“วอลโว่” ผู้นำตลาดสปอร์ตแวกอนสุดหรู
ส่ง V60 D4 เครื่องยนต์ Drive-E หัวใจใหม่
ที่สุดของความแรงผสานความประหยัดจากขุมพลังดีเซล
วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอแนะนำ V60 D4 สปอร์ตแวกอนรุ่นล่าสุดจากวอลโว่ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความโก้หรูระดับพรีเมี่ยม ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อผู้ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ พร้อมทั้งเป็นความอเนกประสงค์ แต่ไม่ทิ้งความสปอร์ต ที่สวยสะดุดตาตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียน ขับขี่ได้อย่างเร้าใจและคล่องตัว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง V60 D4 เปี่ยมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ Drive-E ดีเซล-ทวินเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พิกัดความแรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ 6 และ 8 สูบ แต่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซี.ซี. ในปัจจุบัน มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดแบบ i-ART ครั้งแรกของโลก และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เป็นเลิศในการขับขี่และตอบสนองทันใจในทุกช่วงความเร็ว พร้อมเพิ่มอุปกรณ์รีโมทสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกลที่ติดตั้งมากับรถ เพื่อช่วยปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เย็นสบายก่อนออกเดินทาง นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “วอลโว่ V60 ที่จำหน่ายอยู่ในตลาดเมืองไทยที่ผ่านมาเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งปีนี้เราพร้อมแล้วที่จะแตกไลน์รถรุ่นนี้ให้คนไทยได้เป็นเจ้าของกับ V60 D4 เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ และแน่นอนว่ารถรุ่นนี้จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น แต่ยังคงมอบสมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม ขับสนุกและโฉบเฉี่ยวเอาไว้เช่นเคย นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถหรูระดับพรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่คนรุ่นใหม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชั่นการใช้งาน ดีไซน์เร้าใจ สมรรถนะเยี่ยม มอบความปลอดภัยที่สุดอีกรุ่นหนึ่งจากวอลโว่ สอดรับกับแนวคิด "การออกแบบรถมาเพื่อคุณ" (Designed Around You) อย่างแท้จริง”รูปลักษณ์สะดุดตาพร้อมสีใหม่ รูปลักษณ์โดดเด่นด้วยคูเป้ในร่างสปอร์ตแวกอน สะกดทุกสายตาด้วยลายเส้นสายแนวขวางทำให้ดูเหมือนรถกดต่ำเกาะถนนดียิ่งขึ้น พร้อมกับ 5 สีที่ยังความโก้หรูทั้งสี Ember Black สี Savile Grey สี Ice White สี Bright Silver Metallic และสี Power Blue ใหม่ภายในสุดหรูพร้อมเบาะนั่งปรับได้ทุกการใช้งาน วอลโว่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนใส่ใจในทุกความปราณีตและการออกแบบทั้งลายไม้และหนัง ผสานกับการใช้งานที่สะดวกสบายเพื่อประสบการณ์การขับขี่ชั้นเยี่ยม เพิ่มความเท่ด้วยแผงคอนโซลกลางลาย Piano Black ปุ่มควบคุมได้รับการเจียรนัยเสมือนอัญมณีล้ำค่า และกระจกมองหลังแบบไร้ขอบ วอลโว่ V60 D4 เอาใจคนทันสมัยด้วยหน้าปัดจอแบบ TFT (Thin Film Transistor) แสดงผลเป็นกราฟฟิกที่ให้สีสดใสสว่างสะดุดตา ง่ายต่อการมองเห็นในทุกสภาพแสง หน้าจอแบบ TFT นี้ไม่เพียงแต่จะให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารและตั้งค่าการใช้งานของรถได้อย่างสะดวก แต่ยังสามารถให้ผู้ขับขี่เลือกการแสดงผลบนหน้าปัดได้ตามอารมณ์การขับขี่ได้ถึง 3 แบบ คือ Elegance Eco และ Performance จุดเด่นของรถสปอร์ตแวกอนรุ่นนี้คือ เบาะหลังสามารถแยกพับได้อย่างอิสระแบบ 40/20/40 พนักพิงของเบาะผู้โดยสารด้านหน้าทสามารถพับลงได้ราบเรียบ ทำให้สามารถบรรทุกสัมภาระได้หลากหลายขนาด และการออกแบบเบาะโดยสารที่ให้ความพิเศษมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือเบาะรองนั่งตัวริมทั้งซ้ายและขวาของเบาะโดยสารด้านหลัง สามารถปรับยกขึ้นเป็นเบาะนั่งสำหรับเด็กได้สองระดับอีกด้วย เพื่อให้เด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป นั่งในตำแหน่งความสูงที่เข็มขัดนิรภัยสามารถทำงานเพื่อป้องกันเด็กได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยเบาะนั่งสบายสไตล์สปอร์ต เบาะหนังสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบมาให้รับกับสรีระ ทำให้นั่งสบายและยังคงรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายแม้จะเดินทางเป็นระยะทางไกล พร้อมสอดรับสรีระอย่างมั่นคงเมื่อต้องการใช้ความเร็วแรงในทุกเส้นทางเปลี่ยนโลกด้วยพลังเครื่องยนต์ดีเซล D4 ทวินเทอร์โบพร้อม i-ART ทรงพลัง ประหยัดยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ดีเซล ทวินเทอร์โบ 4 สูบความจุ 2 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ในตระกูล Drive-E Powertrains ขนาดกระทัดรัดและมีน้ำหนักเบาที่วอลโว่พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยไอเสียต่ำลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 2 ลิตร แต่การออกแบบด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์ Drive-E Powertrains ใหม่ สามารถให้พละกำลังได้เหนือกว่าเครื่องยนต์ 6 สูบและใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบในปัจจุบัน 10-30% (ขึ้นกับเครื่องยนต์ที่นำมาเปรียบเทียบ) เครื่องยนต์ Drive-E Powertrains D4 ดีเซลคอมมอนเรล-ทวินเทอร์โบ พิกัดความแรงสูงถึง 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงมากถึง 400 นิวตัน-เมตร(Nm) ในช่วงรอบเครื่องยนต์ระหว่าง 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ช.ม. ได้ใน 7.7 วินาที
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมือง 17.5 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอกเมือง 22.2 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 20.4 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตรครั้งแรกของโลกกับเทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะแบบ i-ART i-ART (Intelligent Accuracy Refinement Technology) เป็นเทคโนโลยีระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอัจฉริยะของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ล่าสุดที่วอลโว่คิดค้นและพัฒนาขึ้นเป็นรายแรก กล่องควบคุม ECM (Engine Control Module) ทำหน้าที่ตรวจวัดแรงดันและอุณหภูมิของหัวฉีดด้วยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ในแต่ละหัวฉีดทำงานแบบแยกอิสระ ระบบจะประมวลผลเพื่อปรับและควบคุมการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงในแต่ละหัวฉีดให้เหมาะสมเพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลปกติที่ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงดันเพียงตัวเดียวสั่งการและควบคุมปั๊มเชื้อเพลิง การฉีดเชื้อเพลิงหลายๆครั้งต่อรอบการเผาไหม้ก่อให้เกิดความสมบูรณ์ในกระบวนการสันดาป ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงและลดเสียงดังที่เกิดจากอาการน็อคของเครื่องยนต์ลงได้มากระบบ i-ART นี้สามารถฉีดเชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง 9 ครั้งต่อการหมุน 1 รอบของเครื่องยนต์ ขณะที่การขับใช้งานรถยนต์ปกตินั้นจะใช้เพียงแค่ 3-4 ครั้งต่อการหมุน 1 รอบ การทำงานผสมผสานกันระหว่างหัวฉีดแรงดันสูงที่ 2,500 บาร์ (มากกว่าแรงดันในเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมที่ 1,800 บาร์) และเทคโนโลยี i-ART ส่งผลให้เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ของวอลโว่ ปล่อยไอเสียน้อยลง มีพละกำลังเพิ่มมากขึ้น และลดการใช้เชื้อเพลิงได้ดีขึ้นถึง 2% V60 D4 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่พร้อม Geartronic และ Paddle Shift เพื่อมอบการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ นุ่มนวลและประหยัดเชื้อเพลิง เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น เกียร์ 1 เร่งออกตัวได้ทันใจ ขณะที่จังหวะเกียร์สูงสุดช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วคงที่ต่อเนื่อง ช่วงเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก และเกียร์แต่ละเกียร์ยังสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นด้วยคุณลักษณ์พิเศษด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในรถยนต์วอลโว่ V60 D4 อาทิ - ใหม่กับรีโมทคอนโทรลพร้อมฟังก์ชั่นสตาร์ทเครื่องยนต์ (Remote Engine Starting) ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถ
- ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) เพื่อป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
- ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่นหยุด/ออกตัวรถอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า – Adaptive Cruise control with Queue Assist and Distance Alert (ACC)
- ระบบตรวจจับคนเดินถนนและผู้ขับขี่รถจักรยานพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถแบบเต็มแรงเบรก (Pedestrian and Cyclist Detection technology)
- ระบบแจ้งเตือนและสั่นที่พวงมาลัยเพื่อเตือนเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Aid)
- ระบบไฟส่องสว่างเพิ่มมุมมองด้านข้างเมื่อใช้สัญญาณไฟเลี้ยวขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (Cornering Light)
- ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Active High Beam)
- ระบบเซ็นเซอร์เรดาร์แจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา (Enhanced Blind Spot Information System – BLIS – radar sensor)
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด Cross Traffic Alert ช่วยเป็นตาหลังให้คุณ
- ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information)
- ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืด (Tunnel Detection)
- ระบบเตือนผู้ขับขี่ (Driver Alert Control: DAC) Sensus Connect วอลโว่ V60 D4 มาพร้อม Sensus Connect ระบบสื่อสารในรถยนต์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ Navigation การเชื่อมต่อมือถือผ่านบลูทูธ พร้อมเพิ่มการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นแอปพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Find Fuel, Glympse, Local Search, Send to Car, Stitcher, TuneIn, Weather และ WikiLocations มีการแสดงผลหน้าจอหรือ HMI (Human Machine Interface) ที่ใช้งานได้สะดวกผ่านจอภาพสี ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ที่ปรับปรุงให้ดูง่ายและทันสมัยขึ้น นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถใช้งาน Sensus Connect ด้วยการใช้ปุ่มกดบนพวงมาลัย จึงทำให้เห็นข้อมูลบนจอภาพและถนนได้ในขณะเดียวกันโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย นอกจากนี้ปุ่มกดบนพวงมาลัยยังได้รับการพัฒนาขึ้นให้สามารถใช้สั่งการระบบนำทางได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วยเชิญทดสอบ วอลโว่ V60 D4 เครื่องยนต์ดีเซล ใหม่ สุดยอดนวัตกรรมที่สุดแห่งรถสอร์ตแวกอนล้ำสมัย ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ ราคา 2,549,000 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-305-4499 หรือ https://www.facebook.com/volvoTH