ก.ล.ต. เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ยกระดับความแข็งแกร่งระบบนิเวศตลาดทุนทุกด้านสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ก.ล.ต. เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2559-2561) พัฒนารากฐานและความสมดุลระบบนิเวศตลาดทุนรอบด้าน เน้นสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการแข่งขันของตลาดและตัวกลาง กฎเกณฑ์ปฏิบัติได้จริงผ่านการทำความเข้าใจและให้ความรู้กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมผสมผสานกลไกอื่นนอกเหนือจากการใช้กฎเกณฑ์ มุ่งให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้ และตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า "แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. 3 ปี เป็นผลลัพธ์จากการวิเคราะห์และปรับโฟกัสลงไปที่ต้นเหตุของเรื่องและกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้สามารถพัฒนาและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ระบบนิเวศตลาดทุนมีความสมดุล นอกจากนี้ ยังได้ผสมผสานกลไกอื่นนอกจากการบังคับใช้ด้วยกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว โดยสื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจอย่างแท้จริง ผ่านการทำความเข้าใจและให้ความรู้ ซึ่งการออกกฎเกณฑ์จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องได้มีเวลาปรับตัวไปสู่เป้าหมายต่อไป เพื่อมุ่งให้ตลาดทุนไทย มีความน่าเชื่อถือ ระบบนิเวศในตลาดทุนมีความสมดุลทุกด้าน มีประสิทธิภาพและศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยกฎเกณฑ์ที่พัฒนาจากมุมมองที่รอบด้านและปฏิบัติได้จริง รองรับความหลากหลายของสินค้าและบริการตามมาตรฐานสากล และประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนทั้งการเข้าถึงทุนและการลงทุน โดยแผนการดำเนินงานครอบคลุม 4 เรื่องหลัก ได้แก่ การระดมทุน ตลาดและตัวกลาง สินค้า/ตราสารทางการเงิน และการพัฒนาศักยภาพของ ก.ล.ต. ไปพร้อมกัน
ในด้านการระดมทุน จะมีงานสำคัญ อาทิ ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน โดยการออกแนวปฏิบัติให้บริษัทจดทะเบียนหลอมรวมการกำกับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าไปในการประกอบธุรกิจ โดยสื่อสารกับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนเพื่อให้เห็นประโยชน์และเกิดการปฏิบัติจริง รวมถึงการใช้กลไกด้านผู้ลงทุนสถาบันเป็นแรงผลักดันอีกทางหนึ่ง การยกระดับการกำกับดูแลที่ปรึกษาทางการเงินให้เทียบเท่าธุรกิจหลักทรัพย์ทั่วไป การเน้นบทบาทผู้บริหารที่รับผิดชอบทางด้านการเงิน/บัญชี นอกจากนี้จะพัฒนารูปแบบการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทให้น่าสนใจ กระชับ เข้าใจง่าย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน ปรับปรุงกฎเกณฑ์การทำรายการที่สำคัญและรายการที่เกี่ยวโยงกันให้ทัดเทียมตลาดในภูมิภาค และสนับสนุนการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นและทำให้การเปิดเผยข้อมูลเข้าใจและเข้าถึงง่าย
สำหรับด้านตลาดและตัวกลาง ก.ล.ต. จะยกระดับกฎเกณฑ์การกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานสากลและร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เสริมสร้างความสัมพันธ์ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งส่งเสริมตราสารประเภทที่เป็น win-win ทั้งตลาดทุนไทยและเพื่อนบ้าน อาทิ การออกกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดทุนของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งจะปรับปรุงโครงสร้างใบอนุญาตและหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่สร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางดำเนินธุรกิจในรูปแบบที่หลากหลาย รองรับผู้มีส่วนร่วมรายใหม่และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในวงกว้าง
นอกจากนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายโดยปรับปรุงระยะเวลาการจัดการเรื่องที่ต้องตรวจสอบดำเนินคดีและเรื่องร้องเรียนจากประชาชน (case management) และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตลท. ให้เกิดการดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง รวมทั้งผลักดันและดำเนินการให้มาตรการทางแพ่ง (civil sanction) เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุน
เรื่องการพัฒนาสินค้า/ตราสารทางการเงิน จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินและธุรกรรมใหม่ๆ ในตลาดทุน เพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลคุณภาพกระบวนการผลิต การเปิดเผยข้อมูล และการขายตราสารการลงทุนเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบจากความไม่รู้ของผู้ลงทุน และส่งเสริมการเข้าถึงตลาดทุน ผ่านการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือขยายช่องทางเข้าถึงทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมทั้งธุรกิจเกิดใหม่ และการเข้าถึงการลงทุนของประชาชน รวมทั้งผลักดันให้เกิดการออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มุ่งเป้าหมายระยะยาวเพื่อรองรับวัยเกษียณ"
"เรื่องสุดท้ายที่นับเป็นอีกกลไกสำคัญหนึ่ง คือการพัฒนาศักยภาพของ ก.ล.ต. ทั้งการปรับรูปแบบกระบวนดำเนินงานในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พัฒนาความรู้และทักษะบุคลากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และการยกระดับเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่เปิดใจ รู้จริง ร่วมมือ ซื่อตรง ให้ผู้มีส่วนร่วมในตลาดทุนรับรู้และสัมผัสได้ว่า ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้าไปกับทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ให้บรรลุผลตามเป้าหมายได้" นายรพีกล่าวสรุป