เรื่องย่อตอนออนแอร์ “แรงตะวัน” วันที่ 29-30 มิ.ย.59 (พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ช่อง3 HD ช่อง33)
ตอนที่ 4 วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2559
ดำเกิง (เพทาย) ลอบยิงสุริเยนทร์ (อั้ม อธิชาติ) แต่ก็พลาดจนต้องรีบหนีแต่บังเอิญไปเจอ จ้อน (ต่อ) คนงานเฝ้าโกดังจึงยิงใส่จ้อนอาการโคม่า และสร้างเรื่องว่าจ้อนเป็นมือปืนที่ลอบยิงแทน สุริเยนทร์ ยังคงหาเรื่องและไล่ให้ทานตะวัน (ชิปปี้ ศิรินทร์) ไปทำงานที่ไร่ โดยให้ละออ (มิน รตวรรณ) พี่เลี้ยง ของน้องพีท (ออม ชาญคามิน) ที่บ้านของสุรีย์ (เจิน ณิชชพัณณ์) จากกรุงเทพมาคอย ช่วยดูแลน้องพีทแทนตอนที่ ทานตะวันต้องออกไปทำงานไร่ ทานตะวันถูกแกล้งให้ทำงานคอกม้า เลี้ยงม้า ทำความสะอาด แถมยังต้อง ปีนขึ้นไปซ่อมหลังคาอีกด้วย โดยมีเสือโคร่ง (แจ็ค แฟนฉัน) คอยช่วยเหลือ แขไข (เบสท์ ชนิดาภา) ได้ยิน ว่ามีผู้หญิงที่มาทำงานขัดดอกที่ไร่ภูทับดาว ก็รีบมาดูหน้าทานตะวัน ก่อนจะประกาศว่าตนเป็นคนรักของ สุริเยนทร์ ทางด้านเพ็ญสิริ (ออม สุชาร์) ก็ได้รู้จากวิสุทธิ์ (พีช พชร)ว่ารุจิรา หรือ ขิม (พิตต้า) พี่สาวของ แขไขเป็นอดีตแฟนของสุริเยนทร์ จึงส่งข่าวให้หมวดเอกณัติ (เดี่ยว สุริยนต์) ไปตามสืบจากรุจิราอีกทางหนึ่ง วิสุทธิ์เรียกเสือโคร่งมาถามถึงทานตะวัน และให้โทรศัพท์ไว้ ใช้ติดต่อกัน แต่ระหว่างทางกลับไร่ เพ็ญสิริถือโอกาสสะกดรอยเสือโคร่งไปที่ภูทับดาว ก่อนจะไปเห็น ดำเกิงที่มีอาวุธ จึงสงสัยว่าดำเกิงจะเป็น มือปืนตัวจริง วิสุทธิ์ที่ตามมาดูเพ็ญสิริจึงพากันไปบอกทานตะวัน และรีบตามรถของสุริเยนทร์ที่กำลังพา ดำเกิงไปหาจ้อนที่รพ. แต่สุริเยนทร์ก็รู้ตัวซะก่อนว่ามือปืนตัวจริง คือดำเกิงนั่นเอง แต่ดำเกิงก็หนีเอาตัวรอดไปได้ เพราะพวกของทานตะวันเข้ามาขัดจังหวะ ทำให้สุริเยนทร์ โกรธมากหาว่าดำเกิงเป็นคนของวิสุทธิ์ ทานตะวันเถียงว่าที่ตามมาเพราะหวังดี ทั้งคู่กลับมาทะเลาะกัน ก่อนทานตะวันจะต่อว่าจี้จุดในใจของ สุริเยนทร์ที่คนที่รักทิ้งกันไปหมด เพราะสุริเยนทร์มีนิสัยแบบนี้
ตอนที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2559
หมวดเอกณัติ (เดี่ยว สุริยนต์) เข้าไปขอสมัครงานที่ร้านของขิม (พิตต้า) แต่ก็ไม่สำเร็จ ต้องฝ่าด่าน ตามตื๊อขิมอยู่นานในที่สุดขิมก็ยอมให้เอกณัติมาทำงานด้วย ทางด้านสุริเยนทร์ (อั้ม อธิชาติ) ก็ยังคงเฝ้ามอง ดูทานตะวัน (ชิปปี้ ศิรินทร์) และน้องพีท (ออม ชาญคามิน) ที่รักกัน ดูแลกัน ในขณะที่ทุกครั้งที่น้องพีท เจอกับตนเอง น้องพีทจะหวาดกลัว และหนีให้ห่างจากตนให้มากที่สุด อาการของน้องพีท ทำให้สุริเยนทร์ จนปัญญา สุพล (ลิฟต์ สุพจน์) ต้องคอยประสานให้ทั้งสุริเยนทร์ และ ทานตะวัน ต่างร่วมมือช่วยกันทำให้ น้องพีทรักสุริเยนทร์ และอยู่ที่ภูทับดาวได้ ทานตะวันบอกให้สุริเยนทร์ปรับตัว ให้หัดยิ้ม ไม่ใช่ทำแต่หน้า ยักษ์ ให้หัดใช้เสียงสอง (เสียงน่ารัก) แทนเสียงตะคอก แต่เพราะกลัวเสียหน้า กลัวเสียฟอร์ม เจ้าพ่อของคน ในไร่ ทำให้สุริเยนทร์ยืนยันไม่ยอมทำเด็ดขาด แม้ว่าคนทั้งไร่จะสนับสนุนช่วยกันให้กำลังใจก็ตาม แต่เมื่อ ทานตะวันสร้างสถานการณ์ให้สุริเยนทร์มาเจอน้องพีทตามลำพัง แล้วน้องพีทร้องไห้ไม่หยุด สุริเยนทร์ จึงจำต้องใช้กลยุทธ์พูดเสียงสอง ทำน่ารักหลอกล่อสารพัดให้น้องพีทเลิกร้องไห้ โดยไม่รู้ว่าทานตะวันแอบ มองอยู่ แม้จะเสียหน้าแต่สุริเยนทร์ก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่ทานตะวันทำนั้นได้ผล เอกณัติ พยายามสืบถามหาเรื่อง ของสุริเยนทร์จากขิม แต่ขิมก็ไม่คิดจะพูดอะไร จนเอกณัติต้องคอยสังเกตเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของขิม แทน จึงได้เห็นแววตาเจ็บปวด อ้างว้าง ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเก่ง และมั่นใจของขิม ทางด้านเพ็ญสิริ (ออม สุชาร์) ก็ได้รู้ความจริงที่วิสุทธิ์ (พีช พชร) รวมหัวกันกับป่าป๊า (แอนนา ชวนชื่น) และม่าม๊า (ก้อย นฤมล) วางแผนหลอกตน ทำให้เพ็ญสิริเสียใจ วิสุทธิ์เลยบอกว่าที่ต้องหลอก เพราะต้องการจะช่วยเพ็ญและช่วย ตัวเองด้วย เพราะตนก็ไม่อยากแต่งงานกับเพ็ญ แค่อยากให้เพ็ญช่วยตนจีบทานตะวันเท่านั้น ทั้งสอง กลุ้มใจกับสถานการณ์ที่เริ่มสับสนวุ่นวายกันไปทุกที