news on September 22, 2015, 03:51:47 PM
งานเปิดตัว ASUS ZenFone Selfie
เก็บภาพอันสวยงามของคุณด้วย ZenfoneSelfie ผู้นำแห่งการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและกล้อง


หลังจากมีการเปิดตัว Zenfone 2 มาได้ระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ที่เอซุสตั้งใจรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่หรูหรา มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เราตั้งใจนำมาเปิดตัวในประเทศไทยนั่นคือ สมาร์ทโฟนZenfoneรุ่นต่างๆ และ accessory หลากหลาย ที่ใช้คู่กันได้อย่างลงตัว

มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ตอนนี้เป็นเวลาอันดีที่เอซุสจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ในประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือZenfoneSelfie ซึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คือเรื่องกล้องหน้า ที่มีความละเอียดถึง13ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ ได้ในมุมกว้าง 144 องศา ทั้งยังมีโหมดPanoramaสามารถเก็บภาพได้ทุกมุม ถึง 270 องศาหน้าจอใช้กระจกกันรอยขีดข่วนใหม่ล่าสุด นั่นคือCorning® Gorillla® Glass 4 ทำให้หน้าจอมีความทนทานมากกว่า ทั้งยังมีสีสันให้เลือกมากมาย”











ZenfoneSelfieมาพร้อมโหมด Beautification ทำให้คุณยิ่งดูดี ไม่ว่าจะการเป็นปรับแสงให้สมดุล ทำให้ภาพนิ่มนวล ลบริ้วรอยต่างๆในทันที ได้ภาพสวยสมจริงมาพร้อมกับ 16 โหมดการถ่ายภาพเทคโนโลยี PixelMasterช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดยจะเพิ่มความไวแสงขึ้น 4 เท่าโดยทำให้ภาพและวิดีโอมีความสว่าง โดยไม่ต้องใช้ไฟแฟลชด้วยเทคโนโลยีรวมแสงที่ทำให้ภาพสว่างขึ้น 400% ทำให้ภาพสวยสมจริงทุกๆการถ่ายภาพมาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ 2 สีที่รวมระหว่าง สีเหลืองนวลและสีขาว เพื่อให้ภาพออกมาเป็นธรรมชาติ

ส่วนกล้องหลังความละเอียด13 ล้านพิกเซลเช่นกัน และมี Laser Auto-focusที่ช่วยวัดระยะโฟกัสได้ดุจความเร็วแสงโฟกัสได้ทันทีช่วยให้การจับภาพแม่นยำขึ้น ZenfoneSelfieมาพร้อมSuper Resolution ให้รายละเอียดภาพมากขึ้นถึง 4 เท่าด้วยเทคโนโลยีในการสร้างภาพอย่างน่าประหลาดใจ ช่วยเพิ่มความละเอียดภาพเพิ่มมากขึ้นจากกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ให้เห็นรายละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซล และด้วยคุณสมบัติของเลนส์แบบพิเศษ ช่วยให้คุณถ่ายภาพระยะใกล้ได้ในระยะเพียง6 เซนติเมตรหรือ 2.3 นิ้ว เท่านั้นเผยให้เห็นรายละเอียดมากกว่าที่เคย ทุกรอยยิ้ม ท่าทางความสนุกสนาน และความประทับใจของคุณ




Zenfone Laser  ZE550KL                                                      Zenfone Selfie  ZD551KL

นอกจากนี้ หน้าจอกระจกกันรอยขีดข่วนใหม่ล่าสุด นั่นคือCorning® Gorillla® Glass 4 ทำให้หน้าจอมีความทนทานมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง2.5เท่าและยังลดโอกาสที่จะแตกหักในการใช้งานทั่วไปถึง85%ให้ความคมชัดสีสันสดใส และหน้าจอ Full-screen lamination พร้อมทั้ง เทคโนโลยีASUS TruVivid ที่ลดชั้นหน้าจอ ให้เหลือเพียง2 ชั้นทำให้ ZenfoneSelfieมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สว่างและตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีเยี่ยม

ขณะเดียวกันดีไซน์ของ ZenfoneSelfieก็มอบความสวยงามในสไตล์ Zen ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความพรีเมียม มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีชมพูนม สีฟ้าพาสเทล สีขาว สีแดง สีเงิน และสีทอง ตอบสนองทุกๆ ความต้องการของผู้ใช้งาน

ZenfoneSelfieมาพร้อมความละเอียดของหน้าจอแสดงผลที่ Full HD 1920x1080 พาเนลหน้าจอแบบ IPS และหน้าจอมีขนาด5.5 นิ้ว แต่ด้วยการออกแบบพิเศษเพื่อลดขอบของหน้าจอเครื่องเหลือเพียง3.3 มม เมื่อเทียบกันแล้ว ขนาดตัวเครื่องจึงไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนขนาด 5 นิ้วทั่วไป พร้อมทั้งหน้าจอแสดงผลที่แบบมุมกว้าง 178 องศา ความสว่างหน้าจอ400 nitsและความหนาแน่นของพิกเซลถึง403 ppiระบบสีของภาพแบบ NTSC 72%ทำให้ภาพและวิดีโอมีความสว่างและสมจริงมากยิ่งขึ้น

ด้านของประสิทธิภาพเพื่อความบันเทิงและการประหยัดพลังงานก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ ZenfoneSelfieผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 615 Octa-Core 64 บิต และแรมแบบความเร็วสูงถึง 3 GB ทำให้ ZenfoneSelfieมีความเร็ว ประหยัดพลังงาน และพร้อมสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ

นอกเหนือจากประสิทธิภาพการทำงานแล้ว การเชื่อมต่อก็เป็นสิ่งที่ ZenfoneSelfieมีความโดดเด่น ด้วยการมาพร้อมกับ Wi-Fi แบบ 802.11ac ทั้งยังเลือกใช้การออกแบบการรับส่งสัญญาณด้วยเทคโนโลยี ‘Beamforming’ ที่มีความเร็วการรับส่งข้อมูลสูงสุดถึง 433 Mbit/s แต่ประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็รองรับในระดับ4GLTE ที่มีครอบคลุมถึง 31 ประเทศทั่วโลกด้วยความเร็วสูงสุดถึง  150 Mbit/s ทำให้ ZenfoneSelfieเป็นสมาร์ทโฟนที่จะมาตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับการใช้งานด้านความบันเทิง ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของ ASUS ได้เลือกใส่เทคโนโลยี Sonic Master ให้กับ ZenfoneSelfieทำให้เสียงที่ออกมานั้นมีความลึกด้วยมิติ และมีความใสของเสียง ทุกๆครั้งที่ฟัง และนอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ Smart ASUS AudioWizardรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อให้เหมาะสำหรับการฟังจากสื่อทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์การฟังเพลง รวมถึงการเล่นเกม ทำให้ได้เสียงมีมิติที่สมจริง ตอบสนองได้ทุกรูปแบบการใช้งาน

ZenfoneSelfie มาพร้อมกับความอิสระในการแสดงตัวตนของผู้ใช้ และมอบความสะดวกในการใช้งานด้วย ASUS ZenUIแบบใหม่ ซึ่งได้รับออกแบบมาให้ใช้งานง่ายพร้อมด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ZenMotion, SnapView, Trend Micro™ Security และZenUI Instant Updates ที่ทำให้การใช้งานไม่มีสะดุด ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยของระบบด้วย ZenUIแบบใหม่ที่ ASUS พัฒนาเสริมประสิทธิภาพขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 ฟังก์ชั่น นอกจากนี้ยังอัพเดตแอพพลิเคชั่นเสริมของ ZenUIได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้จาก Google Play Storeคุณจึงสามารถใช้งานAndroid ได้อย่างลงตัวกว่าที่เคย

ในส่วนZenUI Launcher มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลาย เพียงปาดนิ้วขึ้นในขณะที่อยู่หน้าHome เพื่อเข้าสู่โหมดปรับแต่ง ซึ่งสามารถเปลี่ยน Wallpaperเปลี่ยน ธีมรวมถึงเลือกรูปไอคอนที่คุณต้องการ เพื่อทำให้ ZenfoneSelfieเป็นเครื่องที่มีลักษณะเฉพาะตัวสำหรับเก็บภาพความประทับใจด้วยกล้องหน้า หากจะเปิดหน้าจอขึ้นมาใช้งานก็เพียงแตะหน้าจอ 2 ครั้ง หรือจะแตะปุ่ม Home 2 ครั้งเพื่อเปิดโหมดการใช้งานมือเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม สั่งงานสมาร์ทโฟนได้ด้วยมือเดียว ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เอซุสพัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานในปัจจุบันอย่างลงตัวที่สุด











ราคา  Zenfone Selfie  ZD551KL  8,990  วางจำหน่ายแล้ว

ราคา  Zenfone Deluxe  ZE551ML  12,990  วางจำหน่ายแล้ว

ราคา  Zenfone Laser  ZE550KL  6,990  ยังไม่วางจำหน่าย

ราคา  Zenfone Laser  ZE500KL  5,990  ยังไม่วางจำหน่าย

ราคา  Zenfone Laser  ZE500KG  4,990  วางจำหน่ายแล้ว


เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส ผู้จัดจำหน่ายโน้ตบุ๊คอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และติดอันดับหนึ่งในสามของโน้ตบุ๊คที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด เราเป็นผู้นำในยุคดิจิตอล ในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านดิจิตอลทั้งที่บ้านและที่ทำงาน อาทิ โน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อปพีซี ออลอินวันพีซี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ด้วยนวัตกรรมและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เด่นชัด เอซุสจึงได้รับรางวัลถึง4,326 รางวัลในปี 2014 นอกจากนี้เรายังเป็นผู้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PC™ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเอซุส มีพนักงานกว่า 13,600 คนทั่วโลก มีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 4,500 คน รายได้เมื่อปี 2014 ประมาณ 14.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: www.facebook.com/ASUSTHAILANDหรือติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail : Asusth_pr@asus.comหรือโทร 02-677-4422-9
« Last Edit: September 24, 2015, 07:39:03 PM by happy »

news on September 23, 2015, 08:26:28 AM
ASUS Zenfone Laser โฟกัสด้วยความไวแสง พร้อมเก็บภาพทุกสถานการณ์




 
หลังจากเอซุสเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนASUS Zenfone 2 ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันสำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคุณภาพสูง กล้องPixelMasterรวมถึงประสิทธิภาพอันโดดเด่นด้วยแรมขนาดสูงสุดถึง 4 GB ทำให้สามารถใช้งานได้ไหลลื่น การสลับแอพพลิเคชันทำได้รวดเร็ว เป็นต้น

ล่าสุดเอซุสก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ นั่นคือ ASUS Zenfone 2 Laser ซึ่งได้รับการต่อยอดจาก Zenfone 2 ให้ตอบสนองความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการถ่ายภาพ ที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ของการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับจากความสำเร็จของ Zenfone 2 เอซุสก็ได้มีการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด สำหรับZenfone2 Laser ของเรา มีการเพิ่มเลเซอร์โฟกัสเข้ามา ทำให้การจับโฟกัสขณะถ่ายภาพเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้เรายังมีการพัฒนาในส่วนอื่นๆ เพื่อให้ Zenfone 2 Laser เป็นสมาร์ทโฟนพรีเมียมสำหรับทุกท่านซึ่งเป็นเป้าหมายที่เอซุสยึดถือในการออกแบบผลิตภัณฑ์เสมอมา”

จุดที่เด่นสุดก็คือระบบเลเซอร์ออโต้โฟกัส ที่เลือกใช้แสงเลเซอร์ในการช่วยจับโฟกัส ทำให้การจับภาพใช้เวลาเพียง 0.2 วินาทีสามารถเก็บภาพประทับใจได้ทันทุกสถานการณ์ แม้ในที่แสงน้อยก็ตาม ส่วนเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพเป็นการต่อยอดมาจาก Zenfone 2 ไม่ว่าจะเป็น PixelMaster 2.0 รวมถึงชุดเลนส์ Largan 5 ชิ้น รูรับแสงขนาด f/2.0 ให้ภาพสว่าง มีมิติชัดลึก ทั้งยังมีแฟลชสองสี Real Tone Flash ส่วนกล้องหน้าก็สามารถเก็บภาพได้มุมกว้างถึง 85 องศา ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องง่าย ได้ภาพออกมาสวยงาม

โหมดการถ่ายภาพของกล้องก็มีให้เลือกใช้งานได้ถึง 16 โหมด เช่น Low Light Modeสำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย ให้ภาพมีความสว่างขึ้นกว่าปกติถึง400% ทำ หรือโหมด Super HDR ที่ช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้ครบถ้วน แม้จะถ่ายย้อนแสง นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพสำหรับมืออาชีพอย่างโหมด Manual ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าก่อนถ่ายภาพได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นค่าความไวแสง (ISO) ค่าความเร็วชัตเตอร์ ค่าสมดุลแสงขาว รวมถึงสามารถปรับระยะโฟกัสได้ ทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายในสไตล์ของตนเองได้อย่างไม่สิ้นสุด

สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ ASUS Zenfone 2 Laser ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Zen ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขนาดจอแสดงผลที่กว้างกว่า 70% ของหน้าจอ ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนในขณะที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป ประกอบกับการเลือกใช้กระจกหน้าจอเป็นกระจก Gorilla® Glass 4 ที่แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความทนทาน และออกแบบให้ปุ่มกดอยู่ด้านหลัง เพื่อทำให้ตัวเครื่องบาง โดยส่วนที่บางสุดเพียงแค่ 3.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ได้รับการการันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบระดับสากลอย่างiF Design Award 2015

ทางด้านประสิทธิภาพ Zenfone 2 Laser มาพร้อมกับความลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 410 ร่วมกับแรมขนาด 2GB และ Android L 64 บิท ทำให้การทำงานไหลลื่น ตอบสนองได้ทุกรูปแบบการใช้งาน

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเสียง SonicMaster 2.0 ให้เสียงเต็มพลัง คมชัดในทุกอณู ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน AudioWizard 2.0 ที่ใช้สำหรับปรับแต่งเสียงได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ตามรูปแบบเสียงที่โปรดปราน
Zenfone 2 Laser มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ด้วยกัน ได้แก่ZE550KL, ZE500KL และ ZE500KG
« Last Edit: September 23, 2015, 08:29:23 AM by news »

news on September 23, 2015, 08:31:10 AM
เอซุส Zenfone 2 Deluxe ความงามดุจอัญมณี พร้อมความจุถึง 128GB



ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เอซุสได้เปิดตัว Zenfone 2 ที่ขึ้นเป็นผู้นำในวงการสมาร์ทโฟน ด้วยหน่วยความจำระดับ 4GB เป็นรุ่นแรกของโลก รวมถึงความจุสูงสุด 64GB ในราคาคุ้มค่า ทั้งยังมีดีไซน์ที่หรูหรา สมกับที่เอซุสตั้งใจในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกคน ในราคาที่จับต้องได้

มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากเอซุสได้เปิดตัว Zenfone 2 ซึ่งส่งมอบความพรีเมียมให้กับทุกท่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะส่งมอบความเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับกับZenfone 2 Deluxe ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง และภายในที่มีความจุมากขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งาน ว่าจะได้ใช้สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี”

จุดเด่นของเอซุส Zenfone 2 Deluxe ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือฝาหลังที่มีการออกแบบในลักษณะของลายเส้นตัดกันอย่างปราณีตและลงตัว เกิดเป็นความงามแบบคริสตัลดุจอัญมณีล้ำค่า มีรอยหยักที่แสดงถึงความแตกต่างกันของระดับพื้นผิว ก่อให้เกิดเป็นรูปลักษณ์ 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงสัมผัสการใช้งานที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป

อีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษก็คือความจุหน่วยความจำที่สูงถึง 128GB ทำให้การเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะภาพถ่ายที่เก็บความประทับใจ วิดีโอที่บันทึกช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมา หรือจะเก็บไฟล์งานสำคัญต่างๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเนื้อที่เก็บข้อมูลจะไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำ MicroSDลงไปได้สูงสุดอีก 128GB ทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงสุดกว่า 256GB นอกจากพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องที่สูงแล้ว เอซุสยังมีบริการ ASUS WebStorageให้ใช้งานได้ฟรีถึง 5GB อีกด้วย

ด้านประสิทธิภาพ Zenfone 2 Deluxe เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel® Atom™Z3580Quad-Core 64 บิท ร่วมกับแรม 4GB เพื่อประสิทธิภาพที่สูง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่มีกราฟิก 3 มิติ รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งยังสามารถสลับแอพพลิเคชันไปมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ เพื่อการใช้งานที่ไหลลื่น ตัดปัญหาแอพพลิเคชันโหลดตัวเองใหม่ทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งาน

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของสมาร์ทโฟน โดย Zenfone 2 Deluxe รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE Cat.4 ที่ความเร็วสูงสุด 150Mbps รวมถึงยังใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน 3G ได้ทุกเครือข่าย ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหนักๆ อย่างรับชมวิดีโอออนไลน์ หรือจะเป็นการท่องเว็บไซต์ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการใช้งานโทรศัพท์ก็ทำได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบโครงสร้างการรับสัญญาณแบบ 3D รอบตัวเครื่อง เพื่อทำให้การเชื่อมต่อไม่ติดขัด ทั้งยังสามารถใช้งานได้ 2 ซิมแบบ Dual SIM Dual Active ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ

Zenfone 2 Deluxe มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ที่สามารถใช้งานเต็มประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี BoostMaster ที่ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 60% ภายในระยะเวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้น

ส่วนของอินเตอร์เฟซ ZenUI ก็ได้รับการพัฒนาให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธีม รูปแบบไอคอน ตัวอักษร รวมถึงยังมีฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย เช่น ZenMotion ที่ช่วยให้เปิดใช้งานแอพพลิเคชันทำได้ง่ายขึ้น เพียงแค่วาดตัวอักษร C บนหน้าจอ ก็สามารถเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
« Last Edit: September 24, 2015, 07:26:29 PM by happy »