FANCLUBENJOYJAM on September 21, 2016, 03:16:47 PM
ค่าย “เมคเกอร์ วาย” ส่งละครครบรส “นางอาย”ลงจอ“ เกรท วรินทร ประกบ ณิชา ณัฏฐณิชา” งานนี้ฟินจิกหมอนแน่









          แฟนๆ เตรียมจิกหมอนนอนฟินไปด้วยกัน เมื่อช่อง 3 ส่งละครครบรส เรื่อง "นางอาย" ของค่าย "เมคเกอร์ วาย" ลงจอให้ได้ชมกันแล้ว แถมยังได้พระเอกหนุ่มหล่อเข้มที่ไม่ว่าจะแสดงละครเรื่องไหนสาวๆก็ติดกันตรึม อย่าง เกรท – วรินทร ปัญหกาญจน์ มาประกบคู่พระนางครั้งแรกกับสาวสวยหน้าหวาน น้องณิชา - ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ งานนี้ที่แน่ๆจะมีมุมที่ทำเอาคุณผู้ชมจิกหมอนนอนฟินเพราะเกิดอาการอินหนักอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่นี้ยังมีนักแสดงอีกมากมายมาร่วมถ่ายทอดความสนุกให้ได้รับชมกัน อาทิ ชนกสุดา รักษณาเวศ, คารีสา สปริงเก็ตต์, จิตรภาณุ กลมแก้ว, จักริน ภูริพัฒน์, ไรวินทร์ ออง, พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์,อภัสริญญา แพมเบอร์เกอร์, อาริศา หอมกรุ่น, บุณฑรีก์ จิตรีงาม และนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง

          ซึ่งงานนี้พระเอกหนุ่มผิวเขม เกรท – วรินทร ปัญหกาญจน์ มีโอดเมื่อต้องมาเข้าฉากกับน้องๆ "ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็นธนาธิป เป็นกงสุลไทยของเมืองปีนัง และมีหน้าที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนไทยทั้งหมด ของโรงเรียนวิคตอเรีย คอนแวนต์ จนวันนึงเราก็ได้เจอกับ "นาง" (ณิชา-ณัฏณิชา) และก็มีเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้น คาแร็คเตอร์ของตัวละคร ก็จะมีความอบอุ่น สุภาพ ดูเป็นผู้ใหญ่ และจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมากๆ เมื่อเข้าฉากกับเด็กๆ (หัวเราะ) สิ่งที่น่ากังวล ก็น่าจะกังวลเรื่องนี้มากกว่าครับ 555 ไม่ใช่ว่าเด็กๆ แสดงไม่ดีนะครับ แต่เพราะทุกคนชอบล้อว่าผมแก่ แต่จริงๆคือไม่ได้แก่ไงครับ แค่น้องๆ เค้ายังเด็กกันอยู่ แค่นั้นเองครับ (หัวเราะ) แต่หลังๆมาก็แฮปปี้ครับ ปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ดีครับ ยังไงก็ฝากติดตามชมละครเรื่อง "นางอาย" ด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะหวนกลับมารับบทผู้ชายอบอุ่นอีกครั้ง แต่รับรองได้ว่าสนุกและแฟนๆละครจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ..." งานนี้หนุ่มเกรทของเราโดนน้องๆรุมแซวอย่างหนักกันเลยทีดียว

          ด้านนางเอก ณิชา - ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ก็เปรยว่าแม้ว่าตัวละครจะใกล้ตัวเองมาก แต่สาวหน้าหวานค่อนข้างยากและท้าทายพอสมควร "ในเรื่องนี้ณิชารับบทเป็น "นาง" ค่ะ นางจะเป็นลูกสาวคนเดียวของที่บ้าน แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างแสบจึงถูกพ่อกับแม่จับส่งไปอยู่โรงเรียนประจำที่ปีนัง และนี่เป็นครั้งแรกที่ณิชาได้รับบทที่วัยใกล้ตัวเองมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราจะได้รับบทที่โตกว่าตัวเรามาโดยตลอดค่ะ คือจริงๆ ดูแล้วเหมือนตัวละครตัวนี้มันจะไม่มีอะไรนะคะ แต่ณิชาว่ามันยากและท้าทายพอสมควร เพราะด้วยความพัฒนาของตัวละคร ซึ่งมันมีความพัฒนาไปตลอด ตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน จนไปถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ไปถึงตอนแต่งงานเลยทีเดียวค่ะ รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมันก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาของตัวละครตอนเด็กก็อาจจะไม่ค่อยมีเรื่องใหญ่โตซักเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่ถ่ายในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็ต้องปรับบุคลิกการพูดจา และต้องสลัดคราบนักเรียนออก เล่นให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งบางครั้งก็มีสับสนบ้าง พี่เหมี่ยว (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) ก็จะคอยบอกคอยสอน และอธิบายให้เราได้เข้าใจมากขึ้น รวมถึงบางครั้งที่เป็นซีนดราม่า ที่ต้องร้องไห้หนักๆ พี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร) ก็จะเข้ามาคอยช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้เราด้วย ซึ่งมันก็ทำให้เราเล่นออกมาได้ง่ายขึ้น หนูดีใจและตื่นเต้นมากค่ะกับละคร ยังไงก็ฝากละครเรื่อง "นางอาย" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ หนูตั้งใจกับละครเรื่องนี้มากจริงๆค่ะ รับรองว่าทุกคนดูแล้วต้องยิ้ม และมีความสุขไปกับละครเรื่องนี้แน่นอนค่ะ...

          "นางอาย เรื่องราวของ อภิรดี อโณทัย หรือ "นาง" (ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) สาวน้อยแสนสวยวัย 17ปี ลูกสาวคนเดียว เธอค่อนข้างแสบ จึงถูกส่งตัวไปเรียนโรงเรียนคอนแวนต์หญิงล้วนที่ปีนัง วันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้นางได้มาเจอ ธนาธิป (วรินทร ปัญหกาญจน์ ) กงสุลไทยประจำปีนังที่รับหน้าที่ดูแลนักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ปีนังทั้งหมด นางตั้งท่าไม่ถูกชะตากับเขาตั้งแต่ยังไม่เจอตัว ชนาธิปรู้ว่ามีชายหนุ่มหมายปองสาวแก่นเซี้ยวอย่างนาง เขาก็แปลกใจไม่น้อยว่าอะไรที่ทำ ชอบเธอได้ขนาดนี้ เมื่อธนาธิปยิ่งสงสัย...จึงทำให้เขายิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว และหลงรักเธอในที่สุด"

          สุดท้ายแล้วเรื่องราวความรักของนางกับธนาธิปจะเป็นอย่างไร ติดตามชมละครเรื่อง "นางอาย" ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 – 23.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 – 22.45 น. ทางช่อง 3 (ออริจินัล) และช่อง 33 เริ่ม 24 กันยายน 2559

FANCLUBENJOYJAM on September 21, 2016, 03:17:22 PM
เรื่องย่อ: นางอาย









ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ วาย จำกัด

บทประพันธ์ นราวดี

บทโทรทัศน์ ชลนภัสส์ จันทรังษี, วรรณพร รัฐพิทักษ์สันติ, อโนชา ศิลารัตน์ตระกูล, ณันทิชา

กำกับการแสดง ปวันรัตน์ นาคสุริยะ

ควบคุมการผลิต ยศสินี ณ นคร, ณัฐบูร ไตรณัฐี

 
รายชื่อนักแสดง "นางอาย"

วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท ธนาธิป
ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ รับบท นาง/อภิรดี
ชนกสุดา รักษณาเวศ รับบท สินีนาฎ
คารีสา สปริงเก็ตต์ รับบท สายสุดา
จิตรภาณุ กลมแก้ว รับบท ชัยพงษ์
จักริน ภูริพัฒน์ รับบท คัมพล
ไรวินทร์ ออง รับบท มีนา
พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์ รับบท จอยคาม
อภัสริญญา แพมเบอร์เกอร์ รับบท ฮองลัน
อาริศา หอมกรุ่น รับบท มาเรีย
บุณฑรีก์ จิตรีงาม รับบท จรรยา
ณัชพงศ์พล สุดดี รับบท คริส
ภูวดล เวชวงศา รับบท เดวิด
ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ รับบท ปีเตอร์
อัญชลี จงคดีกิจ รับบท คุณแม่อธิการ
นนทิยา จิวบางป่า รับบท มาการิต้า
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท ฟรานซิส
โฉมฉาย ฉัตรวิไล (แม่แอ๊ด) รับบท ออเดรย์
สโรชา วาทิตตพันธ์ รับบท เทเรซ่า
พุทธชาด พงศ์สุชาติ (อาตุ่ย) รับบท ปอนลีน
ศรัทธา ศรัทธาทิพย์ (รัก) รับบท บันลือ
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท เด่นชาติ
กรุณพล เทียนสุวรรณ รับบท พิทักษ์
สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ รับบท สายสนม
วิชุดา พินดั้ม รับบท นวลใย
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท เอมอร
กัณฐ์อเนก นัยนาประเสริฐ รับบท มนตรี
จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต รับบท มามุ
« Last Edit: September 21, 2016, 03:19:02 PM by FANCLUBENJOYJAM »

FANCLUBENJOYJAM on September 21, 2016, 03:17:41 PM
...กำแพงรั้วที่เรียกว่าโรงเรียน ซึ่งตัดขาดเธอจากโลกภายนอก
แต่มันกลับพาเธอก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ โลกของมิตรภาพ
เมื่อความรักฉันท์เพื่อนก่อตัวสูงขึ้น ขอบรั้วที่เคยบีบรัดหัวใจก็ค่อยๆทลายลง
สุดท้ายที่ๆเคยถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเรือนจำของความสุข
กลายเป็นสถานที่แห่งความรักความผูกพัน
ที่จะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจของเธอ...

          อภิรดี อโณทัย หรือ "นาง" สาวน้อยแสนสวยวัย 17ปี ลูกสาวคนเดียวของ เด่นชาติ และ เอมอร เมื่อนางเริ่มเป็นที่หมายตาจากหนุ่มๆ เพื่อนร่วมรุ่นในโรงเรียนสหศึกษา เด่นชาติและเอมอรตัดสินใจส่งตัวไปเรียนโรงเรียนคอนแวนต์หญิงล้วนที่ปีนัง เพราะไม่อยากให้ลูกสาวริรักในวัยเรียน หวังให้เหล่าซิสเตอร์ผู้เข้มงวดช่วยอบรมขัดเกลามารยาทกุลสตรี นักเรียนไทยหลายคนต่างมองว่าโรงเรียนคอนแวนต์แห่งนั้น คือโรงเรียนดัดสันดารของเหล่าสาวแสบ
          ก้าวแรกที่นางได้ก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียน ซิสเตอร์ออเดรย์ หัวหน้าแม่ชีที่ดูแลนักเรียนประจำ ม.ปลายรักและเอ็นดูนางตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ไม่วายขัดใจนางด้วยการตรวจค้นกระเป๋าเสื้อผ้าและริบข้าวของที่ไม่จำเป็นไปหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ นางแทบจะกรี๊ด... สเตตัสสุดท้ายที่นางโพสก่อนจะจำใจส่งมือถือให้ซิสเตอร์ซิสเตอร์ออเดรย์คือ "ลาก่อนอิสรภาพของฉัน วันหนึ่งเราคงได้พบกันใหม่" นางได้เช็คอินสถานที่โดยครีเอทใหม่ว่า "เรือนจำคอนแวนต์"
          เรเวอร์เร้นท์มาเธอร์ซิสเตอร์หลุยส์ หรือคุณแม่อธิการผู้เคร่งขรึมหมายจะให้เด่นชาติพบกับ ซิสเตอร์เทเรซ่า แม่ชีคนไทยเพียงคนเดียวที่อกหักจากรักแรกจนต้องตัดสินใจหันหน้าเข้าหาพระเจ้า สาบานตนว่าชาตินี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกอีก อดีตคนรักของเทเรซ่าก็คือท่านรัฐตรีเด่นชาติ ! คุณแม่อธิการต้องการให้ทั้งสองได้พบกัน..ก็เพื่อให้ซิสเตอร์เทเรซ่าตัดใจอย่างถาวร แต่การที่เด่นชาติจูงมือนางเข้ามาในโรงเรียนนั้น ยิ่งทำให้แผลใจของซิสเตอร์เทเรซ่าถูกซ้ำเติมมากขึ้น
          นางได้พบกับ จรรยา หัวหน้านักเรียนไทยรุ่นพี่ที่ศึกษาอยู่ชั้นม.6 จรรยาแนะนำให้นางรู้จักกับกลุ่มนักเรียนไทยในชั้นเรียน ฝากฝังให้ สินีนาฏ สาวไทยแสนเรียบร้อยเป็นคนดูแลนาง
          สินีนาฎถูก สายสนม แม่ของเธอส่งมาอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ม.1 เพราะพ่อแม่หย่ากัน และสายสนมต้องทำงานและดูแลลูกเพียงคนเดียว สินีนาฏและนางถูกชะตากันทันทีที่เจอ สินีนาฎแนะนำทุกอย่างให้นาง... ตั้งแต่สถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน กิจวัตรประจำวัน และอธิบายเรื่องการอาบน้ำแบบ Fast Speed 5นาทีทันใจ โดยมีแม่ชีสุดโหดเฮี้ยบอย่าง ซิสเตอร์ฟรานซิส เป็นผู้ดูแลการเปิด-ปิดวาล์วน้ำในระหว่างการอาบ นางแทบจะร้องไห้ที่ต้องใช้ชีวิตลำบากแบบนี้
          นอกจากสินีนาฎแล้ว ยังมีนักเรียนไทยอีก 2คนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับนาง นั่นคือ สายสุดา และ มีนา ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยสายสุดามองว่ามีนาคือลูกน้องของเธอ ส่วนมีนาเองก็อาศัยบารมีของสายสุดาทำตัวอวดเบ่งกับทุกคน เพราะสายสุดามีดีกรีเป็นถึงน้องสาวคนเดียวของท่านกงสุลไทยประจำปีนัง
          แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าที่สายสุดาชอบทำตัวให้เป็นที่สนใจและต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ เพราะปมชีวิตส่วนตัวที่ความจริงแล้วสายสุดาคือลูกนอกสมรส สายสุดาไม่ชอบหน้านาง เพราะตั้งแต่นางเข้ามาในโรงเรียนหลายคนให้ความสนใจจนเด่นเกินหน้าเกินตา สายสุดาหาทางแกล้งนางอยู่เสมอแต่กลับโดนนางเอาคืนทุกที อย่างในงานเลี้ยงต้อนรับนักเรียนใหม่ประจำปี นางโดนสายสุดาแกล้งจนพลัดตกลงไปในบ่อบัว สินีนาฎพานางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นางได้ทีจึงเอาชุดนักเรียนที่เปียกชุ่มยัดใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้าของสายสุดา สายสุดาโกรธมาก หมายใจไว้ว่างานนี้เธอกับนางไม่มีวันอยู่กันอย่างมีความสุขแน่
          ทุกวันพฤหัสบดีถือเป็นวัน English Day คือวันที่นักเรียนและซิสเตอร์ทุกคนต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเท่านั้น สายสุดาและมีนาคอยฟ้องซิสเตอร์ว่านางแอบพูดภาษาไทย นอกจากคู่อริสองแสบแล้ว นางยังมีศัตรูอีกคน คือ จอยคาม สาวน้อยเจ้าถิ่นในปีนังที่มีเรื่องปะฉะดะกับนางตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียน จอยคามเห็นสายสุดาไม่ชอบนาง จึงรวมตัวกันหาทางกลั่นแกล้งนาง
          นอกจากสินีนาฎ นางยังมีเพื่อร่วมรุ่นอีก 2 คนที่สนิทกัน นั่นคือ ฮองลัน สาวอ้วนที่รักการกินเป็นที่สุด ฮองลันเป็นนักเรียนไป-กลับที่สนิทกับนาง เพราะทั้งคู่คอยช่วยกันหาทางแอบลอดเอาของกินเข้ามาทานในรั้วโรงเรียนอยู่เสมอ และฮองลันประทับใจนางมากที่เคยโดนซิสเตอร์ฟรานซิสจับได้เรื่องแอบเอาขนมเข้ามาทานที่ห้องเรียน นางก็พร้อมจะโดนลงโทษร่วมกับฮองลันไปด้วย
          อีกหนึ่งสาวที่นางชื่นชมตั้งแต่แรกเห็น คือ มาเรีย สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-มาเลเซีย ที่ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็นเพราะพิการมาตั้งแต่เด็ก หลายคนชอบพูดจาดูถูกและรังเกียจมาเรีย แต่นางไม่คิดแบบนั้น แถมยังคอยช่วยซ่อมรถเข็นให้มาเรียอีกด้วย
          ทุกวันศุกร์ที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าโบสถเพื่อนมัสการพระเจ้า นางได้รู้ว่ามาเรียร้องเพลงเพราะมาก นางจึงสนับสนุนให้มาเรียได้ขึ้นร้องนำในกิจกรรมต่างๆ อย่างงานวันไหว้ครู นางพยายามทำทุกอย่างให้มาเรียได้แสดงความสามารถของเธอ จนในที่สุดมาเรียก็ได้ร้องนำ แถมนางรับเลือกจากเพื่อนๆ และรุ่นพี่รุ่นน้องให้เป็นตัวนักเรียนไทยไปถือพานไหว้ครู สายสุดาและมีนาทั้งโกรธทั้งเสียหน้าที่เสียตำแหน่งให้นาง เลยหาทางแกล้งไม่ให้นางได้ถือพาน แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
          สายสุดาแอบรู้ว่านางชอบแอบใช้มือถือของ คัมพล เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกับนางที่เรียนอยู่โรงเรียนซิสเตอร์เซเวียร์ชายล้วนรั้วติดกัน โทรติดต่อพ่อแม่ของเธอ คัมพลเป็นลูกชายคนเล็กของพิทักษ์ เศรษฐีเหมืองแร่ในภูเก็ตซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเด่นชาติ คัมพลไม่เคยขัดใจนางเพราะแอบชอบนางอยู่
          เรื่องนางติดต่อกับเพื่อนนักเรียนชายโรงเรียนข้างๆ ดังไปทั่ว คุณแม่อธิการตัดสินใจตามตัวท่าน ธนาธิป กงสุลไทยที่รับหน้าที่ดูแลนักเรียนไทยที่อยู่ที่ปีนังทั้งหมด แถมยังเป็นพี่ชายต่างมารดาของสายสุดาอีกด้วย นางจึงตั้งท่าไม่ถูกชะตากับธนาธิปตั้งแต่ยังไม่เจอตัว
ธนาธิปตามตัวผู้ปกครองของนางและคัมพลมาพบ การเจอหน้ากันครั้งนี้ทำให้ธนาธิปรู้ว่าพิทักษ์หมายปองให้นางแต่งงานกับคัมพลหลังเรียนจบจากคอนแวนต์
          เมื่อรู้ว่ามีชายหนุ่มหมายปองสาวแก่นเซี้ยวอย่างนาง ธนาธิปก็แปลกใจไม่น้อยว่าอะไรที่ทำให้คัมพลชอบนางได้ขนาดนี้ ยิ่งสงสัย..ก็ยิ่งเข้าใกล้นางมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งที่นางเสนอความคิดออกมา มักทำให้ธนาธิปทึ่งในความเฉลียวฉลาดของนางอยู่เสมอ
ความไม่ลงรอยของนางและสายสุดาเริ่มทวีคุณความแรงขึ้น เมื่อถึงกิจกรรมกีฬาสีมาถึง เหล่าซิสเตอร์ทั้งหลายตั้งใจจะให้กิจกรรมนี้เป็นการสมานแผลระหว่างนางกับสายสุดา โดยจัดให้ทั้งคู่อยู่สีเดียวกัน แต่แผนกลับไม่เป็นไปตามที่คิด สายสุดาร่วมมือกับจอยคามที่อยู่คนละสีแอบโกงในการแข่งขันว่ายน้ำ จนนางเกือบจะจมน้ำเพราะเจ็บขา แถมจอยคามก็ไม่ช่วยเธอเสียด้วย กลายเป็นสินีนาฎและจรรยาต้องเป็นคนลงไปช่วยนางขึ้นมาแทน
          เหตุการณ์ครั้งนี้คุณแม่อธิการโกรธมาก ทำโทษกลุ่มนางและสายสุดายกใหญ่ พร้อมทั้งตามตัวธนาธิปให้มาทราบเรื่องนักเรียนไทยมีปัญหากันเอง ธนาธิปจึงต้องรับหน้าที่เป็นดูแลควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนไทยเพิ่มอีกตำแหน่ง
          ธนาธิปลงโทษทุกคนด้วยการให้ช่วยทำความสะอาดบ้านทูต ร้อยมาลัย ทำกับข้าวเพื่อต้อนรับแขกต่างบ้านต่างเมืองที่เข้ามาพักที่บ้านพักของสถานทูตไทย แรกๆ ทุกคนอิดออด แต่หลังๆกลับเสนอตัวขอมาช่วยงานเสมอ เพราะต้องการออกมานอกรั้วคอนแวนต์
          นางชอบแอบปีนต้นมะม่วงที่อยู่ข้างห้องทำงานธนาธิป แรกๆ ธนาธิปตกใจและเรียกนางมาต่อว่าในความไม่เป็นกุลสตรี แต่นานๆ เข้าก็ปล่อยให้ปีนขึ้นปีนลงอยู่เรื่อยๆ จนเป็นความคุ้นเคย แถมบางวันนางยังแอบเข้ามาในห้องทำงานธนาธิป จัดการเปลี่ยนหลอดไฟในห้องที่ติดๆดับๆให้เสียด้วย
          นอกจากธนาธิปที่ต้องคอยดูแลนักเรียนไทยในปีนังแล้ว ยังมี ชัยพงษ์ อีกคนที่เป็นกงสุลไทยที่ดูแลในส่วนของกิจกรรมประเพณีและวัฒนธรรม ชัยพงษ์มีโอกาสได้เจอกลุ่มนักเรียนไทยอยู่เรื่อยๆ ชัยพงษ์เป็นพี่ชายคนกลางของคัมพล จึงสนิทสนมกับนางเช่นกัน ชัยพงษ์ต่างกับธนาธิปแบบคนละขั้ว เพราะชัยพงษ์คือหนุ่ม Biker ที่มี มอเตอร์ไซค์ Big Bike คันเท่เป็นพาหนะคู่กาย
          ธนาธิปไม่พอใจที่ชัยพงษ์สนิทสนมกับนางเพราะคิดว่าชัยพงษ์แอบชอบนาง แต่จริงๆ แล้วชัยพงษ์แอบชอบสินีนาฎ และนางเองก็รู้แถมยังทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ด้วย แต่สินีนาฎกลับไม่มีใจให้เพราะเธอแอบหลงรักธนาธิปมาตั้งแต่แรกเจอเช่นกัน
          เวลาผ่านไป...นางเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นในรั้วคอนแวนต์ แต่ก็ยังไม่วายแหกกฎระเบียบโรงเรียนอยู่เสมอ วีรกรรมที่โด่งดังของนางคือการแอบเอาอาหารคาวหวานซุกซ่อนเข้ามาในกระเป๋าเสื้อผ้าทุกครั้งที่กลับเข้าโรงเรียนในวันจันทร์ต้นเดือน...
          อาทิตย์นี้เป็นวันเกิดของฮองลัน นางวางแผนแอบเอาขนมเค้กเข้ามาฉลองวันเกิด โดยจะแอบเอาเค้าปอน์ดใส่มาในกล่องรองเท้าพละ และขอให้จรรยาช่วยปล่อยผ่านตอนเข้าเวรตรวจกระเป๋า แต่เมื่อถึงเวลาเป่าเค้ก เมื่อนางเปิดกล่องรองเท้าพละออกมา กลับพบว่าจากเค้กปอน์ดแสนอร่อยกลายเป็นรองเท้าพละเก่าๆ เน่าๆ คู่หนึ่งเท่านั้น เหล่าซิสเตอร์ทั้งหลายปรากฎตัวขึ้นพร้อมด้วยเทียนวันเกิดสั้นๆ กุดๆ แท่งหนึ่ง เซ็นส์ฟรานซิสจัดการปักเทียนบนรองเท้าคู่นั้นแล้วให้นางและฮองลันช่วยกันเป่าเทียนให้ดับ แต่เทียนเล่มนั้นดันเป็นเทียนแบบเป่าดับได้ยากเสียด้วย ฮองลันทั้งโกรธทั้งอายที่โดนทำโทษประจานที่ลานกิจกรรม ทั้งหมดโดนทำโทษร่วมกัน ถึงจะอดทานเค้กแต่กลับรักกันแน่นแฟ้นมากขึ้น
          หลายครั้งที่นางมักมีปัญหากับ ซิสเตอร์ปอนลีน แม่ชีประจำวิชาดนตรีที่ขึ้นชื่อเรื่องความลำเอียงรักนักเรียนไม่เท่ากัน คนไหนที่ลงเรียนพิเศษเปียโนกับเธอ เธอจะรักและเอ็นดูเด็กพวกนั้นมาก ส่วนนักเรียนคนอื่นมักจะโดนไม่ให้ซ้อมเปียโนในห้องดนตรีของเธอ นางเห็นว่าไม่ยุติธรรมเพราะสินีนาฎมักโดนไล่ออกมาจากห้องซ้อมก่อนหมดเวลา พยายามเจรจาเท่าไหร่ก็โดนซิสเตอร์ปอนลีนสั่งทำโทษตลอด
          คัมพลอาสามารับนางและเพื่อนๆ ไปเที่ยวทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยทุกครั้งชัยพงษ์จะตามมาเจอด้วยเพราะต้องการพบกับสินีนาฎ สายสุดาที่อิจฉาที่พวกนางได้เที่ยวจึงคอยหาเรื่องพูดจาจิกกัดคัมพลเสมอ เพราะลึกๆ ไม่พอใจที่คัมพลสนใจนางมากกว่าเธอ
          ช่วงสอบปลายภาคของภาคเรียนที่1 สินีนาฎขาดการติดต่อจากสายสุดาแม่ของเธอ จนปิดเทอมแล้วสายสุดาก็ยังไม่ติดต่อมา จนในที่สุดสินีนาฎก็ได้รู้ความจริงว่าแม่ถูกเพื่อนร่วมธุรกิจโกงจนหมดตัว ส่งข่าวมาบอกว่าไม่สามารถส่งให้เรียนต่อได้แล้ว
          สินีนาฏทั้งโกรธทั้งเสียใจที่ต้องหมดอนาคต ซิสเตอร์ออเดรย์ขอให้แม่อธิการช่วยเหลือสินีนาฏได้เรียนต่อจนจบม.6 แต่สินีนาฏต้องย้ายจากนักเรียนประจำชั้นหนึ่ง ไปเป็นนักเรียนประจำชั้นสองที่ต้อยต่ำกว่า
          สินีนาฏคิดฆ่าตัวตาย แต่ซิสเตอร์เทเรซ่ามาห้ามไว้ได้ทัน ซิสเตอร์เทเรซ่าและซิสเตอร์ออเดรย์เกลี้ยกล่อมจนสินีนาฏยอมเรียนหนังสือต่อจนจบเพื่ออนาคตของเธอเอง สินีนาฏขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับนางเพราะไม่อยากให้นางช่วยเหลือและอยากตัดขาดเพื่อนชั้นหนึ่งทุกคน
วันเปิดภาคเรียน ทุกคนแปลกใจที่เห็นสินีนาฎถูกย้ายไปอยู่รวมกับกลุ่มนักเรียนชั้นสอง พวกสายสุดาพากันเยาะเย้ยถากถางและสมน้ำหน้า นางไปหาสินีนาฏเพื่อถามความจริงแต่ถูกหลบหน้า นางยิ่งทุกข์ใจเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรัก
          ในที่สุดนางได้รู้เรื่องราวของสินีนาฎ นางเข้าพบคุณแม่อธิการเพื่อส่งตัวสินีนาฏกลับมาเรียนชั้นหนึ่งเหมือนเดิมและจะให้พ่อแม่ของเธอส่งเสียสินีนาฏเอง แต่แม่อธิการไม่ยอมจนกว่าจะได้คำยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากเด่นชาติและเอมอร ซึ่งตอนนี้ติดต่อไม่ได้เพราะทั้งสองเดินทางไปต่างประเทศ ที่พึ่งสุดท้ายของนางจึงเป็นธนาธิป
          กลางดึกคืนนั้นนางตัดสินใจแอบออกจากตึกนอน ปีนรั้วไปหาธนาธิปที่ห้องทำงาน แต่ยังไม่ทันได้คุยกันก็โดนไล่กลับมาก่อน เพราะธนาธิปเห็นว่าไม่ควรพบกันดึกๆ เช่นนี้ นางขอให้ธนาธิปมาพบเธอที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้
แต่ธนาธิปกลับมาในอีก 2 วันถัดมา นางโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่เหลือใครที่จะช่วยสินีนาฎได้แล้ว นางขอยืมเงินธนาธิปก่อนจนกว่าพ่อแม่ของเธอจะเดินทางกลับมา แต่ธนาธิปกลับขอรับอุปการะสินีนาฏเอง โดยอธิบายเหตุผลสารพัดจนนางต้องยอมให้ธนาธิปเป็นผู้อุปการะสินีนาฏ นางขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับสายสุดา เพราะกลัวจะเอาเรื่องนี้มาข่มสินีนาฏ เมื่อสินีนาฏรู้เรื่องการช่วยเหลือครั้งนี้ ก็ซาบซึ้งและยิ่งทำให้สินีนาฏประทับใจในตัวธนาธิป มากขึ้นไปอีก
          ชัยพงษ์รู้เรื่องที่ธนาธิปอุปการะสินีนาฎ ก็รู้สึกขัดใจไม่น้อยเพราะเขาอยากจะรับผิดชอบช่วยเหลือสินีนาฎมากกว่าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ธนาธิปงานยุ่งไม่ค่อยได้มาเยี่ยมสินีนาฏตามคำแนะนำของซิสเตอร์ออเดรย์เท่าที่ควร ชัยพงษ์จึงเสนอตัวคอยหมั่นไปเยี่ยมสินีนาฎอยู่บ่อยๆ คอยซื้อข้าวของต่างๆ ให้โดยอ้างว่าธนาธิปสั่ง
          เมื่อชัยพงษ์รุกหน้าทำคะแนนกับสินีนาฎ คัมพลก็ไม่แพ้กันพยายามมาทำคะแนนกับนาง ธนาธิปไม่พอใจที่นางสนิทสนทกับผู้ชายคนอื่น จึงเริ่มเข้ามาเยี่ยมสินีนาฎมากขึ้น เพื่อจะหาโอกาสได้เจอกับนางมากขึ้นเช่นกัน
          นางขอให้ธนาธิปพาเธอกับสินีนาฏออกไปดูหนัง ยิ่งได้ออกไปเที่ยวด้วยกันก็ยิ่งใกล้ชิดกัน ธนาธิปถูกใจในความสดใสร่าเริงของนาง แต่กับสินีนาฎเขามองเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น
          จอยคามที่แอบชอบธนาธิปมานาน เมื่อเห็นธนาธิปมาส่งนางกับสินีนาฏ จึงรีบไปบอกสายสุดา สายสุดามาเอาเรื่องแกล้งเทขยะใส่สินีนาฏ นางมาช่วย เด็กสาวทั้งสองกลุ่มจึงตะลุมบอนกัน
          ซิสเตอร์ฟรานซิสลงโทษเด็กทุกคนให้ช่วยกันเก็บขยะ ทำความสะอาดตึกเรียนทั้งหมด แต่สุดท้ายพวกนางและสายสุดาก็ทะเลาะกันอีก จนเหล่าซิสเตอร์ต้องเข้ามาแยกและหาทางลงโทษพวกเด็ก ๆขั้นเด็ดขาด
          สายสุดารู้เรื่องธนาธิปส่งเงินค่าเทอมให้สินีนาฎ จึงโพทะนาไปทั่วว่าสินีนาฏให้ท่าพี่ชายเธอเพื่อให้ส่งเสียเลี้ยงดูหวังจะเป็นเมีย สินีนาฏถูกนักเรียนคนอื่นดูถูกโดยเฉพาะจอยคาม จอยพูดจาดูดถูกสินีนาฎสารพัด สายสุดาคอยพูดเหน็บเปรียบเทียบฐานะให้สินีนาฏเจียมตัว สินีนาฏร้องไห้เสียใจ นางเจ็บแค้นแทนเพื่อนจึงหาทางแก้เผ็ดสายสุดาด้วยการเอาหน้ากากผีมาใส่หลอกสายสุดาตอนกลางคืน ข่าวสายสุดาถูกผีหลอกแพร่สะพัดในโรงเรียน แถมสายสุดาโดนทำโทษที่รบกวนเพื่อนกลางดึกด้วย
          ช่วงเลิกเรียนตอนเย็น กลุ่มนักเรียนจะไปทำกิจกรรมที่ลานกว้างใกล้รั้วระหว่างโรงเรียนหญิงล้วนกับโรงเรียนชายล้วน นาง สินีนาฏ กับเพื่อนแบ่งทีมเล่นคิงส์แคมป์กัน นางดันเผลอตบลูกบอลแรงจนลูกบอลกระเด็นเข้าไปในบริเวณโรงเรียนชายล้วน ทุกคนหน้าจ๋อยเพราะโรงเรียนมีกฎห้ามเข้าไปในโรงเรียนชายล้วน แต่นางยืนยันที่จะปีนเข้าไปเก็บบอลด้วยตัวเอง

FANCLUBENJOYJAM on September 21, 2016, 03:17:49 PM
          นางแอบปีนรั้วเข้ามาเก็บบอลที่สนามของโรงเรียนชายล้วน แต่ถูก เดวิด กับ ปีเตอร์ นักเรียนชายชั้นเดียวกับคัมพลแย่งลูกบอลไปและหวังจะลวนลามนาง คริส เพื่อนตัวอ้วนคนสนิทของคัมพลพยายามจะช่วย แต่กลับโดนเดวิดและปีเตอร์จัดการจนต้องหนีไป นางพยายามจะหนีแต่โดนเดวิดและปีเตอร์เข้ามาจับตัวไว้ คัมพลเข้ามาช่วยนางไว้ได้ จัดการเดวิดกับปีเตอร์จนหมอบราบ ทำให้ทั้งสองอาฆาตแค้นคัมพลมาก
          ธนาธิปมาหานางด้วยเรื่องที่แอบปีนเข้าไปในโรงเรียนชายล้วนจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต เพราะนอกจากคัมพลโดนสั่งพักการเรียนแล้ว เดวิสและปีเตอร์ยังโดนไล่ออกด้วยเพราะเคยมีความผิดเรื่องการชกต่อย แถมยังมีนักเรียนแอบได้ยินพวกเดวิดวางแผนทำร้ายคัมพล นางรู้สึกผิดขอร้องให้
          ธนาธิปช่วยคัมพลที่เดือดร้อนเพราะเธอ ถึงจะเจ็บปวดที่นางเป็นห่วงชายอื่น แต่ธนาธิปรับปากว่าจะช่วยและขอให้นางสัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องอะไรอีก
เดวิด ปีเตอร์ พาเพื่อนมาดักทำร้ายคัมพลกับคริสตรงถนนเลียบชายทะเล คัมพลเอาตัวเข้าปกป้องคริสจนบาดเจ็บ ธนาธิปมาช่วยเหลือคัมพลได้ทันพร้อมแจ้งตำรวจชาวมาเลย์ให้มาจับกุมตัวเดวิดกับเพื่อนไป ธนาธิปสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปเที่ยวนอกโรงเรียนกับคัมพลอีกเพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และในเวลาว่างจากชั่วโมงเรียน ธนาธิปก็บังคับให้พานางมาอยู่ที่บ้านทูต โดยอ้างว่าให้นางมาทำงานเล็กๆน้อยๆจะได้ไม่ได้เกเรที่ไหนอีก แต่ลึก ๆ แล้วธนาธิปอยากอยู่ใกล้นางมากขึ้นเพราะเขารู้ตัวแน่แล้วว่ามีใจให้นาง แต่ธนาธิปจำต้องปิดบังทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึม เจ้าระเบียบ
          จอยคามและสายสุดาหาเรื่องแกล้งสินีนาฎ ให้ซิสเตอร์ฟรานซิสเข้าใจผิดว่าสินีนาฏแอบเอานิยายรักโรแมนติกมาอ่าน แต่นางกลับออกรับแทนว่าเป็นหนังสือของเธอ นางเลยโดนลงโทษด้วยการให้อดอาหารเย็น คืนนั้นซิสเตอร์เทเรซ่าแอบเอาขนมปังมาให้ นางซาบซึ้งในความเมตตาของ
          ซิสเตอร์เทเรซ่า พูดประสาซื่อว่าขอให้หนูเรียกซิสเตอร์ว่าแม่อีกคนได้มั้ยคะ ซิสเตอร์เทเรซ่าอึ้งเพราะถ้าเด่นชาติไม่ทิ้งเธอไป นางคนเป็นลูกสาวของเธอจริงๆ ช่วงปิดเทอมใหญ่ เด็กนักเรียนประจำที่ไม่ได้กลับบ้านจะได้ไปพักที่บังกะโล "ตันหยงบุหงา"
          นาง สินีนาฏ มาเรีย จอยคาม มีนา จรรยาและเพื่อนนักเรียนประจำมาพร้อมเหล่าซิสเตอร์ ทุกคนสังเกตเห็นซิสเตอร์เทเรซ่าเศร้ามากเมื่อมาถึงที่นี่ เพราะที่แห่งนี้คือที่ๆ เธอได้พบกับเด่นชาติ และเด่นชาติพูดขอความรัก ขอให้ซิสเตอร์เทเรซ่ารอเขาเรียนจบกลับมาจากอเมริกาแล้วแต่งงานด้วยกัน
          นางกับจอยคามท้าแข่งว่ายน้ำออกไปยังประภาคารไกลฝั่ง เพราะนางยังฝังใจที่แข่งว่ายน้ำแพ้จอยคามในงานกีฬาสี จอยคามรับคำท้า สินีนาฎพยายามห้ามเพื่อนทั้งสองแต่ไม่มีใครฟัง จอยคามเป็นตะคริวกำลังจะจมน้ำ นางรีบเข้าไปช่วยพาจอยคามกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย จอยคามซาบซึ้งในน้ำใจที่นางช่วยชีวิต จอยคามกับนางถูกลงโทษด้วยกัน ทั้งคู่จึงได้เปิดใจกันและเคลียร์เรื่องหมางใจต่างๆพร้อมทั้งจับมือสัญญาเป็นเพื่อนรักกันอีกด้วย
          ธนาธิปทนคิดถึงนางไม่ได้ แสร้งขอติดตามเด่นชาติกับเอมอรมาเยี่ยมนางที่ตันหยงบุหงา แม่อธิการให้ซิสเตอร์เทเรซ่าไปต้อนรับเด่นชาติกับเอมอร เมื่อเด่นชาติเจอซิสเตอร์เทเรซ่าก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าเธอจะเป็นแม่ชีอยู่ที่โรงเรียนคอนแวนต์
          เมื่อมีโอกาสอยู่กันสองต่อสอง เด่นชาติพยายามจะพูดคุยกับซิสเตอร์เทเรซ่า แต่เธอกลับไม่ยอมพูดด้วย นางแอบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็แปลกใจในความสัมพันธ์ของพ่อกับซิสเตอร์เทเรซ่าร์
          ธนาธิปเปิดบ้านพักกงสุลไทยจัดงานเลี้ยงต้อนรับเด่นชาติกับเอมอรที่มาพักในปีนัง และเชิญพิทักษ์กับคัมพล ชัยพงษ์ ลูกชายมาด้วย ในงานเลี้ยงธนาธิปตะลึงเมื่อเจอนางแต่งตัวน่ารักสวยสดใส ต่างจากสินีนาฏที่สวยหวาน คืนนั้นคัมพลขอนางเต้นรำ นางที่ไม่ได้คิดอะไรก็ออกไปเต้นรำอย่างสนุกสนาน
          ธนาธิปหาจังหวะอยู่ตามลำพังกับนาง เพื่อเตือนนางให้ไว้ตัวบ้าง อย่าปล่อยให้ใครจับมือถือแขนง่าย ๆ เพราะเขาหวงนางอย่างไม่รู้ตัว แต่นางกลับรู้สึกว่าธนาธิปไม่ชอบเธอ จึงหาเรื่องติเธอทุกอย่าง ทำอะไรก็ผิดเสมอในสายตาธนาธิป นางเลยประชดธนาธิปด้วยการอยู่ใกล้คัมพลตลอดเวลา ยิ่งทำให้ธนาธิปร้อนรุ่ม อึดอัดใจมาก
          พิทักษ์พูดสู่ขอนางให้ ทัศนัย ลูกชายคนโตที่กำลังเรียนหมออยู่อเมริกา เพราะจากเรื่องชกต่อยของคัมพล ทำให้เด่นชาติเคยปฏิเสธที่จะให้นางหมั้นกับคัมพล ส่วนชัยพงษ์ก็หลงรักสินีนาฎ ดังนั้นจึงเหลือแค่ทัศนัย
          คัมพลและชัยพงษ์พานางและสินีนาฎมาเที่ยวงานของปีนัง ธนาธิปที่พาสายสุดามาด้วยจึงมีโอกาสได้เที่ยวด้วยกันทั้งหมด คืนนั้นธนาธิปมีโอกาสได้อยู่กับนางสองต่อสองอีกครั้ง ธนาธิปพานางไปยังจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ทั้งสองคนมีเวลาดีๆ ร่วมกัน
          สายสุดารู้ว่าจอยคามเป็นมิตรกับนางก็โกรธ หาเรื่องนางที่มาแย่งเพื่อนเธอไป นางและสายสุดาทะเลาะกัน นางเห็นว่าสายสุดาพูดไม่รู้เรื่องก็จะเลิกคุย แต่สายสุดาไม่ยอม ทั้งหมดตะลุมบอลยื้อกันจนสายสุดาพลาดล้มหัวแตก นวลใย แม่ของสายสุดามาเอาเรื่องนางถึงโรงเรียน บังคับจะให้คุณแม่อธิการไล่นางออก แต่งานนี้เพื่อนทุกคนพร้อมใจกันเป็นพยานว่านางไม่ได้เริ่มหาเรื่องก่อน และสายสุดาซุ่มซ่ามหกล้มเอง แถมธนาธิปยังเข้าข้างนางอีกด้วย นวลใยเลยทะเลาะกับธนาธิปไปอีกคน แถมงานนี้นวลใยเผลอหลุดพูดไปว่าเพราะสายสุดาเป็นลูกคนใช้อย่างป้าใช่มั้ย ธนาธิปจึงไม่คิดจะนับเธอเป็นญาติ สายสุดาทั้งโกรธทั้งอายที่เพื่อนๆได้รู้ว่าเธอคือลูกคนใช้
          สินีนาฏที่กำลังเศร้าเรื่องที่แม่ป่วยจึงไปซ้อมเปียโนเพื่อผ่อนคลาย โดยไม่รู้ว่าห้องข้าง ๆ กำลังสอบวัดผลเปียโนกันอยู่ ซิสเตอร์ปอนลีนที่โกรธจนขาดสติเข้ามาอาละวาดในห้องซ้อมเปียโน พร้อมทั้งตบหน้าสินีนาฏต่อหน้าทุกคน สินีนาฏเสียใจมากทั้งเจ็บปวดและอับอาย แต่ไม่มีซิสเตอร์คนไหนกล้ายุ่งกับซิสเตอร์ปอนลีน
          นางทนไม่ได้จึงไปกดดันให้แม่อธิการพาซิสเตอร์ปอนลีนมาขอโทษสินีนาฏต่อหน้าทุกคน ไม่อย่างนั้นเธอจะลาออกและเพื่อนทุกคนจะลาออกด้วย รวมทั้งสายสุดาเช่นกัน สุดท้ายซิสเตอร์ปอนลีนมาขอโทษสินีนาฏต่อหน้านักเรียนทุกคน นางขอบคุณสายสุดาที่ร่วมมือกับเพื่อนช่วยสินีนาฏ สายสุดาเก๊ก ๆ ไม่อยากดีกับนางมาก
          เทศกาลงานวันคริสมาสต์มาถึง นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นกับงานแฟร์ที่จะมีขึ้นในปลายอาทิตย์หน้า ทุกคนตั้งใจเตรียมงานกันสุดๆ ทั้งการแสดง ทั้งการออกร้านขายของรวมทั้งซุ้มสอยดาว
          งานแฟร์คืนนั้นนางต้องไปรับผิดชอบซุ้มสอยดาว เพราะเป็นหน้าที่ของนักเรียนม.4 ธนาธิปมาสอยดาวตามคำชวนของสายสุดา และได้เห็นว่านางกำลังพูดคุยกับชายคนหนึ่งอย่างมีความสุข
          โต๋เต๋ คือเพื่อนชายที่ชอบและพยายามจีบนางเป็นคนรัก เลยทำให้นางต้องมาอยู่ที่คอนแวนต์แห่งนี้ ธนาธิป เอมอรและเด่นชาติต่อว่านางเพราะคิดว่านางแอบติดต่อกับโต๋เต๋ นางปฏิเสธและเสียใจมากที่ธนาธิปไม่เชื่อเลยหนีไป
          สุดท้ายชัยพงษ์ที่ได้สอบสวนโต๋เต๋แล้วยืนยันว่านางพูดความจริง ธนาธิปรู้สึกผิดรีบตามไปง้อนาง ธนาธิปขอโทษที่โกรธเพราะคิดว่านางคบหากับโต๋เต๋ และไม่ต้องการให้นางมีคนรักตอนนี้ อยากให้รอเวลาที่สมควรแล้วค่อยรักกัน นางถามรักกันน่ะรักกับใคร ธนาธิปไม่ตอบแต่กลับซื้อตุ๊กตาหมีที่มีปักตัวอักษรย่อว่า T. แล้วส่งให้นาง ธนาธิปตั้งใจบอกให้นางรู้ว่าเค้าต้องการเป็นคนรักของนาง
          ช่วงวันหยุดยาวระหว่างคริสมาตส์จนถึงปีใหม่ นักเรียนประจำหลายคนเดินทางกลับบ้าน ธนาธิปออกตั๋วเครื่องบินให้สินีนาฏกลับไปเยี่ยมแม่ที่เมืองไทยพร้อมกับนาง เขาตามมาส่งนางที่สนามบินพร้อมซิสเตอร์ออเดรย์ คัมพลเอาดอกไม้ช่อใหญ่มาให้นางด้วยความอาลัยอาวรณ์ราวกับจะไม่ได้เจอกันอีก นางขำแต่ก็รับช่อดอกไม้ไปด้วยความยินดี
          ธนาธิปเตือนนางอ้อม ๆ เรื่องการรับดอกไม้จากผู้ชายคือการเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้นคิดเข้าข้างตัวเองไปได้ว่านางมีใจให้ นางก็ประชดประชันไม่ฟังธนาธิป
          สายสนมพาสินีนาฏมาพักอยู่กับ ทับทิม เพื่อนของเธอที่คอยช่วยเหลือมาตั้งแต่โดนโกง ทับทิมรักและเอ็นดูสินีนาฎเหมือนลูกหลานคนนึง พิทักษ์เดินทางจากภูเก็ตเอาแหวนเพชรมาให้
          เด่นชาติเพื่อหมั้นนางกับทัศนัย เด่นชาติและเอมอรรับไว้อย่างเสียไม่ได้ ส่วนชัยพงษ์เองก็พาพิทักษ์มาสู่ขอสินีนาฏกับสายสนมไว้ก่อน สายสนมตกลง เพราะอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี โดยที่สินีนาฏไม่รู้เรื่องนี้
          ธนาธิปบินมาธุระที่กรุงเทพได้พบกับสินีนาฎและสายสนม สินีนาฎพยายามบอกความรู้สึกของเธอที่มีต่อธนาธิป โดยไม่รู้เลยว่าธนาธิปเปิดเผยความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางไปหมดแล้ว
          ธนาธิปขอนางว่าอย่าเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนนอกจากตน นางอึ้งไม่แน่ใจว่าธนาธิปหมายความว่าอย่างไร ธนาธิปบอกไม่ต้องหาคำตอบจนกว่านางจะเรียนจบ ระหว่างนี้แค่ให้นางทำตามที่ตนขอก็พอ
          ปีการศึกษาสุดท้าย... แม้เหล่าซิสเตอร์ต่างหนักใจที่พวกนางยังคงความเป็นเด็กซนแซบไว้อย่างเต็มตัว แต่ในเวลาที่จำเป็นทั้งหมดก็แสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมาได้ดี ยิ่งเห็นเด็กรุ่นน้องทะเลาะกัน หรือร้องห่มร้องไห้อยากกลับบ้าน รุ่นพี่อย่างพวกนาง สินีนาฏ สายสุดา ก็จะเข้าไปตักเตือนและให้คำปรึกษาแทนเหล่าซิสเตอร์ เหมือนที่ซิสเตอร์คอยสอนให้พวกเธอรู้จักความสามัคคีและการแบ่งปัน
          หลังจากสอบปีสุดท้ายเสร็จ นาง สินีนาฏ สายสุดาและเพื่อน ๆ แอบจัดงานเซอร์ไพรส์ขอบคุณเหล่าซิสเตอร์ มอบดอกไม้ขอขมาที่พวกเธอเคยล่วงเกิน ซิสเตอร์ซาบซึ้งน้ำตาซึม...เมื่อเห็นนักเรียนที่รักทุกคน เติบโตเป็นผู้ใหญ่ กำลังจะเรียนจบและจากโรงเรียนนี้ไปสู่โลกอันกว้างใหญ่
          คืนก่อนเดินทางกลับประเทศไทย นางเข้าไปหาซิสเตอร์เทเรซ่า ถามสิ่งที่เธอสงสัยมาตลอด จนรู้ว่าเด่นชาติเคยทิ้งซิสเตอร์เทเรซ่าไปแต่งงานกับเอมอร ทำให้ซิสเตอร์ตัดสินใจบวชตลอดชีวิต
          นางกราบขอโทษแทนพ่อ ไม่รู้จะชดใช้ความเจ็บปวดนั้นให้ซิสเตอร์เทเรซ่ายังไง  นาง สินีนาฏ จอยคาม มาเรีย ฮองลัน ล่ำลากันก่อนจากทั้งน้ำตาและทั้งหมดสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป
          เมื่อกลับถึงกรุงเทพ... สินีนาฏรู้ว่าธนาธิปเตรียมตัวย้ายไปกงสุลไทยในสหรัฐ สินีนาฏใฝ่ฝันจะอยากเป็นภรรยาที่ติดตามธนาธิปไปด้วย แต่ธนาธิปกลับพูดดักคอว่าจะแนะนำสินีนาฏให้ทำงานกับเพื่อนของเขา สายสนมต้องแบ่งรับแบ่งสู้เพราะยังไม่ได้บอกสินีนาฏว่าจะต้องแต่งงานกับชัยพงษ์
          นางกับธนาธิปมาเจอกันโดยบังเอิญ ธนาธิปช่วยนางหิ้วของและเดินตามไปช้อปปิ้งอย่างไม่รู้สึกเบื่อ เขาชอบมองใบหน้าและท่าทางที่สดใสตลอดเวลาของนาง ธนาธิปรู้ดีว่าตนเหลือเวลาที่อยู่ในประเทศไทยน้อยลงทุกที เขาจึงตัดสินใจที่จะเริ่มจีบนางแบบนิ่มนวล
ธนาธิปเทียวรับเทียวส่งนางหลายวันติดกัน พร้อมทั้งหมั่นพูดความนัยกับนางตลอดเวลา ซึ่งนางก็เอะใจ แต่ไม่กล้าถามตรง ๆ เพราะความเขินอาย เอมอรและเด่นชาติเริ่มรับรู้ในความสัมพันธ์ระหว่างนางและธนาธิป เด่นชาติไม่ค่อยชอบเพราะได้รับปากหมั้นหมายให้นางกับทัศนัยไปแล้ว
          สินีนาฏเองก็รับรู้เรื่องธนาธิปชอบนางเช่นกันจึงเสียใจมาก สายสนมเตือนสินีนาฏและพูดเรื่องยกสินีนาฏให้ชัยพงษ์แล้ว สินีนาฏไม่ยอมแต่งงานกับชัยพงษ์เพราะเธอไม่ได้รักเขา
          ธนาธิปเริ่มเปิดเผยความในใจกับนาง ซึ่งแทนที่นางจะแก่นแก้วตอบตรง ๆ กลับอ้อมค้อม เอียงอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ธนาธิปสัญญาว่าจะพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอนาง เมื่อกลับจากทำธุระที่ต่างจังหวัดเสร็จแล้ว เด่นชาติจึงจัดงานหมั้นระหว่างนางกับทัศนัยอย่างรวบรัด นางร้องไห้เสียใจไม่ยอมหมั้นแต่ขัดคำสั่งพ่อแม่ไม่ได้
          ธนาธิปกลับมาจากต่างจังหวัด นางแอบมาหาธนาธิปที่บ้านและเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ธนาธิปใช้สติคิดหาทางทำให้นางกับเขาได้รักกันและแต่งงานกัน ส่วนคัมพลเองก็โกรธที่รู้ว่าพ่อพาทัศนัยไปหมั้นนาง คัมพลชกต่อยกับทัศนัยทันทีที่เจอหน้า และไปหานางที่บ้านเพื่อขอความรักจากนาง ขอให้นางถอนหมั้นจากทัศนัย แต่นางปฏิเสธและบอกว่าว่าเธอรักธนาธิป คัมพลช็อก...ไม่คาดคิดว่าผู้ชายมาดนิ่งอย่างธนาธิป จะแย่งหัวใจนางไปจากเขา
          ธนาธิปไปหาเด่นชาติกับเอมอรเพื่อยืนยันว่าเขารักนางจริงและพร้อมจะแต่งงานด้วย ติดที่เด่นชาติไม่อยากเสียคำพูดกับเพื่อนรักและจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นฝ่ายถอนหมั้นให้เขาเสียหน้าเป็นอันขาด
          สินีนาฏที่มาปรึกษาธนาธิปเรื่องที่ถูกแม่บังคับให้แต่งงานกับชัยพงษ์ ธนาธิปเตือนสติสินีนาฏให้มองเหตุผลของผู้ใหญ่ สินีนาฏกอดธนาธิปและสารภาพรัก ธนาธิปบอกสินีนาฏตรง ๆ ว่าเขารักนางและเขาจะแต่งงานกับนาง สินีนาฏอึ้ง ช็อกรู้สึกเหมือนถูกนางทรยศหักหลัง
ธนาธิปบอกนางเรื่องสินีนาฏ นางเป็นห่วงเพื่อนจึงรีบมาหาแต่ดันพบว่าสินีนาฏกินยาฆ่าตัวตาย นางรีบพาสินีนาฏไปส่งโรงพยาบาล พร่ำร้องไห้โทษตัวเองที่ทำให้เพื่อนรักต้องเป็นแบบนี้
          สินีนาฏฟื้นขึ้นมาเจอชัยพงษ์นอนเฝ้าเธออยู่ สายสนมเล่าว่าชัยพงษ์รู้ข่าวก็รีบบินมาจากภูเก็ตและขอเฝ้าเธอทั้งคืนด้วยตัวเอง สินีนาฏเห็นใจชัยพงษ์ แต่หัวใจเธอปวดร้าวเพราะรักที่ไม่สมหวังจากธนาธิป
          นางมาหาสินีนาฏเพื่อขอโทษในสิ่งที่ทำให้เพื่อนเสียใจ แต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้ บังคับกันไม่ได้ นางก็ไม่รู้ตัวว่ารักธนาธิปตั้งแต่เมื่อไหร่ สินีนาฏใจอ่อน...เพราะมิตรภาพของความเป็นเพื่อนระหว่างเธอกับนางมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เธอจะโกรธเกลียดเพื่อนรักได้
          ธนาธิปตามสืบทัศนัยจนรู้ว่าทัศนัยรักอยู่กับพยาบาลสาวสวยในคลินิก ธนาธิปจึงไปพูดกับทัศนัยตรงๆว่าเขารักนางและขอให้ทัศนัยถอนหมั้นกับนาง
          ในที่สุด...นางกับธนาธิปก็ได้แต่งงานกัน ธนาธิปแทบไม่อยากเชื่อว่าเด็กสาวแก่นแก้ว สนุกสนานในอดีตอย่างนาง จะกลายเป็นหญิงสาวงดงามและขี้อายตรงหน้าเขาในปัจจุบัน

FANCLUBENJOYJAM on September 23, 2016, 03:25:55 PM
เซอร์ไพรส์หนักมาก….เมื่อ “เกรท – บอล – แก๊ป” จากละคร “นางอาย” บุกไปทำภารกิจ “เมื่อนางอาย” ถึงสยามสแควร์ วัน









          เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา เรียกเสียงฮือฮากันแบบสุดๆ เมื่ออยู่ๆ นักแสดงหนุ่มรูปหล่อจากละคร"นางอาย" นำทีมโดย เกรท – วรินทร, บอล – จิตรภาณุ และ แก๊ป – จักริน บุกไปเซอร์ไพรส์มอบดอกกุหลาบแดงให้น้องๆ และแฟนๆ ถึงย่านสยามสแควร์ วัน แบบประชิดตัวสุดๆ มาดูว่าเมื่อน้องๆ เจอนักแสดงหนุ่มทั้ง 3 คน อาการจะเป็นอย่างไร กับกิจกรรม "เมื่อนางอาย" พอน้องๆได้เจอ ก็ต่างตกอกตกใจ และตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว แถมยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอพี่ๆ มาเซอร์ไพรส์ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนักแสดงหนุ่มทั้ง 3 คน เชิญน้องๆ มาทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ จ้องตา, ป้อนขนม และคุกเข่ามอบดอกไม้ งานนี้ทำเอาน้องๆ เขินบิดจนตัวเป็นเกลียวกันเลยทีเดียว

          หนุ่ม ๆน่ารักขนาดนี้ เป็นใครจะไม่เขิน ยังไงฝากติดตามชมผลงานของ เกรท – วรินทร, บอล – จิตรภาณุและ แก๊ป – จักริน ในละครเรื่อง "นางอาย" ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 – 23.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 – 22.45 น. ทางช่อง 3 (ออริจินัล) และช่อง 33 เริ่ม 24 กันยายน 2559

FANCLUBENJOYJAM on October 05, 2016, 03:56:52 PM
“นางอาย” “เกรท” กุมขมับ!! “ณิชา” ป่วนไม่เลิก ! สถานกงสุลเกือบวอด ! ออกอากาศ วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2559







          คงเส้นคงวาจริงๆ สำหรับความแสบซนของนางเอกวัยไฮสคูลอย่าง "ณิชา-ณัฏฐณิชา" ที่รับบท "นาง" ใน "นางอาย" คราวนี้หวังดีอยาก ช่วยทำอาหารเลี้ยงคนงานแท้ๆ แต่ดันเกือบทำสถานกงสุลไฟไหม้ ร้อนถึง "เกรท-วรินทร" ที่รับบทคุณลุง เอ๊ย "ท่านกงสุล" ต้องเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ งานนี้มีความมุ้งมิ้งน่ารักฉบับพระนาง "ลุง-หลาน" มาฝากคุณผู้ชมค่า...

          โดยในฉากนี้ยกกองไปถ่ายทำกันบ้านวัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร เซ็ทว่าเป็นสถานกงสุลไทยในปีนัง เป็นฉากที่เกิดเหตุจราจลเพราะแคมป์คนงานไทยในปีนังไฟไหม้ ทุกความวุ่นวายจึงมาบังเกิดที่สถานกงสุลแห่งนี้ ยิ่งได้กำลังเสริมแห่งความแสบอย่าง "ยัยนาง" จอมวุ่น ที่ขออาสาทำอาหารไทยเลี้ยงคนงานไทย แต่ลืมบอกไปว่าตัวเองทำอาหารไม่เป็น !! สกิลการทำอาหารของ "นาง" และ "ณิชา" รวมกันค่อนข้างติดลบ งานนี้ร้อนถึง "พี่เหมี่ยว-ปวันรัตน์" ผู้กำกับฯ ต้องมา บอกวิธีขั้นตอนในการทำอาหาร ตั้งแต่เริ่มจุดเตาแก็สไปจนถึงการปรุงรส ถามว่า "ณิชา" เข้าใจมั้ย ตอบได้เลยว่า "ไม่" (5555) ความป่วนในฉากนี้อยู่ที่ไฟต้องไหม้กระทะ แต่จะให้ไหม้จริงก็เกรงจะดับยาก ก็เลยต้องใช้อุปกรณ์ช่วยกันสักหน่อย งานนี้ "ณิชา" ดูสนุกสนานเกินจริงไปมาก จนพี่เหมี่ยวและทีมงานเกรงว่าไฟจะไหม้เพราะความรื่นเริงของณิชาเข้าจริงๆ จึงต้องรีบทำให้กระทะไหม้และรีบดับไฟเมื่อได้ภาพแล้ว ตัดภาพมาที่พระเอกที่ขี่ม้าขาวที่ "ยัยนาง" ชอบเรียกว่า "ลุงงงง" (คนสูงอายุใจคอไม่ค่อยดีเมื่อได้ยินคำนี้) แต่ความน่ารักบังเกิดเพราะหลังจากความวุ่นวายสงบลง "ท่านกงสุล" สลัดสูทแสนสมาร์ท ถลกแขนเสื้อพร้อมจูงแขน "นาง" เข้าครัว งานนี้ทำกันไป สอนไปดุไป ดูแล้วต้องแอบอมยิ้มตามพร้อมแอบหยิกคนข้างๆ โดยไม่รู้ตัว งานนี้ไม่โฟกัสที่รสชาติอาหาร แต่โฟกัสที่ความมุ้งมิ้งของพระนาง ที่แม้นางเอกของเราจะโฟกัสไปที่การกินมากกว่าความหล่อเหลาของพระเอกก็ตาม และเมื่อถ่ายฉากนี้เสร็จอาหารที่ทั้งคู่ทำในฉากนั้น ไม่ได้หายไปไหนนะจ๊ะ ทั้งคู่รีบชิมฝีมือตัวเองพร้อมชม(ตัวเอง) อย่างไม่ขาดปากว่าอร่อย แม้ฉากกุ๊กกิ๊กพระนางจะออกมาให้เห็นน้อย แต่มาทีก็อิ่มอกอิ่มใจกันถ้วนหน้านะจ้ะ...

          ความแสบซนปนสงสัยของ "นาง" ยังมีมาไม่ขาดสาย "คุณลุง" ของหนูนางเลยต้องตามมากุมขมับทุกครั้งไป แหม ท่านกงเนี่ยก็ไม่รู้ตัวเนอะ บ่นไปบ่นมา ยกใจให้เด็กไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องติดตามในละครนางอาย วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคมนี้นะคะ นำแสดงโดย "เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์", "ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์" , "บอล-จิตรภาณุ กลมแก้ว" , "แก็ป-ชนกสุดา รักษนาเวศ" , "แก็ป-จักริน ภูริพัฒน์" , "คารีสา สปริงเก็ตต์" ,"พี่ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ" , "พี่ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล" , "แม่แอ็ด-โฉมฉาย ฉัตรวิไล" ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง กำกับการแสดงโดย "พี่เหมี่ยว-ปวันรัตน์ นาคสุริยะ" ควบคุมการผลิตโดย"ยศสินี ณ นคร" และ"ณัฐบูร ไตรณัฐี" ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง3 ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เวลา 20.15 น.

FANCLUBENJOYJAM on November 23, 2016, 03:54:01 PM
“เกรท วรินทร” เริ่มเปิดฉากให้แฟนๆ ฟิน ในละคร “นางอาย”









          ความสนุกยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น สำหรับละคร "นางอาย" เมื่อหนุ่มหล่ออย่างท่านกงสุล "เกรท – วรินทร ปัญหกาญจน์" ใกล้จะเข้าด้ายเข้าเข็มกับนางเอกแล้ว ซึ่งอีกไม่นานแฟนๆจะได้เห็น และได้ลุ้นไปตามๆกัน กับฉากหวานๆ งานนี้หนุ่มเกรทเผยว่า...............

          "ระหว่างที่เราทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเด็กๆในโรงเรียนคอนแวนต์ เด็กๆก็ไม่วายก่อวีรกรรมแสบๆวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้เราได้ปวดหัว คิดหาวิธีดัดนิสัยเด็กเหล่านั้น ซึ่งวีรกรรมนั้นทำให้เราได้ใกล้ชิดกับนางมากขึ้น และได้รู้จักกับนางในหลากหลายมุม ทั้งความฉลาด ความน่ารัก ความสดใส จนในที่สุดเราก็ตกหลุมรักนางจนได้ เรื่องนี้มีฉากที่ผมประทับใจและก็อยากให้คุณผู้ชมติดตาม ผมกับน้องณิชาเข้าฉากด้วยกันเรายังเขิน เป็นฉากที่ท่านกงสุลกับนางได้รู้ตัวว่ารักกันและฉากนี้ก็ไม่มีใครมาขวางกั้นเราทั้งสอง ผมถือว่าเป็นความฟินอย่างนึงที่ผมเชื่อว่าคนดูต้อง ฟิน จิกหมอนไปตามๆ กันแน่นอน ครับก็อยากฝากให้ทุกคนติดตามละครเรื่องนางอายด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้ผมและก็เป็นกำลังใจให้กับทุกคน และก็น้องๆที่คอนแวนต์ทุกคนนะครับ เชื่อว่าทุกคนจะต้องลุ้นไปกับความน่ารักของละครเรื่องนี้พร้อมๆกันครับ ฝากละครเรื่องนางอายด้วยครับ"

          ความรักต่างวัยจะเป็นอุปสรรคระหว่างท่านกงสุลและนางหรือไม่ ความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อไปอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร "นางอาย" ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 – 20.15 น. และเวลา 20.45 – 23.00 น. ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 – 22.45 น. ทางช่อง 3 (ออริจินอล) และช่อง 33