คุณค่าของแผ่นดิน นิทาน AR ฉันรักพระราชินี
บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติการเรียนรู้ TK park จัดงานแถลงข่าวโครงการแอพพลิเคชั่น AR ฉันรักพระราชินี แอพพลิเคชั่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Augmented Reality ใช้คู่กับหนังสือฉันรักพระราชินี นำเสนอเรื่องราวพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถที่มีต่อปวงชนชาวไทย ถ่ายทอดด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายเพื่อให้เด็กได้รู้จักพระราชินีที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเคียงข้างในหลวงไปทุกหนแห่งเพื่อช่วยดูแลประชาชนชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประชาชนในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษา ได้รับการรักษาพยาบาล ส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนสามารถเลี้ยงชีพได้ด้วยตนเอง โดยแอพพลิเคชั่นนี้ ทำให้หนังสือธรรมดา กลายเป็นหนังสือที่มีชีวิต เพราะมีทั้งภาพสามมิติ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ประกอบด้วย
"ด้วยหน้าที่ที่เป็นคนไทย เรามีพ่อหลวงซึ่งเป็นพระราชาที่ใจดีที่สุดที่ทรงงานเพื่อคนไทย นอกจากในหลวงแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญที่เคียงข้างพระราชามาโดยตลอดคือพระราชินี เมื่อปี 2557 เรามีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นและหนังสือฉันรักในหลวง และในปีนี้แอพพลิเคชั่นและหนังสือฉันรักพระราชินีก็เกิดขึ้น เราเชื่อว่าภายใต้การดำเนินธุรกิจ เราสามารถเลือกสิ่งดี ๆ มาทำและถ่ายทอดสิ่งดี ๆ เหล่านี้ไปสู่เด็กและประชาชนได้ หน้าที่ของแปลน ฟอร์ คิดส์ คือ ทำหนังสือให้ที่ดีที่สุด เราอยากให้ทุกบ้านที่มีเด็กได้รู้จักและเข้าใจว่าที่ท่านทรงงานหนักมากมายมาตลอดก็เพื่อคนไทย" ริสรวล อร่ามเจริญ ผู้ผลิตและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัดกล่าว
ทางด้านหม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ผู้ให้เสียงภาษาไทยในแอพพลิเคชั่นและผู้ถวายงานในพระองค์ กล่าวถึงภาพความประทับใจในพระจริยวัตรของพระองค์ท่านว่า "ประทับใจในทุกอย่างที่เป็นพระองค์ท่าน ไม่ว่าจะมุมมองในแง่ไหน ในฐานะเริ่มแรกที่ท่านทรงเป็นพระธิดาของเสด็จในกรมและคุณท่านหม่อมหลวงบัว ท่านก็จะดูแลและซึมซับคำสั่งสอนของพระบิดาและพระมารดาของพระองค์ท่านอย่างดี เป็นลูกที่กตัญญู ดูแลเครือญาติพี่น้องทุกท่าน ถ้าพูดถึงหนังสือนิทานก็จะเห็นในพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จะอ่านนิทานก่อนนอนพระราชทานทูลกระหม่อมทุกพระองค์เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ฉะนั้นพระองค์ก็ทรงผูกพันกับหนังสือและทรงสนพระทัยมากเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของทูลกระหม่อมทุกพระองค์ท่านก็ทรงดูแลอยู่แล้ว และเผื่อแผ่มาถึงพสกนิกรด้วย คือ จะทรงเน้นเลยว่า อยากให้เด็กไทยมีการศึกษาที่ได้ระดับมาตรฐาน เราจะเห็นรูปภาพหลายครั้งที่เสด็จไปเยี่ยมราษฎร และทรงอ่านหนังสือ พระราชทานเด็ก ๆ ด้วยพระองค์เอง"
คุณแม่ต้นแบบในการเลี้ยงลูกและสอนลูกเกี่ยวกับการปลูกจิตสำนึก ให้รู้จักรักและเคารพในสถาบันกษัตริย์ เพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิต คุณโบว์ แวนดา สหวงษ์ ให้มุมมองว่า "จริง ๆ คิดอยู่เสมอว่าเราจะสอนลูกอย่างไรให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะให้ลูกเรารู้ได้อย่างไรว่าทำไมเราถึงรักในหลวง ทำไมเราถึงรักพระราชินี จะพูดให้เขาฟังก็คงได้แค่ฟัง วันนี้ขอบคุณจริง ๆ ที่มีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเล่าเรื่องราวให้ลูกรู้ว่าทำไมพ่อถึงรักในหลวง แม่ถึงรักพระราชินี แล้วก็อยากให้เขาซึมซับ ในทุก ๆ สิ่งที่พระองค์ท่านทำให้กับเราชาวไทยทุกคน วันหนึ่งเขาจะได้รู้ว่าเขาโชคดีแค่ไหน ที่ได้อยู่บนผืนแผ่นดินที่ร่มเย็น โชคดีแค่ไหนที่มีพระมหากษัตริย์และพระราชินีที่อยู่เคียงข้างประชาชนชาวไทย ไม่ว่าจะในยามทุกข์ หรือยามสุข เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะปฎิเสธว่าทำไมเราถึงไม่รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพระราชินีของเรา"
สำหรับแอพพลิเคชั่น AR ฉันรักพระราชินี จะใช้งานคู่กับหนังสือฉันรักพระราชินี สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่านApp Store ในอุปกรณ์ระบบ IOS หรือ Play Store ในอุปกรณ์ระบบ Android ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงค้นหาคำว่า "ฉันรักพระราชินี" วิธีการใช้งาน เพียงเปิดแอพพลิเคชั่นฉันรักพระราชินี แล้วใช้โทรศัพท์มือถือหรือแทบเล็ตส่องไปที่หนังสือ จะพบกับความตื่นตาตื่นใจในรูปแบบภาพสามมิติและภาพเคลื่อนไหว พร้อมเสียงเพลงพระราชนิพนธ์
นักวิจัยผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยี AR อาจารย์ธันยา นวลละออง กล่าวถึงระบบปฎิบัติการเทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality ว่าคือ เทคโนโลยีที่ทำให้เราจะสร้างชิ้นงานกราฟฟิกเป็นแบบป๊อปอัพให้เกิดขึ้นมาบนหน้าหนังสือจริง ๆ โดยที่ปกติแล้วเราจะมองไม่เห็นมัน จึงต้องมีอุปกรณ์ เช่น กล้องสำหรับมองผ่านจอเข้าไป เหมือนอย่างตอนนี้ที่มีแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า โปเกมอนโก ซึ่งเป็นเทคโนโลยี คล้าย ๆ กัน แต่ว่ามันจะเพิ่มเติมตรง GPS ไปด้วย มีการระบุพิกัด ตำแหน่งบนผืนโลกว่าตัว เอ อาร์ จะไปปรากฎที่ไหนบ้าง แต่สำหรับในที่นี้เราระบุไปว่าให้ปรากฎที่หน้าหนังสือเท่านั้น
นอกจากภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบสามมิติเสมือนจริงแล้วหนังสือชุดนี้ยังมีเสียงเพลงที่มาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้ ได้ที่ปรึกษาอย่างคุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา มาร่วมงานโดยเล่าว่า "โน้ตแบบเรียนดนตรีแรกของผม คือ เพลงพระราชนิพนธ์ ผมได้รวมเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 48 เพลงใส่ไว้ในสมุดปกหนัง คนที่โตมาในรุ่นราวคราวเดียวกับยุคผม จะเห็นและรับรู้ว่าท่านทรงทำอะไรมาบ้าง เพื่อให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่รู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ ในที่สุดเราตัดสินใจทำโครงการ HM Blues ประกอบไปด้วยชุดอนุรักษ์ 48 เพลงของท่าน เราเรียบเรียงแบบอนุรักษ์คงสไตล์ดั้งเดิมเอาไว้ อีกชุดนึงจะเป็นชุดที่เราผลิตแยกออกมาอีก 25 เพลง ทำนองเพลงจะร่วมสมัยทั้งหมดเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ฟังง่าย เพราะอยากให้เพลงพระราชนิพนธ์สืบต่อไปยังคนรุ่นใหม่"
"ก่อนหน้านี้ในส่วนของสำนักอุทยานการเรียนรู้ ตั้งแต่ปีพศ.2557 ได้ร่วมมือกับแปลน ฟอร์ คิดส์ เผยแพร่หนังสือเรื่องฉันรักในหลวง เราจะซาบซึ้งและรู้ว่าทั้งสองพระองค์ท่านได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติมากมาย โครงการของพระองค์ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน แต่เด็กรุ่นหลังเขาไม่เห็นและรู้สึกห่างไกลตัวเขามาก คุณพ่อคุณแม่สมัยนี้ส่วนใหญ่ทำงาน อาจจะไม่มีเวลาได้ปลูกฝังสิ่งเหล่านี้มากนัก เพราะฉะนั้นการใช้นิทานจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กสนใจและซึมซับได้ง่าย หนังสือฉันรักในหลวง เราแจกไปทั่วประเทศทั้งห้องสมุดประชาชนที่เป็นเครือข่ายของเราและทุกที่ นอกจากนี้เรายังได้อบรมวิธีการใช้สื่อนี้ด้วย และในปีนี้ เราจะแจกทั้ง 2 เล่ม คือ ฉันรักในหลวง และฉันรักพระราชินี ซึ่งตอนนี้เราจะกระจายไปยังห้องสมุดประชาชนในเครือของกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านทางกศน. 1,000 กว่าแห่ง และห้องสมุดที่เป็นเครือข่าย และห้องสมุดโรงเรียนอีกด้วย" ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ที่ปรึกษาสำนักงานอุทยานการเรียนรู้และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการเผยแพร่หนังสือ กล่าวเสริม
เนื่องในโอกาสมหามงคลพิเศษเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ครบ 7 รอบ 84 พรรษา บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ขอรณรงค์ให้ทุกครอบครัวได้รับรู้ และตระหนักถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน โดยรับหนังสือฉันรักพระราชินี ฟรี 2,000 เล่ม เพียงส่งสำเนาสูติบัตรของบุตรหลานที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 9 ปี พร้อมแจ้งชื่อ ที่อยู่ที่จะให้จัดส่งหนังสือมาที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อีเมล์
ilovequeenpfk@gmail.com สอบถาม โทร 02-575-2559 ต่อ 504/505 หมดเขตวันที่ 31 ธันวาคมศกนี้ หรือจนกว่าหนังสือจะหมด