MSN on July 20, 2016, 10:16:57 PM
บลจ.กรุงไทยเปิดไอพีไอกองทุนKTSTPLUS เจาะกลุ่มลูกค้ารับเสี่ยงต่ำขาย20ก.ค.-2ส.ค.นี้

นางชวินดา หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในภาวะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและประเทศต่างๆทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ผลจากการที่อังกฤษมีมติแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งนำไปสู่การร่วมมือกันของธนาคารกลางทั่วโลกในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับ Brexit  ทำให้สภาพคล่องในระบบการเงินมีอยู่สูงมาก

การลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นในต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีนอกเหนือจากการลงทุนภายในประเทศ ในขณะที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่น บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส  (KTSTPLUS) เสนอขายครั้งแรก( IPO ) ในวันที่  20  กรกฎาคม -2 สิงหาคม 2559  เน้นลงทุนในตราสารหนี้  เงินฝาก  หรือตราสารการเงิน โดยกองทุนอาจพิจารณานำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน50%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน 

โดยกองทุน KTSTPLUS เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรักษาเงินต้น คาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินและการลงทุนในกองทุนตลาดเงิน หรือต้องการพักเงิน ในระยะประมาณ 3 เดือน –1 ปี โดยกองทุนนี้ จะลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ มากกว่ากองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ พลัส  ( KTPLUS)  ในบางช่วงเวลา เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนมากกว่า แต่อาจจะมีความผันผวนในระยะสั้นสูงกว่ากองทุนKTPLUS

ทั้งนี้กองทุนจะเน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ โดยมีอายุเฉลี่ยพอร์ตลงทุน 5 - 10  เดือน และลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในสัดส่วนไม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผู้จัดการกองทุนจะใช้ดุลยพินิจในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยอาจมีการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (FX Swap/ Forward/Option) อย่างไรก็ตามตราสารหนี้ ที่ลงทุนในต่างประเทศจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ อันดับเครดิตเฉลี่ยพอร์ตอยู่ที่ A- ขึ้นไป

นางชวินดา กล่าวต่อไปว่า บริษัทได้รับรางวัล  2016’s   Fund  Manager  Elite ‘ awards จากนิตยสาร  Wealth &  Finance ในกลุ่ม AI Global ของประเทศอังกฤษ เนื่องจากเห็นว่าบริษัทมีกองทุนที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะกองทุนต่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่เป็นแรงผลักดันให้บริษัทเสาะแสวงหากองทุนที่มีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา  มานำเสนอต่อผู้ลงทุน เพื่อกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นๆ เป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน  และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี