MSN on January 31, 2016, 01:31:48 PM
ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เล็งเห็นธุรกิจร้านค้าออนไลน์ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดให้บริการจัดส่งภายในประเทศ

          ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ยกประเทศไทยเป็นตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดบริการจัดส่งภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ 2020 ของกลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล (Deutsche Post DHL Group – DPDHL)

          การเปิดให้บริการการจัดส่งในประเทศรูปแบบใหม่นี้ จะสามารถทำให้จัดส่งสินค้าได้ถึงผู้รับภายในวันถัดไป ในเขตพื้นที่หลัก ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ให้มีความพร้อมสำหรับการเตรียมจัดส่งสินค้า และมีระบบติดตามแสดงสถานะพัสดุภัณฑ์โดยละเอียดแก่ผู้ใช้บริการ โดยคาดว่าผู้ประกอบการ SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดจากบริการนี้


          จากซ้ายไปขวา: คุณมัลคอล์ม มอนเตโร ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คุณเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทย คุณโธมัส คิปป์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ

           ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล (Deutsche Post DHL Group – DPDHL) ผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลก ได้ลงทุนเพื่อขยายการให้บริการมาสู่ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบบริการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจร (end-to-end) ให้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงอีกหลายบริการที่โดดเด่นเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย

          ระบบการจัดส่งที่ดีเยี่ยมเป็นหัวใจสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ จึงมุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ด้วยระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ที่คล่องตัวไม่ติดขัด ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ได้จัดตั้ง ศูนย์กระจายสินค้า ขนาด 3,000 ตารางเมตรในกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าอีกมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อมอบบริการจัดส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่มีการขยายตัวสูงขึ้น ดีเอชแอลจึงมีแผนที่จะขยายเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าให้มีจำนวนขึ้นมากกว่าสองเท่า ภายในปี พ.ศ. 2560 รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนรถจักรยานยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดส่งให้เหมาะกับการจราจรภายในเมืองใหญ่ของประเทศไทย

          ทั้งนี้ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ยังสามารถมอบบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป ด้วยจักรยานยนต์และรถบรรทุก ในพื้นที่เขตเมือง และบริการจัดส่งสินค้าภายใน 2 – 3 วัน ในพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการ สามารถใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery – COD) ซึ่งมีบริการนำส่งเงินค่าสินค้าคืนผู้ขายเป็นประจำทุกวัน และศูนย์บริการลูกค้า (call center) ที่สามารถให้บริการได้หลากหลายภาษา

          "ดีเอชแอล ช่วยลดอุปสรรคการทำธุรกิจ #ecommerce ของผู้ประกอบการ SMEs ผ่านบริการจัดส่งรูปแบบใหม่: bit.ly/1TmIRwO" - TWEET THIS

          การเปิดตัวดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของกลยุทธ์ 2020 (Strategy 2020) ของ กลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล บริษัทยังได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มธุรกิจ Mail เป็น Post - eCommerce – Parcel ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญทางด้านการให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซ อนึ่ง ดีเอชแอล เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยให้บริการผ่านกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง และ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน

          คุณโธมัส คิปป์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจสูง และด้วยตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ผนวกกับสมาร์ทโฟนเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เลือกเปิดตัวบริการจัดส่งภายในประเทศที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ 2020 ของกลุ่มบริษัท"

          "นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นกว่า 3 เท่า มีมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท (3.6 พันล้านยูโร) ภายในปี พ.ศ. 2563 และด้วยการลงทุนของดีเอชแอลในครั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นว่า เราจะอยู่ในจุดที่พร้อมรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี" คุณโธมัส กล่าวเพิ่มเติม

          "DHL เล็งเห็นการเติบโตกว่า 3 เท่า ของตลาด #ecommerce #ประเทศไทย ซึ่งจะมีมูลค่าตลาดกว่า 1.4 แสนล้านบาท ภายในปี 2563: bit.ly/1TmIRwO" – TWEET THIS

          คุณมัลคอล์ม มอนเตโร ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "เรามองเห็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญหลังจากที่ได้เห็นการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้มีการขนส่งสินค้าในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น แม้ตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันจะได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว จนถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่วนแบ่งของอีคอมเมิร์ซในตลาดค้าปลีกของประเทศไทย ยังถือว่าน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการเจริญเติบโตสูง โดยยอดขายโดยรวมจาก อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 1.7 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ขณะที่ประเทศจีนมีมูลค่าสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์"         

          "ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซให้ความสนใจ ด้วยขนาดของตลาดที่คาดว่าจะโตมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปี (ตั้งแต่พ.ศ. 2557 – 2563) ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดจากกลุ่มธุรกิจ SMEs จำนวนมากที่เริ่มขยับขยายกิจการมาใช้รูปแบบการขายออนไลน์มากขึ้น" คุณมัลคอล์มกล่าวเพิ่มเติม

          คุณเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า "เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการอีคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องมีบริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการมอบบริการที่มีมาตรฐานที่ดี ด้วยเหตุนี้ ระบบการจัดส่งที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ SMEs สามารถใช้เวลากับการบริหารธุรกิจหลักของบริษัท เพื่อให้มีการเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้นบนพื้นฐานของระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ"

          "ความสำเร็จของเราในประเทศอินเดียและจีน แสดงให้เห็นว่าด้วยการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบการจัดส่งแบบครบวงจร ( end-to-end ) ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอีคอมเมิร์ซ ทั้งในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย ไปจนถึงกลุ่มบริษัทใหญ่ที่มีเครือข่ายในหลากหลายประเทศ เราจึงมั่นใจว่าบริการของดีเอชแอลจะช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่กำลังขยายกิจการเข้ามาในรูปแบบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีข้อได้เปรียบและสร้างจุดขายที่มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง" คุณมัลคอล์มกล่าวปิดท้าย
« Last Edit: January 31, 2016, 01:35:16 PM by MSN »

MSN on January 31, 2016, 01:35:00 PM
DHL eCommerce eyes Thailand’s fast-growing online retail sector with the launch of its domestic delivery service

          Thailand identified as key market in Southeast Asia to launch DHL eCommerce domestic delivery service as part of Deutsche Post DHL Group's global Strategy 2020

          New domestic delivery service to offer next-day delivery to key urban centers, easy-to-use e-commerce-ready portal for shipment preparation, full tracking visibility for consumers – Thai SMEs are expected to benefit most


          From left to right: Malcolm Monteiro, CEO, Asia Pacific, DHL eCommerce
          Kiattichai Pitpreecha, Managing Director, DHL eCommerce Thailand
          Thomas Kipp, CEO, DHL eCommerce

          DHL eCommerce, a division of the world's leading logistics company, Deutsche Post DHL Group, has expanded its operations into Thailand and is offering end-to-end domestic delivery service for Thai e-commerce merchants. With its new service, DHL eCommerce is offering a range of unique service options that caters to Thailand's burgeoning e-commerce market.

          Understanding that a strong backbone for e-commerce growth lies in a good logistics system, DHL eCommerce aims to enable a better e-commerce experience for both consumers and merchants through efficient logistics and a seamless online shopping experience. Major additions will be made to DHL's delivery infrastructure in the country, including a 3,000 sqm central distribution center in Bangkok and a network of over 20 depots located throughout Thailand ensuring full coverage across the entire country. To meet increasing business demands, DHL plans to more than double the number of depots in Thailand by 2017 and expand its fleet primarily in two-wheel vehicles that can operate more efficiently in the traffic situations in Thailand's major cities.

          As part of its service offerings, DHL eCommerce's fleet of two- and four-wheel vehicles will provide next-day delivery to all urban areas, and a 2-3 day delivery to all other locations. All merchants have access to Cash on Delivery (COD) with daily remittance and access to a multilingual call center.

          "DHL lowers Thailand #ecommerce barriers to SMEs with new delivery service: bit.ly/1TmIRwO" - TWEET THIS

          The launch of DHL eCommerce in Thailand is a great showcase for Strategy 2020, the corporate strategy of Deutsche Post DHL Group, which has seen a rename of its Mail division to "Post - eCommerce - Parcel" to better reflect the focus on products and services offered for the high-growth e-commerce market. DHL has been operating in Thailand since 1973, through its other business units – DHL Express, DHL Global Forwarding and DHL Supply Chain.

          "Thailand, with its tremendous growth potential, fast e-commerce adoption and high smartphone penetration rates, has been identified as the first Southeast Asian country to launch DHL eCommerce's domestic delivery service in line with our group's Strategy 2020," said Thomas Kipp, CEO, DHL eCommerce. "The Thai e-commerce market is expected to more than triple in size to EUR 3.6 billion between now and 2020 and with this investment, we are well positioned to support the growth of e-commerce businesses in Thailand."

          "We see major strategic opportunities for e-commerce growth in Thailand, particularly with the Asean Economic Community which is expected to increase the movement of goods within the region. Despite e-commerce already being a billion-dollar sector with extremely rapid adoption, Thailand's e-commerce share of the retail market is still relatively low compared to other high-growth economies. Only 1.7% of total sales in Thailand are obtained from e-commerce, compared to more than 10% in China," said Malcolm Monteiro, CEO, Asia Pacific, DHL eCommerce. "Thailand is ranked as one of our top priority markets in Southeast Asia: its expected annual market growth of more than 20% (from 2014 to 2020) is likely to be largely driven by significant numbers of SMEs beginning to extend their business models into online marketplaces."

          "In order to fulfill Thai consumers' expectations of seamless and simple e-commerce, businesses need logistics services that keep up with extremely rapid changes in consumers' expectations while providing high operational excellence," said Kiattichai Pitpreecha, Managing Director, DHL eCommerce Thailand. "This makes the need for a tailored e-commerce delivery service greater than ever before – so that merchants, especially SMEs, can focus on their core business and grow faster based on a high performing logistical backbone."

          "Our successful offerings in India and China have proven that exceptional customer service bolstered by robust and scalable end-to-end delivery networks are the two essential ingredients needed to win e-commerce market share. That applies to all players, from small businesses to multinational retail conglomerates," added Malcolm Monteiro, CEO, Asia Pacific, DHL eCommerce. "As Thai consumers continue to come online and join the region's appetite for e-commerce, we are confident that our services will give customers both a first-mover advantage and a unique competitive edge."