MSN on January 20, 2016, 03:18:55 PM
อิชิตันเผยแผนบุกตลาดใหม่ฝ่าวงล้อมเศรษฐกิจ ตั้งเป้าคว้า 7,500 ล้านบาท







           อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์ประจำปี 2559 เดินหน้าบุกธุรกิจใหม่ รักษาที่มั่นธุรกิจเดิม และเพิ่มความเข้มข้นในตลาดต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าคว้าเป้าหมายยอดขาย 7,500 ล้านบาทในปี 2559

          นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ และนายธนพันธุ์ คงนันทะ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานของอิชิตัน กรุ๊ป ประจำปี 2558 ด้วยรายได้ประมาณ 6,400 ล้านบาท โดยยังคงเป็นผู้นำอันดับด้วยส่วนแบ่ง 43.4% ของตลาดชาพร้อมดื่มที่มีมูลค่า 15,574 ล้านบาท พร้อมชี้แจงภาพรวมการแข่งขันที่เป็นไปอย่างเข้มข้นตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พบว่าจากข้อมูลตัวเลขการบริโภคชาพร้อมดื่มล่าสุดตลอดปี 2558 มีปริมาณการบริโภคชาพร้อมดื่ม (Volume) 470.7 ล้านลิตร คิดเป็นการขยายตัวขึ้น 0.7% ในขณะที่การบริโภคมีมูลค่า (Value) 15,574 ล้านบาท ลดลง 2.5 % จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นสภาพการแข่งขันเป็นไปในทิศทางการใช้สงครามราคาเข้ามานำตลาดตลอดทั้งปี

          การแข่งขันส่วนใหญ่กระจุกตัวที่ 2 แบรนด์หลัก ในขณะที่บางแบรนด์มีความพยายามในการสร้างจุดยืนของตนเอง เช่นการใช้ชาปราศจากน้ำตาล หรือใช้ชาอู่หลงเป็นจุดขาย อย่างไรก็ตามหากแบรนด์ใดไม่มีการเคลื่อนไหว หรือปรับตัวก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงอย่างชัดเจน

          "ในปี 2559 อิชิตันยังคงมองภาพรวมตลาดอย่างมีความหวัง และจะเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลในการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ว่าจากความพยายามของรัฐบาล สภาพเศรษฐกิจน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี

          จากความท้าทายที่เกิดขึ้น อิชิตันจึงใช้เป็นแรงผลักดันให้เป็นปีแห่งการก้าวไปอีกขั้น ด้วยการไม่จำกัดธุรกิจอยู่เพียงการเป็นบริษัทที่ผลิตชาพร้อมดื่มอีกต่อไป ภายในปีนี้น่าจะได้เห็นสินค้าอีกมากมายที่อยู่นอกเหนือธุรกิจชาพร้อมดื่ม ที่จะเริ่มทะยอยออกสู่ตลาดภายในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป โดยมูลค่ารวมของตลาดใหม่ๆ ที่อิชิตันจะพุ่งเป้าเข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาด มีมูลค่ารวมกันถึง 40,000 ล้านบาท" ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

          สำหรับสินค้าในกลุ่มเดิม ทั้ง อิชิตัน กรีนที เย็นเย็น และน้ำผลไม้ไบเล่ นั้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำตลาดได้มีการส่งกลยุทธ์การปรับขนาดให้มีความหลากหลายถึง 7 ขนาด คือตั้งแต่ 290 ML. - 840 ML. ราคาตั้งแต่ 10 – 27 บาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มอย่างครอบคลุม และกำลังพัฒนาให้สินค้าทุกแบรนด์มีความหลากหลายของรสชาติ และรูปแบบให้มากขึ้นเพื่อสร้างไดนามิคของแบรนด์ให้คึกคักและมีนวตกรรม ทั้งนี้เพื่อรักษาสภาพการแข่งขันของธุรกิจให้เป็นไปอย่างมั่นคง และเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพให้กับสินค้าอย่างยั่งยืนในอนาคต

          ในขณะที่ธุรกิจต่างประเทศ อันได้แก่ บริษัท พีที อิชิตัน อินโดนิเซีย จำกัด ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายสินค้า 2 รสชาติไปในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ดังนั้นปี 2559 จะเป็นปีแห่งการสร้างแบรนด์ และทำตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างฐานที่มั่นให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาสินค้าอีก 2-3 ชนิดเข้าสู่ตลาดอินโดนิเซีย โดยยังคงกลยุทธ์ความได้เปรียบจากความแข็งแกร่งของพันธมิตรให้เป็นประโยชน์ อย่างบริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด ที่บริหารร้านสะดวกซื้อในกลุ่มอัลฟ่ามาร์ท กว่า 10,000 สาขาในอินโดนิเซีย และ มิตซูบิชิ คอร์เปอร์เรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจากความได้เปรียบนี้จะทำให้ พีที อิชิตัน อินโดนิเซีย สร้างยอดขายให้อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

          โดยคาดว่าการใช้กลยุทธ์รักษาที่มั่น และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เดิมที่มีอยู่ การเพิ่มสินค้าอื่นๆ นอกพอร์ตธุรกิจชาพร้อมดื่ม และการสร้างตลาดอย่างจริงจังในตลาดประเทศอินโดนิเซีย อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะสามารถสร้างรายได้ถึง 7,500 ล้านบาท ในปี 2559
« Last Edit: January 20, 2016, 03:44:48 PM by MSN »

MSN on January 20, 2016, 03:45:34 PM
Ichitan Group’s entering new markets, eyes on 7,500 million Baht







          Breaking through the economic barrier Ichitan Group Public Company Limited (ICHITAN) has disclosed the strategies for 2016 to enhance existing core business, proceed with new markets and strengthen overseas market, aim to reach 7,500 million Bath target.

          Mr. Tan Passakornnatee, President & CEO, and Mr. Tanapan Khongnuntha, Executive Vice President?, Beverage Business summarized ICHITAN's 2015 operating results. They noted that revenue was closed approximately 6,400 million Baht. ICHITAN remains the market leader with 43.4% of RTD tea market, which is valued at 15,574 million Baht. They also explained the intense level of competition over the past year. The latest figures for RTD tea market revealed that the volume consumed in 2015 was 470.7 million liters, 0.7% year-on-year increase, while the value amounted to 15,574 million Baht, a 2.5% decrease. This shows that a price war took place among the competition.

          Most competition was focused on two major brands while some efforts were also made to create new positions, for example using sugar-free or Oolong tea, as a selling point. However, if any brands did not make significant moves, their market share would obviously decline.

          "In 2016, ICHITAN still views total market hopefully, we strongly believe in the government's stimulus strategies to macro-economic. We expect that Thailand's economic will be revived by the second half of the year.

          ICHITAN will use this challenge as a drive to make 2016 a year for stepping forward, by not limiting ourselves to RTD tea business. In addition to green tea, more potential products will be launched into the market from the third quarter of the year. Said Mr. Tan Passakornnatee.

          As for the existing group of products, including ICHITAN Green Tea, Yen Yen Herbal drink and Bireley's, ICHITAN has launched a sizing strategy to supply seven different sizes, from 290 to 840 ml, priced at between 10 and 27 Baht, to meet consumer from various groups' demands. ICHITAN has also developing all products to provide various tastes and patterns, to create vibe of brand dynamics so that it is vigorous and innovative, with the aim of maintaining a business stability and contributing to the sustainable development of the product quality in the future.

          Meanwhile, the overseas business, PT ICHITAN Indonesia Company Limited, launched two products in the last two months of 2015. Therefore, 2016 will be a year for brand buiding, continuing marketing strategies to build a strong base as quick as possible. At lease 2-3 new products will be introduced to the Indonesian market in the near future. Strength of alliances will continue to be used as our advantageous. For example, PT Atri Pasifik Company Limited, the management of more than 10,000 branches of Alfamart convenience stores in Indonesia, in partnership with Mitsubishi Corporation in Japan. It is expected that, as a result, PT ICHITAN Indonesia Company Limited will generate sales for ICHITAN n Group of not lease than 1,000 million Baht.

          With the combined strategies for defending ICHITAN's market share, strengthening existing brands, introducing other products categories beyond RTD tea, and creating a serious new market in Indonesia, it is expected that ICHITAN Group Public Company Limited will be able to generate total revenue up to 7,500 million Baht in 2016.