ครม. เห็นชอบแผนมุ่งเป้าด้านการวิจัยและพัฒนา วางเป้าหมายเกิดอุตสาหกรรมการผลิตประกอบ และพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศภายในปี 2564
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ แผนมุ่งเป้าด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ พร้อมกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการผลิต ประกอบ และพัฒนาพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2564 ซึ่งแผนนี้จะเป็นกรอบและทิศทางในการทำวิจัย พัฒนา สนับสนุนองค์ความรู้ และสร้างศักยภาพให้ประเทศไทยสามารถผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์สำคัญสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นเองภายในประเทศ ช่วยลดการนำเข้าชิ้นส่วนที่ต้องพึ่งพาต่างประเทศและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยแผนฯ ดังกล่าวมุ่งเน้นให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและทดลองใช้จริงให้ได้ โดยแบ่งเป็น 4 แผนงานวิจัย คือ 1) ด้านแบตเตอรีและระบบจัดการพลังงาน 2) ด้านมอเตอร์และระบบขับเคลื่อน 3) ด้านโครงสร้างน้ำหนักเบาและการประกอบ ซึ่งจะทำให้น้ำหนักรถเบาลง และ 4) ด้านการพัฒนานโยบาย มาตรฐาน และบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรรมยานยนต์ เป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ที่สำคัญในตลาดโลก โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มราว 12.8% ของ GDP แต่อุตสาหกรรมนี้มีการใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อชั้นบรรยากาศค่อนข้างมาก ตั้งแต่การผลิต การใช้งาน จนถึงการทำลายเมื่อหมดอายุ ทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น ประกอบกับความไม่มั่นคงของพลังงาน ทำให้ผู้ผลิตยานยนต์และผู้บริโภคเริ่มสนใจยานยนต์ประหยัดพลังงานเพื่อลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง“ยานยนต์ไฟฟ้า” เป็นยานพาหนะประเภทพลังงานสะอาด สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อย และไม่ปล่อยไอเสียมากขึ้น และเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ของรัฐบาล อีกทั้ง ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 21 ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2558 ประเทศไทยได้แถลงจุดยืนในการประกาศลดก๊าซเรือนกระจกลง 20-25% ภายในปี 2030 โดยอาศัยหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดำเนินงาน มุ่งลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล เปลี่ยนเป็นใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การมีแผนมุ่งเป้าในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และชิ้นส่วนที่ใช้ในยานยนต์ไฟฟ้า การคิดค้นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาเพื่อลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หรือพัฒนาแบตเตอรีที่มีอายุใช้งานได้นาน เพื่อทำให้เกิดอุตสาหกรรมอย่างจริงจังในอนาคต จึงมีความสำคัญ อีกทั้งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ แผนมุ่งเป้าฯ ดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายการวิจัยและพัฒนาของประเทศ ที่กำหนดไว้ที่ 1% ของ GDP และเพิ่มขึ้นเป็น 2% ในปี 2564 อีกด้วย ทั้งนี้ สวทช. จะดำเนินการวิจัยตามแผนมุ่งเป้าฯ นี้ โดยประสานเครือข่ายนักวิจัย ภาคเอกชน และเครือข่ายองค์การบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช) เพื่อเร่งรัดการวิจัยมุ่งเป้าสู่เชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมต่อไป