดทนกับ"ศึกเจ้าลูกหมีควายกับยายช้างน้ำ" มาหลายเดือน จนถึงวันที่เสียงทะเลาะของอาหลานปลุกเขาขึ้นมาในวันหยุดหัฏฐ์รู้สึกสุดจะทนตั้งใจจะไปเจรจาให้แตกหัก แต่แล้วเขาก็ได้รับข่าวร้ายจากหาดใหญ่อีกครั้ง คราวนี้คุณภาวนา ย่าของปุ๊คกี้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
แม้ผู้คนจะอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดคุณภาวนาจึงจากไปรวดเร็วเช่นนี้ แต่ความน่าเชื่อถือของชลีกรก็ทำให้เห็นคล้อยตามได้ไม่ยากว่า คุณภาวนาซึ่งมีอาการของโรคหัวใจและหอบหืดทนการรบเร้าของปุ๊คกี้หลานรักไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาเล่นด้วยจนเกิดอาการเหนื่อยจนช็อคสิ้นลมไปอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อไม่ให้ปุ๊คกี้ต้องสะเทือนใจที่คนเริ่มซุบซิบกันว่าเด็กคนนี้เป็นตัวนำโชคร้าย หทยาและหัฏฐ์ จึงได้ออกปากขอตัวหลานสาวมาดูแลเองอีกครั้ง คราวนี้ชลีกรดูจะเต็มอกเต็มใจแทบจะยัดเยียดผลักไสให้มาเลยด้วยซ้ำ ปุ๊คกี้จึงได้โอนทะเบียนมาอยู่กับป้าหทยา(หทัย)และน้าหัฏฐ์ โดยไม่มีใครคัดค้าน ชินานางได้ยินหทัยมาบ่นกับชนนีว่าตอนไปรับปุ๊คกี้ หลานมีสภาพเหมือนเด็กอนาถา ป้าสะใภ้เก็บของมาให้มีแต่เสื้อผ้าเก่าไม่กี่ตัว ข้าวของสมบัติที่ของหรรษาแม่ของปุ๊คกี้ที่ติดตัวไปตอนแต่งงานหายหมด และเมื่อชินานางได้เจอกับปุ๊คกี้ครั้งแรกก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปรกติของเด็กน้อยร่างผอมบาง ที่กอดตุ๊กตายัดนุ่นเก่าๆ ปุ๊คกี้เรียกมันว่า "ดวงใจ" เด็กน้อยหวงเนื้อหวงตัว ถามคำตอบคำ แววตาแห้งแล้งหวาดระแวง ผิดกับนายลูกหมีเด็กวัยเดียวกันที่มีความมั่นใจเกินร้อย
พบกันครั้งแรกลูกหมีทำเก่งอวดปุ๊คกี้เพื่อนสาวคนใหม่ ด้วยการแกะตุ๊กตาร้องเพลงได้ที่หัฏฐ์ซื้อให้ปุ๊คกี้ ออกเป็นชิ้นๆเพื่อดูว่ามันร้องเพลงอย่างไร และคุยโวว่าจะประกอบกลับคืนให้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ชินานางมาเห็นเข้าต่อว่าหลานเสียงดัง หัฏฐ์กลับมาจากทำงานได้มาเห็นวีรกรรมของเจ้าหมูน้อยข้างบ้านเข้าก็แสดงอาการไม่พอใจ ท่าทางดุๆของหัฏฐ์ทำเอาลูกหมีหงอไป ชินานางเองก็พูดไม่ออก ได้แต่บอกว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ หัฏฐ์ได้เจออาช้างน้ำเสียงแปร๋นที่เขาแอบเรียกในใจถึงกับผิดคาด เพราะอาช้างน้ำกลายเป็นสาวร่างเล็กผมสั้นหน้าตาดีจนเขาแทบจะถอนสายตาจากตากลมโตคู่นั้นไม่ได้
หัฏฐ์ดุลูกหมีพร้อมสอนไปในตัวว่าไม่ควรรื้อทำให้ของเสียหาย โดยเฉพาะของ ของคนอื่น ชินานางต่อว่าหัฏฐ์ ว่าเขาทำลายความมั่นใจของเด็ก แต่หัฏฐ์กลับแย้งว่าเขากำลังสอนแทนผู้ใหญ่ ที่ควรสอดส่องดูแลหลานชายมากว่านี้ ดีที่นี่เป็นตุ๊กตา แต่ถ้าเป็นวัตถุที่เป็นอันตรายชินานางคงชดใช้ให้ไม่ได้หากหลานต้องเสียมือหรือลูกตาไป
เมื่อกลับมาที่บ้านอาช้างต่อว่าและสอนลูกหมียกใหญ่ ชนนีได้ฟังสองอาหลานแล้วก็ได้แต่เตือนชินานางว่าอย่าติดกับตำราต่างชาติมากเกินไป เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันควรเอาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม บางคนยังรับเด็กช่างต่อปากต่อคำทำอะไรตามใจตัวเองอย่างลูกหมีไม่ได้ ต้องสอนหลานให้รู้จักเกรงใจคนอื่นด้วย คำพูดของมารดายิ่งทำให้ชินานางขุ่นใจโยนความผิดไปให้หัฏฐ์ ที่ทำให้เธอโดนตำหนิ ทั้งหัฏฐ์และช้าง ต่างก็เอาเรื่องของอีกฝ่ายไปเล่าให้เพื่อนสนิท คือดร.จูน และอ้อยหวานฟังเป็นประจำ ดร.จูนและอ้อยหวานถึงจะยังไม่เคยเจอหน้ากันต่างก็มีความสงสัยตรงกันว่าทำไมหัฏฐ์และช้างจึงพูดถึงกันบ่อยนัก มีเรื่องของอีกฝ่ายมาบ่นมาเล่าไม่หยุด
หัฏฐ์เอาของเล่น ของลูกหมีที่ทิ้งไว้ที่บ้านเอามาคืนให้ชินานางในขณะที่หญิงสาวกำลังวาดภาพอยู่ถึงได้รู้ว่าอาช้างของลูกหมีเป็นนักวาดภาพประกอบให้นิตยสารชื่อดัง หัฏฐ์ปะทะคารมกับชินานาง และบอกว่าเขาซื้อของเล่นให้หลานเองได้ไม่ต้องการความอนุเคราะห์จากใคร ชินานางต่อว่า ว่าเขาพูดแรงไป ลูกหมีแค่อยากมีเพื่อนเพราะหาเด็กในวัยเดียวกันเล่นด้วยยาก เขาควรดูแลปุ๊คกี้ดีๆเพราะปุ๊คกี้ไม่ร่าเริงและหวงเนื้อหวงตัวเกินเด็กในวัยเดียวกัน แต่หัฏฐ์ก็ยังเชื่อว่าหลานตัวเองปรกติที่พูดน้อยเพราะเป็นกุลสตรี เรียบร้อย และยังเสียใจที่ย่าเพิ่งเสียชีวิต
ชินานางรู้สึกอึดอัดใจไม่อยากเผชิญหน้ากับหัฏฐ์ เพราะเมื่อเจอหน้ากันทีไรน้าชายและอาสาวมักมีเรื่องการเลี้ยงดูหลานๆมาถกเถียงกันอยู่ตลอด ทั้งเรื่องนิสัยใจคอและการเรียนของเด็กๆ แต่หัฏฐ์ก็ยังมาชวนชินานางให้พาลูกหมีไปเรียนว่ายน้ำเป็นเพื่อนปุ๊คกี้ในวันเสาร์ ลูกหมีทั้งประท้วงทั้งตามตื๊อจนชินาต้องตอบตกลง หลังเรียนครั้งหนึ่งลูกหมีทำเป็นเก่งว่ายน้ำอวดสาว แต่อ้วนและอ่อนแรงจนจมน้ำ หัฏฐ์ช่วยลูกหมีขึ้นมาจากก้นสระ ชินานางตกใจมาก กันไม่ให้หลานลงน้ำอีก แต่หัฏฐ์ต้องการแก้อาการกลัวน้ำของลูกหมีจึงบังคับให้ลูกหมีลงสระและให้ว่ายน้ำไปมาโดยที่เขาช่วยดูและให้กำลังใจอยู่จนลูกหมูหายกลัว ชินานางขอบคุณเขาอย่างจริงใจ เป็นอันว่าทั้งคู่ทำสัญญาสงบศึกกันชั่วคราว
สัญญาสงบศึกทำให้มิตรภาพของหัฏฐ์และชินานางงอกงามขึ้น โดยมีกิจกรรมของหลานๆเป็นตัวเชื่อม จากวีรกรรมช่วยชีวิตลูกหมี ทำให้หัฏฐ์กลายเป็นขวัญใจของ ชนนีและเด็กบัวจนชินานาง เรียกทั้งแม่และเด็กในบ้านว่า "หัฏฐ์แฟนคลับ" แต่มิตรภาพที่กำลังไปได้สวยก็มาหยุดชะงักเมื่อชินานางพาหลานๆไปเล่นในสนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน ได้เจอกับ ชมพูนุช เจ๊ปากเสียประจำหมู่บ้าน ชมพูนุชชวนชินานางนินทาว่าหัฏฐ์เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยห้องแถว ที่ชอบทำตัวแปลกๆ เย่อหยิ่ง แล้วยังเลี้ยงหลานไม่ได้เรื่องปล่อยให้หลานเล่นตุ๊กตาตัวเก่าสกปรก ไม่เข้าสังคม ดูเป็นเด็กผิดปรกติ พอถามว่าชินานางเห็นด้วยไหม ชินานางรู้นิสัยของชมพูนุชดีว่าถ้าไปขัดคอเธอจะไม่ยอมหยุด และจะหาเรื่องจับผิดต่อไปอีกเรื่อยๆ ชินานางจึงตัดรำคาญด้วยการพูดประชดว่าเห็นด้วยตามนั้น แต่โชคร้ายที่ หัฏฐ์มาได้ยินเข้าพอดี ทำให้เข้าใจว่าชินานางเป็นคนเสแสร้ง ไม่เคยจริงใจและมองเขากับปุ๊คกี้ในแง่ร้ายมาตลอด ทั้งคู่กลับมามึนตึงกันอีกครั้ง ลูกหมีสังเกตเห็นเอาเรื่องไปบอกย่า ชินานางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง ชนนีเตือนลูกสาวเรื่องการพูดถ้าพูดไปไม่คิด รับคำอะไรไปส่งเดช คำพูดเหล่านั้นมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ชนนีให้หญิงสาวไปขอโทษหัฏฐ์
ชินานางหาโอกาสจะขอโทษและอธิบายให้หัฏฐ์เข้าใจ เมื่อเขาและเธอพาเด็กๆไปว่ายน้ำ แต่หัฏฐ์ก็ยังงอนอยู่ไม่ยอมคุยด้วย หัฏฐ์ซื้อเอแคลร์มาให้เด็กๆแต่ลูกหมีกินอยู่คนเดียวลูกหมีอ้างว่า ปุ๊คกี้บอกว่าไม่ชอบกินเอแคลร์ ชินางนางจะดุลูกหมีแต่เห็นอาการหน้าซีดตัวสั่นของปุ๊คกี้แล้วตกใจ ไม่มีใครคาดว่าเอแคลร์แสนอร่อยนั้นมันทำให้ปุ๊คกี้คิดถึงความทรงจำที่ขมขื่นในอดีตก่อนที่น้าหัฏฐ์จะรับตัวมาอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ปุ๊คกี้ชอบกินเอแคลร์มาก แต่เมื่อป้าชลีกรเข้ามาควบคุมชีวิตด้วยการทุบตีด่าทอ ทำให้ดวงจิตน้อยๆสับสน ไม่กล้าทำอะไรหรือพูดอะไรด้วยความหวาดกลัว อาหารว่างที่เคยกินตอนบ่ายก็ถูกลูกๆชลีกรแย่งกินหมด เด็กน้อยต้องทนหิวจนร่างกายซูบผอม วันหนึ่งปุ๊คกี้เห็นเอแคลร์วางทิ้งอยู่จึงหยิบมากินด้วยความหิว แต่ลูกของชลีกรเกิดโวยวายขึ้น ชลีกรจึงแย่งเอแคลร์ไปซ่อนไว้แล้วลืมจนบูดเน่า วันหนึ่งสาวิตรสังเกตเห็นปุ๊คกี้ผ่ายผอมจึงเอ่ยปากต่อว่าภรรยา ชลีกรโกรธหาว่าปุ๊คกี้ฟ้อง พอลับหลังสามี เธอจึงจับเอาเอแคลร์บูดยัดปากปุ๊คกี้ กลิ่นเน่าบูดทำให้ปุ๊คกี้กลืนไม่ลงแต่ยังถูกยัดขนมไม่ยั้งมือจนติดคอหายใจไม่ออก ปุ๊คกี้ดิ้นรนกระเสือกกระสน ชลีกรกับลูกๆได้แต่ยืนมองเฉยๆ โชคดีที่สาวิตรกลับมาพอดีช่วยหลานไว้ได้ทัน ชลีกรแก้ตัวว่าตกใจเลยไม่ได้ช่วยหลาน ลับหลังสาวิตร ชลีกรทำร้ายปุ๊คกี้และด่าทอว่าทำไมปุ๊คกี้ไม่ตายไปซะ ปุ๊คกี้เสียใจสับสนเด็กน้อยไม่เข้าใจว่าทั้งที่เธอรักคุณป้ามากแต่คุณป้ากลับไม่รัก เมื่อรักมากก็เจ็บปวดมาก เด็กน้อยจึงสร้างเกราะป้องกันตัวเอง โดยปิดตัวเองไม่อยากรักใครและไม่อยากถูกรัก จะได้ไม่เสียใจอีกต่อไป
ชินานางเห็นขนมเอแคลร์เละในมือปุ๊คกี้ จะเก็บทิ้งแต่ปุ๊คกี้กลัวลนลานร้องบอกว่าหนูทานได้ปุ๊คกี้ยัดเอแคล์เละๆเข้าปาก ท่าทางลนลานหวาดกลัวของปุ๊คกี้ทำให้ชินานางและหัฏฐ์เริ่มสงสัยในพฤติกรรมของปุ๊คกี้
เปิดเทอมใหม่ลูกหมีสอบเข้าโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยได้ที่เดียวกับปุ๊คกี้ที่หัฏฐ์ใช้สิทธิอาจารย์ฝากเข้า หทัยชวนให้ลูกหมีไปโรงเรียนพร้อมปุ๊คกี้ โดยมีหัฏฐ์ไปส่ง ชินานางปฏิเสธในตอนแรก แต่ด้วยความที่เธอทำงานไม่เป็นเวลาทำให้ตื่นสายพาลูกหมีไปโรงเรียนไม่ทันอยู่เนืองๆ ส่วนหัฏฐ์มาส่งหลานทันในตอนเช้าแต่ก็มารับหลานไม่ทันบ่ายสามครึ่ง จนลูกหมีและชินานางต้องอยู่รอเป็นเพื่อนจนเย็นค่ำ ในที่สุดหัฏฐ์ก็ยื่นข้อเสนอกับชินานางอีกครั้งว่าตอนเช้าเขาจะเป็นคนไปส่งเด็กทั้งสองเอง ส่วนตอนเย็นขอให้ชินานางมารับแล้วให้ปุ๊คกี้ไปรอที่บ้านของชินานาง เมื่อเห็นแล้วว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย คราวนี้ชินานางจึงตอบตกลง
ความสัมพันธ์ของอาช้างและน้าหัฏฐ์กลับมาดีอีกครั้ง จนเด็กบัวแฟนคลับหมายเลขหนึ่งของหัฏฐ์บอกกับชนนีว่าอาช้างกับน้าหัฏฐ์ดูเหมาะสมกันดีอยากเชียร์ให้เป็นแฟนกัน ลูกหมีได้ยินเข้าจึงทำตัวแก่แดดริเป็นพ่อสื่อ ชินานางรู้สึกเขินกับการกระทำของหลานชาย หลบหน้าหลบตาหัฏฐ์ จนชายหนุ่มรู้สึกเอ็นดูชินานางที่แม้จะเป็นสาวสมัยใหม่แต่ก็ไม่มีท่าเก่งกล้าเรื่องผู้ชายจนเกินงามเหมือนสาวคนอื่นๆ ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเมื่อคุณชนนีไปงานบวชพี่ชายของเด็กบัวที่ต่างจังหวัด แล้วมีโจรย่องเข้ามาในบ้านชินานาง หัฏฐ์ปีนข้ามระเบียงห้องตัวเองที่อยู่ตรงข้ามห้องชินานางมาช่วยสองอาหลาน แต่การช่วยเหลือครั้งนี้กลับตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเมื่อเขาเป็นคนเปิดประตูบ้านชินานางออกรับตำรวจในสภาพแต่งชุดนอน ชมพูนุชที่สังเกตการณ์อยู่ในหมู่ไทยมุงเริ่มบรรเลงใส่สีตีข่าวอย่างมันปาก
ครบรอบการตายร้อยวันของภาวนา หทยา และหัฏฐ์พาปุ๊คกี้ไปงานศพภาวนาที่หาดใหญ่ หลังพิธีฌาปนกิจ ได้มีการเปิดพินัยกรรมของภาวนาที่ระบุให้ ปุ๊คกี้เป็นผู้รับมรดกส่วนใหญ่ ชลีกรโกรธจนคลั่ง กล่าวหาว่าเป็นพินัยกรรมปลอม แต่ทนายสุวัฒน์ ยืนยันว่าเป็นฉบับจริง ชลีกรโมโหแทบขาดสติ ทนายสุวัฒน์เห็นท่าทีของชลีกรแล้วคาดว่าจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาจึงเตือนให้หัฏฐ์รีบไปยื่นคำร้องเป็นผู้ปกครองของปุ๊คกี้ทันทีที่กลับกรุงเทพ
ชลีกรแปลกใจว่า ภาวนาทำพินัยกรรมได้อย่างไงทั้งๆที่ทั้งวรและวิริยะปู่และพ่อของปุ๊กกี้ถือเรื่องนี้ไม่ยอมทำพินัยกรรมกลัวเป็นลางร้าย และเธอก็กำชับให้พร้อมพรคุมภาวนาอยู่ตลอด พร้อมพรสารภาพว่า ระหว่างที่ชลีกรพาลูกๆไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมสาวิตร เธอได้ทิ้งภาวนาไปเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนักแค่วันเดียว ชลีกรโกรธมากทุบตีทำร้ายพร้อมพรและไล่ออกไปจากบ้าน