Crimson Peak ปราสาทสีเลือด ผลงานล่าสุดจากกิลเลอร์โม เดล โทโร
Crimson Peak ปราสาทสีเลือด ภาพยนตร์แนวลึกลับซ่อนเงื่อนและเหนือธรรมชาติ เรื่องราวของอีดิธ (มิอา วาชิคอฟสกา) นักเขียนจากครอบครัวฐานะดี ซึ่งถูกขโมยหัวใจโดยชายแปลกหน้าเจ้าเสน่ห์ และย้ายมายังบ้านซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาดินสีเลือด สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลับ ซึ่งจะตามหลอกหลอนเธอไปตลอดกาล ระหว่างความปรารถนาและความมืดมิด ระหว่างความลึกลับและความบ้าคลั่ง กลับซุ่มซ่อนความจริงที่อยู่เบื้องหลัง Crimson Peakภาพยนตร์กำกับการแสดงโดย กิลเลอร์โม เดล โทโร สุดยอดผู้กำกับแนวดาร์กแฟรี่เทล ที่กลั่นกรองจินตนาการออกมาเป็นเรื่องราวความรักแนวโกธิคที่นำแสดงโดย มีอา วาซิโควสก้า (Alice in Wonderland, Jane Eyre), นักแสดงหญิงผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึงสองครั้งอย่าง เจสสิก้า แชสเทน (Zero Dark Thirty, Mama), ทอม ฮิดเดิลสตัน (The Avengers, ภาพยนตร์ชุด Thor) และชาร์ลี ฮันนัม (Pacific Rim, ผลงานของเอฟเอ็กซ์เรื่อง Sons of Anarchy) ใน Crimson Peak พวกเขาจะได้ค้นพบพลังความรักที่ทำให้เราทุกคนกลายเป็นสัตว์ร้ายเตรียมพบกับการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการผสมผสานความสยดสยองทางจิตและความงดงามของภาพยนตร์ที่ขับเคลื่อนความสยองขวัญเข้าสู่โลกของเทพนิยายแนวสยอง ใน Crimson Peak ปราสาทสีเลือด 15 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์Crimson Peak Official Trailerhttps://youtu.be/9kn0x9-yKv0Crimson Peak | Visit Crimson Peakhttps://youtu.be/emqg3Cc5_1ICrimson Peak | Remember The Ghosthttps://youtu.be/OVSW16GpQGoชื่อไทย ปราสาทสีเลือด
วันที่เข้าฉาย 15 ตุลาคม 2558
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด เมื่อหัวใจถูกขโมยไปโดยชายแปลกหน้าเจ้าเสน่ห์ หญิงสาวคนหนึ่งถูกพาตัวไปยังบ้านซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาดินสีเลือด สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลับ ซึ่งจะตามหลอกหลอนเธอไปตลอดกาล ระหว่างความปรารถนาและความมืดมิด ระหว่างความลึกลับและความบ้าคลั่ง กลับซุ่มซ่อนความจริงที่อยู่เบื้องหลัง Crimson Peak จากจินตนาการของผู้กำกับ กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่ กลั่นออกมาเป็นเรื่องราวความรักแนวโกธิคที่นำแสดงโดย มีอา วาซิโควสก้า (Alice in Wonderland, Jane Eyre), นักแสดงหญิงผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึงสองครั้งอย่าง เจสสิก้า แชสเทน (Zero Dark Thirty, Mama), ทอม ฮิดเดิลสตัน (The Avengers, ภาพยนตร์ชุด Thor) และชาร์ลี ฮันนั่ม (Pacific Rim, ผลงานของเอฟเอ็กซ์เรื่อง Sons of Anarchy) ใน Crimson Peak พวกเขาจะได้ค้นพบพลังความรักที่ทำให้เราทุกคนกลายเป็นสัตว์ร้าย ในฐานะมือเขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์ยุคใหม่ที่กลายเป็นภาพยนตร์คลาสสิกไปแล้วอย่าง The Devil’s Backbone และ Pan’s Labyrinth และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ทริลเลอร์สยองขวัญอย่าง The Orphanage และ Mama เดล โทโร่ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการผสมผสานความสยดสยองทางจิตและความงดงามของภาพยนตร์ที่ขับเคลื่อนความสยองขวัญเข้าสู่โลกของเทพนิยายแนวสยอง ด้วยผลงานภาพยนตร์ใหม่เรื่องนี้ พลังจินตนาการอันทรงพลังคือการหวนกลับคืนอันยิ่งใหญ่สู่แนวภาพยนตร์ที่เขาเป็นผู้ช่วยสร้างนิยามเอาไว้ กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เดล โทโร่ได้สร้างเรื่องราวความรักที่ถูกยกระดับด้วยความงดงามของภาพยนตร์ที่ย้อนกลับไปสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์แนวนี้ ขณะแสดงให้เห็นถึงภาพอันน่าตื่นตา ตัวละครที่เต็มไปด้วยสีสัน การแสดงที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ และเรื่องราวที่จะดึงดูดคุณไปจนถึงตอนจบที่แสนเจ็บปวด Crimson Peak ที่วางเหตุการณ์เอาไว้ในปี 1901 ให้ความรู้สึกแบบโกธิคร่วมสมัยที่มีสไตล์ ผ่านสไตล์ภาพที่ชวนหลงใหลของเดล โทโร่ คนดูจะถูกนำไปยังจุดหมายอันน่าหวั่นเกรงที่ไม่เหมือนที่อื่นใด ที่ซึ่งหิมะหลั่งโลหิต และทุกมุมมืดซุ่มซ่อนผีร้ายที่จะยังคงค้าคางอยู่ในความคิดไปอีกนานแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้จบลงแล้ว สำหรับผลงานภาพยนตร์ที่ถือว่าทรงพลังที่สุดและเร้าใจที่สุดของเขา เดล โทโร่ได้รวบรวมทีมศิลปินและผู้ร่วมงานที่ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ผู้กำกับภาพชาวเดนมาร์ก แดน ลาสต์เซ่น (Silent Hill, The League of Extraordinary Gentlemen), ผู้ลำดับภาพ เบอร์แน็ท วิลาพลาน่า (Hellboy II: The Golden Army, Pan’s Labyrinth), โปรดักชัน ดีไซเนอร์ โธมัส แซนเดอร์ส (Saving Private Ryan, Braveheart), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เคท ฮอว์ลี่ย์ (Pacific Rim, ภาพยนตร์ใหม่เรื่อง Suicide Squad) และผู้แต่งดนตรีประกอบ เฟอร์นันโด เวลาซเกซ (Mama, The Orphanage) เดล โทโร่ ที่ได้ทำงานจากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันมานานอย่าง แมทธิว ร็อบบิ้นส์ (Mimic, Don’t Be Afraid of the Dark) ยังผนึกกำลังกับผู้ที่เคยร่วมงานกับเขาในภาพยนตร์เรื่อง Pacific Rim อย่างผู้อำนวยการสร้าง คัลลั่ม กรีน (The Hobbit: The Desolation of Smaug, Everybody’s Fine), โธมัส ทัลล์ จากลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส (The Dark Night Rises, Inception) และจอน แจชนี่ (Godzilla, ภาพยนตร์ใหม่เรื่อง Warcraft) รวมถึงผู้อำนวยการสร้างบริหารอย่าง จิลเลี่ยน แชร์ (Seventh Son, Warcraft)ผีจากอดีต:
เรื่องราวของ Crimson Peak
สาวน้อย อีดิธ คุสชิ่ง (วาซิโคว์สกา) คือนักเขียนที่ทะเยอทะยานผู้อาศัยอยู่กับพ่อของเธอ เซอร์คาร์เตอร์ คุสชิ่ง (จิม บีเวอร์ จากผลงานทางทีวีเรื่อง Supernatural, Deadwood) ในบัฟฟาโล่, นิวยอร์ก ในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่ 20 เธอเติบโตมาพร้อมความรู้สึกที่ต้องสูญเสียแม่ ซึ่งคอยตามหลอกหลอนเธอ อีดิธที่มีพลังสื่อสารกับวิญญาณของคนตายได้ ได้รับคำเตือนลึกลับจากหลุมศพว่า “จงระวังคริมสันพีค” ในฐานะแกะดำของวงสังคมชั้นสูง ต้องขอบคุณจินตนาการอันดื้อรั้นของเธอ อีดิธพบว่าตัวเองตกอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ชายสองคนที่แข่งขันกันจีบเธอ นั่นก็คือ ดร.อลัน แม็คไมเคิล (ฮันนั่ม) เพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก ชายผู้เฉลียวฉลาดที่คอยกระตุ้นความคิดของเธอ และโธมัส ชาร์ป หลุ่มเจ้าเสน่ห์ที่เกินจะต้านทาน (ฮิดเดิลสตัน) แกะดำอีกคนที่ยอมรับอีดิธในแบบที่เธอเป็นจริงๆ และเขายังขโมยหัวใจของเธอไปด้วย เมื่อพ่อของเธอตายอย่างลึกลับ โธมัสได้พาอีดิธไปอยู่ที่คฤหาสน์ประจำตระกูลที่แสนหรูหราของเขาที่ชื่อ อัลเลอร์เดล ฮอลล์ มันคือคฤหาสน์สไตล์โกธิคที่มีขนาดใหญ่และตั้งอยู่บนเนินเขาอันห่างไกลของอังกฤษ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย ด้วยที่ตั้งที่อยู่เหนือเหมืองใต้ดิน ดินสีเลือดที่ซึมผ่านหิมะ และคราบของภูเขา มันจึงได้ฉายาว่า “ปราสาทสีเลือด” แต่โธมัสและอีดิธไม่ได้อยู่กันเพียงลำพัง บ้านสไตล์โกธิคที่ตั้งตระหง่านแห่งนี้ยังเป็นบ้านของ ลูซิลล์ (แชสเทน) พี่สาวของโธมัส ผู้หญิงที่ดูลึกลับและดูยั่วยวนใจ ผู้ซึ่งสำหรับอีดิธแล้ว เธอเหมือนมีวาระแอบแฝงบางอย่าง เมื่ออีดิธเริ่มต้นชีวิตใหม่ คริมสันพีคดูจะมีชีวิตของมันเองเช่นกัน เมื่อเธอเริ่มเห็นภาพดั่งฝันร้ายและวิญญาณเลือด แต่ปีศาจที่แท้จริงของคริมสันพีคกลับเป็นคนที่มีเลือดเนื้อ... อีดิธจะสามารถไขความลึกลับของภาพที่เธอมองเห็นก่อนที่มันจะสายเกินไปได้หรือไม่ แล้วโธมัสจะเลือกช่วยภรรยาของเขาหรือจะปกป้องครอบครัว ดร.แม็คไมเคิลยินดีจะเสียสละได้แค่ไหนในการต่อสู้เพื่อรักแท้ และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออดีตที่ลึกลับของลูซิลล์ไล่มาจนทันเธอ เมื่อความรักเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่ง และฝันร้ายกลายเป็นความจริง ทุกคนที่ก้าวเท้าเหยียบคริมสันพีคล้วนแต่ตกอยู่ในอันตรายอย่างมหันต์ แต่ที่ที่มีอันตรายแห่งนี้จะเผยความจริง หรือจะปกปิดชะตากรรมของมันเอาไว้