MSN on July 21, 2016, 02:19:01 PM
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยระดับราคาคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ยังคงไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีปริมาณอุปทานน้อย





ผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทยพบว่า เมื่อเร็วๆนี้ตลาดคอนโดมิเนียมซุปเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯกำลังเป็นที่ต้องการมาก ด้วยปริมาณที่น้อยกว่าร้อยละ 5 จากจำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯทั้งหมด ตลาดมียอดขายที่อยู่ในระดับดี เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯที่มีความสะดวกด้านระบบขนส่ง ง่ายต่อการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และด้วยปัญหาการขาดแคลนพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ ส่งผลให้อุปทานใหม่ๆในภาคตลาดนี้ ทำการปรับราคาขายได้สูงลิบหากเทียบกับราคาคอนโดมิเนียมระดับล่างในกรุงเทพฯ สำหรับราคายูนิตซูเปอร์ไพร์มเพิ่มขึ้นจาก 303,250 บาทต่อตร.ม.ในช่วงท้ายปี 2558 ปรับขึ้นไปที่ 319,095 บาทต่อตร.ม.ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ในขณะเดียวกัน ราคาขายของคอนโดระดับไพร์มเพิ่มขึ้นจาก 226,350 บาทต่อตร.ม.ในปี 2558 ปรับขึ้นไปที่ 242,313 บาทต่อตร.ม. นอกจากนี้โครงการระดับไพร์มที่ยังไม่ได้เปิดตัว มีการคาดการณ์ว่าราคาขายโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น แม้ตลาดแสดงสัญญาณการชะลอตัวในปี 2559 ก็ตาม

สำหรับตลาดซูเปอร์ไพร์มยังไม่มียูนิตใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดในช่วงนี้ ดังนั้นจึงมีเพียง 1,960 ยูนิตรวมจากทั้งหมด 10 โครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯมีที่ตั้งบริเวณริมแม่น้ำ เป็นโครงการล่าสุดในตลาดซูเปอร์ไพร์มที่เปิดตัวไปในครึ่งปีหลัง ปี2015 มีจำนวน 146 ยูนิต ส่วนแบ่งทางตลาดที่แบ่งตามเขตที่ตั้ง มีปริมาณเท่าๆกันโดยย่านสุขุมวิทที่มีส่วนแบ่งสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 29 มีจำนวน 578 ยูนิตในระดับซูเปอร์ไพร์ม

สำหรับตลาดระดับไพร์ม โครงการ KRAAM บนถนนสุขุมวิท ซอย 26 เป็นโครงการระดับไพร์มแห่งเดียวที่เปิดตัวไปในช่วงระยะเวลาเดียวกัน มี 126 ยูนิตเพิ่มเข้ามาในตลาดคอนโดมิเนียมไพร์มในกรุงเทพฯ ตลาดระดับไพร์มในปัจจุบันมีจำนวนอุปทานรวม 2,674 ยูนิต โดยย่านสาทรยังคงมีส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดของอุปทานคอนโดมิเนียมไพร์ม คิดเป็นร้อยละ 37 และตามติดมาด้วยย่านสุขุมวิทที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่ที่ร้อยละ 28

ตลาดคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มมีความต้องการสะสมเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 มีประมาณ 69 ยูนิตที่ถูกครอบครอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆนี้ การซื้อ-ขายส่วนใหญ่ที่มีในช่วงนี้เป็นยูนิตที่ถูกนำกลับมาขายเข้าตลาดอีกครั้ง และเป็นยูนิตเก่าจากปี 2558 ที่ขายโดยผู้ซื้อที่ต้องการเก็งกำไรการลงทุนก่อนการแล้วเสร็จของโครงการและวันโอนยูนิตจริง ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือไม่ เนื่องจากผู้ซื้อจำนวนมากในตลาดนี้ชี้แจงว่าเป็นการซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง อัตราการขายสะสมโดยรวมมีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากร้อยละ 63.4 เมื่อหกเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นไปที่ร้อยละ 66.9 สำหรับตลาดไพร์มมี 190 ยูนิตที่ถูกขายออกไปในช่วงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสองโครงการที่พึ่งเปิดตัวไป ได้แก่ BEATNIQ บนถนนสุขุมวิท (ใกล้ซอย 32) และ KRAAM บนถนนสุขุมวิทซอย 26 มี 190 ยูนิตที่ถูกครอบครอง คิดเป็นร้อยละ 3.8 เพิ่มขึ้นของอัตราการขายสะสม เนื่องจากมีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด ยอดขายของโครงการเก่าๆยังคงชะลอตัวอยู่ซึ่งเป็นเพราะปริมาณความต้องการในปี 2558 มีสูงมาก

อย่างไรก็ตาม คุณริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ให้ความเห็นว่า "เราสังเกตเห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ซื้อชาวต่างชาติที่สนใจคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนผู้ซื้อชาวต่างชาติโดยเฉลี่ยมีประมาณร้อยละ 5-10 และในขณะนี้ เราเชื่อว่าตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นไปที่ประมาณร้อยละ 10-15"

ในขณะที่ คุณอัญชลี เกษมสุขธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า ลูกค้าที่สนใจซื้อยูนิตคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มต้องการสิทธิพิเศษและการบริการระดับโลกที่เทียบเท่ากับโรงแรมระดับ 5 ดาวตลอด 24 ชั่วโมง เช่น มีพนักงานคอยต้อนรับ มีพื้นที่ห้องอาหารส่วนตัวสำหรับเชฟเพื่อปรุงอาหาร ซึ่งเป็นบริการที่นอกเหนือไปจากการมีทำเลที่ตั้งในย่านไพร์มที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ผู้ซื้อชาวไทยส่วนใหญ่ซื้อยูนิตคอนโดฯซูเปอร์ไพร์มเพื่อเป็นทรัพย์สินไลฟ์สไตล์และเป็นบ้านหลังที่สองในการดำเนินชีวิตสุดพิเศษของพวกเขา สำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวันที่มีธุรกิจในประเทศไทย

เราเริ่มจะเห็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงของราคาขายโดยเฉลี่ยต่อตารางเมตรในตลาดไพร์มและซูเปอร์ไพร์ม ในช่วงท้ายของครึ่งแรกของปี 2559 ราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 319,095 บาท และ 242,313 บาท สำหรับคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มและไพร์มตามลำดับ ในตอนนี้ ตลาดไพร์มมีราคาขายเพิ่มขึ้นแบบครึ่งแรกของปีนี้ต่อครึ่งหลังของปีก่อนหน้า (HoH) เมื่อเทียบกับราคาในตลาดซูเปอร์ไพร์ม อยู่ที่ร้อยละ 7.05 HOH กับร้อยละ 5.23 แม้มีการเติบโตช้า การขาดแคลนที่ดินเขตไพร์มและจำนวนที่จำกัดของทั้งสองตลาดนี้ จะช่วยผลักราคาให้สูงขึ้นแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม

ผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทยคาด ภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคตลาดอสังหาฯระดับไฮเอ็นในกรุงเทพฯ นักพัฒนาเริ่มชะลอการเปิดตัวโครงการไฮเอ็นใหม่ในขณะนี้ ที่ดินย่านไพร์มที่นักพัฒนาซื้อและเริ่มต้นพัฒนาไปแล้วบางส่วนหยุดชะงักไว้ ความเสี่ยงด้านอุปทานต่างๆ เช่น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงและภาวะฝืดเคือง ส่งผลให้การครอบครองยูนิตมีปริมาณน้อยลง ในขณะที่การเก็งกำไรยังคงมีอยู่สังเกตจากยูนิตที่ยังไม่แล้วเสร็จจำนวนมากถูกนำกลับมาขายในตลาดอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ตลาดคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ยังคงเติบโตกว่าตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมในกรุงเทพฯ เพราะยังมีจำนวนอุปทานน้อย ในช่วงนี้ของปีจะมีโครงการไฮเอ็นด์หลายแห่งที่สร้างเสร็จ และประเด็นที่น่าสนใจคือที่จำนวนผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยด้วยตนเองจะมากกว่าผู้ซื้อเพื่อการลงทุน เช่น ปล่อยเช่า

Notes to Editors

Knight Frank LLP is the leading independent global property consultancy. Headquartered in London, Knight Frank and its New York-based global partner, Newmark Knight Frank, operate from 417 offices, in 58 countries, across six continents. More than 13,000 professionals handle in excess of US$1.4 billion worth of commercial, agricultural and residential real estate annually, advising clients ranging from individual owners and buyers to major developers, investors and corporate tenants. For further information about the Company, please visit www.knightfrank.com.
« Last Edit: July 21, 2016, 03:07:50 PM by MSN »