AGE ยิ้มรับผลงานโค้งสุดท้ายปี 52 ยังแกร่ง
คุณสมยศ ฐิติสุริยารักษ์
AGE เล็งผลงานไตรมาส 4/52 ยังแจ๋ว พร้อมชูผลงานปี 2553 แรงต่อไม่หยุด หวังรายได้ฉลุยโต 20%รับอานิสงส์ราคาน้ำมันโลกปั่นป่วน หนุนความต้องการใช้พลังงานทางเลือกขยับ พร้อมฉายภาพธุรกิจถ่านหินปี 53 ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก สนับสนุนนโยบายรัฐ “แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2552” กระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศ
นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE หนึ่งในผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) ที่มีคุณภาพดี เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกที่ต้นทุนต่ำ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจถ่านหินในปี 2553 คาดว่าน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันที่เริ่มจะมีสัญญาณของการมีเสถียรภาพและการฟื้นตัว ไม่อ่อนแอเหมือนช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 1
ทั้งนี้ สถานการณ์ในอนาคตที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง เพราะเศรษฐกิจของประเทศยังต้องขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ “แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555” ซึ่งเป็นโครงการลงทุนภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงานอย่างต่อเนื่องผ่านการลงทุนของภาครัฐ ควบคู่การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศในระยะยาว จะเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ปี 2553 บริษัทฯ ยังมีแผนในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าขนส่งและจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในระยะยาวอีกด้วย โดยขณะนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนดำเนินการดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะทำให้ลดต้นทุนได้ตั้งแต่ปี 2554-2555 เป็นต้นไป
“แผนการลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนค่าขนส่งนั้น น่าจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาต้นทุนของค่าขนส่งค่อนข้างสูงตามแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ต้องแบกรับภาระต้นทุนในส่วนดังกล่าวอยู่พอสมควร” นายสมยศ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงปี 2553 เชื่อว่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีนี้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีนี้ประมาณ 20% เนื่องจากฐานลูกค้าของบริษัทฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินที่ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในหลาย ๆ ภาคอุตสาหกรรมหันมาเลือกใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ซึ่งถือเป็นผลดีต่อบริษัทฯ
นายสมยศ กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการช่วงไตรมาส 4/2552 คาดว่าน่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยเสริมเรื่องความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก น่าจะช่วยสนับสนุนความต้องการใช้พลังงานทางเลือกจากถ่านหินสะอาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้
ส่วนตัวเลขผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยังถือว่าเติบโตได้ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายรวมประมาณ 1,511 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,517ล้านบาท
“ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 3/2552 มีรายได้ 491 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้ 633 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้ ทางบริษัท ได้ตั้งสำรองขาดทุนจาการปรับลดของมูลค่าสินค้าคงเหลือจำนวน 43.83 ล้านบาท โดยเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งหากในอนาคต หากราคาสินค้าปรับสูงขึ้น ตามแนวโน้มของราคาตลาด ทางบริษัท ก็สามารถบันทึกมูลค่าดังกล่าวกลับมาได้”นายสมยศ กล่าว