happy on July 24, 2016, 08:22:35 PM
ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า 3 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจ


การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ถือเป็นรายการแข่งขันเรือใบที่มีความพิเศษ รายการหนึ่งในเอเชียน ยอช์ทติ้ง กรังด์ปรีซ์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปแบบสนามแข่งขัน ภูมิประเทศที่สวยงาม สภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการแล่นเรือใบ รวมไปถึงงานเลี้ยงสังสรรค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และประวัติความเป็นมาของการจัดงานที่เปี่ยมด้วยความสง่างามและน่าภาคภูมิ ทำให้รายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่นักกีฬาเรือใบทั่วโลกต่างรอคอยในฐานะศึกแห่งสายน้ำที่ทรงเกียรติสูงสุดของเอเชีย
 
การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ซึ่งปัจจุบันถือเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงชื่นชอบและทรงพระปรีชาสามารถในการแล่นเรือใบอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระราชธิดาองค์ใหญ่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนฯ ทรงนำความปลาบปลื้มอันหาที่เปรียบมิได้มาสู่ปวงชนชาวไทยและถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จบนประวัติศาสตร์การกีฬาโลก เมื่อทรงคว้าชัยชนะในการแข่งขันเรือใบประเภท OK Dinghy Class ในรายการกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 (ซึ่งในปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นกีฬาซีเกมส์) ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ของงานรีกัตต้า และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้แทนพระองค์เพื่อการพระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าดำเนินเป็นประจำทุกปี
 
งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า เกิดจากความร่วมมือของคณะกรรมการจัดงานแข่งขันเรือใบระดับแนวหน้าของเอเชีย นำโดย มร.เควิน วิทคราฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน  และคณะกรรมการจัดการแข่งขันนำทีมโดย มร.ไซมอน เจมส์ อีกทั้งคณะบุคลากรผู้มีประสบการณ์ในวงการกีฬาเรือใบระดับภูมิภาค จึงได้รับความสนใจจากนักกีฬาชั้นนำเดินทางมาร่วมการแข่งขันกันอย่างคับคั่งทุกปี ทำให้ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ากลายเป็นงานพบปะสังสรรค์ของกลุ่มนักกีฬาชื่อดังและผู้ที่ชื่นชอบการแล่นเรือใบจากทั่วโลก
 
มร.เควิน วิทคราฟท์ กล่าวว่า "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าในปีนี้ถือเป็นปีที่ 30 ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่ได้เห็นพัฒนาการของการแข่งขันนับตั้งแต่แรกเริ่ม จนกระทั่งกลายเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักกีฬาเรือใบ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ผู้สนับสนุนการแข่งขัน โดยเฉพาะกองทัพเรือซึ่งให้ความช่วยเหลือ การบริหารงาน และการสนับสนุนการจัดงานนับตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมกีฬาเรือใบและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทยจวบจนทุกวันนี้"









งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า เริ่มจัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 โดยนายกสโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์ในสมัยนั้น มร. คริส คิง ร่วมด้วย ดร. รชฎ กาญจนะวณิชย์, อัล แชนด์เลอร์,  อดอล์ฟ นีส์ และ หม่อมตรี เทวกุล โดยการแข่งขันอยู่ภายใต้การควบคุมของสโมสรเรือใบราชวรุณและได้รับการสนับสนุนทั้งจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานรัฐบาลอีกหลายภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ต
 
นอกจากเป็นการแข่งขันเรือใบที่รวบรวมทีมเรือใบอิสระฝีมือเยี่ยมจากทั่วโลก ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ระดับสูงของบรรดากัปตันเรือและลูกเรือจากทั่วโลก ซึ่งมาพบปะกันทั้งในการแข่งขัน ร่วมอิ่มเอมกับอาหารและเครื่องดื่มในงานเลี้ยงชั้นเลิศ พร้อมเพลิดเพลินกับรายการความบันเทิงแบบครบวงกร กล่าวได้ว่า งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเป็นเวทีระดับประเทศที่แสดงให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงความเป็นเลิศของเมืองไทย ทั้งในด้านวัฒนธรรมอาหารและมาตรฐานการต้อนรับที่ดีเยี่ยมของโรงแรมริมหาด รวมถึงความงดงามของท้องทะเล และภูมิประเทศเขตร้อนอันน่าประทับใจ
 
รายการแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ากำหนดให้มีการแข่งขันเรือใบ 5 วัน โดยก่อนเริ่มการแข่งขัน เรือใบทุกลำจะมีโอกาสเข้าร่วมพิธีสวนสนามทางทะเล เพื่อแสดงความจงรักภักดีในวโรกาสเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย  โดยขบวนเรือใบทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งเตรียมร่วมการแข่งขันจะตั้งขบวนแล่นผ่านเรือหลวงแกลงโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อเป็นการถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมกับเรือหลวงลำอื่นๆ บริเวณอ่าวกะตะ หน้าเกาะปู ซึ่งมีการประดับประดาที่ตัวเรืออย่างงดงาม
 
ภูเก็ตมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการแล่นเรือใบอย่างมาก ทำให้สามารถกำหนดรูปแบบสนามแข่งขัน ทั้งเส้นทางตามทางลม การอ้อมทุ่น และการอ้อมเกาะระยะทางไกลที่ท้าทายตามแต่รุ่นเรือใบที่เข้าแข่งขัน ซึ่งมีทั้งเรือใบรุ่นเรซิ่ง (Racing) เพอร์ฟอร์มานซ์ครูซิ่ง (Performance Cruising) ครูซิ่ง (Cruising) มัลติฮัลล์ (Multihulls) และคลาสสิค (Classics) นอกจากนี้ งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังได้รับความสนใจจากนักกีฬาเยาวชนลงสมัครร่วมแข่งขันรายการเรือใบเล็กอย่างคับคั่ง ซึ่งจัดการแข่งขันเก็บคะแนนหลายครั้งในรอบปี จึงยิ่งทำให้กีฬาเรือใบของไทยได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
ด้วยสภาพอากาศที่ดีเยี่ยม กระแสลมที่แรงเหมาะกับการแล่นเรือใบเกือบตลอดปี และภูมิประเทศแบบเกาะเขตร้อนที่สวยงาม จึงทำให้งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ามีการเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งในแง่ของจำนวนเรือใบที่เข้าร่วมการแข่งขัน รูปแบบการจัดงาน และชื่อเสียงอันโด่งดัง เทียบเท่างานแข่งขันเรือใบชั้นนำระดับโลกอย่าง แคริบเบียน แอนติกา เรซ วีค (Caribbean's Antigua Race week) และ ออสเตรเลีย ฮามิลตัน ไอส์แลนด์ รีกัตต้า (Australia's Hamilton Island Regatta)

 

ปัจจุบันถือได้ว่าภูเก็ตคือศูนย์กลางของวงการกีฬาเรือใบระดับโลกที่ดึงดูดนักกีฬาชั้นนำจากนานาประเทศ ด้วยข้อได้เปรียบทั้งในด้านสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปี ทัศนียภาพของเกาะแถบศูนย์สูตรที่สวยงามน่าหลงใหล และผู้คนที่เปี่ยมด้วยอัธยาศัยไมตรี อีกทั้งยังมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งท่าจอดเรือ บริการเช่าเรือ และกิจกรรมกีฬาเรือใบที่จัดขึ้นเป็นประจำ ทำให้ภูเก็ตได้รับการยกย่องให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับพรีเมียร์แห่งเอเชียของเหล่าผู้รักกิจกรรมการพักผ่อนทางทะเลอย่างแท้จริง
 
งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 29 เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา มีเรือใบใหญ่เข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 89 ลำ แบ่งการแข่งขันเป็น 14 รุ่น และเรือใบเล็กอีกมากกว่า 60 ลำ รวมนักกีฬาทั้งชาวไทยและต่างชาติ ตลอดจนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,500 คนจากกว่า 18 ประเทศทั่วโลก โดย กัปตันเซราบ จีท สิงห์ (Sarab Jeet Singh) แห่งเรือวินด์ซีเกอร์ II (Windsikher II) ผู้ชนะเลิศในประเภทเรซิ่ง (Racing) รุ่นไออาร์ซี 0 (IRC Zero) คือหนึ่งในนักกีฬาชั้นแนวหน้าที่ประกาศจะกลับมารักษาตำแหน่งอีกครั้งที่งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 ในเดือนธันวาคมนี้ 

กะตะกรุ๊ป รับเป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดงานมาเป็นเวลาหลายปีและยังคงให้การสนับสนุนอย่างดียิ่งในปีนี้ โดยกำหนดใช้โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Kata Beach Resort and Spa) เป็นสถานที่จัดงานและศูนย์การประสานงานเช่นเดิม ซึ่งงานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 ในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–10 ธันวาคม 2559









เกี่ยวกับ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินการผลิตแผ่นยิปซัมและปูนปลาสเตอร์ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วเมืองไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ปัจจุบันมีโรงงานรองรับการผลิต 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม นำเสนอสินค้าและการบริการครบวงจร ครอบคลุมทั้งแผ่นยิปซัม ฝ้าเพดาน ระบบโครงสร้าง และปูนปลาสเตอร์ พร้อมโซลูชั่นในการตกแต่งอาคารสำหรับผู้ใช้

ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทจึงยึดมั่นการดำเนินงานภายใต้แนวคิดยิปรอค 3G  ได้แก่ Green Products ด้วยมาตรฐาน ASTM D5116-90 จึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์มีการแพร่กระจายของสารเคมีในระดับต่ำ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่น้อยกว่า 30% และปราศจากสารกัมมันตรังสีหรือสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ Green Solutions  นำเสนอระบบผนังและฝ้าเพดานแบบประหยัดพลังงาน อาทิ โซลูชั่นเทอร์มัล ที่สามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกแพร่เข้าสู่ภายในอาคาร จึงช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และ Green Manufacturing เน้นกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกขั้นตอน พร้อมติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยและระบบประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง รับรองด้วยมาตรฐาน ISO 14001 และ ผลิตภัณฑ์ฉลากสีเขียว (Green Label)


เกี่ยวกับ แซง-โกแบ็ง ( Saint-Gobain )

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในวงการอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป โดยบริษัทได้ลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ต่อต้านแบคทีเรีย มีความสวยงามและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในขณะที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มสวัสดิภาพในการปฏิบัติงาน

แซง-โกแบ็ง ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบัน แซง-โกแบ็ง ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 350 ปี และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 180,000 คนทั่วโลก ซึ่งสามารถยืนยันถึงความชำนาญการ และการนำเสนอโซลูชั่น ที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว แซง-โกแบ็ง ยังได้รับการรับรองให้เป็น 1 ใน 10  บริษัทผู้ว่าจ้างยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2016

หากต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับยิปรอคและแซง-โกแบ็ง กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/GyprocClub












« Last Edit: July 24, 2016, 08:26:47 PM by happy »