activity on January 21, 2016, 03:53:55 PM
โตโยต้าประกาศ ตลาดรถยนต์ปี 2558 อยู่ที่ 799,594 คัน ลดลง 9.3% ตลาดรวมในประเทศปี 2559 อยู่ที่ 720,000 คัน เป้าหมายการขายโตโยต้า 240,000 คัน คาดตลาดรถในประเทศจะฟื้นตัวภายใน 2 ปี


มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เซลส์ / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2558 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2559 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ   

 มร.ทานาดะ แถลงยอดขายรวมในภูมิภาคเอเชียว่า “ตลาดรถยนต์รวมในภูมิภาคเอเชียปี 2558 มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6,900,000 คัน มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 2.5% โดย โตโยต้า มียอดขายในภูมิภาคเอเชีย* กว่า 1,103,000 คัน เป็นยอดขายของกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 894,000 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% 
 
หากพิจารณาสถิติยอดขายตลาดรถยนต์จะพบว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทย มียอดขายรวมสูงเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศเอเชีย แต่อย่างไรก็ตามถือได้ว่าเป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมยังจำกัด รวมถึงความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนระมัดระวังเรื่องการลงทุนและใช้จ่าย แม้ว่าจะมีกำลังซื้อเร่งเข้ามาในช่วงปลายปีก่อนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2558 มียอดขายอยู่ที่ 799,594 คัน มีอัตราการเติบโตลดลง 9.3% โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มียอดขายลดลง 2.2% ตลาดรถยนต์นั่งมียอดขายลดลง 19.1%”

* อ้างอิงตามสถิติด้านภูมิภาคโดยโตโยต้า ทวีปเอเชีย ประกอบด้วย ประเทศในกลุ่ม AEC รวมถึง ประเทศอินเดีย ประเทศปากีสถาน ประเทศบังคลาเทศ ประเทศศรีลังกา ประเทศเนปาล ประเทศภูฏาน และติมอร์ ตะวันออก
   
สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2558
   ยอดขายปี 2558   เปลี่ยนแปลง      เทียบกับปี 2557
   ปริมาณการขายรวม     799,594 คัน         -9.3%
   รถยนต์นั่ง     299,067  คัน       -19.1%
   รถเพื่อการพาณิชย์     500,527  คัน         -2.2%
   รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)     396,898  คัน         -5.7%
   รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)     327,835  คัน       -11.9%
โดย โตโยต้า มียอดขายที่ประเทศไทย 266,005 คัน ลดลง 18.7% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 105,398 คัน ลดลง 30.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 160,607 คัน ลดลง 8.4% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 151,117 คัน ลดลง 8.3.%

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2558
   ปริมาณการขายโตโยต้า       266,005 คัน   ลดลง     18.7%      ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
   รถยนต์นั่ง             105,398 คัน   ลดลง     30.6.%  ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
   รถเพื่อการพาณิชย์         160,607 คัน   ลดลง       8.4%      ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
   รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)    151,117 คัน   ลดลง       8.3%      ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
   รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)   120,112 คัน   ลดลง     17.0%      ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 376,763 คัน ลดลง 12% คิดเป็นมูลค่า 198,014 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 67,270.24 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 265,284.24 ล้านบาท”

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2559 มร.ทานาดะ กล่าวว่า “แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2559 มีปัจจัยบวกจากการเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนของภาครัฐ ประกอบกับการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน และความพยายามในการเพิ่มส่งออก แต่เนื่องจากกำลังซื้อบางส่วนเกิดขึ้นล่วงหน้าในช่วงปลายปี 2558 ก่อนการปรับภาษีสรรพสามิตใหม่ ดังนั้นคาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งหมด 720,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10.0%

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2559
   ปริมาณการขายรวม             720,000 คัน      ลดลง   10.0%
   รถยนต์นั่ง                265,000 คัน      ลดลง   11.4%
   รถเพื่อการพาณิชย์             455,000 คัน      ลดลง     9.1%
   รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)       364,000 คัน      ลดลง     8.3%
   รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)       314,500 คัน      ลดลง     4.1 %

โดย โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 240,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 89,000 คัน ลดลง 15.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 151,000 คัน ลดลง 6.0% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 144,500 คัน ลดลง 4.4%

ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2559
   ปริมาณการขายรวม            240,000 คัน   ลดลง     9.8%      ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
   รถยนต์นั่ง                 89,000 คัน   ลดลง   15.6%      ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
   รถเพื่อการพาณิชย์            151,000 คัน   ลดลง     6.0%      ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
   รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)        144,500 คัน   ลดลง     4.4%      ส่วนแบ่งตลาด 39.7%
   รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)    116,100 คัน   ลดลง     3.3%      ส่วนแบ่งตลาด 36.9%

สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 370,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 206,500 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 64,730 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ     271,230 ล้านบาท”

มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้ โตโยต้า คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศจะกลับมาดีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของเราตลอดจนเตรียม พร้อมพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในระดับสากล รวมถึงส่งเสริมคนไทยที่มีความ สามารถขึ้นมาบริหารงาน โดยแต่งตั้งผู้บริหารชาวไทยให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงครอบคลุมทุกสายงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในภูมิภาคนี้”

มร.ทานาดะ กล่าวย้ำความเชื่อมั่นในประเทศไทย “นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดของภูมิภาคนี้ และเป็นศูนย์กลางทางการผลิตที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์กลางในการดูแลการผลิตระดับภูมิภาค ด้วยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่มีคนไทยเป็นส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาและยกระดับการ ปฏิบัติงานในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ทั้งนี้เรายังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากขึ้นด้วยการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน โตโยต้า ในประเทศไทย ตลอดจนยังมีการถ่ายทอด นวัตกรรม และ เทคโนโลยี ด้านการผลิตระดับสูงเพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”

“โตโยต้า มีความเชื่อมั่นในประเทศไทย พร้อมที่จะลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เรามุ่งที่จะขับเคลื่อนและเราพร้อมจะยืนเคียงคู่กับคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป” มร.ทานาดะ กล่าวในที่สุด
« Last Edit: January 22, 2016, 07:34:08 AM by activity »

activity on January 21, 2016, 03:54:19 PM
   ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2558

1.)   ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 101,426 คัน เพิ่มขึ้น 13.3%                               
   อันดับที่ 1 โตโยต้า      28,566 คัน      ลดลง        13.6%      ส่วนแบ่งตลาด  28.2%   
   อันดับที่ 2 อีซูซุ      20,003 คัน      เพิ่มขึ้น      27.8%      ส่วนแบ่งตลาด 19.7%   
   อันดับที่ 3 ฮอนด้า      12,543 คัน      ลดลง         6.2%      ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
      
2.)   ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 34,603 คัน ลดลง 5.8%                                 
   อันดับที่ 1 โตโยต้า    11,243 คัน      ลดลง        28.1%     ส่วนแบ่งตลาด 32.5%     
   อันดับที่ 2 ฮอนด้า        8,960 คัน      ลดลง         8.2%      ส่วนแบ่งตลาด 25.9%     
   อันดับที่ 3 มาสด้า        3,203 คัน      เพิ่มขึ้น    242.2%   ส่วนแบ่งตลาด  9.3%     
   
3.)   ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 53,988 คัน เพิ่มขึ้น 28.8%
   อันดับที่ 1 อีซูซุ     18,766 คัน      เพิ่มขึ้น      31.0%      ส่วนแบ่งตลาด 34.8%     
   อันดับที่ 2 โตโยต้า  16,573 คัน      เพิ่มขึ้น       1.3%      ส่วนแบ่งตลาด 30.7%     
   อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      8,460 คัน      เพิ่มขึ้น    134.0%   ส่วนแบ่งตลาด 15.7%     
   *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 15,742 คัน
   โตโยต้า 6,671 คัน - มิตซูบิชิ 5,465 คัน - อีซูซุ 1,925 คัน - ฟอร์ด 1,399 คัน - เชฟโรเลต 282คัน

4.)   ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 38,246 คัน เพิ่มขึ้น 2.1%
   อันดับที่ 1 อีซูซุ     16,841 คัน      เพิ่มขึ้น      31.0%      ส่วนแบ่งตลาด 44.0%     
   อันดับที่ 2 โตโยต้า    9,902 คัน      ลดลง       30.4%      ส่วนแบ่งตลาด 25.9%     
   อันดับที่ 3 ฟอร์ด      3,027 คัน      เพิ่มขึ้น      24.4%   ส่วนแบ่งตลาด  7.9%     
   
5.)   ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 66,823 คัน เพิ่มขึ้น 26.6%
   อันดับที่ 1 อีซูซุ      20,003 คัน      เพิ่มขึ้น      27.8%      ส่วนแบ่งตลาด 29.9%     
   อันดับที่ 2 โตโยต้า   17,323 คัน      ลดลง         0.6%      ส่วนแบ่งตลาด 25.9%     
   อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ       8,460 คัน      เพิ่มขึ้น    134.0%   ส่วนแบ่งตลาด 12.7%     

   สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2558

1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 799,594 คัน ลดลง 9.3%                               
   อันดับที่ 1 โตโยต้า     266,005 คัน      ลดลง       18.7%   ส่วนแบ่งตลาด 33.3%   
   อันดับที่ 2 อีซูซุ     144,295 คัน      ลดลง       10.0%      ส่วนแบ่งตลาด 18.0%   
   อันดับที่ 3 ฮอนด้า     112,178 คัน      เพิ่มขึ้น       5.3%      ส่วนแบ่งตลาด 14.0%

2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 299,067 คัน ลดลง 19.1%                                 
   อันดับที่ 1 โตโยต้า   105,398 คัน      ลดลง        30.6%     ส่วนแบ่งตลาด 35.2%     
   อันดับที่ 2 ฮอนด้า       77,959 คัน      ลดลง        17.3%      ส่วนแบ่งตลาด 26.1%     
   อันดับที่ 3 มาสด้า       26,262 คัน      เพิ่มขึ้น      66.7%      ส่วนแบ่งตลาด  8.8%     
 
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 396,898 คัน ลดลง 5.7%
   อันดับที่ 1 โตโยต้า  151,117 คัน      ลดลง         8.3%       ส่วนแบ่งตลาด 38.1%   
   อันดับที่ 2 อีซูซุ     131,243 คัน      ลดลง       10.7%       ส่วนแบ่งตลาด 33.1%   
   อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      44,236 คัน      เพิ่มขึ้น      12.0%          ส่วนแบ่งตลาด 11.1%   
   *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 69,063 คัน
   โตโยต้า 31,005 คัน - มิตซูบิชิ 18,975 คัน - อีซูซุ 12,524 คัน - ฟอร์ด 4,967 คัน - เชฟโรเลต 1,592 คัน

4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 327,835 คัน ลดลง 11.9%                     
   อันดับที่ 1 โตโยต้า  120,112 คัน      ลดลง       17.0%   ส่วนแบ่งตลาด 36.6%   
   อันดับที่ 2 อีซูซุ    118,719 คัน      ลดลง         7.2%          ส่วนแบ่งตลาด 36.2%   
   อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     25,261 คัน      ลดลง       23.7%          ส่วนแบ่งตลาด  7.7% 
 
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 500,527 คัน ลดลง 2.2%                     
   อันดับที่ 1 โตโยต้า 160,607 คัน      ลดลง        8.4%          ส่วนแบ่งตลาด 32.1%   
   อันดับที่ 2 อีซูซุ     144,295 คัน      ลดลง      10.0%     ส่วนแบ่งตลาด 28.8%   
        อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ  44,236 คัน               เพิ่มขึ้น     12.0%         ส่วนแบ่งตลาด  8.8%
« Last Edit: January 22, 2016, 07:34:47 AM by activity »