MSN on February 29, 2016, 08:37:02 AM
โครงการ International Ear Care Day 2016 – การได้ยินมีคุณค่า ต้องรักษาไว้

หลักการและเหตุผล
ด้วยปี 2559 นี้ เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ครบ 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ดำเนินโครงการ “แก้ไขปัญหาการได้ยิน 84 ราย ถวายเป็นพระราชกุศล” เพื่อรณรงค์หารายได้ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่มีปัญหาทางการได้ยินให้ได้รับการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมและมีโอกาสใช้ชีวิตที่เป็นปกติ  และไม่เป็นภาระของสังคม ประกอบกับองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปีเป็น “วันรณรงค์ให้มีการใส่ใจเรื่องการดูแลหู” หรือ “International Ear Care Day” ซึ่งมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกฯ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะ “หู” คืออวัยวะรับเสียงที่สำคัญ เป็นอวัยวะรับสัมผัสที่ทำหน้าที่ ทั้งการได้ยินและการทรงตัว และเป็นพัฒนาการทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แต่ก็ยังมีเด็กที่เกิดมากับความบกพร่องทางการได้ยิน คือ เด็กที่ไม่สามารถได้ยินได้เทียบเท่ากับบุคคลที่มีการได้ยินปกติ ซึ่งจะถือว่าเป็นบุคคลที่สูญเสียการได้ยิน และเป็นสาเหตุของความยากลำบากในการได้ยินเสียงพูดหรือแม้กระทั่งเสียงที่ดังก็ตาม

นอกจากนี้ พัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสารถือเป็นหัวใจสำคัญของพัฒนาการของเด็ก ความบกพร่องทางการได้ยิน และความไม่เข้าใจความต้องการพื้นฐานของเด็กหูหนวกหรือหูตึง ของพ่อแม่ผู้ปกครองตลอดจนคนทั่วไป จึงเปรียบเสมือนกำแพงขวางกั้นพัฒนาการทางสังคม อารมณ์ สติปัญญา และ กีดขวางไม่ให้เด็กได้มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กโดยตรง และส่งผลกระทบไปสู่ปัญหาการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น การแก้ไขปัญหาด้วยความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญ ความบกพร่องทางการได้ยินถือเป็นความผิดปกติที่สามารถหลีกเลี่ยง ป้องกัน และสามารถรักษาได้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ได้แก่ การใส่เครื่องช่วยฟังตั้งแต่เนิ่นๆ หรือได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เช่น การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ควบคู่ไปกับการดูแลเอาใจใส่ทั้งจากครอบครัว โรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญ และแพทย์ โอกาสที่เด็กจะมีพัฒนาการทางด้านภาษา การพูด สังคม และอารมณ์ที่ดีก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย

มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกฯ เล็งเห็นว่าโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ มศว.องครักษ์ เป็นโรงพยาบาลที่มีคนไข้แผนกโสต ศอ นาสิกเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ คือ มีชื่อเสียงในด้านการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมปีละมากกว่าสิบราย จึงได้ขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลฯ จัดทำโครงการ “International Ear Care Day 2016 – การได้ยินมีคุณค่า ต้องรักษาไว้” เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องความสำคัญของการได้ยินแก่พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ให้ได้รับข้อมูล ความรู้ การดูแลรักษา เพื่อให้มีโอกาสใช้ชีวิตที่เป็นปกติและไม่เป็นภาระของสังคมต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ข้อ 3 ที่ว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษา วิจัยโรคเกี่ยวกับหู และการฟื้นฟูสมรรถภาพของคนหูหนวก และพันธกิจข้อ 5 คือการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนหูหนวก หูตึงในสังคม ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกฯ

วัตถุประสงค์
1.   จัดกิจกรรมเสวนาวิชาการ และนันทนาการ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ข้อมูล การดูแลรักษาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน หรือผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่เป็นภาระของสังคม
2.   บริการจดทะเบียนคนพิการ และต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสิทธิประโยชน์ต่อคนพิการ และเป็นข้อมูลสำหรับการรักษาต่อไป
3.   บริการตรวจการได้ยินแก่กลุ่มเสี่ยง เพื่อการรักษาต่อไป
4.   รับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อช่วยเหลือสมทบทุนค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมตามโครงการแก้ไขทางการได้ยิน 84 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลของมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์

กลุ่มเป้าหมาย   
1.   คนไข้จากแผนกโสต ศอ นาสิก แผนกสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา  แผนกกุมารเวชศาสตร์ที่มารับการรักษา
2.   ผู้แทนจากศูนย์การศึกษาพิเศษ
2.1  ศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนกลาง กรุงเทพฯ
2.2  ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
2.3  ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดปทุมธานี
2.4  ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดปราจีนบุรี
2.5  ศูนย์การศึกษาพิเศษมหาจักรีสิรินธร ประจำจังหวัดนครนายก
2.6  ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดสระบุรี
2.7  ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3.  สภาคนพิการทุกประเภท และชมรมคนพิการจังหวัดนครนายก
4.  องค์การบริหารส่วนตำบล และส่วนจังหวัดนครนายก
5.  เหล่ากาชาดจังหวัดนครนายก

กิจกรรมในงาน      
1.    ขบวนพาเหรดศูนย์การศึกษาพิเศษต่างๆ
2.    เสวนาเรื่องความบกพร่องทางการได้ยิน และความสำคัญในการรักษา ฟื้นฟู และการฝึกพูด
3.   นันทนาการสำหรับเด็ก
4.   จดทะเบียนคนพิการ และต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ
5.   บริการตรวจการได้ยิน และแจกแว่นสายตาผู้สูงอายุ

การดำเนินโครงการ   
1.   จัดทำโครงการเสนอเพื่อพิจารณา
2.   ขอใช้สถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรม
3.   ออกหนังสือเชิญวิทยากรร่วมเสวนา เชิญอาสาสมัครร่วมจัดกิจกรรมนันทนาการ เชิญวงโยธวาทิต สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เชิญผู้ร่วมงานหน่วยราชการต่างๆ และสื่อสารมวลชน
4.   จัดการประชาสัมพันธ์ก่อนงาน 
5.   จัดพื้นที่ฐานกิจกรรม และพื้นที่ออกร้าน
6.   จัดหาผู้สนับสนุนการดำเนินงาน
7.   ดำเนินงาน สรุป ประเมินผล และรายงาน

ระยะเวลา   
วันพฤหัสบดีที่ 3 และศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2559

สถานที่      
โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ มศว.องครักษ์

งบประมาณ   
ใช้งบประมาณจากมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในการดำเนินงาน
เป็นเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)

ผู้รับผิดชอบ    
มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกฯ ร่วมกับรพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ มศว.องครักษ์

ผลที่คาดว่าจะได้รับ   
1.   ได้จัดกิจกรรมเสวนาวิชาการ และนันทนาการ เกิดความตระหนักรู้ ให้ข้อมูล การดูแลรักษา ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน หรือผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่เป็นภาระของสังคม
2.   ได้ให้บริการจดทะเบียนคนพิการ และต่ออายุสมุดประจำตัวคนพิการ โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครนายก เพื่อสิทธิประโยชน์ต่อคนพิการ และเป็นข้อมูลสำหรับการรักษาต่อไป
3.   ได้บริการตรวจการได้ยินแก่กลุ่มเสี่ยง เพื่อการรักษาต่อไป
4.   ได้รับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อช่วยเหลือสมทบทุนค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ตามโครงการแก้ไขทางการได้ยิน 84 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลของมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์
« Last Edit: February 29, 2016, 03:21:12 PM by MSN »