ดีแทคประกาศกำไร 0.53 บาทต่อหุ้น ในไตรมาส 1 ปี 2559
22 เมษายน 2559 – ดีแทครายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/2559 มีรายได้รวมอยู่ที่ 21.7 พันล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 1.3 พันล้านบาท เป็นครั้งแรกที่รายได้จากการให้บริการดาต้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ของรายได้รวมจากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าความต้องการในการใช้บริการดาต้ายังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดีแทคมีจำนวนคลื่นความถี่ในการให้บริการที่แข็งแกร่งด้วยแบนด์วิธที่มากถึง 50 MHz ซึ่งมากเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตของความต้องการในการให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้าทั้งในระบบ 2G 3G และ 4G
ดีแทคยังคงขยายโครงข่าย 4G และ 3G อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนสถานีฐานเพิ่มขึ้นประมาณ 13,000 สถานี จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และได้ขยายโครงข่ายการให้บริการในระบบ 4G ครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2559 ทำให้คุณภาพของโครงข่ายและการรับรู้ ตลอดจนความมั่นใจในการใช้งานของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการในระบบ 4G เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1 ล้านรายในช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 2.9 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมในระบบทั้งสิ้น 25.5 ล้าน ในจำนวนนี้ 91% ได้จดทะเบียนภายใต้ดีแทค ไตรเน็ต
ดีแทควางแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ 4G ด้วยการขยายแบนด์วิธบนคลื่นความถี่ 1800 MHz เพิ่มอีก 5 MHz เป็น 20 MHz ทำให้ดีแทคเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ให้บริการ 4G ได้ด้วยแบนวิธที่กว้างที่สุดถึง 20MHz บนคลื่นความถี่ 1800MHz เพียงคลื่นความถี่เดียว ซึ่งจะให้บริการร่วมกับ 4G บนคลื่น 2100MHz อีก 5 MHz ทำให้ดีแทคเป็นเครือข่ายเดียวที่ลูกค้าสามารถใช้งานกับอุปกรณ์มือถือ 4G ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในตลาด นอกจากนี้ ดีแทคยังจะขยายโครงข่ายการให้บริการ 4G ให้ครบ 878 อำเภอ ทั่วประเทศภายในสิ้นไตรมาสที่ 3/2559
นอกจากการพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่องแล้ว ดีแทคยังเป็นผู้ให้บริการที่ให้ความคุ้มค่าที่สุดในตลาด ด้วยข้อเสนอแพ็กเกจที่ดึงดูดใจในการใช้บริการโพสต์เพด รวมทั้งท้อปปิ้งแพ็กเกจลูกค้าพรีเพด และบันเดิลแพ็กเกจมือถือและค่าใช้บริการที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับลูกค้า พร้อมกับแคมเปญสนับสนุนมือถือให้ลูกค้าพรีเพด ที่เริ่มแล้วในไตรมาส 2/2559
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของดีแทคเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านเครือข่ายขยายตัวตามการเติบโตของเครือข่าย ค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับระดับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายด้านการอุดหนุนราคาเครื่องโทรศัพท์ของพรีเพดลดลงใน ไตรมาส 1/2559 ส่งผลให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 33.8 ในไตรมาส 1/2559 เปรียบเทียบกับร้อยละ 32.3 ในงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของต้นทุนการให้บริการมีค่าสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุนที่มากขึ้นในการพัฒนาโครงข่ายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายได้ถูกหักล้างบางส่วนจากการลดลงของต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory cost) และภาษีนิติบุคคล ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 45 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2559 ยังคงเดิม โดยพิจารณาจากความไม่แน่นอนของการแข่งขันในตลาด รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบด้วย (1) การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรือคงที่ของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (2) อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) อยู่ในช่วงร้อยละ 27 - 31 และ (3) เงินลงทุนในเครือข่ายและสินทรัพย์อื่นที่ระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า "ดีแทคยินดีที่ได้เห็นรายได้จากการให้บริการดาต้าเพิ่มขึ้นถึงสัดส่วนร้อยละ 50 ของรายได้รวมจากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เป็นครั้งแรก เรามีคลื่นความถี่ที่ถือครองมากเพียงพอในการรองรับการเติบโตของดาต้า สิ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ การทำให้รายได้กลับมาเติบโตอีกครั้ง และการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของรายได้จากการให้บริการ เราวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในโครงข่าย 4G ทั้งบนคลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 2,100 MHz เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทางด้านการใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ยังคงเติบโตอย่างสูง และลงทุนในโครงข่าย 3G ให้ครอบคลุมร้อยละ 95 ของจำนวนประชากร พร้อมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นแพ็กเกจและราคาโทรศัพท์มือถือที่คุ้มค่าด้วย
ในปัจจุบันนี้มีปริมาณคลื่นความถี่ทั้งหมดจำนวน 50 MHz ที่ถือครองอยู่ ซึ่งมากพอสำหรับการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ดีแทคจึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน ดีแทคมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอที่จะรองรับฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีคลื่นความถี่ตามชุดที่ถือครองหมดสัมปทานประมาณปี พ.ศ. 2561 เพิ่มเติมจากคลื่น 2100 MHz ที่ดีแทคยังถือครองใบอนุญาตซึ่งมีอายุใช้งานถึงปี พ.ศ. 2570
dtac reported Q116 earnings per share of THB0.53
April 22, 2016 – dtac reports total revenues and net profit for Q116 of THB21.7 billion and THB1.3 billion, respectively. Revenue from data service reaches 50% of total service revenue excluding IC for the first time, indicating a continuation of strong demand for data service. dtac, with a strong spectrum portfolio of 50MHz bandwidth, is well positioned to capture the growth of data demand and provide best wireless services to its customer base on 2G/3G/4G technologies.
dtac continued to roll out additional 4G/3G coverage, adding approximately 13,000 3G/4G base stations from the same period last year. At the end of Q116, dtac's 4G service covered all 77 provinces. Consequently, network quality and perception have gradually improved along with the expansion of the network. This has resulted in the increase of no. of 4G subscribers to 2.9 million at the end of Q116 from around 1.0 million a year ago. Total subscriber base stood at 25.5 million, 91% of which are registered under DTN.
dtac plans to further strengthen its 4G offering by allocating additional 5MHz of 1800MHz band in selected areas to provide 20MHz bandwidth of 4G-1800MHz service on a single frequency band, which increases data speed. dtac is the only wireless operator in the market that can offer this, and customers with any 4G-enabled devices, not limited to only some high-end models, will be able to enjoy this benefit on dtac network. Furthermore, by the end of Q316, dtac's 4G service is expected to cover all 878 Amphurs throughout Thailand.
Besides network improvements, dtac maintains its value-for-money position by offering its customers the most attractive price plans on postpaid, the best value of topping packages on prepaid, and the best handset bundle packages for our customers. Furthermore, a prepaid handset subsidy campaign will be launched in Q216.
dtac increased spending from a year ago on network operations along with network expansion, and on selling, marketing, and general administrative expenses to address higher level of competition. Handset subsidy, however, was sharply lower due to not subsidizing prepaid handsets in Q116. As a result, EBITDA margin went up to 33.8% in Q116, compared to 32.3% a year ago. Moreover, depreciation and amortization expenses increased due to higher level of investments in the the network. The increase in costs was partly offset by decline in regulatory cost and corporate income tax.Overall, net profit declined 45% from previous year.
Outlook for 2016 remains unchanged and is based on high uncertainty in the market from competition, in addition to weak recovery of the overall economy. The outlook for 2016 is (1) flat/slight increase in service revenue excluding IC from last year, (2) EBITDA margin in the range of 27% - 31%, and (3) similar CAPEX level as last year.
Lars-Ake Norling, dtac's Chief Executive Officer, said "We are pleased to see strong growth in data revenue, which has now surpassed 50% of service revenue excluding IC. We have a strong spectrum portfolio and are well positioned to capture the data growth. Our priority is to bring service revenue growth back and maintain revenue market share. In order to achieve that, we'll keep on expanding 4G network on both 1800MHz and 2100MHz to serve the strong growth in demand for mobile Internet, and 3G network to reach 95% of population. In addition, we'll maintain our value-for-money position on price plans, topping packages, and handset deals.
dtac currently has a very strong spectrum portfolio and is providing the best digital services to our customers. We will not bid for the 900MHz auction at this point in time. However, to ensure our sustainable growth, we have every intent on securing sufficient spectrum we need to serve fast growing demand for data service by the end of concession in 2018, in addition to 2100MHz, which will last until 2027."