3 นักแสดงนำถ่ายทอดความประทับใจต่อผู้ร่วมเข้าฉากใหม่ใน “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3”
ผู้พันเบิร์ดประทับใจพี่หมู-ดิลก ใส่อารมณ์เต็มที่ ช่วยให้ฉาก “เกาเหลา” ผ่านฉลุย ส่วนปีเตอร์ชื่นชมความทุ่มเทของจักจั่น-นุ่น ด้านทรายปลื้มแสดงกับดอมแล้วรู้สึกเป็นผู้หญิงมากขึ้น
การถ่ายทำภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 และ 4 สงคราม ยุทธหัตถี” มีนักแสดงชั้นนำมาร่วมเข้าฉากเพิ่มอีกหลายราย อาทิ “พี่หมู-ดิลก ทองวัฒนา” ผู้รับบท พระศรีสุพรรณราชาธิราช ซึ่งถูกพระเชษฐาคือพระยาละแวกส่งตัวให้มาช่วยพระนเรศรบเพื่อเป็นการ ผูกมิตรกับอโยธยา แต่ด้วยความไม่เต็มใจจึงไม่ถูกชะตากับพระนเรศและแสดงออกถึงความไม่พอใจในทุกเรื่องอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมี 2 สาว “จักจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” และ “นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” เป็นพระญาติของพระนเรศชื่อ “รัตนาวดี” กับ “อังกาบ” ผู้ติดตาม ซึ่งเข้าฉากร่วมกับพระราชมนู (ปีเตอร์- นพชัย ชัยนาม) และ ดอม เหตระกูล รับบท “เสือหาญฟ้า” อดีตคนรักของ “เลอขิ่น” (ทราย เจริญปุระ) โดยเป็นการแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรกของทุกคน และต่างมีความประทับใจกับผู้ร่วมบทบาทใหม่ในภาค 3 นี้
ผู้พันเบิร์ด - พ.ต. วันชนะ สวัสดี กล่าวว่า “ผมประทับใจพี่หมู ด้วยบุคลิกส่วนตัวของพี่หมูเป็นคนนุ่มนวล พูดเพราะ เป็นกันเองมากครับ ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับบทบาทในการแสดงที่ต้องเข้าฉากร่วมกัน เพราะเรามีแต่บทเชือดเฉือนกันด้วยการปะทะคารม อารมณ์ และกิริยาท่าทางการแสดงออกต่างๆ ซึ่งพี่หมู “ใส่เต็มที่หมดแม็ก” ทุกอย่างเลยครับ ทั้งสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงยียวนกวนประสาทสุดๆ แสบมากครับ ทำให้เราสามารถเล่นบทที่ไม่กินเส้นเขม่นกันนี้ได้อย่างเต็มที่เหมือนกัน เลยรู้สึกว่าฉาก “เกาเหลา” เหล่านี้ผ่านไปได้ง่ายกว่าที่คิดไว้ พี่หมูเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทจริงๆ ครับ
นอกจากนี้ก็เห็นว่าพี่หมูชอบถ่ายรูป มีกล้องแบบมืออาชีพมาที่กองถ่ายตลอดเวลา ผมชอบดูภาพที่พี่หมูถ่าย...สวยมากครับ จัดว่าเป็นผู้มีศิลปะในการถ่ายภาพระดับแนวหน้าได้เลย
และผมรู้สึกว่าพี่หมูเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากเลยครับ นอกจากหน้าเด็กแล้วยังแอบสังเกตเห็นว่าพี่เขามีกล้ามเนื้อขาที่สวยมากเหมือนพวกนักกีฬา เหมาะกับการนุ่งผ้าหยักรั้งแบบถกเขมรจริงๆ ครับ”
สำหรับ ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม ชื่นชม 2 สาว จักจั่น – อคัมย์สิริ และนุ่น – ศิรพันธ์ ว่า “ผมทึ่งในความทุ่มเทของนุ่นที่เขายอมตัดผมยาวๆ ของเขาจนสั้นแบบผู้ชายเลยครับ ส่วนจักจั่นตอนแรกคิดว่าเขาถ่ายละครมาก่อนคงไม่กล้าลุยเท่าไหร่กับการถ่ายหนัง แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นหญิงแกร่งเกินกว่าที่คิดครับ ถึงแม้ว่าอาจกลัวช้างกลัวม้าบ้าง แต่ตอนหลังก็เริ่มคุ้นเคย ช่วยเลี้ยงแล้วก็สนุกไปด้วย ตอนที่ประทับใจอยู่ในฉาก action เล็กๆ แต่ก็เป็นสีสัน คือจักจั่นกับนุ่นแอบขี่ช้างออกไปนอกเมืองแล้วถูกพวกพม่าดัก ผมต้องขี่ม้าไปช่วย เป็นฉากที่ต้องขี่ช้างขี่ม้ากันค่อนข้างเร็ว ซึ่งก็บังคับยากเหมือนกันนะครับ ซ้อมกันค่อนข้างนานเลยกว่าจะได้ถ่ายจริงเพราะผู้หญิงขี่ช้างก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก วี้ดว้ายกันไปบ้าง มีเรื่องตื่นเต้นครั้งหนึ่งที่ช้างหยุดกะทันหันแล้วจักจั่นไถลมาตกตรงคอช้าง ทั้งๆ ที่นุ่นช่วยคว้าแขนไว้แล้ว แต่ในที่สุดช้างซึ่งได้รับการฝึกมาอย่างดีเขาก็หันมาหนีบไว้ไม่ให้ตก งานนี้ต้องยกเครดิตให้ช้างด้วยล่ะครับ
สำหรับภาคนี้มีบทที่ต้องประคารมกับนุ่นซึ่งเป็นผู้ติดตามและคอยกีดกันไม่ให้ผมไปวอแวกับจักจั่น เลยต้องเถียงกันบ่อย ซึ่งในภาค 2 ไม่มีอะไรอย่างนี้ ก็ยิ่งสนุกดี มีรสชาติเพิ่มขึ้นมาอีกแบบครับ”
ด้าน ทราย เจริญปุระ ก็เล่าถึงความประทับใจกับ ดอม ในหลายเรื่อง “พี่ดอมน่ารักมากค่ะ แม้จะไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนเลย เพิ่งมาเข้าฉากด้วยกันในภาค 3 แต่ก็ปรับตัวได้เร็วจริงๆ เป็นมืออาชีพสุดๆ ในฉากรบบนหลังม้าพี่ดอมก็ขี่ม้าได้เก่งประหนึ่งว่าซ้อมด้วยกันมาตั้งแต่ภาคก่อน และในขณะที่อุบัติเหตุการตกม้าเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับฉากโหดๆ แบบฉากรบที่เชียงใหม่ แต่พี่ดอมยังไม่เคยตกม้าเลย คงเพราะมีพื้นฐานเรื่องกีฬาดี สำหรับฉากหวานแหววกุ๊กกิ๊กก็ฉลุย การทำงานทุกอย่างเนียนกลมกลืนเข้ากันได้สบาย นอกฉากเขาก็เป็นคนสนุกสนาน สนิทสนมง่ายและเร็ว พร้อมที่จะคุยกับเราได้ทุกเรื่อง รับฟังเรื่องจุ๊กจิ๊กหรือทนเราบ่นโวยวายได้เสมอ เหมือนเป็นพี่จริงๆ เลย ที่สำคัญคือทำให้ทรายรู้สึกว่าเล่นเรื่องนี้กับพี่ดอมแล้วเราเป็นผู้หญิงมากขึ้น ไม่ห้าวเหมือนภาค 2 ค่ะ
เรื่องที่ทรายขอขำเล็กๆ คือเมื่อมีพี่ดอมมาร่วมงานในภาค 3 นี้ พวกนักแสดงชายทุกคนเริ่มกระตือรือร้นในการฟิตร่างกายกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแบบที่ทรายไม่เคยเห็นมาก่อน และคอยขอคำ แนะนำเรื่องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรืออะไรต่างๆ จากพี่ดอมเป็นประจำ ในภาคนี้บางตอนท่านมุ้ยก็ให้มีฉากที่ต้องผู้ชายต้องถอดเสื้อบ้าง ซึ่งพี่ดอมดูแลตัวเองดีมาก จึงพร้อมเสมอ แต่อย่างปีเตอร์นี่พอท่านมุ้ยสั่งให้ถอดเสื้อแล้วยังต้องขอเวลาวิดพื้นก่อนนิดหน่อยจะได้ดูฟิต...ฮาดีค่ะ”