MSN on June 13, 2016, 02:42:33 PM
จา พนม  โค้ช ซิโก้ และนักฟุตบอลทีมช้างศึก ชวนคนไทย “หยุดซื้องาช้าง”


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์,จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย และ คุณชัยรัตน์ ถมยา, พิธีกร, ผู้ประกาศข่าว


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์ , จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย 


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์,จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย 


จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย  ,คุณ จา พนม ยีรัมย์,คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid



คุณ จา พนม ยีรัมย์ ทูตแคมเปญ Ivory Free Thailand - หยุดซื้องาช้าง









Tony Ja Fights for Elephants: จา พนม สู้เพื่อช้าง_30secs
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=zkekO2x02II" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=zkekO2x02II</a>

"The War Elephants" Defence: ช้างศึก ช่วยช้าง
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NYv0zsm3lZk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NYv0zsm3lZk</a>



กรุงเทพฯ - จา พนม ยีรัมย์ หรือ ‘โทนี จา’ นักแสดงชื่อดัง และ ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วมเปิดตัวโครงการรณรงค์  “Ivory Free Thailand - หยุดซื้องาช้าง” ในฐานะทูตแคมเปญ เพื่อชวนให้คนไทยร่วมกัน “หยุดซื้องาช้าง” ยุติวิกฤตการณ์ฆ่าช้างเอางาในแอฟริกา

“Ivory Free Thailand - หยุดซื้องาช้าง” เป็นแคมเปญร่วมระหว่างองค์กร WildAid และ WWF-ประเทศไทย ที่ขอให้คนไทยหยุดซื้อ หยุดใช้ และหยุดรับผลิตภัณฑ์งาช้างเป็นของขวัญ ซึ่งจะเปิดตัวแคมเปญด้วยโฆษณารณรงค์2ชิ้น นำแสดงโดย จา พนม โค้ช ซิโก้ และนักฟุตบอลดาวรุ่ง ทีมชาติไทยร่วมถ่ายทอดข้อความรณรงค์

“หลายคนเชื่อว่า งาช้างให้พลังอำนาจ โชค และปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่จากอันตราย แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ งาช้างส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในตลาดไทยทุกวันนี้มาจากช้าง ที่ถูกฆ่าเพื่อเอางาอย่างทารุณ” คุณจา พนม กล่าว

จา พนม เติบโตมาในครอบครัวเลี้ยงช้างที่จังหวัดสุรินทร์ ช้างเป็นเสมือนเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว และนั่นทำให้เขามุ่งมั่นที่จะอุทิศตัวเองเพื่อการปกป้องช้าง “งาช้างที่มาจากช้าง ที่ถูกทำร้าย ถูกฆ่า ไม่สามารถที่จะให้โชค หรือเมตตามหานิยมใดๆ ได้ หากคุณซื้องาช้าง ก็เท่ากับ จ่ายเงินเพื่อฆ่าช้าง หยุดซื้องาช้างกันครับ”

นอกจากจา พนมแล้ว โค้ช ซิโก้ยังได้ชวนนักฟุตบอลทีมชาติดาวรุ่ง ‘เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ‘ก้อง’ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ร่วมแสดงในโฆษณาเพื่อชวนให้แฟนๆ ทีม “ช้างศึก” และคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันหยุดซื้องาช้าง   

“เป็นเรื่องน่าเศร้ามากครับ ที่ช้างมากกว่า 30,000ตัวต่อปี ถูกฆ่าเพื่อเอางาในแอฟริกาเพียงเพื่อสนองตอบความต้องการผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้าง  ผมเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากการฝึกฝน ทุ่มเท พัฒนา และการเล่นตามกติกาเท่านั้น มากกว่าการพึ่งพาสิ่งของที่ได้จากการคร่าชีวิตช้างจนใกล้ภาวะสูญพันธุ์” โค้ชซิโก้ กล่าว
   
โฆษณารณรงค์ทั้ง22ตัวจะออกอากาศโดยได้รับความอนุเคราะห์จากสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ และเผยแพร่ทางหน้าเพจโซเชียลมีเดียต่างๆ บริษัทวี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ยังได้ร่วมสนับสนุนให้พื้นที่สื่อบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเผยแพร่สื่อรณรงค์ดังกล่าวไปถึงผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสอีกด้วย

รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของคนไทยเกี่ยวกับความต้องการงาช้าง และทัศนคติต่อการค้างาช้างในไทย ปี 2558 ที่จัดทำโดยองค์กร WildAid ช่วยสัตว์ป่า, African Wildlife Foundation และ Save The Elephants ระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนครึ่งหนึ่ง (52%) ทราบว่ามีวิกฤตการฆ่าช้างเอางาในแอฟริกา และ จำนวนใกล้เคียงกัน (51%) ที่ทราบว่า ไทยเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางของงาช้างผิดกฎหมายที่สำคัญของโลก 

“เราจำเป็นต้องสร้างความตระหนักให้กับคนไทยได้รับรู้ว่า ตลาดค้างาช้างไทยมีส่วนกระตุ้นปัญหา การฆ่าช้างเอางาในแอฟริกา เราต้องลดความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างอย่างเร่งด่วน” จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid กล่าว  “เพราะ หยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า”

องค์กร WildAid เริ่มโครงการรณรงค์ Ivory Free ในจีน และฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดค้างาช้าง 2 แห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และล่าสุดร่วมกับ WWFประเทศไทย ในการเปิดตัวแคมเปญ ‘Ivory Free Thailand หยุดซื้องาช้าง’ ในประเทศไทย

ตั้งแต่ปี 2555 WWF-ประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยออกมาตรการจริงจัง เพื่อปิดตลาดการค้างาช้าง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าของ WWFทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐอเมริกาออกกฎระเบียบใหม่ที่จะยุติการค้างาช้างในประเทศเกือบทั้งหมด ขณะที่จีน และฮ่องกง ประกาศว่าจะค่อยๆ ปิดตลาดการค้างาช้างของตนเอง

“หลังการให้คำมั่นครั้งสำคัญของสหรัฐฯ จีน และฮ่องกงว่าจะปิดตลาดค้างาช้างในประเทศ เราขอเรียกร้องให้คนไทยร่วมกัน “หยุดซื้องาช้าง” และขอให้ประเทศไทยเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกับประเทศเหล่านั้นเพื่อช่วยช้้างแอฟริกาเช่นกัน” จอห์น เบเกอร์ กล่าว 

ปีที่แล้ว ไทยออกพระราชบัญญัติงาช้าง เพื่อควบคุมตลาดค้างาช้างถูกกฎหมายที่มาจากช้างบ้านของไทยที่เป็นช้างเอเชีย เท่านั้น รัฐบาลยังได้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กำหนดให้ช้างแอฟริากันเป็น 1 ในสัตว์คุ้มครองของไทย มีผลห้ามการซื้อขายหรือครอบครองงาช้างแอฟริกัน แต่ไทยก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้นานาชาติเห็นว่า ความพยายามควบคุมตลาดค้างาช้างจะทำให้ตลาดค้างาในประเทศปราศจากงาช้างลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายได้อย่างไร 

“ผ่านไปมากกว่า 1 ปีแล้วหลังจากที่ได้มีการออกกฎหมายเพื่อควบคุมตลาดค้างาช้าง แต่ขณะนี้ยังยากที่จะบอกได้ว่า ความ พยายามของไทยในการควบคุมตลาดค้างาช้างในประเทศนั้นได้ผลหรือไม่ ถึงเวลาที่รัฐบาลไทยควรพิจารณาเปลี่ยนจุดยืนทางนโยบาย และเดินหน้าปิดตลาดการค้างาช้างเชิงพาณิชย์ และจริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการลักลอบ งาช้างผิดกฎหมาย” นางสาวจันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-Thailand 

WWF-ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจกรรมรณรงค์เพื่อต่อต้านงาช้างผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2556 และในปี 2558 ออกแคมเปญ “ช.ช้าง ช่วยช้าง” โดยได้รับการสนับสนุนจากคนไทยมากกว่า 1.3ล้านคน ร่วมแสดงพลังต่อต้านการค้า  งาช้าง
“เราหวังว่า การเปิดตัวแคมเปญ “Ivory Free Thailand - หยุดซื้องาช้าง” จะทำให้คนไทยได้รับทราบข้อเท็จจริงของผลกระทบที่เกิดจากการซื้องาช้าง และจะให้คำมั่นว่าจะหยุดซื้อ หยุดใช้ หยุดรับผลิตภัณฑ์งาช้างเป็นของขวัญ และสร้างค่านิยมใหม่ที่คนไทยรักษ์ช้าง มากกว่ารักงา ” นางสาวจันทน์ปาย กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบรรณาธิการและผู้สื่อข่าว
•   ลิงค์ดาวน์โหลดคลิปรณรงค์ “จา พนมสู้เพื่อช้าง” และ “ช้างศึกช่วยช้าง”: https://goo.gl/jvSzHi
•   ลิงค์ดาวน์โหลดผลสำรวจความต้องการงาช้างและทัศนคติต่อการค้างาช้างในไทย 2558: https://goo.gl/jvSzHi
•   ชมคลิป:

จา พนมสู้เพื่อช้าง https://youtu.be/zkekO2x02II

ช้างศึกช่วยช้าง     https://youtu.be/NYv0zsm3lZk

เกี่ยวกับ  WildAid
WildAid (www.wildaid.org) คือ องค์กรไม่แสวงผลกำไร  มีเป้าหมายหลักเพื่อยุติการค้าสัตว์ป่า  และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าผิดกฎมาย WildAid เน้นรณรงค์เพื่อลดความต้องการบริโภค และความต้องการ ซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า โดยเราหวังว่า ผู้บริโภคจะไม่กินหูฉลาม ไม่ซื้องาช้าง นอแรด และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ อีกต่อไป

WildAidได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลากหลายสาขากว่า 100คน ร่วมเผยแพร่ข้อความรณรงค์ ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการฆ่าและค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ผ่านสโลแกนหลักขององค์กร “When the Buying Stops, the Killing Can Too หยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า

เราทำงานรณรงค์ที่เอเชียเป็นหลัก ในประเทศที่ยังมีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าสูง และได้ทำโครงการรณรงค์ Ivory Free หยุดซื้องาช้างในประเทศจีน ฮ่องกง และล่าสุดในไทย โดยเปิดตัวแคมเปญนี้ร่วมมือกับ WWF ประเทศไทย

เกี่ยวกับ WWF-ประเทศไทย
WWF หรือ กองทุนสัตว์ป่าโลก คือ หนึ่งในองค์กรเพื่อการอนุรักษ์ระหว่างประเทศขนาดใหญ่ มีผู้สนับสนุนมากกว่า 5 ล้านคนและมีสำนักงานมากกว่า 100ประเทศทั่วโลก โดย WWF มีพันธกิจเพื่อหยุดยั้งความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ สำหรับในประเทศไทย WWFได้เข้ามาสนับสนุนงานในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 โดยได้ดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในหลายพื้นที่ในประเทศไทย

ตั้งแต่ปี 2555 WWF-ประเทศไทย (www.wwf.or.th) จัดกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยออกมาตรการจริงจัง เพื่อปิดตลาดการค้างาช้าง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าของ WWFทั่วโลก ผ่านการลงชื่อออนไลน์และรวบรวมรายชื่อจากประชาชนทั่วโลกยื่นให้กับรัฐบาลไทยเรียกร้องให้ยุติการค้างช้างในประเทศ และในปี 2558ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ ‘ช.ช้าง ช่วยช้าง’ รวมพลคนรักช้างร่วมต้านการฆ่าช้างเอางา

สำหรับปี2559 นี้ WWF-ประเทศไทย ร่วมกับ WildAid ขอเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันหยุดซื้อ หยุดใส่ผลิตภัณฑ์จากงาช้าง ไม่รับของขวัญทำจากงาช้าง มาร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ที่คนไทยรักษ์ช้าง มากกว่ารักงาช้าง 
« Last Edit: June 14, 2016, 08:57:39 AM by MSN »

MSN on June 13, 2016, 02:51:11 PM
Tony Jaa, Thai National Football Team Coach and Players Call on Thais to go “Ivory Free”


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์,จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย และ คุณชัยรัตน์ ถมยา, พิธีกร, ผู้ประกาศข่าว


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์ , จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย 


คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid,คุณ จา พนม ยีรัมย์,จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย 


จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า, WWF-ประเทศไทย  ,คุณ จา พนม ยีรัมย์,คุณ จอห์น เบเกอร์  กรรมการผู้จัดการองค์กร WildAid



คุณ จา พนม ยีรัมย์ ทูตแคมเปญ Ivory Free Thailand - หยุดซื้องาช้าง









Tony Ja Fights for Elephants: จา พนม สู้เพื่อช้าง_30secs
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=zkekO2x02II" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=zkekO2x02II</a>

"The War Elephants" Defence: ช้างศึก ช่วยช้าง
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NYv0zsm3lZk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NYv0zsm3lZk</a>



Bangkok – The “Ivory Free Thailand” campaign kicked off today, with renowned international martial arts actor Tony Jaa and National football team coach Kiatisuk "Zico" Senamuang joining WildAid and WWF-Thailand to urge Thais to go “ivory free” and help put an end to the relentless slaughter of African elephants for their tusks.

The “Ivory Free Thailand” campaign is calling on consumers to never buy, own or accept ivory as gifts.

“Some people believe that ivory products can bring you power and good luck, protecting you from evil. But what they don’t know is that the majority of ivory in the Thai market today comes from elephants that are brutally slaughtered,” said Tony Jaa, who has appeared on-screen alongside Hollywood stars and grew up in Thailand’s northeastern province of Surin, in close  company of elephants. That childhood experience evolved into a lifelong passion for protecting elephants.

“So how can ivory bring power and luck when the elephant itself was met with harm and left powerless? Remember, when you buy ivory, you could be paying to kill elephants. Please go ivory free,” added Jaa.

Along with Jaa and Zico, the campaign announced two other ambassadors: Jay Chanathip Songkrasin and Kong Kroekrit Thawikan from the national football team “The War Elephants,” who also star in the first campaign ads calling on Thais to join their team by not buying ivory.

“It is devastating to learn that over 30,000 African elephants are poached each year just to satisfy consumer desire for their ivory. Status, success or good fortune cannot come from the ivory of poached elephants. It is only hard work, dedication and playing by the rules that can bring one closer to success. We need to stop relying on items that are pushing these iconic species closer to extinction,” said Kiatisuk "Zico" Senamuang, head coach of Thailand’s national football team.

The ads will be broadcast and shared nationwide with the support of television channels and prominent social media pages. VGI Global media has also extended pro-bono media space to allow the campaign messages to reach commuters at BTS Skytrain stations in Bangkok.

According to a 2015 national survey by WildAid, African Wildlife Foundation and Save the Elephants, only about half of the Thai population (52%) is aware of the elephant poaching crisis in Africa, with a similar percentage aware that Thailand is one of the world’s primary destinations for smuggled ivory (51%).

 “We need to raise awareness among the Thai public that the local market is supporting the killing of elephants in Africa, and we urgently need to reduce consumption of ivory products,” said John Baker, Managing Director, WildAid, which is partnering with WWF-Thailand on the “Ivory Free Thailand” campaign. “We believe, when the buying stops, the killing can too,” added John Baker.

WildAid first ran Ivory Free campaigns in China and Hong Kong, which are two of the world’s largest ivory markets along with Thailand.

Since 2012, WWF-Thailand has been advocating for the Thai government to end its domestic ivory trade as a part of WWF’s global campaign to stop wildlife crime. The US has just published new regulations imposing an almost complete ban on its domestic ivory market, while China and Hong Kong have pledged to close their markets.

“With historic announcements from the US, China and Hong Kong to shut down their ivory markets, we urge not just the Thai public but also Thailand to go ivory free and save Africa’s elephants,” added John Baker.

Last year, Thailand passed the Elephant Ivory Act in attempt to regulate the country's legal market in ivory from domesticated elephants. The government has also prohibited the trade and sale of ivory from African elephants by enacting an amendment to the country's existing Wild Animal Reservation and Protection Act, making African elephants a protected species in Thailand. However, Thailand is yet to prove to the international community how the regulating of the ivory market can make its domestic ivory market free from illegal ivory.

“A year has passed since stricter ivory regulations were introduced, yet it is difficult to see whether Thailand’s effort to regulate the ivory market is efficient and working. It is time Thailand reconsiders its policy and moves toward phasing out the ivory trade by completely halting the domestic ivory trade,” said Janpai Ongsiriwittaya, campaign manager, WWF-Thailand.

WWF-Thailand has successfully campaigned to reduce the illegal ivory available in Thailand since 2013, and in 2015 ran a national campaign, “Chor Chang Can Save Elephants,” which united over 1.3 million voices to speak out against the ivory trade.

“With the Ivory Free Thailand campaign we hope that the public learns the truth about ivory consumption and vows to never buy, own or accept ivory as gifts, making ivory socially unacceptable in Thailand,” added Janpai Ongsiriwittaya.

Note to editors:
•   Download Link to Campaign Ambassadors Ads & Key Visuals:  https://goo.gl/jvSzHi
•   Download Link to Survey Results: https://goo.gl/jvSzHi
•   Video View Only:

Tony Jaa Fights for Elephants: https://youtu.be/zkekO2x02II
“The War Elephants”, Thailand National Football Team:  https://youtu.be/NYv0zsm3lZk

About WildAid
WildAid’s mission is to end the illegal wildlife trade in our lifetimes. We envision a world where people no longer buy wildlife products such as shark fin, elephant ivory and rhino horn. WildAid works to reduce global consumption of wildlife products by persuading consumers and strengthening enforcement.
WildAid's strategy for achieving this goal is to reduce demand for these products through public awareness campaigns, collaborating with over 100 celebrities worldwide to deliver our slogan:
“When the Buying Stops, the Killing Can Too.”

WildAid’s work focuses in Asia where demands are the highest and runs its initiative Ivory Free campaigns in China, Hong Kong and now Thailand partnering with WWF-Thailand.
Find out more at: www.wildaid.org

About WWF-Thailand
WWF is one of the world’s largest and most experienced conservation organizations, with a global network active in more than 100 countries. WWF’s mission is to stop the degradation of the planet’s natural environment and to build a future in which humans live in harmony with nature. In support of the global mission, WWF Thailand has been operating in Thailand since 1995.

Since 2012, WWF-Thailand has been advocating for the Thai government to tackle the illegal ivory trade as a part of WWF’s global campaign.  We also mobilized public participation via a global petition asking the Thai government to ban the ivory trade in 2013 and ran a national campaign ‘Chor Chang can save elephant’ calling on elephant lovers to unite against the ivory trade in 2015.

This year, 2016, WWF-Thailand in partnership with WildAid, invites the public to say no to ivory products and express their commitment to making ivory socially unacceptable. 

Find out more at: www.wwf.or.th/en/wildlifetradecampaignth/
« Last Edit: June 14, 2016, 08:58:23 AM by MSN »