MSN on July 26, 2016, 08:33:23 AM
บลจ.กรุงไทยขายตราสารหนี้6เดือนชู1.50%ต่อปี

         นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด  (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 106 (KTFF106 )  เสนอขายตั้งแต่วันนี้  ถึงวันที่ 2  สิงหาคม  2559  อายุ 6 เดือน  เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ  ประเภทเงินฝากประจำ   Bank of China  ( Macau)   , China Construction  Bank  (Asia) Corp.Ltd , Agricultural Bank of CHINA  , Union National Bank PJSC  และ First Gulf Bank PJSC  ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี  เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงิน  และผลตอบแทนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี

       ทั้งนี้   IMF   ได้มีการเตือนเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ  และความเสี่ยงขาลงเพิ่มากขึ้น รวมทั้งความไม่แน่ตนอนทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เพิ่มมากขึ้นหลัง  Brexit  พร้อมทั้ง  แนะนำให้ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าอย่างเยอรมนี และสหรัฐฯ เพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐด้านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลก  ส่วนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ( ECB )   ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม และไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงวงเงิน QE   ขณะที่ผลกระทบของ  Brexit  ยังจำกัดอยู่ในอังกฤษ และยุโรปมากกว่าภูมิภาคอื่น   แต่ในทางกลับกันสหรัฐ ได้รับผลกระทบน้อย และเริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น   และเชื่อว่าการประชุมเฟดในครั้งนี้  จะยังคงดอกเบี้ยในระดับเดิม

       ส่วนทางด้านเศรษฐกิจไทยแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น จากตัวเลขนักท่องเที่ยวผ่านด่านสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองเดือนกรกฎาคม  ขยายตัว 18 %  สะท้อนภาคการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ภาครัฐร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย  ให้การสนับสนุนสถาบันการเงินทำธุรกิจเกี่ยวกับ  Fin Tech  เพื่อนำนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คาดว่าไตรมาส 4  จะสามารถประกาศใช้ได้  โดยเน้นการแก้ไขผ่อนปรนกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น   เช่น  การแก้ไขระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงิน  การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง   และเปิดโอกาสให้ธุรกิจอื่นเข้ามาเป็นสมาชิกได้ด้วย  อีกทั้งภาครัฐยังมีนโยบายกระตุ้นความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบรัฐวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม  ( SMEs) ให้มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดี  พร้อมปรับโครงสร้างและขับเคลื่อนให้เป็นระบบที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน   รวมถึงใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของไทย

       อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนทั้งในต่างประเทศ โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 4,139 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นผลการประชุม FOMC และ BOJ ผลกระทบของ Brexit ต่อตลาดการเงินทั่วโลก ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ  และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ

       ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนของตลาดการเงินหลังการลงประชามติถอนตัวออกจาก EU ของ UK (Brexit) และจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนจาก Brexit โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps มาอยู่ที่ 0.59% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 9 bps. มาอยู่ที่ 0.99% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 13 bps.มาอยู่ที่ 1.44% ต่อปี
« Last Edit: July 26, 2016, 02:24:43 PM by MSN »