MSN on May 10, 2016, 08:37:33 PM
KTAMขายตราสารหนี้6เดือนชู1.55% เพิ่มทางเลือกKT-GMOกระจายเสี่ยง

นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 93 ( KTFF93 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2559   อายุ 6 เดือน  เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท  MTN  ที่ออกโดย  Banco Latinoamericano de Comercio  Exterior , S.A.   เงินฝากประจำ  Bank of China  ( Macau ) , Commercial  Bank of Qatar  Q.S.C .  ,  First  Gulf Bank PJSC  และ Standard  Chartered  Bank   ผลตอบแทนประมาณ 1.55% ต่อปี

นอกจากนี้  อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส  6 เดือน 2 (KTSIV6M2) เสนอขายถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2559   อายุ  6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทเงินฝาก ตั๋วเงินคลัง  พันธบัตรรัฐบาล  ประมาณ 28 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน    ผลตอบแทนประมาณ 1.50%ต่อปี

นางชวินดา   กล่าวต่อไปว่า   หากนักลงทุนที่มองโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและต้องการกระจายความเสี่ยง  ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้  บริษัทขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม โกลบอล แม็คโคร ออพเพอทูนิตี้  ฟันด์  (KT-GMO)  ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะตลาด  โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JP Morgan Investment Funds –Global Macro Opportunities Fund   ซึ่งกองทุนรวมหลักมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกสภาวะตลาด รวมถึงการควบคุมความผันผวนจากการบริหารกองทุนรวมหลัก  เน้นป้องกันความเสี่ยงจากตลาดขาลง และสร้างการเติบโตของเงินทุนในส่วนที่เกินจากดัชนีอ้างอิง   โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภททั่วโลกและจะมีการใช้กลยุทธ์ลงทุนในอนุพันธ์ที่เหมาะสม  ตามสภาวะตลาด และโอกาสในการลงทุน  เป็นกองทุนที่ได้รับ 5 ดาวจาก  Morningstar 
 ทั้งนี้ ผลตอบแทนย้อนหลัง ของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่  31  มีนาคม  2559   ย้อนหลัง 1 ปี  อยู่ที่   9.66%    ย้อนหลัง 2 ปี  อยู่ที่ 12.71 %   และย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 16.11%   ในขณะที่ดัชนีมาตรฐาน ICE 1 month EUR LIBOR   ย้อนหลัง 1 ปี  อยู่ที่ -0.08%  2 ปีอยู่ที่ 0.12%  และ3 ปี อยู่ที่ 0.09%

ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้  การซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบาง อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามตัวเลขเงินเฟ้อ  แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเริ่มมีการปรับตัวลดลงตามปัจจัยต่างประเทศ โดยตลาดผิดคาดกับธนาคารกลางญี่ปุ่น  ที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงหลังมีข่าวการส่งออกน้ำมันของอิรักอยู่ในระดับสูงมาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) โดยนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิจำนวน 13,297 ล้านบาท สรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี  อยู่ที่ 1.41% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปีอยู่ที่ 1.59% ต่อปี อายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 1.83% ต่อปี และอายุคงเหลือ 20 ปี  ปรับตัวอยู่ที่ 2.28% สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในการประชุม กนง.วันที่ 11 พฤษภาคม ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ  และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ  ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.23 % ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 1.79% ต่อปี
« Last Edit: May 11, 2016, 02:32:48 PM by MSN »