Hail, Caesar!
ชื่อไทย กองถ่ายป่วน ฮากวนยกกอง
วันที่เข้าฉาย 3 มีนาคม 2559
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัดHail, Caesar! กองถ่ายป่วน ฮากวนยกกอง ผลงานล่าสุดของพี่น้องโคเอนที่จัดเต็มนักแสดงชั้นนำจากฮอลลีวูด
เมื่อซุปตาร์ที่โด่งดังที่สุดของโลกเกิดหายตัวไป และคนที่จับตัวเขาไปเรียกเงินค่าไถ่ก้อนโตเพื่อให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย
งานนี้ต้องใช้พลังของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่คับฮอลลีวู้ดมาช่วยไขปริศนาการหายตัวไปในครั้งนี้ และคนที่จะนำพาคนดูฝ่ามุขฮา
พร้อมกระชากม่านเปิดโปงฮอลลีวู้ดด้วยอารมณ์ขันที่ยากจะคาดเดา และแฉเรื่องดราม่าเบื้องลึกในวงการก็คือ
โจเอล และ อีธาน โคเอน เจ้าของรางวัลออสการ์ 4 สมัย ที่เคยมีผลงานอย่าง No Country for Old Men, True Grit และ Fargo
กลับมารับหน้าที่กำกับ ที่ต้องบอกเลยว่าผลงานเรื่อง Hail, Caesar! คืองานที่สร้างสรรค์ที่สุดของพวกเขาแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้รวบรวมทีมนักแสดงระดับสุดยอดฝีมือโดย จอช โบรลิน (No Country for Old Men), ดาราหนุ่มใหญ่เจ้าของรางวัลออสการ์ จอร์จ คลูนีย์ (Gravity),
อัลเด้น อีห์เรนริค (Blue Jasmine), เรลฟ์ ไฟนน์ส (The Grand Budapest Hotel), โจนาห์ ฮิลล์ (The Wolf of Wall Street), สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน (Lucy),
เจ้าของรางวัลออสการ์ ฟรานเซส แม็คดอร์แมนด์ (ผลงานทาง HBO เรื่อง Olive Kitteridge),
เจ้าของรางวัลออสการ์ ทิลด้า สวินตัน (Michael Clayton) และแชนนิ่ง ทาทั่ม (Magic Mike) เกี่ยวกับภาพยนตร์
สองผู้กำกับเจ้าของสี่รางวัลออสการ์ โจล โคเอน และอีธาน โคเอน (No Country for Old Men, True Grit, Fargo) เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง Hail, Caesar! ภาพยนตร์ตลกรวมดาราที่นำทีมนักแสดงระดับสุดยอดฝีมือโดย จอช โบรลิน (No Country for Old Men), ดาราหนุ่มใหญ่เจ้าของรางวัลออสการ์ จอร์จ คลูนีย์ (Gravity), อัลเด้น อีห์เรนริค (Blue Jasmine), เรลฟ์ ไฟนน์ส (The Grand Budapest Hotel), โจนาห์ ฮิลล์ (The Wolf of Wall Street), สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน (Lucy), เจ้าของรางวัลออสการ์ ฟรานเซส แม็คดอร์แมนด์ (ผลงานทาง HBO เรื่อง Olive Kitteridge), เจ้าของรางวัลออสการ์ ทิลด้า สวินตัน (Michael Clayton) และแชนนิ่ง ทาทั่ม (Magic Mike)
เมื่อซุปตาร์ที่โด่งดังที่สุดของโลกเกิดหายตัวไป และคนที่จับตัวเขาไปเรียกเงินค่าไถ่ก้อนโตเพื่อให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย งานนี้ต้องใช้พลังของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่คับฮอลลีวู้ดมาช่วยไขปริศนาการหายตัวไปในครั้งนี้ และคนที่จะนำพาคนดูฝ่ามุขฮา พร้อมกระชากม่านเปิดโปงฮอลลีวู้ดด้วยอารมณ์ขันที่ยากจะคาดเดา และแฉเรื่องดราม่าเบื้องลึกในวงการก็คือ พี่น้องโคเอน ที่ต้องบอกเลยว่าผลงานเรื่อง Hail, Caesar! คืองานที่สร้างสรรค์ที่สุดของพวกเขาแล้ว
งานของ เอ็ดดี้ แมนนิกซ์ (โบรลิน) ในตำแหน่งฝ่ายแก้ปัญหาประจำสตูดิโอ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง เมื่อเขาต้องรุดไปยังที่เกิดเหตุ ล่วงหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้หนึ่งในดาราชื่อดังค่าตัวแพงของค่ายแคปปิตอล พิคเจอร์ส ต้องโดนจับในข้อหาผิดจริยธรรม งานเขาไม่มีวันน่าเบื่อ ทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา
หนังแต่ละเรื่องที่สตูดิโอเจ้านี้สร้างออกมา ล้วนมาพร้อมปัญหาน่าปวดหัว และแมนนิกซ์มีหน้าที่หาทางออกให้กับหนังทุกเรื่อง เขาคือคนที่ใช่เมื่อถึงเวลาต้องล่าลายเซ็นของผู้นำศาสนาเมื่อคิดจะสร้างหนังเอพิคที่ว่าด้วยเรื่องศาสนา รวมถึงเวลาที่ผู้กำกับขาวีน ลอว์เรนซ์ ลอว์เรนต์ซ (ไฟนน์ส) เกิดป๊อดที่ต้องให้ดาราหนังคาวบอย โฮบี้ ดอยล์ มาแสดงในหนังดราม่าเรื่องใหม่ล่าสุดของแคปปิตอล
ขณะที่ต้องเร่งรีบจัดการปัญหามากมาย ตั้งแต่ปัญหาเร่งด่วนของดาราเรื่องมาก จนถึงปัญหาอื่นๆ แมนนิกซ์ไม่เพียงแต่ต้องคิดหาวิธีที่เป็นมิตรกับสื่อเพื่อทำให้ ดีแอนนา โมแรน (โจแฮนส์สัน) หาทางออกให้กับปัญหาส่วนตัวเท่านั้น เขายังต้องหาต้นสายปลายเหตุของพฤติกรรมน่าสงสัยล่าสุดของซุปตาร์นักร้องนักเต้น เบิร์ต เกอร์นี่ย์ (แชนนิ่ง ทาทั่ม) อีกต่างหาก
ราวกับปัญหาของพวกเซเล็บอีโก้จัดจะสร้างความปวดหัวให้ไม่พอ แมนนิกซ์ยังต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานของเขา นั่นคือ หนึ่งในผู้โกยเงินก้อนโตที่สุดให้กับทางสตูดิโอแห่งนี้ อย่าง แบรด วิทล็อค (จอร์จ คลูนี่ย์) ดันถูกลักพาตัวไประหว่างกำลังถ่ายทำหนังเอพิคฟันดาบเรื่องล่าสุดเรื่อง Hail, Caesar! โดยมีกลุ่มคนลึกลับที่เรียกตัวเองว่า “แก๊งอนาคต” อ้างว่าเป็นคนลักพาตัวแบรดไป ถ้าทางสตูดิโอไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ $100,000 ดอลล่าร์ ก็เซย์กู้ดบายบอกลาตัวทำเงินทำทองได้เลย
นอกจากจะต้องเผชิญกับปัญหาแล้วปัญหาเล่า แมนนิกซ์ยังต้องคอยควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลที่จะกันชื่อของบรรดาดาราในสังกัดให้พ้นจากคอลัมน์ซุบซิบของพี่น้องคู่ปรับอย่าง ธอร่าและเธสซาลี แธ็คเกอร์ (ทิลด้า สวินตัน) อย่างน้อยก็ขอให้ชื่อของพวกเขาไม่ต้องตกเป็นข่าวนั่งเทียนเขียน เพราะเขาไม่คิดจะไปโปรโมทดารากับคนอ่านคอลัมน์ของสองพี่น้องคู่นี้อยู่แล้ว
สำหรับนักแก้ปัญหาผู้นี้ นี่คืองานในหนึ่งวันของเขา
ภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย โจลและอีธาน โคเอน ผ่านบริษัท ไมก์ ซอสส์ โปรดักชั่นส์ของพวกเขา โดยเป็นการทำงานร่วมกับ ทิม บีแวน และเอริค เฟลล์เนอร์ (The Theory of Everything, Les Misérables) จาก เวิร์กกิ้ง ไทเทิ้ล ฟิลม์ส ซึ่งร่วมงานกับสองพี่น้องมาตั้งแต่ผลงานคว้ารางวัลออสการ์อย่างเรื่อง Fargo
ที่เข้ามาร่วมงานหลังกล้องร่วมกับพี่น้องโคเอน ก็คือ ทีมงานที่ร่วมงานกันมานาน รวมถึงทีมงานหน้าใหม่อีกมากมาย นำทีมโดยผู้กำกับภาพที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 13 รางวัล โรเจอร์ ดีกิ้นส์ (No Country for Old Men, Skyfall), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ เจสส์ กอนชอร์ (A Serious Man, True Grit), ผู้ลำดับภาพ โรเดอริค เจย์เนส (No Country for Old Men, True Grit), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แมรี่ โซเฟรส (No Country for Old Men, Interstellar) และผู้แต่งดนตรีประกอบ คาร์เตอร์ เบอร์เวลล์ (True Grit, Carol). Hail, Caesar! อำนวยการสร้างบริหารโดย โรเบิร์ต กราฟ (No Country for Old Men, True Grit)ขอต้อนรับสู่ฮอลลีวู้ด:
Hail, Caesar! เริ่มต้น
Hail, Caesar! ถือเป็นงานยกย่องยุคทองของฮอลลีวู้ด เป็นการแสดงความรักต่อระบบสตูดิโอที่ประดับแต่งเติมไปด้วยธาตุแท้ที่เจือไปด้วยความรัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเฉลิมฉลองให้กับโรงงานผลิตความฝัน ขณะเดียวกันก็ดึงม่านเพื่อเผยให้เห็นถึงการทำงานในแวดวงในของวงการหนังในยุครุ่งเรืองที่ความจริงอาจไม่ได้สวยหรู
ภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้วางเหตุการณ์เอาไว้ในช่วงต้นทศวรรษ 1950s เป็นยุคสมัยที่โฉมหน้าที่ดูหรูหรางดงามของวงการภาพยนตร์ เริ่มฉายแววแตกแยก เมื่อสตูดิโอใหญ่ๆ ถูกบีบให้ต้องปลดตัวเองออกจากโรงหนัง และต้องเผชิญหน้ากับการเติบโตอย่างรวดเร็วของคู่แข่งชนิดใหม่ นั่นก็คือ ทีวี พวกเขายังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านการเมืองและสังคมในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงความบ้าคลั่งต่อแนวคิดผวาแดง และสงครามเย็น
ฮอลลีวู้ดตอบโต้ภัยคุกคามเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือจินตนาการ ด้วยการจัดหาความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ จัดจ้าน และหลุดโลก นั่นคือภาพยนตร์เอพิคแบบจอกว้าง มีนักแสดงนับพัน รวมถึงภาพยนตร์เพลงเทคนิคคัลเลอร์ และภาพยนตร์ที่ให้ภาพใต้น้ำอันน่าตื่นตาสไตล์ บัสบี้ เบิร์กเล่ย์ รวมไปถึงภาพยนตร์คาวบอยและภาพยนตร์ดราม่าที่มีเนื้อหาน่าติดตาม
เครื่องยนต์ที่มีน้ำมันหล่อลื่นอย่างดีก็ไม่ต่างจากองค์กรที่มีบรรดาเจ้านายใหญ่ของสตูดิโอเป็นผู้สั่งการควบคุมทุกแง่มุมในชีวิตของศิลปินในสังกัดทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว หน้าที่การงานมีคนวางแผนและจัดการดูแลอย่างดี พวกดาราซุปตาร์จะมีคนคอยบอกว่าพวกเขาจะต้องเล่นหนังเรื่องอะไร จะแต่งตัวยังไง และจะออกเดทกับใคร และถ้ามีนักแสดงเกิดอารมณ์เสียหรือหัวแข็งขึ้นมา ทางสตูดิโอจะว่าจ้างนักแก้ปัญหาเพื่อมาจัดการเรื่องปวดหัวเหล่านี้ หรือเก็บปัญหาให้พ้นจากสายตาประชาชน
ไม่ว่าต้องเสียเงินสักเท่าไหร่ก็ยอม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของความหรูหรางดงามที่เป็นเพียงภาพลวงตาเอาไว้
“ทุกวันนี้ พวกเราคุ้นเคยดีกับการได้รู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกนักแสดง และคนดัง และการขุดคุ้ยเจาะลึกลงไปในความจริงที่ถูกปกปิดไว้ในชีวิตของพวกเขา” สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน ผู้รับบทเป็น ดีแอนนา โมแรน ดาราดังที่มีรูปแบบคล้ายกับ เอสเธอร์ วิลเลี่ยมส์ ตั้งข้อสังเกต “ย้อนกลับไปในสมัยนั้น ประชาชนทั่วไปอยากจะเชื่อว่าอันที่จริงแล้ว ดาราก็ดูน่ายกย่องสวยหรูอย่างที่เห็นบนจอหนัง ทางสตูดิโอจึงทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง "ถ้วยเกียรติยศ" ของพวกเขาเอาไว้ในระบบแบบนั้น พวกดาราก็เหมือนกับทรัพย์สิน ที่ต้องอยู่ภายใต้สัญญาตลอดไป และสามารถจะกู้ยืมกันได้ตลอดเวลา ระบบแบบนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในทางหนึ่ง พวกเขาได้รับการดูแล และในอีกทางหนึ่ง มันก็ทำให้รู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน”
ย้อนกลับไปสมัยนั้น พวกดาราดังๆ จะได้รับการปกป้องดูแลโดยคนอย่าง เอ็ดดี้ แมนนิกซ์ ซึ่งเป็นมือแก้ปัญหาให้กับบริษัทแคปปิตอล พิคเจอร์ส บริษัทสร้างหนังตามท้องเรื่อง ตัวละครตัวนี้เป็นการผสมผสานลักษณะของ เอ็ดดี้ แมนนิกซ์ ตัวจริง กับฮาวเวิร์ด สตริคลิ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นนักแก้ปัญหาแบบเดียวกันให้กับค่ายเอ็มจีเอ็ม แมนนิกซ์ที่เคยเป็นนักเลงมาก่อน ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการแก้ปัญหา ตั้งแต่การกระทำความผิดเล็กน้อยทางเพศ จนถึงต้องเกลี้ยกล่อมผู้นำทางศาสนาให้เห็นดีเห็นงามยอมอนุมัติงานสร้างหนังเกี่ยวกับศาสนาเรื่องล่าสุด อีธาน โคเอนออกมาอธิบายเรื่องนี้ว่า “งานของเขาคือการตามหาตัวดาราดังที่ไปเมาแอ๋อยู่ที่ซานดีเอโก้ พาตัวเขากลับมา และจ่ายเงินค่าปิดปากให้ทุกคนที่เขามีเรื่องด้วย หรือหาคนที่จริงๆ แล้วเป็นเกย์ ให้มาแต่งงานด้วย”
ไอเดียที่กลายมาเป็น Hail, Caesar! เกิดขึ้นเมื่อกว่าหนึ่งทศวรรษก่อน ตามที่ จอร์จ คลูนี่ย์ นักแสดงหนุ่มใหญ่เจ้าของรางวัลออสการ์ ผู้รับบทเป็น แบรด วิทล็อค ดาราที่เอาแต่ใจตัวเอง และเป็นดารานำของภาพยนตร์เอพิคเชิงศาสนาเรื่อง Hail, Caesar! ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย บอก
คลูนี่ย์ยังแสดงนำอยู่ในภาพยนตร์อีกเรื่องของพี่น้องโคเอน ตอนที่ผู้กำกับสองพี่น้อง พูดจาทาบทามเขา “ในเวลานั้น” คลูนี่ย์เล่า “พวกเขาถามว่าผมอยากแสดงเป็นนักแสดงที่โดนลักพาตัวไหม พวกเขามีพลอตเขียนมาสามหน้ากระดาษ และมีประโยคพูดเด็ดๆ อยู่ไม่กี่ประโยค มีเท่านั้นแหละ แน่นอน ผมตอบ ‘ตกลง’”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมื่อมีนักข่าวถามคลูนี่ย์เกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขา เขามักจะพูดถึงเรื่อง Hail, Caesar! “มันมีให้อ่านกันใน IMDB ด้วย” คลูนี่ย์เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ “แต่เรื่องของเรื่องก็คือ เรายังไม่มีบทด้วยซ้ำไป”
โจล โคเอน ยืนยันเรื่องที่คลูนี่ย์เล่า “เป็นเรื่องจริงครับ ในที่สุด เราก็รู้สึกผิด เราเลยตัดสินใจที่จะนั่งลงและลงมือเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา อีกอย่าง มันก็ถึงเวลาแล้ว ถ้าเรารอนานกว่านี้ ทุกคนที่เราอยากให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ก็คงจะแก่เกินไปสำหรับบทต่างๆ ที่เราหมายตาพวกเขาไว้”
ในเวลาเดียวกัน เมื่อพวกเขาใส่แง่มุมเรื่องความหน้าไหว้หลังหลอกของระบบสตูดิโอเข้าไป พี่น้องโคเอนได้แสดงให้เห็นถึงความนับถืออันยิ่งใหญ่และความชื่นชมที่มีต่อความเป็นมืออาชีพและความมีฝีมือที่เป็นคุณลักษณะเด่นของยุคทองของฮอลลีวู้ด ด้วยการมองผ่านภาพยนตร์ที่หลากหลายที่ถ่ายทำกันที่โรงถ่ายของแคปปิตอล และที่ถ่ายทำกันตามโลเกชั่นทั้งในและรอบๆ ลอสแองเจลิส เราได้ติดตามชีวิตทั้งหน้าจอและนอกจอของบรรดาผู้คนที่แมนนิกซ์ต้องทำหน้าที่ปกป้อง
สำหรับหน้าที่ของเขา เอริค เฟลล์เนอร์ จากเวิร์กกิ้ง ไทเทิ้ล รู้สึกพอใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่น้องโคเอนอีกครั้ง เขาบอกว่า “ทิมกับผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้ทำงานกับโจลและอีธานมานานหลายปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นสุดยอดของผลงานของพวกเขาเท่านั้น แต่มันยังแสดงให้เห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อวงการนี้ ไม่น่าแปลกใจที่มีนักแสดงที่พวกเขาชื่นชอบมากมายกลับมาร่วมงานกับพวกเขา และเราก็รู้สึกยินดีกับความใส่ใจต่อเนื้อเรื่องอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงฝีไม้ฝีมือที่พวกเขากระทำอย่างที่หาใครเทียบไม่ได้”