ซอฟต์แวร์พาร์คสวทช. หนุนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เพิ่มประสิทธิภาพด้วย IoT
30 ก.ย. 59 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร :- กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand)ร่วมกับ IoT Consortiumและพันธมิตรจัดโครงการ “พัฒนาแนวคิดนวัตกรรม Internetof Things (IoT) เพื่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์”ส่งเสริมให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ผู้ประกอบการธุรกิจด้านไอที และคนรุ่นใหม่นำความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีมาร่วมกันสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล
นายเฉลิมพล ตู้จินดา ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย กล่าวว่า เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) จึงจัดโครงการ “พัฒนาแนวคิดนวัตกรรม Internetof Things (IoT) เพื่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์”ผ่านกิจกรรมที่เรียกว่าMakerthonซึ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาแนวคิดนวัตกรรมเพื่อลดความสูญเปล่า (Zero Waste) ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เพื่อเป็นการสนับสนุนการส่งเสริมให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ผู้ประกอบการธุรกิจด้านไอที และคนรุ่นใหม่ใช้ความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีร่วมกันสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่องโดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะมีทั้งหมด26 ทีม จะได้รับการฝึกอบรมกระบวนการสร้างนวัตกรรมเพื่อตั้งเป็นธุรกิจ Startup และได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมและพัฒนานวัตกรรมต้นแบบ IoTอย่างเข้มข้นต่อเนื่องตลอด 53 ชั่วโมงทั้งนี้การจัดโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก IoT Consortium สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ บริษัท Autodesk บริษัท Amazon บริษัท กราวิเทคไทย (ไทยแลนด์) จำกัด และธนาคารกรุงเทพ (จำกัด) มหาชน
ทั้งนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกจากการตัดสินรอบสุดท้ายจะได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศสิงคโปร์พร้อมที่พักเพื่อไปประกวดชิงรางวัลใหญ่ในงาน InnovASEAN Summit 2016 สนับสนุนโดย SEAMNET (South East Asia Makerspace Network) ร่วมกับผู้ชนะทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน เพื่อแก้โจทย์ปัญหาเดียวกันคือ Zero Waste นอกจากนี้ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลจากธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) มูลค่า 100,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 รางวัล ดังนี้รางวัลที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท รางวัลที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท และรางวัลที่ 3 มูลค่า 20,000 บาท