happy on February 01, 2016, 08:43:09 PM

13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi
ชื่อไทย               13 ชั่วโมงทหาลับแห่งเบนกาซี
วันที่เข้าฉาย          28 มกราคม 2559
จัดจำหน่าย           บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด


พาราเมาท์ พิคเจอร์ส
ภูมิใจเสนอ
ผลงานสร้างโดย ธรี อาร์ตส์ เอนเตอร์เทนเมนต์/เบย์ ฟิล์มส์ โปรดักชัน
ภาพยนตร์โดยไมเคิล เบย์

ผู้ควบคุมงานสร้าง:    สก็อต การ์เดนเอาเออร์ (Scott Gardenhour ), ริชาร์ด อาเบท (Richard Abate), แมทธิว โคฮัน (Matthew Cohan)
อำนวยการสร้างโดย:       เออร์วิน สตอฟฟ์ (Erwin Stoff), ไมเคิล เบย์ (Michael Bay)
บทภาพยนตร์โดย:    ชัค โฮแกน (Chuck Hogan)
กำกับโดย:       ไมเคิล เบย์ (Michael Bay)
นักแสดง:       เจมส์ แบดจ์ เดล (James Badge Dale), จอห์น คราซินสกี้ (John Krasinski), แม็กซ์ มาร์ตินี (Max Martini), พาโบล ชไรเบอร์ (Pablo Schreiber), โทบี้ สตีเฟนส์ (Toby Stephens), โดมินิค ฟูมูซา (Dominic Fumusa), แมทท์ เล็ทเชอร์ (Matt Letscher), เดวิด เดนแมน (David Denman), เดวิด คอสตาไบล์ (David Costabile), เดวิด กวินโตลี (David Giuntoli), เดเมเทรียส กรอส (Demetrius Gross), อเล็กเซีย บาร์เลียร์ (Alexia Barlier)


เรื่องย่อ: “13 Hours:  The Secret Soldiers of Benghazi” จากผู้กำกับไมเคิล เบย์ เป็นเรื่องจริงสุดระทึกของอดีตทหารปฏิบัติการระดับสูงหกนายที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มครองหน่วยซีไอเอ ผู้ต้องต่อสู้กับคลื่นศัตรูที่มากมายเกินจะรับมือไหวเมื่อผู้ก่อการร้ายบุกจู่โจมสถานทูตสหรัฐในวันที่ 11 กันยายน ปี 2012 ในตอนที่สถานการณ์ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด ชายทั้งหกคนนี้กลับกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง สร้างขึ้นจากหนังสือนอนฟิคชันเรื่อง “13 Hours” โดยมิทเชล ซัคคอฟฟ์ นักเขียนเบสต์เซลเลอร์ของนิวยอร์ก ไทม์และสมาชิกของทีมรักษาความปลอดภัยแอนเน็กซ์

เกี่ยวกับวีรบุรุษตัวจริง

                  มาร์ค “ออซ” ไกสต์ (Mark “Oz” Geist)

                  มาร์ค “ออซ” ไกสต์ เป็นสมาชิกของทีมรักษาความปลอดภัยพิเศษที่ต่อสู้ในสงครามเบนกาซี ประเทศลิเบีย ในช่วงวันที่ 11-12 กันยายน ปี 2012 ไกสต์ ชาวโคโลราโด้ ได้รับใช้กองทัพเรือสหรัฐฯในปี 1984 ระหว่างที่เขาประจำการนั้น เขาได้ประจำอยู่ที่โรงทหารในฟิลิปปินส์ ตามด้วยกองพันทหารราบที่สอง กรมนาวิกโยธินที่เก้า หน่วยกอล์ฟ รวมถึงหมวดการลาดตระเวนและค้นหาเป้า หลังจากนั้น เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรนักเรียนทหารนาวิกโยธินที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในฐานะครูสอนวิชาการตอบโต้การก่อการร้าย หลังจากสิ้นสุดการประจำการและการกลับเข้าประจำการอีกครั้ง เขาก็ได้เปลี่ยนสายงานของเขาไปสู่งานข่าวกรอง โดยเขาชำนาญด้านการแปลการไต่สวนเป็นพิเศษ เขาได้เข้าเรียนโรงเรียนภาษา ที่ซึ่งเขาศึกษาภาษาเปอร์เซีย ฟาร์ซี

            หลังจากประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯนานสิบสองปี เขาก็ได้ดำรงตำแหน่งรองนายอำเภอในเทลเลอร์ เคาน์ตี้ รัฐโคโลราโด้ ในตำแหน่งดังกล่าว เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานกับหน่วยข่าวกรองและปราบปรามยาเสพติดในเขตโคโลราโด้ สปริงส์ รัฐโคโลราโด้ รวมถึงเป็นผู้สืบสวนคดีอาชญากรรมที่กระทำกับเด็ก ไกสต์ ผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้สัมภาษณ์นิติเวชสำหรับเด็ก ได้สืบสวนคดีการกระทำทารุณต่างๆ ที่เขาช่วยทำให้เกิดการลงโทษผู้กระทำผิด หลังจากนั้น เขาก็รับตำแหน่งสารวัตรตำรวจในเมืองฟาวเลอร์ รัฐโคโลราโด้ หลังจากออกจากกรมตำรวจฟาวเลอร์แล้ว เขาก็เริ่มต้นธุรกิจด้านการสืบสวนภาคเอกชนรวมถึงการล่าค่าหัวและการเป็นนายประกัน

            ในปี 2014 ไกสต์เริ่มทำงานรักษาความปลอดภัยตามสัญญาจ้างในอิรัก เขาทำงานให้กับทริปเปิล คาโนปี ที่จัดหาทีมคุ้มครองบุคลากรของกระทรวงต่างประเทศในเมืองบูคูบา ประเทศอิรัก หลังจากจบสัญญาครั้งนั้น เขาก็ทำงานให้กับยูซิส หรือยูไนเต็ด สเตทส์ อินเวสติเกทีฟ เซอร์วิสเซส ที่ฝึกฝนหน่วยสวาทของอิรักและทีมคุ้มครอง นอกจากนี้ เขายังเป็นอาจารย์/ที่ปรึกษาให้กับทีมคุ้มครองดร.อายัด อัลลาวี อดีตนายกรัฐมนตรีของอิรักอีกด้วย

            เขายุติการทำงานในฐานะผู้รักษาความปลอดภัยรับจ้างในเมืองเบนกาซี ประเทศลิเบีย ที่ซึ่งเขาได้รับการยกย่องว่ามีส่วนในการช่วยชีวิตชาวอเมริกันกว่า 25 คน ไกสต์ยังคงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับจากการสู้รบครั้งนั้น เขาเป็นผู้เขียนร่วมของหนังสือเบสต์เซลเลอร์เรื่อง “13 Hours: The Inside Account of What Really Happened in Benghazi”


                  คริส “แทนโต้” พารอนโต้ (Kris “Tanto” Paronto)

                  คริส “แทนโต้” พารอนโต้ ตามที่เขาเป็นที่รู้จักในแวดวงรับจ้างรักษาความปลอดภัย เป็นอดีตทหารเรนเจอร์จากกองพันทหารราบที่สอง กรมเรนเจอร์ที่ 75 และผู้รับจ้างรักษาความปลอดภัยส่วนบุคลที่ออกปฏิบัติการทั่วทั้งอเมริกาใต้ อเมริกากลาง ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ นอกจากนี้ เขายังได้ร่วมงานกับหน่วยโกลบอล เรสปอนซ์ สตาฟฟ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำการรักษาความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมความเสี่ยงสูงทั่วโลกอย่างลับๆ

            พารอนโต้เป็นส่วนหนึ่งของทีมรักษาความปลอดภัยพิเศษของซีไอเอ ที่ตอบโต้การโจมตีของผู้ก่อการร้าย ในเมืองเบนกาซี ประเทศลิเบีย ในวันที่ 11 กันยายน ปี 2012 และช่วยชีวิตคนกว่า 20 ชีวิตระหว่างที่ต่อสู้ผู้ก่อการร้ายจากส่วนเสริมของอาคารซีไอเอตลอดระยะเวลา 13 ชั่วโมง เรื่องราวของเขาได้รับการบอกเล่าในหนังสือเรื่อง  “13 Hours” ที่เขียนโดยซัคคอฟฟ์และสมาชิกทีมรักษาความปลอดภัยพิเศษอีกห้าคนที่ยังรอดชีวิตของเขา

            พารอนโต้เกิดในเมืองอลาโมซา รัฐโคโลราโด้และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยรัฐเมซาในแกรนด์ จังค์ชัน รัฐโคโลราโด้และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยแห่งเนบราสกาที่โอมาฮา เขารับใช้กองทัพนานสี่ปี และประจำการอยู่ในกองกำลังรักษาดินแดนสหรัฐฯอีกสี่ปีจนได้รับยศสิบโท ก่อนจะได้เลื่อนยศเป็นทหารสัญญาบัตรในปี 2003 เขาเริ่มต้นทำงานรับจ้างกับแบล็ควอเตอร์ ซีเคียวริตี้ คอนซัลติ้งในปี 2003 และได้ทำงานตามสัญญารักษาความปลอดภัยรับจ้างหลายครั้ง รวมถึงโกลบอล เรสปอนซ์ สตาฟฟ์จนกระทั่งปี 2013

            เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีและการมีส่วนร่วมของเขาและทีมของเขาในการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯในวันที่ 11 กันยายน ปี 2012 ในเมืองเบนกาซี ประเทศลิเบีย ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาชีวิตและทรัพย์สินของชาวอเมริกาเอาไว้ได้ เขาเป็นผู้นำ เพื่อนร่วมทีมและเพื่อนของผู้ที่ออกปฏิบัติการร่วมกับเขา และเป็นพ่อผู้แสนดีสำหรับภรรยาที่น่ารักและลูกๆ ที่น่าทึ่งสามคน


                  จอห์น “ทิก” ทีเกน (John “Tig” Tiegen)

                  จอห์น “ทิก” ทีเกน เกิดปี 1976 เขาเป็นอดีตสิบเอกแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯจากโคโลราโด้ ผู้ทำงานรับจ้างให้กับแบล็ควอเตอร์นานหลายปี เขาทำงานให้กับบริษัทในภารกิจที่อัฟกานิสถาน ปากีสถานและอิรัก ก่อนจะทำงานให้กับโกลบอล เรสปอนซ์ สตาฟฟ์ของซีไอเอ

            คุณพ่อของทารกฝาแฝด ผู้เงียบขรึมและแม่นยำ กำลังอยู่ระหว่างการทำงานครั้งที่สามในเมืองเบนกาซี ประเทศลิเบีย สำหรับจีอาร์เอสของซีไอเอ ในตอนที่เกิดการโจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2012 เขาเป็นผู้มีประสบการณ์สูงสุดในเมืองและมีส่วนช่วยชีวิตผู้คนมากมายและได้ช่วยเหลือชีวิตสมาชิกในทีมของเขาสามคนโดยตรง ทีเกนได้รับรางวัลวีรกรรมความกล้าหาญจากความกล้าหาญของเขา

           เขาเป็นผู้ร่วมเขียนหนังสือเรื่อง 13 Hours กับสมาชิกของทีมรักษาความปลอดภัยพิเศษและมิทเชล ซัคคอฟฟ์ นักเขียนเบสต์เซลเลอร์ของนิวยอร์ก ไทม์
« Last Edit: February 01, 2016, 08:49:59 PM by happy »