happy on June 24, 2016, 07:06:32 PM
เชียงรายยูไนเต็ด เตรียมปรับทัพใหญ่
ดึงซีอีโอบริษัทออกแบบระดับเอเชีย นั่งแท่นที่ปรึกษาด้านการตลาด
ตอกย้ำภาพลักษณ์ “กว่างโซ้งไม่ได้เจ๋งแค่ในสนาม”

                  สโมสรฟุตบอลเชียงรายตอกย้ำศักยภาพ ทีมไทยลีกระดับภูมิภาค ทีมเดียวที่สามารถขับเคี่ยวกับคู่แข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับในภาคสนาม ว่าเป็น 1 ใน 5 ทีมระดับประเทศที่น่าจับตามอง โดยล่าสุดประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด หรือ กว่างโซ้ง เตรียมอัดงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในการปรับภาพลักษณ์พร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Sport Marketing อย่างเต็มตัว โดยมอบหมายให้กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบและสื่อสารการตลาด และตอกย้ำภาพลักษณ์เชิงรุกอย่างชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นทีมชั้นนำภายใน 2 ปี พร้อมขยายฐานแฟนบอลทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 100% ส่งผลให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัดกับนายมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด

                  นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้ ว่า “ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันตลาดธุรกิจกีฬาในบ้านเรามีการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬาประเภทฟุตบอล ซึ่งที่ผ่านมา ทีมเชียงรายยูไนเต็ด หรือ กว่างโซ้ง นับเป็นทีมหนึ่งที่มีผลงานโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับ ในระดับมืออาชีพ ทั้งในด้านบุคลากร และด้านการบริหารองค์กร เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของกลุ่มให้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้มอบหมายให้ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด นำโดย ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าหารือคณะกรรมการสโมสร และแต่งตั้งให้ เป็นที่ปรึกษาของสโมสร เพื่อเสริมสร้างยุทธศาสตร์ของแบรนด์และการตลาดรวมถึงโครงสร้างการบริหารการพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็งเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงรายยูไนเต็ดในฐานะ Sport Passions ที่ไม่ใช่แค่แบรนด์ทีมฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นทิศทางการดำเนินงานและส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การบริหารทีมฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ดอย่างมืออาชีพและยั่งยืน

                  โดยทางบริษัทในกลุ่มจาร์เค็นที่ให้บริการด้านการสร้างแบรนด์ จะเข้ามาดูแลในส่วนของการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกระบบการบริหารการจัดการสปอนเซอร์ชิป การตลาด ของที่ระลึกและร้านค้า การออกแบบกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์แบบ 360 องศาทั้งหมด เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ระดับเอเชีย แบรนด์ระหว่างประเทศและการออกแบบการสื่อสารการตลาดเป็นอย่างดี  โดยมีนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ รองประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด เป็นผู้ดูแลด้านการบริหารจัดการ และการตลาดทั้งหมดของสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด”






                  สำหรับ ดร. กุลเดช สินธวณรงค์  ซึ่งไม่ใช่คนหน้าใหม่ในวงการ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ สร้างและพัฒนา consumer brand retail brand และ corporate brand กว่า 18 ประเทศทั่วเอเชียและยุโรป กล่าวว่า “การรุกเข้ามาทำ sport marketing brand ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะฟุตบอลถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยมานานแล้ว และการมีฟุตบอลอาชีพยังสร้างมิติใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทย ส่วนตัวยังคิดว่ามีโอกาสอย่างชัดเจนในการพัฒนาให้แบรนด์เชียงรายยูไนเต็ดเติบโตให้ยิ่งใหญ่ขึ้นสำหรับการรับรู้ในอีกหลายๆกลุ่ม ซึ่งผมและประธานสโมสรมองตรงกันว่า นอกเหนือจากชัยชนะในสนามที่ต้องได้ เรายังต้องมีชัยชนะนอกสนามอีกด้วย”

                  ทั้งนี้ ดร. กุลเดช ได้เปิดเผยถึง ขั้นตอนการดำเนินงานในส่วนนี้ เพิ่มเติมว่า “ เราได้วางแผนการพัฒนาแบรนด์ของเชียงราย ฯ ไว้ 1 - 3 ปี แบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน เฟสแรก จะมุ่งเน้นการปรับจากภายนอกสนาม อาทิ โลโก้ของสินค้า จากเดิมใช้ตัวย่อ “CRUTD” ซึ่งได้มีการทำรีเสิร์ชถึงการรีแบรนด์ของชื่อย่อใหม่ เป็น “CR” เพื่อทำให้สะดุดตา จดจำง่าย ทันสมัย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้า เฟสที่ 2 เป็นการต่อยอดจากโลโก้ “CR” ในการออกแบบและผลิตสินค้าใหม่ๆ อาทิ เสื้อยืด กางเกง หมวก ของที่ระลึกต่างๆ และชุดกีฬา sport wear คอลเลคชั่นพิเศษ สำหรับผู้หญิง รวมไปถึงการเปิด Shop ใหม่ที่สยามสแควร์ และเพลงเชียร์ใหม่ โดยนักร้องนักแต่งเพลงมืออาชีพ  เฟสที่ 3 เป็นเรื่องของในสนาม กับการรีโนเวทสนามเชียงรายยูไนเต็ด ให้เป็น sport destination และมีฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านของกว่าง ที่มีลักษณะเป็นโพรงไม้ แสดงให้เห็นถึงความเติบโตของกว่างในแต่ละโซน สามารถรองรับผู้เข้าชมได้ 22,000 ที่นั่ง

                  นอกจากนั้นยังมีการสร้างโรงแรม ซึ่งทั้งโรงแรมและสนามเชียงรายยูไนเต็ด คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 2561 โดยใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การดำเนินการ (Performance) 70% การตลาดและประชาสัมพันธ์ 30%

                  โดยล่าสุดทางกว่างโซ้ง ดำเนินการจัดซื้อนักกีฬาอาชีพจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมทัพให้แข็งแกร่ง มั่นใจว่าในเลก 2 จะสามารถสร้างผลงานให้อยู่ในลำดับต้นๆของตาราง อย่างไรก็ตามในปี 2559 นี้กว่างโซ้ง ตั้งเป้าอัตราการเติบโต จากไม่มีกำไรให้สามารถมีกำไรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง” ดร. กุลเดช กล่าวสรุป







« Last Edit: June 24, 2016, 07:40:13 PM by happy »

happy on June 24, 2016, 07:16:01 PM
Design Concept

เป็นการนำเอาสัญลักษณ์ของสโมสร “กว่างโซ้ง” มาตีความในเชิงเปรียบเทียบ

                  เมื่อนึกถึงกว่างโซ้ง ก็จะนึกถึง Character ความเป็นนักสู้ ซึ่งเปรียบเสมือนนักเตะของทีมฟุตบอลสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด รวมถึงเหล่าแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ที่จะร่วมสู้จนวินาทีสุดท้าย ไม่มีถอย

                  การที่เราจะทำสนามกีฬาประจำสโมสรขึ้นใหม่นั้น ก็เปรียบเสมือนการสร้าง “รัง” หรือ “บ้าน” ให้เหล่ากว่างโซ้งนับพันนับหมื่น ที่จะมารวมตัวกันในบ้านใหม่แห่งนี้ เพื่อร่วมกันต้อนรับ และต่อสู้กับผู้มาเยือนให้ได้ชัยชนะในทุกๆ การแข่งขัน นอกจากนี้ การเล่นกับคำว่า “รัง” หรือ “บ้าน” นั้นยังเป็นการสร้างความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ความผูกพัน ก่อให้เกิดเป็นความภาคภูมิใจ ที่จะเป็นแรงผลักดันให้ฝ่าฟันอุปสรรค และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

                  หลังจากที่เราสร้างความรู้สึกที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันผ่าน Mass และ Space ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ต่อไปคือการมองไปถึงเส้นทางแห่งการเติบโต และต่อสู้ โดยเปรียบการดำรงชีวิตของกว่างนั้น แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งจะมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันตามวิวัฒนาการของตัวกว่างโซ้ง ซึ่งจะถูกตีความหมายผ่านลักษณะของตัวสถาปัตยกรรมอย่างมีเอกลักษณ์

ช่วงแรก    การดำเนินชีวิตจะอยู่ “ใต้ดิน” ฟูมฟักตัวอ่อนให้แข็งแรง เพื่อเจริญเติบโตออกไปผจญโลกภายนอก ซึ่งจะเปรียบได้กับพื้นที่สำหรับรองรับกิจกรรมต่างๆ รวมถึงทางสัญจรภายในอาคารของนักกีฬา และแฟนบอล ให้ได้พักผ่อน ชาร์ตพลังกายพลังใจ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น

ช่วงที่สอง    เมื่อโตเต็มวัยจะเริ่มโผล่จากดินขึ้นมาสู่โลกภายนอก บรรดากว่างจะต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด “กลางป่าใหญ่” จึงเรียกได้ว่า “กว่างนักสู้” กว่างที่แข็งแกร่ง ก็จะได้อยู่รอด และขยายพันธุ์สืบต่อไป โดยชีวิตของกว่างเหล่านี้ก็เหมือนกับเหล่านักฟุตบอล และแฟนบอล เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้วก็จะต้องร่วมกันต่อสู้ ให้กำลังใจกันจนวินาทีสุดท้าย เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ

“ใต้ดิน” และ “กลางป่าใหญ่” กำลังจะกลายเป็น 2 คำสำคัญที่จะเนรมิตสนามแห่งนี้ให้เป็นเหมือนอัตลักษณ์และจิตวิญญาณของชาวเชียงราย ...


เกี่ยวกับเชียงราย ยูไนเต็ด

ความเป็นมาของทีมเชียงราย ยูไนเต็ด


                  เมื่อปี พ.ศ. 2542 มีการจัดฟุตบอลอาชีพนำร่อง โดยมีการสร้างลีกจังหวัดชื่อว่า โปรลีก โดยระยะแรกมี 12 ทีม (ยังไม่มีทีมเชียงราย) ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 ก็มีการสร้างโปรลีก 2 คัดทีมในระบบภูมิภาค เอาทีมแชมป์ภาคละ 2 ทีม มาแข่งรอบสุดท้ายกับทีมจังหวัดภาคอื่นๆ แชมป์และรองแชมป์ โปรลีก 2 ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้น โปรลีก 1 นั่นคือจุดเริ่มต้นของทีมจังหวัดต่างๆ ทั้งประเทศ (ไม่นับ 12 ทีม จังหวัดใน โปรลีก1) จากนั้นลีกของไทยก็มีการรวมทีมในโปรลีก กับไทยลีก ทีมที่อยู่ในโปรลีกส่วนใหญ่ก็กระจายไปตามลำดับคะแนนของปี พ.ศ. 2549 ในลีก ต่างๆ ทั้งไทยลีก ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ซึ่งเชียงรายยังอยู่ในโปรลีกอยู่ต้องทำการคัดเลือกหาแชมป์กับรองแชมป์ โปรลีก ไปเล่น ดิวิชั่น 2 ในปีต่อไปจนมาถึงปี พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มีการยุบ ดิวิชั่น 2 เดิม กับโปรลีก และได้สร้างลีกภูมิภาคมาแทนที่ เป็นการแข่งขันเฉพาะในภูมิภาค มีชื่อว่า ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 สโมสรฟุตบอลจังหวัดเชียงราย ก็ได้มีการเปลี่ยนผู้บริหาร แยกตัวออกมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มาจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทตามข้อกำหนดของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) แล้วย้ายสนามเหย้าจากสนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย มาเป็นสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และใช้ชื่อสโมสรอย่างเป็นทางการว่า สโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด “นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟุตบอลเล่นลีกครั้งแรก ของสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด”

                  เชียงรายยูไนเต็ดถือเป็นตัวแทนแห่งล้านนาที่กำลังแสดงผลงานโลดแล่นอยู่บนไทยพรีเมียร์ลีก ทีมเดียวจากภาคเหนือ เชียงรายยูไนเต็ดถือเป็นทีมที่ฝันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ย่อท้อ จนถือว่าประสบความสำเร็จ  ณ ปัจจุบัน เชียงรายยูไนเต็ดแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ แฟนบอลที่สนับสนุนทีมอย่างหนาแน่น ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์มีความเป็นมือโปรในการจัดการทีม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้เชียงรายยูไนเต็ดเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ทำให้วงการฟุตบอลไทย วงการลีกฟุตบอลอาชีพของไทย เจริญก้าวหน้ากว่าเดิมเป็นอย่างมาก

                  สัญลักษณ์ของทีมคือกว่างโซ้ง กว่างโซ้งเป็นด้วงกว่างตัวผู้มีมากทางภาคเหนือของไทย เมื่อถึงฤดูกว่าง ชาวบ้านจะพากันดักจับกว่างเพื่อนำมาเป็นการละเล่นที่เรียกว่า “การชนกว่าง” โดยกว่างตัวผู้สองตัวจะอยู่บนสังเวียนการต่อสู้ที่เรียกว่า กลอน ที่มีกว่างตัวเมียหรือที่เรียกว่า กว่างแม่อู๊ด(ตามแต่ละท้องถิ่น) เป็นตัวล่อ กว่างโซ้งถือเป็นกว่างที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการต่อสู้ กว่างจะสู้จนไม่มีคำว่าถอย บางครั้งกว่างอาจได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้จนต้องสูญเสียเขา ในการต่อสู้หรือแม้แต่ชีวิต ดังนั้นจึงถือว่ากว่างเป็นสัตว์นักสู้โดยแท้จริง กว่างจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์แทนทีมเชียงรายยูไนเต็ดที่นักเตะมีเลือดนักสู้สมฉายา กว่างโซ้ง นั่นเอง

เกี่ยวกับบริษัท จาร์เค็น จำกัด

ความเป็นมาของบริษัท จาร์เค็น จำกัด


                  จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการงานออกแบบที่พักอาศัย รวมไปถึงสำนักงาน และโรงแรม ทั้งในและต่างประเทศทำให้ บริษัท จาร์เค็น จำกัด (JARKEN Co., Ltd.) ได้พัฒนาวิสัยทัศน์ ตลอดจนศักยภาพของงานบริการให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนได้เป็นอย่างดี โดยยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของการบริการงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอก และสถาปัตยกรรมภายใน

                  ด้วยความตั้งใจจริง และความใส่ใจในรายละเอียดของการทำงานมาโดยตลอด บริษัท จาร์เค็น จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้มีส่วนร่วมในการเป็นที่ปรึกษางานก่อสร้าง และตกแต่งภายในให้เป็นไปตามแบบ ด้วยการสนับสนุนจากลูกค้า ในเวลาต่อมาจึงได้ก่อตั้งบริษัท เจ.เค. บิวเดอร์ส จำกัด (JK Builders Co., Ltd.) ดำเนินธุรกิจด้านการก่อสร้าง งานวิศวกรรม งานสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายใน โดยบริษัทฯ ยึดมั่นในการส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ด้วยระดับมาตรฐานสากล จนเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้าตลอดมา

                  ด้วยสไตล์งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัทฯ การรังสรรค์ผลงานการออกแบบ และวิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดนิ่ง เราจึงพัฒนา บริษัท ออกแบบพาย จำกัด (PYE Design Co., Ltd.) เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตสมัยใหม่ และรองรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย รวดเร็ว และชื่นชอบงานดีไซน์ที่ตอบรับกับการใช้ชีวิต โดยยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของงานออกแบบ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทที่มีการจัดระบบการวางแผนการบริหาร และพัฒนาบุคลากรเพื่อที่ตอบโจทย์และความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายได้อย่างชัดเจน

                  นอกเหนือจากการให้บริการงานออกแบบสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน และงานก่อสร้างซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือการรองรับความต้องการของลูกค้า และสไตล์การอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นรากฐานสำคัญขององค์กร และโอกาสอันดีจากลูกค้าในหลายๆครั้งที่เห็นศักยภาพและวิธีการคิดที่แตกต่างและหลากหลายของเรา บวกกับความสนใจที่ต้องการแตกไลน์ทางธุรกิจ บริษัท ไทเกอร์ลิลลี่ จำกัด (TigerLilly Co., Ltd.) จึงเกิดขึ้น โดยเป็นบริษัทให้บริการด้าน Branding และ Styling สินค้าและบริการ ผ่านสื่อต่างๆ โดยสร้างความน่าสนใจ ความแตกต่างและอัตลักษณ์ของสินค้าและบริการ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค

                  เพราะการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทจาร์เค็นฯ ที่สามารถรองรับการทำงานในแต่ละรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน และยึดมั่นในเรื่องคุณภาพของงาน  ทำให้เรายังคงได้รับการเสนอชื่อและรางวัลต่างๆในเวทีระดับโลกเรื่อยมา ซึ่งถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถ คุณภาพและศักยภาพที่หลากหลายขององค์กรได้อย่างแท้จริง