บล.แอพเพิล เวลธ์ ชี้หุ้นไทยเดือน ก.ย. ชะลอตัวตาม Fund Flow ลุ้นระทึก! เฟดขึ้นดอกเบี้ย คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,510 – 1,560 จุด แนะซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ-ธนาคาร-ท่องเที่ยวเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
บล.แอพเพิล เวลธ์ ชี้หุ้นไทยเดือน ก.ย. ชะลอตัวตาม Fund Flow นักลงทุนลุ้นระทึก! เฟดขึ้น-ไม่ขึ้นดอกเบี้ย กดดัน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,510 – 1,560 จุด เชื่อไม่ส่งผลกระทบตลาดเงิน-ตลาดทุนไทย แนะลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง CK- ITD- STEC- UNIQ กลุ่มธนาคาร KBANK- KTB -SCB และกลุ่มท่องเที่ยวยกนิ้วให้ BA- ERW อานิสงส์เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ย.59 เริ่มชะลอตัวลง หลังจากประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีโอกาสปรับขึ้นในการประชุม FOMC วันที่ 20 – 21 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจาก Bond Yield Spread พันธบัตรอายุ 2 ปี ระหว่างไทยกับสหรัฐยังคงกว้าง 0.75% หากทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐยังไม่มีการปรับขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้น จะยังไม่กระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนไทยมากนัก ทั้งนี้ ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวในกรอบ 1,510 – 1,560 จุด (Forwad P/E16.0 – 16.5 เท่า)
“ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การประชุม FOMC ในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 34% จากภาวะเงินเฟ้อสหรัฐที่เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งประเมินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในครั้งนี้ ยังไม่เป็นปัจจัยลบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าตลาดเงินตลาดทุนไทย เนื่องจาก Yield Spread ระหว่างพันธบัตรอายุ 2 ปีของไทย และสหรัฐยังคงกว้างที่ระดับ 0.75% อย่างไรก็ตามจากประมาณการณ์ IMF ที่คาดเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะเติบโตที่ 2.20% และปีหน้าที่ 2.50% ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนและญี่ปุ่นยังชะลอตัว จึงประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐน่าจะขยับขึ้นอย่างช้า” นายอภิชัยกล่าว
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุน ในช่วงระหว่างรอประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ว่า แนะนำ “ซื้อ” ลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK- ITD- STEC- UNIQ รับประเด็นบวกการประมูลรถไฟรางคู่สายประจวบ–ชุมพร มูลค่า 1.7 หมื่น ลบ.และการเร่งประมูลอีก 3 สาย คือ มาบกะเบา-จิระ,นครปฐม-หัวหิน และลพบุรี – ปากน้ำโพ รวมวงเงินทั้งหมด 7.4 หมื่นล้านบาท กลุ่มธนาคาร KBANK- KTB -SCB จากคาดการณ์สินเชื่อน่าจะเริ่มฟื้นตัวประกอบกับ Yield Spread มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น กลุ่มท่องเที่ยว BA- ERW รับช่วงไฮซีซั่นในช่วง Q3 – Q4