ลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ
ผลงานการสร้างสรรค์โดย ลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส / บลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์/ แอ็ทลาส เอนเตอร์เทนเมนต์
Warcraft
เทรวิส ฟิมเมล
พอลล่า แพ็ตตัน
เบน ฟอสเตอร์
โดมินิค คูเปอร์
โทบี้ เค็บเบลล์
เบน ชเน็ทเซอร์
ร็อบ คาซินสกี้
และ
แดเนียล วู
ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
จิลเลี่ยน แชร์
เบรนท์ โอคอนเนอร์
ไมเคิล โมเรม
พอล แซมส์
อำนวยการสร้างโดย
ชาร์ลส์ โรเว่น, สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้าง
โธมัส ทัลล์, สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้าง
จอน แจชนี่, สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้าง
อเล็กซ์ การ์ตเนอร์, สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้าง
สต๊วร์ต เฟเนแกน, สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้าง
สร้างจาก
WARCRAFT จาก บริซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์
เขียนบทโดย
ชาร์ลส์ เลียวิตต์ และ ดันแคน โจนส์
กำกับโดย
ดันแคน โจนส์
ชื่อไทย วอร์คราฟต์ กำเนิดศึกสองพิภพ
วันที่เข้าฉาย 26 พฤษภาคม 2559
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัดเบื้องหลังงานสร้าง
ผลงานจาก ลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส บังเกิดเป็นภาพยนตร์เอพิคผจญภัยสุดอลังการ Warcraft เมื่อความขัดแย้งระหว่างสองโลกปะทุขึ้น โดยสร้างจากผลงานของบลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์ที่ประสบความสำเร็จจนเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก
อาณาจักร อาเซร็อธ อันเงียบสงบ กำลังจะต้องเผชิญกับภัยสงคราม เมื่ออารยธรรมแห่งอาณาจักรแห่งนี้ต้องเผชิญกับเผ่าพันธุ์ผู้บุกรุกที่แสนดุร้าย เมื่อกองทัพออร์คกรีฑาทัพเพื่อหนีจากบ้านเกิดที่กำลังพินาศสู่อีกอาณาจักรหนึ่ง เมื่อประตูเชื่อมระหว่างสองพิภพเปิดออกเพื่อเชื่อมทั้งสองโลก กองทัพหนึ่งต้องเผชิญกับการทำลายล้าง ส่วนอีกหนึ่งกองทัพต้องเผชิญกับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ และจากสองฝั่งฟาก วีรบุรุษสองนายถูกเลือกมาเพื่อต่อสู้กัน และมันจะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมทั้งของครอบครัว ผู้คนร่วมเผ่าพันธุ์ และบ้านเกิดของพวกเขาด้วย
การผจญภัยอันน่าตื่นตาแห่งอำนาจและการเสียสละจึงเริ่มต้นขึ้น ในสงครามที่มีผู้คนมากมายเกี่ยวพัน และทุกคนต่างต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่าง
จากฝีมือการกำกับของ ดันแคน โจนส์ (Moon, Source Code) และเขียนบทโดย ชาร์ลส์ เลียวิตต์ (Blood Diamond) และโจนส์ Warcraft แสดงนำโดย เทรวิส ฟิมเมล (ผลงานทางทีวีเรื่อง Vikings) ในบท ผู้บัญชาการ อันดูอิน โลธาร์, พอลล่า แพ็ตตัน (Mission: Impossible—Ghost Protocol) ในบทลูกครึ่งออร์ค กาโรน่า, เบน ฟอสเตอร์ (Lone Survivor) ในบทผู้พิทักษ์ เมดิฟห์, โดมินิค คูเปอร์ (ผลงานทางทีวีเรื่อง Preacher) ในบท คิงเลน รินน์, รูธ เน็กกา (World War Z) รับบท เลดี้ ทาเรีย, โทบี้ เค็บเบลล์ (Dawn of the Planet of the Apes) รับบทประมุขออร์ค ดูโรทัน, แอนนา กัลวิน (ผลงานทางทีวีเรื่อง Legends of Tomorrow) รับบท ดราก้า ผู้ปกป้อง, เบน ชเน็ทเซอร์ (Pride) รับบท จอมเวทย์ แค็ดการ์, ร็อบ คาซินสกี้ (Pacific Rim) รับบทรองหัวหน้าออร์ค ออร์กริม, แคลนซี่ บราวน์ รับบทหัวหน้านักรบออร์ค แบล็คแฮนด์ และแดเนียล วู (ผลงานทางทีวีเรื่อง Badlands) รับบทพ่อมดออร์คนาม กัลแดน
ผู้ร่วมมือกับโจนส์ เพื่อนำ Warcraft ขึ้นสู่จอยักษ์ ก็คือเหล่าทีมผู้อำนวยการสร้างบล็อกบัสเตอร์ ชาร์ลส์ โรเว่น (Batman v Superman: Dawn of Justice, The Dark Knight trilogy), โธมัส ทัลล์ (The Hangover, Godzilla), จอน แจชนี่ (Pacific Rim, Godzilla), อเล็กซ์ การ์ตเนอร์ (Get Smart, The Upside of Anger) และสต๊วร์ต เฟเนแกน (Moon, Source Code)
ทีมงานหลังกล้องของภาพยนตร์ผจญภัยเอพิค 3D เรื่องนี้ ประกอบไปด้วยทีมศิลปินที่ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง อาทิเช่น โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ระดับคว้ารางวัล แกวิน บ็อคเก็ต (Star Wars Episode III—Revenge of the Sith), วิชวลเอฟเฟ็กต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ เจ้าของรางวัลออสการ์ บิลล์ เวสเทนโฮเฟอร์ (Life of Pi), ผู้ลำดับภาพ เจ้าของรางวัลออสการ์ พอล เฮิร์สช์ (Star Wars), ผู้กำกับภาพ ไซม่อน ดั๊กแกน (The Great Gatsby), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เมย์ส รูบิโอ (World War Z), ผู้ประสานงานสตั๊นต์ ทอม สตรัทเธอร์ส (The Dark Knight) และผู้แต่งดนตรีประกอบ รามิน ดิจาวาดี (ผลงานของ HBO เรื่อง Game of Thrones)
จิลเลี่ยน แชร์ (Crimson Peak) และเบรนท์ โอคอนเนอร์ (We Are Marshall) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ร่วมกับ ไมเคิล โมเรม และพอล แซมส์ จากบลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์ ทีมผู้บริหารจากบลิซซาร์ด ร็อบ พาร์โด้, คริส เม็ตเซ่น (Blizzard) และนิค คาร์เพนเตอร์ ร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับ รีเบ็คก้า สตีล โรเว่น (ภาพยนตร์ใหม่เรื่อง Wonder Woman)
ผลงานการสร้างของ ลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส, บลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์ และแอ็ทลาส เอนเตอร์เทนเมนต์ Warcraft จัดจำหน่ายโดย ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ทำความรู้จักโลกแห่ง Warcraft
ในอาเซร็อธ มนต์ดีและมนต์มืดต่างเป็นพลังชีวิตแห่งโลกที่แสนพิเศษนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของลำดับวิถีแห่งธรรมชาติที่ก่อร่างชะตากรรมของทุกผู้ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ อาณาจักรมนุษย์อยู่ภายใต้การปกครองของราชาเลน (คูเปอร์) และราชินี เลดี้ ทาเรีย (เน็กกา) ผู้ปกครองผู้เปี่ยมด้วยเมตตาทั้งสอง อาศัยอยู่ในนครสตอร์มวินด์อันสุขสงบและรุ่งเรือง
หนึ่งคนที่ต่อสู้เคียงข้างราชาเลนมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก ก็คือนักรบผู้ยิ่งใหญ่ อันดูอิน โลธาร์ (ฟิมเมล) ผู้บัญชาการแห่งกองกำลังแห่งอาเซร็อธ อาณาจักรที่สุขสงบ และมีความอุดมสมบูรณ์มานานหลายปี อยู่ภายใต้การดูแลของสภาแห่งจอมเวทย์ที่รู้จักกันในนาม คิริน ทอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้วิเศษที่คอยรักษาสมดุลอำนาจจาก ดาลารัน อันแสนห่างไกลซึ่งเป็นป้อมปราการที่ท้าทายกฎแรงดึงดูดโดยตั้งอยู่สูงในหมู่เมฆา
เมดิฟห์ (ฟอสเตอร์) ผู้พิทักษ์แห่งอาเซร็อธ และยังเป็นผู้วิเศษที่มีพลังสูงสุด ได้ร่วมกับราชาเลนและโลธาร์ ปกป้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ แต่จอมเวทย์หนุ่ม แค็ดการ์ (ชเน็ทเซอร์) ตั้งใจที่จะฝ่าฝืนต่อบรรพชนแห่งคิริน ทอร์ ทั้งนี้เพื่อค้นหาความจริงที่สูงยิ่งกว่า เมื่ออาเซร็อธใกล้จะเผชิญสงคราม ความต้องการของเขาขัดกับผู้บัญชาการโลธาร์ และสุดท้ายมันได้กำหนดโชคชะตาของทุกคนใหม่หมด
ในอีกด้านหนึ่งของพหุภพนี้ เดรเนอร์คือบ้านเกิดของอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ ออร์ค เผ่าพันธุ์ที่ภาคภูมิและโหดเหี้ยม เป็นพวกที่ไม่เคยรู้จักชีวิตที่ไร้สงครามและการต่อสู้ เหล่านักรบที่มีเขี้ยวงา ที่ยืนด้วยความสูงแปดฟุต พร้อมเสื้อเกราะที่ถูกผลิตขึ้นอย่างงดงาม และมีอาวุธสุดโหดมากมายที่ทำจากเหล็ก พวกเขาคือหลักศิลาแห่งการทำศึก เกิดมาเพื่อต่อสู้ และสืบเผ่าพันธุ์เพื่อความอยู่รอด แต่โลกของออร์คกำลังจะตาย ถ้าพวกออร์คอยากรอดชีวิต พวกเขาต้องละทิ้งบ้านเกิดและเดินทางไปยังอีกโลกหนึ่ง ถ้าต้องพิชิตเพื่อจะเอาตัวเองให้รอด ก็ต้องเป็นไปตามนั้น
ผู้นำของพวกเขาคือผู้วิเศษจอมเจ้าเล่ห์ที่ชื่อ กัลแดน (วู) ที่อาจเป็นผู้มาช่วยเหลือในแบบของออร์ค ด้วยการใช้มนต์ดำที่มีอันตราย กัลแดนได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ กัลแดนที่ได้รับการสนับสนุนจาก แบล็คแฮนด์ (บราวน์) หัวหน้านักรบออร์คที่เป็นนักสู้ที่ดุร้ายที่สุด ได้รวมเผ่าพันธุ์ออร์คที่กำลังสิ้นหวัง ให้กลายเป็นกองทัพขาลุยที่รู้จักกันในนาม เดอะฮอร์ด ถึงแม้หัวหน้ากลุ่มอื่นๆ จะปฏิบัติตามการนำทางของกัลแดนเพื่อบุกอาเซร็อธ และกำจัดประชากรโลก แต่มีออร์คหนึ่งนายที่เห็นต่าง
ดูโรทัน (เค็บเบลล์) ผู้นำอันเป็นที่รักของเผ่าฟรอสต์วูล์ฟ ยังคงจดจำได้ดีถึงยุคสมัยที่ชีวิตเรียบง่ายกว่า และทรงเกียรติกว่าเมื่อกัลแดนขึ้นมามีอำนาจ ถึงแม้จะทั้งสงสัยและไม่สบายใจนักกับผู้ปกครองของเขา แต่ทั้งดูโรทัน, ดราก้า (กัลวิน) ภรรยาของเขา,รองบัญชาการ ออร์กริม (คาซินสกี้) และชาวเผ่าฟรอสต์วูล์ฟทั้งหมด ก็รวมพลังกับพี่น้องชายหญิงออกเดินทางผ่านประตูมืดมิดเพื่อมุ่งหน้าสู่อาเซร็อธ พวกเขาต่างหวาดเกรงต่อมนต์ดำที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางผ่านไปได้ แต่พวกเขาจะมีทางเลือกอื่นใดอีกถ้าหวังจะให้เผ่าพันธุ์อยู่รอดต่อไปได้
เมื่อมาถึงอาเซร็อธ ดูโรทันเริ่มสงสัยว่าอาจมีหนทางที่มีเมตตากว่านี้ในการทำให้โลกใบนี้กลายเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา และไม่ใช่เขาคนเดียวที่คิดเช่นนี้ เพราะยังมี นักรบ กาโรน่า (แพ็ตตั้น) ลูกครึ่งมนุษย์และออร์คผู้รอดชีวิตจากทั้งสองโลก แต่ไม่มีที่ยืนในทั้งสองพิภพ ว่าแต่ความภักดีของเธอจะอยู่กับฝ่ายใด ระหว่าง ชนเผ่าที่จับเธอเป็นทาส หรือศัตรูผู้ปลดปล่อยเธอ
ขณะที่ประตูมืดเปิดออก จนนำสองกองทัพผู้ยิ่งใหญ่ไปสู่ความขัดแย้งกัน ฝั่งหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับการทำลายล้าง ขณะที่อีกฝ่ายกำลังเผชิญกับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในเงามืดของการรุกรานที่อาจนำไปสู่การทำลายโลก สองวีรบุรุษจากสองฝั่งที่เป็นศัตรูกัน อันได้แก่ โลธาร์และดูโรทัน ต่างรู้สึกสงสัยว่าการทำสงครามกันนั้นคือคำตอบเพียงอย่างเดียวหรือเกี่ยวกับตัวละคร
กาโรน่ากาโรน่า ซึ่งเป็นทาสของกัลแดน ผู้ปกครองออร์ค คือลูกครึ่งออร์คที่เกิดจากสองโลก แต่โลกทั้งสองกลับไม่ต้อนรับเธอ ยิ่งเจ็บหนักก็ยิ่งแข็งแกร่ง กาโรน่าแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด เธอเป็นผู้รู้จักเอาชีวิตรอด เธอเป็นแกะดำที่ติดอยู่ระหว่างสองโลก กาโรน่าต่อสู้เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และหาที่ที่เธอจะอยู่ได้ เธอเปลี่ยนความทุกข์ทรมานให้กลายเป็นความแข็งแกร่ง จนกลายเป็นนักรบที่สามารถเอาตัวรอด และมีความเข้าใจดีว่าคนต้องรู้สึกกลัวเพื่อจะมีชีวิตรอด แต่เมื่อเธอพบว่าตัวเองเกิดความสนใจในความหาญกล้าและเสน่ห์ของโลธาร์ซึ่งเป็นมนุษย์ เธอลั่นปากสาบานว่าจะต่อสู้เคียงข้างเขาอันดูอิน โลธาร์โลธาร์คือนักรบที่ไม่กลัวเกรง ผู้ต่อสู้ด้วยความภักดีที่มีต่อราชาของเขา เพื่อจะยุติสงครามที่ทำลายล้างโลก เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับศัตรูที่ไม่อาจเอาชนะได้ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้คนของเขา และเพื่อปกป้องลูกชายเพียงคนเดียวของเขาด้วย เขาต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะกลายเป็นผู้ปกป้องอย่างที่อาเซร็อธต้องการให้เขาเป็น เขาถูกขับดันด้วยความภักดีที่มีต่อประเทศ และบ่อยครั้งเขาต้องเสียสละความสัมพันธ์ส่วนตัว โลธาร์รู้สึกลังเลที่จะเปิดรับใครเข้ามาในหัวใจ เพราะเขาต้องหยัดยืนต่อสู้เพื่อผู้คนที่ฝากชีวิตเอาไว้กับราชาและอาณาจักรของเขา ฮีโร่ฝ่ายมนุษย์ผู้นี้ขี่ม้าได้คล่องแคล่วไม่ต่างจากเวลาต้องขี่กริฟฟ่อน (สัตว์ครึ่งนกอินทรี ครึ่งสิงโต) และยังกล้าหาญในการสู้รบ เขาจะเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของอาเซร็อธแค็ดการ์ฮีโร่วัยหนุ่มที่เป็นหนอนหนังสือ พลังอำนาจของแค็ดการ์ซุ่มซ่อนอยู่ในความรู้ที่เขามี ถึงแม้เขาจะมีสัญลักษณ์ของกลุ่มคิริน ทอร์ แต่แค็ดการ์ ที่เป็นอดีตผู้ฝึกเพื่อเป็นผู้พิทักษ์ ดิ้นรนต่อสู้เพื่อชีวิตธรรมดาๆ อย่างไรก็ดี ถึงแม้เขาจะหันหลังให้กับโชคชะตาที่ถูกกำหนดมา แต่สุดท้าย แค็ดการ์ก็ถูกดึงดูดเข้าหาปริศนาที่เกิดขึ้นท่ามกลางการบุกจู่โจมอาเซร็อธ และได้เรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบแบบผู้ใหญ่ ซึ่งมาพร้อมกับพลังของเขา ขณะที่เขาต่อสู้เพื่อค้นหาจุดยืนของตัวเองท่ามกลางกลุ่มวีรุบุรุษ แค็ดการ์ได้เรียนรู้ถึงความลับของพลังอำนาจของเขา และอำนาจมืดที่ซุ่มซ่อนอยู่ด้านใต้ดูโรทันดูโรทัน ผู้นำอันเป็นที่รัก กำลังต่อสู้เพื่อสิ่งที่เขาเรียกว่าบ้าน บ้านที่เขาสามารถสร้างอนาคตให้กับครอบครัวของเขาได้ ดูโรทันต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของเขา รวมถึง ดราก้า ภรรยาของเขา เขาเชื่อในเผ่าพันธุ์ของตน และในสิ่งที่พวกเขาเคยเป็นก่อนที่กัลแดนจะลุกขึ้นมามีอำนาจ พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตที่มีความแข็งแกร่งที่ดำเนินชีวิตตามกระแสธรรมชาติ เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีวินัยและทรงเกียรติ เขารู้ดีว่าถ้าคนของเขาจะมีชีวิตรอดได้ เขากับดราก้าต้องเป็นผู้นำออร์คในการต่อสู้เพื่อสร้างบ้านที่อาเซร็อธเมดิฟห์เมดิฟ์ คือผู้พิทักษ์ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนอาวุธมหัศจรรย์ของอาเซร็อธ แต่เขาก็ต้องสูญเสียเพื่อให้ได้พลังลึกลับเช่นนี้มา จอมเวทย์ผู้ทรงอำนาจสูงสุดผู้นี้ คือผู้พิทักษ์แผ่นดินนี้ และเขาได้รับมอบหมายให้มีความสามารถที่จะใช้เวทมนต์เพื่อคอยปกป้องประชาชน และคอยรักษาสมดุลตามวิถีธรรมชาติในหลากหลายอาณาจักร ในยามที่ไม่ต้องคอยปกป้องโลก ชีวิตของเมดิฟห์คือชีวิตที่เข้าใจยาก เขาต้องต่อสู้กับพลังที่เกินความเข้าใจของเรา จากหอคอยสูงที่สร้างอยู่บนเส้นทางเชื่อมต่อของเส้นทางอำนาจหลากหลาย เขาต้องอยู่เพื่อปกป้องอาเซร็อธ มันคือเป้าหมายหนึ่งเดียวของเขาราชาเลน รินน์ราชาทุกองค์ต่างสืบทอดซึ่งความท้าทาย สำหรับราชาเลน มรดกสืบทอดที่ได้มาอาจเป็นศึกครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอาเซร็อธ เลนซึ่งเป็นผู้ปกครองผู้มีเมตตา ต้องรวมพลังกับผู้นำของชนเผ่าอื่นๆ (คนแคระ, เอลฟ์ และมนุษย์) เพื่อต่อสู้กับกองทัพออร์คที่เดินทางมายังโลกนี้ ก่อนที่การทำลายล้างจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เลนที่ต่อสู้เพื่อรวบรวมอาณาจักรต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แน่ใจว่าถ้าประชาชนแห่งอาเซร็อธไม่ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับกองทัพออร์ค พวกเขาจะต้องย่อยยับ แต่เขาจะต่อสู้จนกว่าจะถึงที่สิ้นสุดเพื่อปกป้องให้อาณาจักรของเขาปลอดภัย และเพื่อปกป้องประชาชนของเขาเลดี้ ทาเรียทาเรียคือราชินีผู้ชาญฉลาด และท่ามกลางการสู้รบกับอสูรร้าย ท่ามกลางความโหดร้าย ความสง่างามและวาจาอันน่าฟังของเธอคือแสงไฟแห่งความหวังของประชาชน ทาเรียเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่มีทักษะ ผู้ใช้สัญชาตญาณแบบหญิงสาวของเธอจนได้รับความไว้วางใจจากกาโรน่า ทาเรียรู้ดีว่าประชาชนชาวอาเซร็อธต้องรวมตัวเป็นหนึ่งถ้าพวกเขาจะยุติความขัดแย้งนี้ เธอรู้ดีว่า “ผู้นำที่แข็งแกร่งต้องได้รับความไว้วางใจจากเผ่าพันธุ์” และเธอยังแน่ใจด้วยว่าพวกเขาต้องได้รับสิ่งนั้นจากกาโรน่า ทาเรียที่แต่งงานอย่างมีความสุขกับเลน รินน์ คือแม่ของวาเรี่ยน ชีวิตแต่งงานของพวกเขามีความเท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย พวกเขามีความนับถือกันอย่างแท้จริงออร์กริมออร์กริมใช้ดูมแฮมเมอร์เป็นอาวุธ มันคือหนึ่งในอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในหมู่มวลออร์ค เป็นอาวุธที่ตกทอดมาถึงเขาผ่านคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า สายเลือดนักรบจากบรรพบุรุษคือเชื้อสายที่เป็นเชื้อพลังของความโกรธและความกล้าหาญของเขาในสนามรบ สงครามคือมรดกตกทอด ความจงรักภักดีที่เขามีต่อดูโรทันเกิดมาจากการผ่านการทำศึกมากมาย และการออกล่าเคียงข้างกันบนเนินทรายแห่งฟรอสต์วินด์ เขายังคงภักดีต่อประมุขและประชาชนของเขา และเป็นหนึ่งในพลังผลักดันภายในชนเผ่าฟรอสต์วูล์ฟ แต่ยิ่งพวกเขาเดินทัพสู่อาเซร็อธ โลกเก่าก็ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังดราก้าดราก้าที่เป็นคู่ชีวิตที่กล้าหาญของดูโรทัน และเป็นมารดาของลูกชายที่ยังเป็นทารกน้อย จะต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัวของเธอ และประชาชนของเธอจนกว่าลมหายใจจะหมดสิ้น การต่อสู้เคียงข้างคู่ชีวิตและประมุขของชนเผ่า ทำให้เธอกับดูโรทันก่อกำเนิดความรักที่ทำให้ดาวเคราะห์ที่กำลังจะสิ้นสูญอยู่รอดมาได้ และนำพาพวกเขาไปสู่โลกใบใหม่ เพราะการหยัดยืนอยู่เคียงข้างดูโรทันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจึงนำพาลูกน้อยเข้าสู่อนาคตที่ไม่แน่นอนกัลแดนในฐานะวายร้ายที่สุดอำมหิตและแสนเจ้าเล่ห์ กัลแดนต่อสู้เพื่อจะครอบครองอาเซร็อธ ไม่ว่าจะต้องสูญเสียสักแค่ไหน ขณะที่ก้าวขึ้นมาเพื่อรวมเผ่าพันธุ์ออร์คให้เป็นหนึ่งเดียวในฐานะกองกำลังที่ชอบรุกรานทำลายล้าง เขาจะดูดกลืนชีวิตจากทุกคนเพื่อนำมาเพิ่มพลังให้กับกองทัพของเขา ด้วยแรงผลักดันที่ต้องการจะเป็นผู้พิชิต สำหรับกัลแดนแล้ว ทุกชีวิตคือเชื้อเพลิงให้กับเดอะฮอร์ดแบล็คแฮนด์ถ้าออร์คเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อสู้รบ ถ้าเช่นนั้น แบล็คแอนด์ ผู้ทำลายล้าง ก็คือร่างอวตารของสงคราม เขาสวมใส่ชุดเกราะที่ดูโหดเหี้ยมที่เชื่อมต่อกันด้วยซากโครงกระดูกของชีวิตที่เขาสังหารไป เขาเป็นแหล่งรวมทุกสิ่งที่พวกออร์คให้ความนับถือ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความไม่กลัวเกรงสิ่งใด และศักดิ์ศรี ในฐานะนักสู้ที่กราดเกรี้ยว แค่เสียงอันดังสนั่นเพียงอย่างเดียวก็สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าศัตรูได้ แบล็คแฮนด์คืออาวุธเดินได้ที่กัลแดนต้องการเพื่อให้เป็นผู้นำการโจมตีใส่มนุษยชาติก่อนจะกลายมาเป็นภาพยนตร์
ปรากฎการณ์ระดับโลก:
Warcraft เหินทะยาน
นับแต่ถือกำเนิดมา มีผู้เล่นมากกว่า 100 ล้านคนที่เคยสัมผัสกับตำนานอันน่าติดตาตรึงใจและแสนตื่นตะลึง ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ World of Warcraft
Warcraft: Orcs and Humans ซึ่งสร้างโดย บลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์ ในปี 1994 คือความสำเร็จถล่มทลาย และเป็นเสมือนบทแรกในงานไตรภาค สำหรับแฟนๆ มากมาย มันได้ให้นิยามใหม่กับเกมส์กลยุทธแบบเรียลไทม์ ภาคที่ 2 และ 3 Warcraft II: Tides of Darkness และ Warcraft III: Reign of Chaos ยังคงเดินหน้าให้ทั้งความมหัศจรรย์และจินตนาการกับผู้เล่น เช่นเดียวกับเมื่อกลายมาเป็นนิยายเบสเซลเลอร์และเมอร์แชนไดส์อื่นๆ
แต่เป็นเพราะภาคที่ 4 ในเกมส์ซีรีส์นี้ที่ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์
ในปี 2004 บลิซซาร์ดได้เปิดตัวเกมส์สุดยิ่งใหญ่ World of Warcraft ซึ่งเป็นเกมส์ออนไลน์ในแบบผู้เล่นหลายคน ซึ่งผู้เล่นจำนวนมากมายจากทั่วโลกสามารถที่จะร่วมผจญภัยพร้อมกับคนอื่นๆ ในจักรวาลเดียวกันได้ ในเกมส์นี้ ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครภายในกลุ่มพันธมิตร หรือเดอะฮอร์ด และควบคุมการกระทำของตัวละคร สร้างความผูกพันกับตัวละครอื่นๆ ในฉากที่เต็มไปด้วยรายละเอียดจนน่าตื่นตะลึง และกลายเป็นหนึ่งในงานแฟนตาซีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกมส์
ปัจจุบัน นานกว่าหนึ่งทศวรรษต่อมา World of Warcraft มีผู้ใช้แบบลงทะเบียน 100 ล้านราย และยังคงติดอันดับท็อป 10 เกมส์ MMORPG ที่มีผู้เล่นมากที่สุดในโลก
นับแต่นั้น มีการปรับขยาย World of Warcraft ถึงห้าครั้ง ครั้งล่าสุดก็คือ World of Warcraft: Warlords of Draenor ด้วยการก้าวเข้าสู่ดินแดนผจญภัยที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ผู้เล่นสามารถสัมผัสการเดินทางและการผจญภัยไร้ขีดจำกัดเป็นพันๆ รูปแบบ
ท่ามกลางฉากหลังอันแสนมหัศจรรย์ที่มีทั้งตำนาน เวทมนต์ เหล่าอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ และสนามรบที่เต็มไปด้วยอันตราย
ความขัดแย้งคือหัวใจของตำนาน Warcraft และเมื่อทางบลิซซาร์ดและทีมผู้สร้างภาพยนตร์ เริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการนำทรัพย์สินอันมีค่าชิ้นนี้มาสู่จอภาพยนตร์ ความท้าทายไม่ใช่เพียงแค่การต้องยึดมั่นศรัทธาต่อแฟนๆ จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังจะต้องให้การเล่าเรื่องที่ชวนติดตามสำหรับคนดูที่ไม่ได้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและตัวละครอันแสนมหัศจรรย์นี้
ในที่สุด พวกเขาเลือกที่จะกลับไปหาจุดเริ่มต้นของตำนาน Warcraft และมุ่งเน้นไปที่การสร้างโลกที่ขัดแย้งกันทั้งสองโลก นั่นก็คืออาเซร็อธ อาณาจักรที่ทั้งงดงามและสุขสงบ และเดรเนอร์ ดาวเคราะห์ที่กำลังจะแตกดับ ทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องเผชิญกับการสิ้นเผ่าพันธุ์ รวมไปถึงการเดินทางผจญภัยของสองวีรบุรุษจากสองฟากฝั่ง ผู้ที่ชะตากรรมถูกดึงเข้าหากันด้วยโชคชะตา