MSN on February 12, 2016, 09:07:13 AM
ภาพข่าว: เปิดงาน “JAPAN EXPO IN THAILAND 2016” รวมทุกเสน่ห์ของญี่ปุ่นมาไว้ในงานเดียว



          ศูนย์การค้าสยามพารากอน-นายทากุโอะ ฮาเซกาวา (ซ้าย) ประธานกรรมการบริษัท ไลท์เฮ้าส์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารสถาบันสอนภาษาและศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น พร้อมด้วย นายชิเกคิ โคบายาชิ (กลาง) ผู้อำนวยการสำนักข่าวสารญี่ปุ่นและที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายโนบูยูกิ อิชิอิ  (ที่ 2 จากขวา) เลขาธิการหอการค้าญี่ปุ่น- กรุงเทพ ร่วมพิธีเปิดงาน "JAPAN EXPO IN THAILAND 2016" ซึ่งเป็นมหกรรมสานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทย ที่รวบรวมทุกเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นมาไว้ในงานเดียว ทั้งความรู้ ความบันเทิง การศึกษา สมัครงาน ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น และเทคโนโลยี จัดขึ้นที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
 
« Last Edit: February 16, 2016, 03:21:41 PM by MSN »

MSN on February 17, 2016, 05:33:16 AM
เจเอ็ดดูเคชั่น เปิดมหกรรมสานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นครั้งใหญ่แห่งปี



          เจเอ็ดดูเคชั่น ผนึก หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ และคณะกรรมการจัดงาน "JAPAN EXPO IN THAILAND 2016" (เจแปน เอ็กซ์โป อิน ไทยแลนด์ 2016) เดินหน้าเปิดฉากมหกรรมสานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ระดมผู้ประกอบการญี่ปุ่นชั้นนำมาร่วมโชว์ศักยภาพ ครบทุกด้านทั้งการศึกษา สมัครงาน บันเทิง ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว อาหารแฟชั่น และเทคโนโลยี คาดปีนี้มีผู้สนใจร่วมงานมากกว่า 100,000 คน

          นายทากุโอะ ฮาเซกาวา ประธานกรรมการบริษัท ไลท์เฮ้าส์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารสถาบันสอนภาษาและศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น กล่าวว่า การจัดงาน "JAPAN EXPO IN THAILAND 2016" เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด "การอยู่ร่วมกัน" เพื่อฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครบรอบ 129 ปีในปีนี้ อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีของทั้งสองประเทศในการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

          "ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นรุ่นใหม่จำนวนมากให้ความสนใจดำเนินธุรกิจร่วมกับคนไทย โดยเปิดรับนักเรียนไทยที่มีความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่นเข้าทำงานที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้การทำงานอย่างรอบด้าน แล้วจึงส่งมาประจำที่บริษัทสาขาในประเทศไทย ในระดับบริหารซึ่งเป็นตำแหน่งงานที่มีอัตราความต้องการมากที่สุด ดังนั้น การจัดงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2016 ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การทำงานรวมถึงเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาช่องทางในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทญี่ปุ่นรุ่นใหม่ต่อไป โดยคาดว่าในปีนี้จะได้รับความสนใจจากทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเข้าชมงานกว่า 100,000 คน" นายทากุโอะ กล่าว

          สำหรับจุดเด่นของงาน "JAPAN EXPO IN THAILAND 2016" คือ เป็นมหกรรมสานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และเป็นงานเดียวที่ได้รวบรวมทุกเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งด้านการศึกษา สมัครงาน บันเทิง ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น และเทคโนโลยี มาให้คนไทยได้สัมผัสและเรียนรู้อย่างใกล้ชิด ในระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2559 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีไฮไลต์ที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่

          โซนการศึกษา ซึ่งรวบรวมสถาบันการศึกษาทุกระดับชั้นจากญี่ปุ่น มากกว่า 40 สถาบัน มาให้ข้อมูลการศึกษาและทุนต่างๆ อย่างละเอียด อาทิ บูธสำนักข่าวสารญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย , มหาวิทยาลัยสตรีคัสซุย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหญิงชื่อดังจากนางาซากิ, สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นอินเตอร์คัล เป็นสถาบันสอนภาษาเก่าแก่ใจกลางโตเกียว เป็นต้น

          โซนการทำงาน โดยร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ในการเชิญบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำในประเทศไทย กว่า 60 บริษัท อาทิ เอพี ฮอนด้า, แคนนอน กรุ๊ป, พานาโซนิค กรุ๊ป และธนาคารมิซูโฮ เป็นต้น มาเปิดรับสมัครงานมากกว่า 10,000 อัตรา

          ไฮไลต์ในโซนท่องเที่ยว พบกับบูธของสำนักงานจังหวัดและเมืองต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่น ที่มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินและบัตรโดยสารรถไฟ (JR Pass) พร้อมนำเสนอไฮไลต์กับการจำลองบรรยากาศอาคารไม้หลังเล็กของสถานีรถไฟโคฟุคุ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของฮอกไกโด โดยเฉพาะคู่รักหนุ่มสาวที่มักจะควงคู่กันมาติดคำอธิษฐานขอพรให้ความรักสุขสมหวัง

          เอาใจนักช้อปกับโซนช้อปปิ้งและอาหาร ที่ครบครันไปด้วยสินค้าแฟชั่น ความงาม อาหาร วัตถุดิบและเครื่องปรุงรวมถึงฮอตไอเท็มต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น โดยยกขบวนอาหารญี่ปุ่นและอาหารทะเลมาให้เลือกชิมกว่า 17 บูธ อาทิ เมนูพิเศษ "คาซาริ มากิ ซูชิ" ที่ใช้วัตถุดิบจากแต่ละท้องถิ่นของไทย ลิ้มรสปูเบนิซึไวงานิ ปลาฮาตะฮาตะ และปลาโนโดะงุโระ ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นสูงที่หาทานได้ยาก ปลามากุโระที่แล่ให้ชมแบบสดๆ รวมทั้งยังมีขนมหวานแบรนด์ Shiroi Koibito ซึ่งเป็นขนมชื่อดังจากเมือง ซัปโปโร ที่นอกจากจะเสิร์ฟความอร่อยแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์กช้อปต้อนรับวาเลนไทน์กับการแต่งหน้าคุกกี้ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก

          ในส่วนของโซนมัลติมีเดียและไอที ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัย ชูไฮไลต์ "RoBoHon" หุ่นยนต์สมาร์ทโฟนอัจฉริยะ นวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่นที่นำมาโชว์ตัวในไทยเป็นครั้งแรก โดยถูกออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ สามารถสั่งงานด้วยเสียง สื่อสารผ่านการพูดคุย และทำงานเป็นผู้ช่วยได้อีกหลายด้าน สำหรับสาวกเกมเมอร์ต้องไม่พลาดความสนุกกับตู้เกมซาวน์โวลเท็กซ์ (SOUND VOLTEX) และมิวเซก้า (MÚSECA) โดยบริษัท KONAMI ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่นำมาให้ทดลองเล่นฟรีในเมืองไทยเป็นครั้งแรก

          นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่างๆ บนเวที ได้แก่ การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินญี่ปุ่นหลากหลายแนว อาทิ วงWORLD ORDER สุดยอดวงดนตรีความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก, นิยะ (NIYA) นักดนตรีบรรเลงทสึการุ ซามิเซ็ง เครื่องดนตรีสามสายที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น, โคโนะ เก็นตะ (Kono Genta) นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังจากฮอกไกโด, วงร็อคเกอร์สาว HiJK, สี่พี่น้อง bless4, Yoffy นักร้องนำจาก Psychic Lover, NoB นักร้อง Saint Seiya ระดับตำนาน, Azumi Inoue เจ้าของเพลงประกอบ Totoro, Takayoshi Tanimoto เจ้าของเพลงอนิเมะชื่อดัง และการประกวดเต้น Little Akiba ค้นหาไอดอลหน้าใหม่ ฯลฯ

          รวมทั้งยังมีเซอร์ไพรส์ต้อนรับวาเลนไทน์ ด้วยการเชิญสาวหวาน เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา มาร่วมกิจกรรมเวิร์กช้อปแต่งหน้าคุกกี้รูปหัวใจกับแบรนด์ Shiroi Koibito แบรนด์ขนมหวานชื่อดังจากเมืองซัปโปโรที่เป็นของฝากยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวมานานกว่า 40 ปี งานนี้ไม่เพียงได้โชว์ดีไซน์การแต่งหน้าคุกกี้ด้วยฝีมือตัวเองที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น แต่สาวเอสเธอร์ยังแฮปปี้ที่ได้ชิมคุกกี้ของโปรด แถมได้ช้อปกลับบ้านเป็นของขวัญให้คนรู้ใจ โดยไม่ต้องไปไกลถึงซัปโปโรอีกด้วย

          อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจของงาน คือ การเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถในการแข่งขัน J-Challenge 2016 ตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่นและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อชิงรางวัลทุนเรียนภาษาญี่ปุ่นพร้อมสัมผัสการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และการประกวดแผนธุรกิจ JAPAN BUSINESS PLAN PITCH COMPETITION ในหัวข้อ "สินค้า-บริการไทย โดนใจญี่ปุ่น" เพื่อชิงรางวัลทุนการศึกษาและโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น

          สำหรับผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2016 ได้ที่www.japanexpothailand.org
« Last Edit: February 17, 2016, 07:38:06 AM by MSN »

MSN on February 18, 2016, 03:07:25 PM
เด็กไทยโชว์กึ๋นบนเวทีแข่งขัน “J-Challenge 2016” ชิงทุนเรียนภาษาและโอกาสสัมผัสชีวิตที่ญี่ปุ่น





          ผ่านไปแล้วสำหรับการแข่งขัน J-Challenge 2016 เวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถในการตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่นและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อชิงรางวัลทุนเรียนภาษาญี่ปุ่นพร้อมสัมผัสการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยสถาบันสอนภาษาและศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 ภายในงาน JAPAN EXPO IN THAILAND 2016 ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน

          นายทากุโอะ ฮาเซกาวา ประธานกรรมการบริษัท ไลท์เฮ้าส์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารเจเอ็ดดูเคชั่น กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำงานด้านแนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นในเมืองไทยมานานกว่า 15 ปี ทำให้ทราบถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจของเยาวชนไทยที่ต้องการไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และการศึกษาภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น จากข้อมูลในปี 2558 พบว่ามีนักเรียนไทยที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทยประมาณ 130,000 คน และมีนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 3,300 คน

          "ญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งประเทศเป้าหมายของเด็กไทยที่ใฝ่ฝันจะไปเยือน ทางเจเอ็ดดูเคชั่นจึงได้จัดการแข่งขัน J-Challenge ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่สนใจศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น ได้มีเวทีในการแสดงความสามารถ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กไทยได้ค้นหาตัวเองและทำตามความฝันให้เป็นจริง" นายทากุโอะ กล่าว

          สำหรับการแข่งขันจัดเป็นประเภททีม ทีมละ 2 คน แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับมัธยมปลาย สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 และการแข่งขันระดับอุดมศึกษา สำหรับนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรีทุกชั้นปี ไม่จำกัดคณะและสาขาวิชา อายุไม่เกิน 26 ปี ซึ่งในปีนี้มีนักเรียน นิสิต นักศึกษา สมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 1,200 คน จากทั่วประเทศ

          โดยผลการแข่งขันในปีนี้ ทีมชนะเลิศระดับมัธยมปลาย ได้แก่ นายเชี่ยวชาญ ทรัพย์สุวิต และนายตะวัน ป้อมทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จ.อ่างทอง

          เชี่ยวชาญ เริ่มต้นเล่าว่า นับเป็นปีที่สองของการมาแข่งขัน J-Challenge หลังจากพลาดหวังในครั้งที่แล้ว ผมและเพื่อนก็กลับไปฝึกฝนเพิ่มเติม โดยนำประสบการณ์ในปีก่อนมาพัฒนาความรู้ให้มากขึ้น เน้นศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น พวกผมโชคดีที่ทางบ้านและคุณครูสนับสนุน ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ผมมีความเชื่อมั่น มานะ พยายาม จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ได้สำเร็จ"

          ทางด้าน ตะวัน กล่าวว่า "เวที J-Challenge เป็นการแข่งขันที่แตกต่างจากเวทีอื่นๆ ตรงที่เน้นตอบปัญหาเชิงลึกด้านภาษาและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น ผู้แข่งขันต้องมีความรู้อย่างรอบด้าน ถ้าเป็นคนที่ชอบเรื่องญี่ปุ่นอยู่แล้ว เวทีนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้มาพิสูจน์ความรู้ความสามารถของตนเอง และที่สำคัญยังมีรางวัลทุนเรียนภาษาและไปสัมผัสการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นนานถึง 2 สัปดาห์ ถือเป็นโอกาสและประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างผมให้ได้ไปเปิดโลกการเรียนรู้ในต่างแดนครับ"

          ในส่วนของทีมชนะเลิศระดับอุดมศึกษา ได้แก่ นายฐานันต์ พันชนะ และนายทากะนาริ โดวมิ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สองหนุ่มผู้มีฝันเดียวกันที่อยากจะต่อยอดสู่การทำงานในญี่ปุ่น

          โดยนายฐานันต์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจภาษาญี่ปุ่นเพราะชอบเล่นเกม จึงพยายามศึกษา หัดอ่าน สะกดคำ และหาความหมายด้วยตัวเอง จนเป็นแรงผลักดันให้สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และต่อยอดมาสู่การเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนการเข้ามาแข่งขัน J-Challenge ถือเป็นการพิสูจน์ความรู้ของตัวเอง และเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนอกห้องเรียน รู้สึกดีใจมากที่สามารถนำความรู้จากสิ่งที่เราชื่นชอบมาต่อยอดเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองได้"

          นายทากะนาริ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ผมย้ายมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก มีโอกาสพูดภาษาญี่ปุ่นกับคุณพ่อที่บ้านเท่านั้น ส่วนความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับญี่ปุ่นผมเริ่มศึกษาเองจากสิ่งที่ชอบ ทั้งอ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกม ฟังเพลง และดูภาพยนตร์ ผมมองว่าภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ต่อยอดไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ และโอกาสในการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างที่ผมตั้งใจไว้ และเวที J-Challenge ก็เปิดโอกาสให้ผมได้ทำตามความฝันในการไปใช้ชีวิตจริงที่ญี่ปุ่น สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น และอยากมีโอกาสที่ดีแบบนี้ ขอให้สมัครมาแข่งขัน J-Challenge ในปีหน้า ถ้าเราตั้งใจและเตรียมตัวมาให้พร้อม ผมเชื่อว่ารางวัลชนะเลิศก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ"

         ต้องขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับน้องๆ ทุกคนที่สามารถนำสิ่งที่รักมาต่อยอดสร้างความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความตั้งใจและพยายาม สำหรับน้องๆ เยาวชนที่อยากจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้ สามารถติดตามข่าวสารการแข่งขัน J-Challenge 2017 ได้ทาง www.japanexpothailand.org โอกาสยังรอทุกคนอยู่