happy on December 04, 2015, 06:00:51 PM
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เหนือกว่าด้วยการเชื่อมต่อตลอดเวลา
ยกระดับความปลอดภัย พร้อมดีไซน์ใหม่รอบคัน


2016 Chevrolet Captiva

                  เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปี 2016 โฉมใหม่เปิดตัวครั้งแรกที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โปในวันที่ 1 ธันวาคม ตอบสนองกลุ่มลูกค้ารถอเนกประสงค์เอสยูวีด้วยการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า และระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟที่พัฒนาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมการออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ทันสมัยยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับเอกลักษณ์ดีไซน์ของรถเชฟโรเลตในปัจจุบัน

                  ปัจจุบันมีลูกค้าแคปติวามากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงกว่า 38,000 คนในประเทศไทย เชฟโรเลตคาดว่าแคปติวา ใหม่ จะดึงดูดกลุ่มลูกค้ารถเอสยูวีให้สนใจแบรนด์เชฟโรเลตมากขึ้น

                  “ลูกค้ารถอเนกประสงค์เอสยูวีในปัจจุบันคาดหวังถึงการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสะดวกสบายที่สูงขึ้นและการออกแบบที่ร่วมสมัยกว่าเดิม ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดถูกใส่ไว้ในรถแคปติวา ใหม่ การยกระดับครั้งนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ตลาดรถเอสยูวีขนาดกลางของประเทศไทยและดึงดูดลูกค้าใหม่มาสู่แบรนด์เชฟโรเลต” คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ลูกค้าของเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว

เมื่อสมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์


Chevrolet Captiva Apple CarPlay

                  หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของแคปติวาที่มุ่งตอบสนองความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่ก็คือ ระบบเชฟโรเลต มายลิงค์รุ่นใหม่ซึ่งให้การเชื่อมต่อที่เหนือชั้นที่สุดและมอบความสะดวกง่ายดายสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนผ่านการต่อสายและใช้งานแอพฯ แอปเปิล คาร์เพลย์ (Apple CarPlay) และ แอนดรอยท์ ออโต้ (Android Auto)

แอปเปิล คาร์เพลย์

แอปเปิล คาร์เพลย์ เป็นแอพฯ แสดงผลสมาร์ทโฟนที่พัฒนาโดยแอปเปิลเพื่อให้ไอโฟน 5 หรือรุ่นใหม่กว่าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ อาทิ มายลิงค์ ซึ่งใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายบนหน้าจอทัชกรีนขนาด 7 นิ้วรุ่นใหม่ของแคปติวา หรือผ่านระบบควบคุมบนพวงมาลัยด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง สิริ อายส์ ฟรี (Siri Eyes Free) แอปเปิล คาร์เพลย์รองรับแอพฯ อย่างโทรศัพท์ (Phone) ข้อความ (Messages) แผนที่ (Maps) และเพลง (Music) ตลอดจนแอพฯ ของบริษัทผู้พัฒนาอื่นๆ สำหรับรายชื่อแอพฯ ที่รองรับการใช้งานสามารถเข้าชมได้ที่ Apple.com/ios/carplay

แอนดรอยด์ ออโต้


Chevrolet Captiva Connectivity Infographic

แอนดรอยด์ ออโต้ เป็นแอพฯ แสดงผลสมาร์ทโฟนที่พัฒนาโดยกูเกิลเพื่อให้สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (เวอร์ชั่นโลลี่ป๊อป 5.0 หรือ Android Lollipop 5.0 ขึ้นไป) สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในรถยนต์ รวมถึงแคปติวาใหม่ที่มาพร้อมระบบมายลิงค์ แอนดรอยด์ ออโต้นำเสนอการใช้งานที่ง่ายดายของระบบนำทาง กูเกิล แม็พส์ (Google Maps) การช่วยเหลือส่วนบุคคล กูเกิล นาว (Google Now) และการสั่งงานด้วยเสียง โอเค กูเกิล (OK Google) รวมถึงแอพฯ เสียงและเครือข่ายการส่งข้อความที่ครอบคลุมบริษัทผู้พัฒนารายอื่นๆ สำหรับรายชื่อแอพฯ ที่รองรับการใช้งานในตลาดเวลานี้สามารถเข้าชมที่ Android.com/auto

เชฟโรเลตเป็นแบรนด์รถยนต์รายแรกในโลกที่แนะนำสิริ อายส์ ฟรีของแอปเปิล คาร์เพลย์และเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์รายแรกที่นำเสนอฟังก์ชั่นแอนดรอยด์ ออโต้

ซึ่งแอพฯ รองรับบน เชฟโรเลต มายลิงค์นั้น เป็นแอพฯ ทีได้รับการรับรองแล้วว่าจะไม่รบกวนสมาธิของผู้ขับขี่ และสามารถใช้งานแอพฯได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ

ผู้ใช้งานแคปติวา ใหม่ สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับมายลิงค์ผ่านทางยูเอสบีพอร์ท พร้อมกับการชาร์จโทรศัพท์ ถ้าผู้ใช้มีไอโฟนที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์หรือโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่รองรับแอนดรอยด์ ออโต้ ระบบนี้จะเปิดการทำงานโดยอัตโนมัติโดยแสดงสัญลักษณ์ที่คุ้นตาทั้งรายชื่อ การติดต่อ เพลงและแอพฯ บางประเภทบนหน้าจอทัชสกรีนมายลิงค์ขนาด 7 นิ้วรุ่นใหม่

“ด้วยการพัฒนามายลิงค์ให้สามารถใช้ระบบปฏิบัติการและแอพฯ ที่เราคุ้นเคยของแอปเปิลและแอนดรอยด์ทำให้เจ้าของแคปติวาสามารถเชื่อมต่อและใช้งานระบบนี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มเติม”  โรมิโอ การ์เซีย ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการระบบอินโฟเทนเมนท์ของจีเอ็ม เกาหลี กล่าว

หลายฟังก์ชั่นสามารถควบคุมได้ด้วยเสียงผ่านสวิทช์บนพวงมาลัยทีได้รับการออกแบบใหม่ของแคปติวา อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนและไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย การออกคำสั่งด้วยเสียงผ่านสิริ อายส์ ฟรีหรือโอเค กูเกิล ทำให้ผู้ใช้สามารถโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีและตอบข้อความได้อย่างปลอดภัย

เจ้าของแคปติวาโฉมใหม่สามารถใช้ฟังก์ชั่นเดียวกันนี้ในการเล่นเพลงในโทรศัพท์ หรือผ่านระบบคลาวด์ เมื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต มายลิงค์ยังสามารถแสดงภาพและวีดีโอจากโทรศัพท์แอนดรอยด์ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนเมื่อรถจอดสนิทหรือเคลื่อนที่ช้าๆ


ป้องกันอุบัติเหตุตลอดเวลา


chevrolet-info-safety

ในขณะที่การสั่งงานด้วยเสียงของระบบมายลิงค์เน้นย้ำความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่มีต่อความปลอดภัย แคปติวา ใหม่ ยังยกระดับการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้สูงขึ้นอีกขั้นด้วยการแนะนำระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเหลือการถอยจอด (Rear Park Assist) ระบบเหล่านี้ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งบนกันชนหลังในการตรวจจับมุมอับสายตาด้านข้าง คอยช่วยเหลือผู้ขับขี่เมื่อกำลังถอยหลังหรือเปลี่ยนช่องจราจร จึงหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้

“ผลวิจัยระบุว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของอุบัติเหตุเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ และระบบป้องกันอุบัติเหตุที่ทำงานด้วยเรดาร์แบบที่ติดตั้งในแคปติวามีความถูกต้องแม่นยำมากกว่าเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ใช้ในรถของคู่แข่ง พร้อมกับทำงานได้ดีกว่าบนความเร็วที่หลากหลายและท่ามกลางฝนตก” คุณพชร กุมกาญจนะ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม งานด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบ จีเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนล และประเทศไทย กล่าว


ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา

ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา เป็นการช่วยเหลือขณะเปลี่ยนช่องจราจรที่ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการเฉี่ยวชนด้วยการระบุว่ามีรถอยู่ในมุมอับสายตาทั้งขณะเคลื่อนที่หรือจอดนิ่ง เมื่อระบบตรวจจับว่ามีรถอยู่ในมุมอับสายตา สัญลักษณ์สีเหลืองจะปรากฏบนกระจกมองข้างด้านดังกล่าวและไม่กะพริบ ถ้าผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อทำการเปลี่ยนช่องจราจรขณะที่มีรถคันอื่นอยู่ในมุมอับสายตา สัญลักษณ์บนกระจกดังกล่าวจะกะพริบเพื่อยกระดับการเตือนผู้ขับขี่ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง

ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับทัศนวิสัยของลูกค้า โดยทำงานร่วมกับระบบกล้องมองหลังเพื่อตรวจจับสภาพการจราจรเมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด ถ้าระบบตรวจจับว่าถนนด้านหลังรถมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ อาทิ เด็กที่กำลังปั่นจักรยาน สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอถอยหลังด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่ พร้อมกับเสียงเตือนจากลำโพงด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่

ระบบช่วยเหลือการถอยจอด

ระบบช่วยเหลือการถอยจอด ทำงานขณะเข้าจอดด้วยความเร็วต่ำ ด้วยการแจ้งข้อมูล “ระยะห่างระหว่างวัตถุที่ใกล้ที่สุด” บนหน้าจอแสดงข้อมูล (Driver Information Center) และมีสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอกล้องมองหลัง ระบบจะส่งเสียงเตือนอย่างต่อเนื่องหากตัวรถเคลื่อนเข้าใกล้วัตถุมากเกินไปและควรหยุดทันที

ถึงแม้เชฟโรเลตจะสนับสนุนให้ผู้ขับขี่เปิดใช้งานระบบเหล่านี้ตลอดการเดินทาง แต่ผู้ขับขี่สามารถปิดการทำงานได้ในบางสถานการณ์ อาทิ การขับขี่ช้าๆ ในช่วงจราจรติดขัด เนื่องจากอาจมีการแจ้งเตือนมากเกินไป

ระบบความปลอดภัยและการรักษาเสถียรภาพของแคปติวาเพียบพร้อมทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟ ทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก และระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก

นอกจากนี้ แคปติวายังมาพร้อมระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชันซึ่งป้องกันตัวรถไหลถอยหลังเมื่อยกเท้าออกจากเบรกบนทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิกในการรักษาความเร็วต่ำเมื่อลงทางลาดชันและถนนลื่น ทั้งสองระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนและการควบคุมพวงมาลัยสูงสุด แคปติวายังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ


อีกระดับของประโยชน์ใช้สอย และการออกแบบที่ล้ำสมัย

แคปติวาเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดของเชฟโรเลต จึงเป็นเรื่องท้าทายของนักออกแบบที่ต้องสร้างสรรค์เอกลักษณ์ความแตกต่างให้แก่แคปติวา ใหม่ ที่ทำให้
แคปติวาโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งและยังรักษาความเป็นรถเอสยูวีที่มีลักษณะเฉพาะตัว

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบด้านหน้า โดยเฉพาะกรอบไฟหน้า ซึ่งมีขนาดเล็กลงและมาพร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันในตัว การปรับดีไซน์ยังรวมถึงกระจังหน้าซึ่งปรับตำแหน่งโบว์ไทของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นบนกระจังหน้าเอกลักษณ์แบบดูอัลพอร์ทที่ถูกปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน เมื่อมองในภาพรวม แคปติวามีรูปลักษณ์ที่ก้าวล้ำหน้า เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและความรู้สึกร่วมสมัย ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การออกแบบของแคปติวา ใหม่ ยังสอดคล้องกับทิศทางการออกแบบของ
เชฟโรเลตในระดับโลก ทำให้แคปติวาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เชฟโรเลตมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ด้านหลังรถได้รับการปรับการออกแบบใหม่ โดยมีปลายท่อไอเสียโครเมียมและไฟท้ายแอลอีดีที่เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตและทันสมัยยิ่งกว่าเดิม

โครงสร้างของแคปติวาถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ และไม่ได้สร้างบนพื้นฐานของโครงสร้างรถยนต์นั่งที่มีอยู่เดิม จึงทำให้แคปติวามีความแตกต่างจากคู่แข่งในระดับเดียวกัน แคปติวาเป็นรถเอสยูวีที่ถูกออกแบบให้เป็นรถเอสยูวีขนานแท้ แต่มาพร้อมกับอุปกรณ์อันทันสมัย เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและความหรูหราแบบรถซีดาน

“ด้วยความสูงจากพื้นถนนที่มากกว่า ซุ้มล้อที่ใหญ่กว่าและล้อขนาด 19 นิ้ว แคปติวา ใหม่ ยังคงเป็นหนึ่งในรถเอสยูวีที่มีสมรรถนะการควบคุมที่ดีที่สุดในตลาดเวลานี้” คุณพชร กล่าว

นอกจากการปรับโฉมด้านหน้าใหม่ รูปลักษณ์ภายนอกของแคปติวายังมาพร้อมวัสดุสีดำเพิ่มความบึกบึน ขณะที่การใช้ชิ้นส่วนสีเดียวกับตัวรถทำให้ดูหรูหรากว่าเดิม เน้นย้ำความโดดเด่นในการเป็นรถเอสยูวีสำหรับเมืองใหญ่ของแคปติวาอย่างแท้จริง 

แคปติวา ใหม่  มีจำหน่ายทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว Summit White สีเงิน Switchblade Silver สีเทา Satin Steel Gray สีดำ Black Sapphire สีน้ำตาล Auburn Brown โดยรุ่น LTZ จะมาพร้อมบันไดข้างสแตนเลสและล้อห้าก้านสีทูโทนรุ่นใหม่เพื่อความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น

แคปติวายังได้รับการยกระดับภายในห้องโดยสาร นอกจากฟีเจอร์การเชื่อมต่อที่มีความสำคัญแล้ว ห้องโดยสารยังถูกปรับดีไซน์ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้นและเป็นผู้นำเทรนด์การตกแต่งในปัจจุบัน การติดตั้งระบบมายลิงค์ทำให้วิทยุและการควบคุมระบบนำทางเป็นส่วนเดียวกันและสามารถใช้งานผ่านหน้าจอทัชสกรีนสีเต็มรูปแบบบนคอนโซลกลาง ขณะที่การควบคุมระบบปรับอากาศแบบดูอัลโซนของ
แคปติวาที่แยกส่วนออกมาโดยเฉพาะก็มีการใช้งานที่สะดวกง่ายดายมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้าไอซ์บลูรูปแบบใหม่บริเวณที่วางเท้าด้านหน้าและหลัง พร้อมบันไดข้างขึ้นรูปเรืองแสงทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าช่วยเพิ่มความหรูหราและมอบความสว่างชัดเจนเมื่อเข้าหรือออกจากห้องโดยสารยามค่ำคืน

การปรับห้องโดยสารให้มีความเรียบง่ายมากขึ้นทั้งการแยกส่วนระบบควบคุมการปรับอากาศโดยเฉพาะ และการควบคุมวิทยุและระบบนำทางในตัวแบบศูนย์รวมถือเป็น “หัวใจ” สำคัญของกลยุทธ์การเชื่อมต่อของเชฟโรเลต ห้องโดยสารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ถือเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญเพื่อเพิ่มประโยชน์การใช้งานและทำให้ห้องโดยสารของแคปติวามีความร่วมสมัยมากขึ้น พวงมาลัยสามก้านรุ่นใหม่เติมเต็มความรู้สึกแบบสปอร์ตให้แก่ห้องโดยสารที่ทันสมัย

“ชีวิตครอบครัวสมัยใหม่ในทุกวันนี้อาจมีภารกิจที่ต้องทำมากมายและมีความยุ่งเหยิง พวกเขาจึงต้องการบ้าน รวมถึงรถที่ให้ความรู้สึกและการใช้งานที่สะดวกง่ายดายและไม่ซับซ้อน ห้องโดยสารของแคปติวาเพียบพร้อมทั้งความน่าสนใจและสัมผัสแห่งความร่วมสมัย ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีขึ้นและความประณีตที่เหนือระดับยิ่งกว่าเดิม” ปาร์ก วอนซุก ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของจีเอ็ม เกาหลีกล่าว

การยกระดับที่มีความสำคัญยังรวมถึงหน้าจอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่รูปแบบใหม่ มีกราฟฟิกที่อ่านง่ายมากขึ้น รวมถึงสัญลักษณ์ที่แสดงความแตกต่างระหว่างการใช้งานครูสคอนโทรลหรือ Cruise Control Engaged และก่อนการใช้งานครูสคอนโทรลหรอ Cruise Control Ready ข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนได้จากสวิทช์ด้านข้างพวงมาลัย โดยสามารถตรวจสอบระยะทาง ปริมาณเชื้อเพลิง อัตราความประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยและขณะขับขี่จริง รวมถึงความเร็ว ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์และแรงดันลมยางของแต่ละล้อได้ซึ่งถือเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับเดียวกัน สวิทช์บนคอนโซลเรืองแสงสีขาวเพิ่มการมองเห็น และถูกปรับตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายตามหลักการยศาสตร์ของผู้ขับขี่

ฟังก์ชั่นสำคัญยังมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง และเบาะที่นั่งแบบสามแถวที่ให้ความยืดหยุ่นรองรับผู้โดยสารสูงสุด 7 คนและพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 930 ลิตร คุณสมบัติดังกล่าวทั้งหมดติดตั้งอยู่ในแคปติวาที่เปี่ยมด้วยสไตล์อันโดดเด่น ร่วมสมัย บึกบึนและแข็งแกร่ง

แคปติวายังติดตั้งระบบเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (Passive Entry Passive Start – PEPS) อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ภายในรัศมีของเซ็นเซอร์โดยไม่ต้องถือกุญแจ โดยมีสวิทช์ที่ติดตั้งด้านขวาของพวงมาลัยที่สามารถเปิดหรือปิดระบบนี้ได้


ขุมพลังที่ได้รับการยอมรับและเสถียรภาพการขับขี่ที่ไว้วางใจได้

แคปติวา ใหม่ ยังคงติดตั้งระบบขับเคลื่อนและขุมพลังที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว พร้อมกับมีการปรับปรุงอัตราทดเฟืองท้ายที่ทำให้เฟืองขับเคลื่อนมีรอบหมุนน้อยลงในการหมุนล้อหรือเพลาขับ รอบหมุนที่น้อยลงต่อการขับเคลื่อนเพลาช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขึ้น  จึงส่งผลให้มีความประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นและลดปริมาณมลพิษลง

แคปติวามาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85พละกำลัง 167 แรงม้า (123 กิโลวัตต์) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตร (23.45 กก.-เมตร) ที่ 4,600 รอบ/นาที และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร  พละกำลัง 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร (40.78 กก.-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดครั้งแรกในระดับเดียวกัน พร้อมระบบ Driver Shift Control (DSC)

ระบบยกตัวอัตโนมัติของแคปติวาทำให้ตัวรถรักษาความสูงที่เหมาะสมไม่ว่าจะบรรทุกหนักเพียงใดก็ตาม จึงรักษาเสถียรภาพการขับขี่และการควบคุมที่มั่นคงตลอดการเดินทาง  เหล็กกันโคลงขนาดใหญ่และช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัทและด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ มอบประสิทธิภาพการควบคุมที่เหนือชั้นและการขับขี่ที่ปราดเปรียว


# # #

เกี่ยวกับเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย

               บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543 โดยเป็นหนึ่งในเครือของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินงานในฐานะผู้ทำตลาดยานยนต์ที่ผลิตขึ้นภายใต้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าเริ่มต้นจากเชฟโรเลต ซาฟิร่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นการบุกเบิกตลาดรถยนต์เอนกประสงค์รายแรกของประเทศไทย โดยยานยนต์ที่จัดจำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่ เชฟโรเลต โซนิค สปิน ครูซ แคปติวา โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นยานยนต์คุณภาพทั้งในด้านความปลอดภัย สมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม การออกแบบที่โดดเด่น ความคุ้มค่า และความเป็นผู้นำในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นมอบการบริการหลังการขายที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าด้วยเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายที่มีการพัฒนาทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมได้ที่http://chevrolet.co.th/  หรือ  http://media.gm.com/content/media/th/th/chevrolet/news.html หรือ
https://th-th.facebook.com/chevyclub