news on August 18, 2016, 10:22:09 AM
กระทรวงวิทย์ฯ สวทช. ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร พร้อมจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ร่วมขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมไทย เปิดตลาดเชื่อมโยงการลงทุน ต่อยอดธุรกิจยุคใหม่(16 ส.ค. 59) ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรุงเทพฯ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จับมือเครือข่ายพันธมิตร แถลงข่าวจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” ระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “S&T for Thailand 4.0” เพื่อเป็นเวทีกลางนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมของ สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร คาดกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงผลงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง และการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรมสูงสุด ตลอดจนสร้างช่องทางและโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup ต่อยอดและขยายตลาดธุรกิจเทคโนโลยีสู่ระดับสากลได้
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการผลักดัน และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ให้เกิดการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน ด้วยการมุ่งสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการขับเคลื่อนในรูปแบบของ “ประชารัฐ” ให้ประเทศมีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” หรือ “Thailand Economy 4.0” ซึ่งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปฏิรูป 3 ประการ ได้แก่ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ จากเดิมที่เป็นการผลิตโดยใช้แรงงาน เครื่องจักร และทรัพยากร มาเป็น การผลิตบนฐานความรู้ และเทคโนโลยี (Technology Base) การพัฒนาภาคบริการ รวมทั้งต้องมีการปฏิรูปการวิจัยและพัฒนา โดยดึงสถาบันวิจัยระดับโลกเข้ามาตั้งในประเทศไทย และการปฏิรูประบบการศึกษาที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินโครงการสานต่อแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนด้วยโมเดล Thailand 4.0 โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม อย่างต่อเนื่อง อาทิ Bioeconomy และ Digital economy ซึ่งเป็น 2 ใน 5 อุตสาหกรรมที่รัฐบาลกำหนดไว้ใน Thailand 4.0 ที่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น มุ่งส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยมีการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล ยั่งยืน และมีการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมการบริหารจัดการสมัยใหม่ อันจะนำประเทศสู่การหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางต่อไป
การจัดงาน “Thailand Tech Show 2016” นับเป็นอีกหนึ่งผลงานความสำเร็จที่ภาครัฐพยายามผลักดันผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้ออกสู่เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม นำเสนอด้วยรูปแบบตลาดเทคโนโลยี ผู้ซื้อพบผู้ขาย สนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup รวมทั้งเชื่อมโยงการลงทุนในรูปแบบใหม่กับแหล่งทุนที่เหมาะสม เพื่อเป็นกลไกในการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และต่อยอดให้เกิดขึ้นอย่างในวงกว้างและรวดเร็ว รวมถึงการขยายตลาดให้แก่ธุรกิจเทคโนโลยีซึ่งเป็นการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนา ตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เสริมศักยภาพและยกระดับผู้ประกอบการ/นักลงทุน และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการขับเคลื่อนเวทีต่อยอดผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมจากหิ้งสู่ห้างเพื่อเชื่อมโยงให้เอกชนเข้าถึงได้ง่าย และนำผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่พัฒนาจากสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย และภาคเอกชนอื่นๆ ออกสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ในงาน Thailand Tech Show 2016 ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบตลาดเทคโนโลยี ผู้ซื้อพบผู้ขาย สนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup รวมทั้งเชื่อมโยงการลงทุนในรูปแบบใหม่และ/หรือแหล่งทุนที่เหมาะสม เพื่อเป็นกลไกการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และการต่อยอดให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลาย รวมถึงการขยายตลาดให้กับธุรกิจเทคโนโลยี จึงกำหนดจัดงานมหกรรม “Thailand Tech Show 2016” ขึ้น ภายใต้แนวคิด “S&T for Thailand 4.0” ระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2559 ณ เพลนารี ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเครือข่าย ผู้สนับสนุน ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มาร่วมจัดแสดงนิทรรศการและนำเสนอผลงานบนเวทีด้วย
โดยภาพรวมการจัดงานมหกรรม “Thailand Tech Show 2016” สวทช. ได้รับเกียรติจากสถาบันวิจัยและสถาบันการศึกษาร่วมเป็นพันธมิตรมากกว่า 20 หน่วยงาน รวม ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม เกษตรและประมง เภสัชภัณฑ์และเครื่องสำอาง เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น โดยผลงานทั้งหมดประกอบด้วย 183 ผลงาน ผลงานเด่น สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร รวมจำนวน 10 ผลงาน เทคโนโลยีแนะนำ (ราคาเดียว) จำนวน 122 ผลงาน และเทคโนโลยีไฮไลท์ (เจรจาเงื่อนไข) จำนวน 51 ผลงาน ตลอดจนผลงานจาก Tech Start Up จำนวน 50 ราย ร่วมจัดแสดงในงาน ซึ่งผลงานเด่นของ สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการลงทุนมีด้วยกันหลายผลงาน อาทิ
ผลงานเด่นของ สวทช.
1. ชุดตรวจโรคไข้เลือดออกที่แยกชนิดของไวรัสเด็งกี่ได้ทันที (DEN-STEP) (ดร.ชัญญา พุทธิขันธ์, BIOTEC)
DEN-STEP เป็นผลิตภัณฑ์ชุดตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่ ที่สามารถตรวจหาโปรตีน NS1 ของไวรัสเด็งกี่ ในผู้ป่วยระยะที่ยังมีไข้ (Early diagnosis) พร้อมกับการแยกชนิดหรือซีโรทัยป์ของไวรัสเด็งกี่ได้ทันที
2. ฟิล์มปิดหน้าถาดสำหรับผลิตผลสดตัดแต่ง (Topflex) (ดร.วิชชุดา เดาด์, MTEC)
Topflex เป็นฟิล์มปิดหน้าถาดแบบปิดผนึกด้วยความร้อน ที่ถูกออกแบบให้มีอัตราการแพร่ผ่านของก๊าซที่เหมาะสม สำหรับใช้บรรจุผลิตผลสด เพื่อรักษาคุณภาพและยืดอายุผักผลไม้สดตัดแต่ง
3. กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง (มิวอาย M&B) (ดร.อัชฌา กอบวิทยา, NECTEC)
ใช้เลนส์พอลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกหักง่าย ไม่ขึ้นเชื้อรา ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย กำลังขยาย optical zoom สูงถึง 250 เท่า และสามารถขยายได้สูงสุดถึง 1,000 เท่า เมื่อรวม digital zoom จากกล้องของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บแล็ต สามารถบันทึกรายละเอียดของเซลล์ขนาดเล็กอย่างเซลล์เนื้อเยื่อสัตว์ เซลล์เม็ดเลือดแดง หรือเซลล์ประสาทได้ในรูปแบบภาพและวิดีโอ อีกทั้งเอื้อให้การส่งถ่ายข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีเครือข่ายออนไลน์
4. ชิปขยายสัญญาณรามาน (whatSERS) (ดร.นพดล นันทวงศ์, NECTEC)
ชิปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวัดเอกลักษณ์ของสารเคมีด้วยเทคนิค Raman Spectroscopy ให้สามารถวัดสัญญาณของสารอินทรีย์และอนินทรีย์ในปริมาณน้อยระดับ trace concentration ได้
5. แพลตฟอร์มสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อทุกสรรพสิ่ง (NETPIE) (ดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์, NECTEC)
NETPIE คือ Cloud Platform ที่ให้บริการในรูปแบบ Platform-as-a-Service สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาสามารถพัฒนาให้อุปกรณ์ของตัวเองเชื่อมต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูล และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในแบบ Internet of Things (IoT) NETPIE มีองค์ประกอบสองส่วนคือ Cloud Platform และไลบรารี่ ซึ่งเป็นเสมือน Firmware หรือ Software Development Kit (SDK) สำหรับติดตั้งบนอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยดูแลการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ เรื่องความปลอดภัย (Security) ความพร้อมใช้ (Availability) และการขยายตัวของระบบ (Scalability) นักพัฒนาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารจัดการระบบและการสื่อสารที่อยู่เบื้องหลัง
- เทคโนโลยีแนะนำ (ราคาเดียว 30,000 บาท) เช่น เครื่องดิจิทัลอิมเมจคัลเลอริมิเตอร์ที่อาศัยไอพอดแบบพกพาสะดวก (ม.นเรศวร) ครีมบำรุงฝ่าเท้าจากกวาวเครือ (ม.ราชภัฏกาญจนบุรี) ผลิตภัณฑ์แยมจากข้าวไรซ์เบอรี่ (ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา) เจลแต้มสิวจากแบคทีริโอซิน (ม.วลัยลักษณ์) นวัตกรรมแหนมแห้งพร้อมบริโภค (ม.อุบลราชธานี) เทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดละลายน้ำได้จากเปลือกมะม่วง (วว.) เครื่องปรุงรสอาหารฟรุตโตริน (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
- เทคโนโลยีไฮไลท์ (เจรจาเงื่อนไข) เช่น เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสมของพันซาด (ม.ขอนแก่น) อุปกรณ์วัดสภาวะน่าสบาย (Thermal Comfort) ในสำนักงานและโรงงานอุตสาหกรรม (สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น) ชุดตรวจแบบรวดเร็วในรูปแบบ immunochromatographic strip test เพื่อตรวจวินิจฉัยเชื้อก่อโรคในพืชตระกูลแตง 3 ชนิดในคราวเดียวกัน (สวทช.)
- ผลงานจาก Tech Startup เช่น Tactical Simulation Training หรืองานทางด้านจำลองยุทธทางด้านทหารและตำรวจ (InterSET Research And Solution Co.,Ltd.) แอปพลิเคชั่น ChomCHOB (ชมชอบ) (บริษัท ชมชอบกรุ๊ป จำกัด) MATRIX DSLRs Control Suite ระบบควบคุมและสั่งถ่ายกล้อง DSLR ไม่จำกัดจำนวน (บริษัท โปร-ทอยส์ จำกัด) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ป้องกันการเกิดฝ้า (บริษัท ดีไลฟ์ ซินเนอร์จี้ จำกัด) เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานจะมีกิจกรรม Investors’ Day นำเสนอผลงานวิจัยแบบ Investment Pitching โดยนักวิจัยเจ้าของผลงาน การเจรจาธุรกิจแบบ One-on-One Matching การจับคู่ธุรกิจ และการจำหน่ายสินค้านวัตกรรม รวมทั้งตลอดงาน 3 วัน ยังมีการบรรยายพิเศษ และการเสวนาวิชาการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมอีกมากมาย อาทิ
- ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “New S Curve กับการขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0”
โดย ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- การเสวนาพิเศษ เรื่อง “จะก้าวผ่านกับดักประเทศ เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไร?”
- การบรรยาย เรื่อง “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง สำหรับธุรกิจ”
- การเสวนาพิเศษ เรื่อง “บัญชีนวัตกรรมไทย : เข้าถึงตลาดภาครัฐ มาตรฐานก้าวไกล เพื่ออุตสาหกรรมไทยยุค 4.0”
- การเสวนาพิเศษ เรื่อง “มิติใหม่ ติดอาวุธอุตสาหกรรมไทยด้วยงานวิจัยและเทคโนโลยี
สวทช. ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาคและเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสและเข้าถึงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีแผนจะจัดงาน Thailand Tech Show ในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2559 ดังนี้ ที่ จ.ขอนแก่น (13 ตุลาคม) จ.สงขลา (25 พฤศจิกายน) และ จ.เชียงใหม่ (15 ธันวาคม)
งาน “Thailand Tech Show 2016” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2559 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ เพลนารี ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขอเชิญชวนผู้ประกอบการและนักลงทุนที่สนใจร่วมงานรับฟังข้อมูล สัมผัสกับผลงานวิจัยด้วยตัวท่านเอง โดยจะมีนักวิจัยเจ้าของผลงานคอยให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดการจัดงาน ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดโครงการ ข้อมูลเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะนำมาแสดง รวมถึงข้อมูลในการขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.nstda.or.th/thailandtechshow2016/ หรือโทรศัพท์ 0 2564 8000
« Last Edit: August 21, 2016, 12:36:05 PM by news »
Logged