MSN on January 18, 2016, 03:48:57 PM
กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงงาน SMEs เข้าระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม



นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม








กรุงเทพฯ – 18 มกราคม 2559 – กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดตัวโครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและติดตามการต่ออายุโรงงานที่ขาดการจัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อช่วย SMEs ที่ยังไม่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม ให้สามารถจัดการกากฯ โดยมีศูนย์เครือข่ายตั้งอยู่ใน 6 ภูมิภาค  ได้แก่ 1. ภาคกลาง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4. ภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 5.ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา และ 6.ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสามารถขอรับคำปรึกษาดังกล่าวได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0-2202-4168 หรือ www.diw.go.th

ดร.พสุ  โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น  โดยปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจำพวกที่ 3 ทั่วประเทศกว่า 79,600 ราย (ข้อมูลเมื่อธันวาคม 2558) ซึ่งเป็นโรงงานที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน แม้จะมีกฎหมายกำกับดูแลด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงงานที่เข้าสู่ระบบการจัดกากอุตสาหกรรมที่ถูกต้องเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงาน โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงงาน SMEs ทั่วประเทศ ได้เข้าสู่ระบบการจัดการกากฯ อย่างถูกต้องตามกฎกระทรวง กรอ.จึงได้ดำเนินการเปิด ”โครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและติดตามการต่ออายุโรงงานที่ขาดการจัดการกากอุตสาหกรรม”  โดยมอบหมายให้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาโครงการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่อยู่ในระบบ และจะต้องต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์ฯ ให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วนตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการกำจัดสิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2548

ดร.พสุ กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์ช่วยเหลือฯ ดังกล่าว เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านการจำแนกประเภทและลักษณะกากอุตสาหกรรมตามลำดับประเภทโรงงาน จำนวน 104 ประเภท เพื่อระบุรหัสกากอุตสาหกรรม การแนะนำโรงงานผู้รับบำบัดกำจัดกากอุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับประเภทกากอุตสาหกรรม รวมถึงการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรม ประกอบการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ภายใต้โครงการดังกล่าวฯ มีการพัฒนาองค์ความรู้จากฐานข้อมูลด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้ในระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยจะพัฒนาเป็นระบบฐานข้อมูลสารสนเทศให้ผู้ประกอบการสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรมได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสามารถเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นำไปสู่ความสามารถแข่งขันในระดับโลกได้

ดร.พสุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ช่วยเหลือฯ ดังกล่าวดำเนินงานในรูปแบบของศูนย์เครือข่ายฯที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือโดยมีศูนย์ประสานงานกลางอยู่ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม  และมีศูนย์เครือข่ายตั้งอยู่ใน 6 ภูมิภาค ได้แก่ 1. ภาคกลาง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4. ภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 5. ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา และ 6. ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย กรอ.ได้ดำเนินงานร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดยสามารถขอรับคำปรึกษาดังกล่าวได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจรับคำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0-2202-4168 หรือ www.diw.go.th  และ www.facwaste.com

ศูนย์ช่วยเหลือและติดตามการต่ออายุโรงงานที่ขาดการจัดการกากอุตสาหกรรม ดำเนินงานในรูปแบบของศูนย์เครือข่ายฯ ที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ โดยมีศูนย์ประสานงานส่วนกลางอยู่ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และมีศูนย์เครือข่ายฯ ตั้งอยู่ในภูมิภาค 6 แห่ง ดังนี้

หน่วยงานหลัก
พื้นที่รับผิดชอบ
1. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครนายก สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นครปฐม
2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก
3. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา
4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
5. มหาวิทยาลัยบูรพา
ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
6. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
« Last Edit: January 18, 2016, 03:50:53 PM by MSN »