news on August 20, 2016, 10:02:02 PM
“ซอฟต์แวร์ ปาร์ค” จับมือ “สามารถ กรุ๊ป” เฟ้น “10 เจ้าของไอเดีย” สู่ “เถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี”



(ซ้าย) คุณเจริญรัฐ (ขวา) คุณเฉลิมพล


โฉมหน้า 10 ทีมที่เข้ารอบนำเสนอต่อนักลงทุน


คณะกรรมการ นักลงทุน และ ทีมผู้เข้าแข่งขัน ถ่ายรูปร่วมกัน


คณะกรรมการ และนักลงทุน ร่วมรับฟังการนำเสนอผลงาน



(วันที่ 18 สิงหาคม 59) ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท 22 - เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์ ปาร์ค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันจัดเวทีนำเสนอผลงาน ในโครงการ Young Technopreneur Meet Investors” หรือ เถ้าแก่น้อยเทคโนโลยีพบนักลงทุน ประจำปี 2559 เพื่อสร้างผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่โดยการต่อยอดความคิดให้กับผลงานที่มีความพร้อม มีแนวทางความเป็นไปได้ทางการตลาด เพื่อผลักดันสู่ธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่จับต้องได้และเป็นรูปธรรม โดยมีผู้ประกอบการ เข้าร่วมฟังการนำเสนอผลงานเป็นจำนวนมาก

นายเฉลิมพล ตู้จินดา ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์ ปาร์ค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการแสดงผลงานเทคโนโลยีและแผนธุรกิจของผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดยนำความรู้ที่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจและประสบการณ์ที่ได้จากการร่วมกิจกรรมในโครงการ ผ่านกระบวนการบ่มเพาะธุรกิจ โดยศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ (สวทช.) ตั้งแต่เรื่องการจัดตั้งธุรกิจ การเขียนแผน การเจรจาต่อรอง จนถึงการออกไปปฏิบัติจริง มาปรับใช้กับผลงาน และกลับมานำเสนอให้กับนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ประกอบการ ผู้ทรงอิทธิพลด้านออนไลน์จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ รวมถึงนักลงทุนภาคอุตสาหกรรม และนักลงทุนราย ซึ่งล้วนแต่มีประสบการณ์ ความรอบรู้ ที่ต้องการแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโต มาร่วมลงทุนและต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ หรือนำไปขยายตลาดต่อทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ตลอดที่จัดโครงการฯ มาตลอดนั้น มีถึง 15 ผลงาน ที่ก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจตัวจริง เกิดการจัดตั้งเป็นธุรกิจเทคโนโลยี เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และมีอีกกว่า 50 ผลงานที่กำลังพัฒนา และเตรียมพร้อมสู่ตลาดและการจัดตั้งธุรกิจต่อไป

นายเจริญรัฐ วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทสามารถ ได้ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงาน “เถ้าแก่น้อยเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยโครงการฯ ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในโครงการฯที่จัดขึ้นเพื่อให้เกิดการพบปะกันระหว่างนักลงทุนและทีมเจ้าของผลงาน สร้างโอกาสให้เกิดการเจรจาต่อรองทางธุรกิจระหว่างกัน ซึ่งเจ้าของผลงานจะได้มีโอกาสต่อยอดในเชิงพาณิชย์ นักลงทุนมีโอกาสได้พิจารณาผลงานที่มีศักยภาพเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจของตน และเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในภูมิภาคมากขึ้น

“ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทสามารถได้เริ่มสนับสนุนให้เกิดนักพัฒนาด้านเทคโนโลยีคนรุ่นใหม่มาเป็นเวลาถึง 14 ปี ผ่านโครงการ Samart Innovation Award จนมาถึงปัจจุบันที่ได้จับมือกับสวทช. จัดโครงการเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยีติดต่อเป็นที่ 5 ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของเรา ที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมด้วยการส่งเสริมด้านทักษะความรู้ เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นแนวทางในการสนับสนุน StartUp ในแบบของเรา จึงมุ่งเน้นไปที่  “การบ่มเพาะ”  โดยการเสริมสร้างความรู้ในด้านต่างๆ ที่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจ ตั้งแต่เรื่องการจัดตั้งธุรกิจ การเขียนแผนธุรกิจ เทคนิคการนำเสนอผลงาน การเจรจาต่อรอง จนถึงการออกไปปฏิบัติจริง เป็นระยะเวลาถึง 72 ชั่วโมง  เป็นการติดอาวุธและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับนักพัฒนาไทย เพื่อให้พร้อมในการลงสนามแข่งขันด้านธุรกิจต่อไป”   

สำหรับ 10 ผลงานที่เข้าร่วมนำเสนอต่อนักลงทุนครั้งนี้ คัดเลือกจากผลงานที่พร้อมที่สุดทั้งแนวคิดธุรกิจที่ชัดเจนและมีศักยภาพสูงพร้อมต่อยอดทางธุรกิจได้ทันที แบ่งเป็น 4 ประเภทเทคโนโลยี ได้แก่ ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม มี 1 ทีม คือ Beernova วัสดุแทนไม้คุณภาพสูงจากกากเบียร์ ประเภทเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ มี 3 ทีม ประกอบด้วย 1.อะพาร่า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสกัดจากเซรั่มน้ำยางพารา 2.Zzzleepillow นวัตกรรมหมอนที่ช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ และ 3.FitMeUp แอพพลิเคชันช่วยแนะนำการออกกำลังกาย ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการพาณิชย์และการขนส่ง มี 3 ทีม ประกอบด้วย 1.Handy Wings ระบบบริหารจัดการงานซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร 2.HOPS แอพพลิเคชันช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลการตลาด และ 3.Jord Sabuy บริการที่จอดรถ และประเภทเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มี 3 ทีม ประกอบด้วย 1.Gurr.com แพลตฟอร์มเพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของนักศึกษา   2.จับจ่าย เทคโนโลยีที่สร้างบัญชีเงินฝากระหว่างนักเรียนกับโรงเรียนด้วยลายนิ้วมือ และ 3. มิวอาย เลนส์ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งแต่ละผลงานล้วนแล้วแต่อยู่ในกลุ่มที่มีความต้องการในตลาด

อย่างไรก็ตามการนำเสนอผลงานต่อนักลงทุนครั้งนี้ ปรากฎว่า ผลงานที่ได้รับ “รางวัลผลงานที่น่าลงทุนที่สุด” และยังได้รับ “รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน” คือ ทีมเบียร์โนวา (Beernova) วัสดุแทนไม้คุณภาพสูงจากกากเบียร์ ซึ่งทำให้กากเบียร์มีสีน้ำตาล ออกมาจากกากเบียร์ แล้วแทนที่ด้วยไอโซซอร์ไบด์โมโนเมอร์ ซึ่งเป็นโพลีเมอร์ของพลาสติกชนิดโพลีคาร์บอเนต ที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษให้มีความโปร่งแสง 95% เป็นผลิตภัณฑ์วัสดุสังเคราะห์แบบใหม่ที่ยังคงมีคุณสมบัติสำคัญของไม้ทุกประการ แต่โปร่งแสง สำหรับนำไปใช้ทดแทนพลาสติกหรือกระจก แต่มีความแข็งแกร่งกว่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนทีมที่คว้า “รางวัลนำเสนอผลงานยอดเยี่ยม” คือ ทีม “จับจ่าย” เทคโนโลยีที่สร้างบัญชีเงินฝากระหว่างนักเรียนกับโรงเรียนด้วยลายนิ้วมือ เพื่อที่นักเรียนสามารถใช้ซื้ออาหารกลางวัน ซื้อสินค้าในสหกรณ์ หรือลงเวลาเรียนต่างๆ ได้อย่างง่าย สะดวก และปลอดภัย

สำหรับโครงการ Young Technopreneur ปีนี้ ยังต้องค้นหาสุดยอดแผนธุรกิจด้านนวัตกรรม ในรางวัล Samart Innovation Award กันต่อไป โดยผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 25 ผลงานต้องมานำเสนอผลงานอีกครั้ง และประกาศผลภายในปลายปีนี้ สามารถดูความเคลื่อนไหวของโครงการฯ ได้ที่ www.nstda.or.th/bic และ www.samartsia.com โดยผู้ชนะเลิศสุดยอดนักคิดนักพัฒนานวัตกรรมต้นแบบ หรือรางวัล Samart Innovation Award 2016 จะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท (รางวัลชนะเลิศ) เงินรางวัล 100,000 บาท สำหรับรองชนะเลิศอันดับ 1 และเงินรางวัล 50,000 บาท สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นอกจากนั้น 3 อันดับแรกยังได้รับรางวัลศึกษาดูงานต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น รางวัลลำดับที่ 4-25 จะได้รับทุน (Business Startup Funds) ทุนละ 20,000 บาท  รวมมูลค่ารวมทั้งโครงการฯ กว่า 1,000,000 บาท เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เกิด เถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี ตัวจริงต่อไป
« Last Edit: August 20, 2016, 10:18:35 PM by news »