happy on September 17, 2015, 02:02:36 PM
“พีที” จับมือ “มูลนิธิพระดาบส” สานต่อโครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3”
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริง สร้างอาชีพ สร้างอนาคต

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน “พีที” และ ดำเนินธุรกิจพลังงานครบวงจร ต่อยอดโครงการสู่ปีที่ 3 ภายใต้แผนโรดแมปซีเอสอาร์ 4 ปี ด้วยการมอบเงินทุนสนับสนุน จัดตั้งโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” เน้นเรียนรู้แผนธุรกิจและลงมือปฏิบัติจริง พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมสมทบทุนเพื่อมอบโอกาสสร้างอาชีพ โดยการเติมน้ำมันทุก 5 สตางค์ต่อลิตร ตั้งแต่วันนี้– 31 ตุลาคม 2558 ณ สถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศ


ท่านองคมนตรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส กล่าวเปิดงาน

                   ท่านองคมนตรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส ประธานในพิธีเปิดโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3 กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพระดาบสและบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ว่า “มูลนิธิพระดาบสได้ดำเนินงานสนองตามโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี ”โรงเรียนพระดาบส” ทำหน้าที่ฝึกอบรมความรู้ ทักษะวิชาชีพ และทักษะชีวิตให้แก่ผู้ยากจนด้อยโอกาสทางการศึกษาที่ตั้งใจแสวงหาความรู้ เพื่อนำไปประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักคุณธรรมและความพอเพียง เปิดสอนในรูปแบบการศึกษานอกระบบ หลักสูตร 1 ปี ทั้งหมด 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ ช่างยนต์, ช่างไฟฟ้า, ช่างอิเล็กทรอนิกส์, ช่างซ่อมบำรุง, การเกษตรพอเพียง, ช่างไม้เครื่องเรือน, ช่างเชื่อม และเคหบริบาล ปัจจุบันโรงเรียนพระดาบสสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพไปแล้วกว่า 39 รุ่น

                   การเข้ามาสนับสนุนของพีทีตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ” ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้มูลนิธิพระดาบสสามารถพัฒนาการเรียนการสอนและมอบโอกาสให้แก่ผู้ที่ขาดโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยประชาสัมพันธ์โรงเรียนพระดาบสให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้สนใจสมัครเข้าเรียนมากที่สุด จำนวน 700 กว่าคน ทำให้ทางโรงเรียนสามารถคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณภาพ ตรงตามเกณฑ์คุณสมบัติได้อย่างครบถ้วน โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ” จึงนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยส่งเสริมให้ศิษย์พระดาบสนำความรู้วิชาชีพติดตัวไปประกอบสัมมาอาชีพ และเป็นกำลังในการพัฒนาชาติต่อไป”


คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)

                   คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3” ว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 3  แล้ว ที่พีทียังคงเดินหน้าสานต่อความตั้งใจสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม ด้วยเจตนารมณ์ของพีทีที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีวิชาชีพ เพราะการสร้างอาชีพเปรียบเสมือนการเติมพลังให้กับแผ่นดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังใช้เป็นใบเบิกทางสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย

                   ที่ผ่านมาเราพบว่าส่วนใหญ่ผู้มีวิชาชีพที่มีความสามารถทั้งด้านทักษะและฝีมือ ยังคงขาดความรู้ความเข้าใจและขาดประสบการณ์ทางธุรกิจ พีทีจึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มคนเหล่านี้ให้สามารถนำความรู้ความสามารถด้านวิชาชีพไปประกอบธุรกิจของตัวเอง เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวตามแนววิถีพอเพียงและยั่งยืน จึงเป็นที่มาโครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3” ภายใต้แนวคิด “การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในโรงเรียน แต่เป็นการเรียนรู้ชีวิตด้วยการลงมือทำจริงที่ไม่มีวันสิ้นสุด” เราจึงจัดตั้ง โครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” ร่วมกับโรงเรียนพระดาบส ให้นักเรียนที่กำลังจบการศึกษาได้ใช้ทักษะและฝีมือจากวิชาชีพที่ได้ร่ำเรียน นำมาสร้างเป็นธุรกิจรายย่อยจำลอง เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจ การบริหารต้นทุนและการวางแผนระบบการเงินด้วยการลงมือปฏิบัติจริง โดยเราตั้งเป้าหมายว่าเมื่อนักเรียนจบการศึกษาแล้วจะสามารถประกอบธุรกิจและเป็นเจ้าของกิจการหาเลี้ยงชีพได้ จะช้าหรือเร็วไม่สำคัญ”

                   การจัดตั้งโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” ภายใต้โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3” ในครั้งนี้ ทางพีทีได้ดำเนินการสนับสนุนเงินทุนในด้านต่างๆ อาทิ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญในการประกอบธุรกิจ ทุนค่าอาหาร รวมถึงการจัดหาบุคลากรที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแต่ละสาขาวิชาชีพมาเป็นครูพี่เลี้ยงคอยถ่ายทอดประสบการณ์และให้คำแนะนำในการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้เรายังทำการทำประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ และอีกหลากหลายช่องทาง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนได้รับทราบถึงโครงการ โดยผู้ที่สนใจสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการนี้ได้ผ่านการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีที ทุก 5 สตางค์ต่อลิตร เพื่อสมทบทุนมอบแก่มูลนิธิพระดาบส ตั้งแต่วันนี้– 31 ตุลาคม 2558

                   คุณพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับการวางแนวทางการดำเนินโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 4 เราวางแผนที่จะมอบโอกาสให้ศิษย์พระดาบสได้ประกอบธุรกิจร้านค้าในพื้นที่ของสถานีบริการน้ำมันที่พีทีเป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารงานเอง (CO-CO) เพื่อสานต่อโครงการระยะยาวให้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน สร้างอาชีพ สร้างอนาคต และสร้างประโยชน์แก่สังคมได้อย่างแท้จริง”


ดร.สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส

                   ด้าน ดร.สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส ถ่ายทอดความรู้สึกต่อโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ว่า “นับตั้งแต่ที่ทางโรงเรียนได้ร่วมมือกับโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน ถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจมาโดยตลอด เห็นได้จากจำนวนผู้ที่มีความตั้งใจในการเรียนรู้แต่ยังขาดโอกาสเข้ามาสมัครเรียนที่โรงเรียนพระดาบสที่เพิ่มขึ้นทุกปี

                   สำหรับโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” ภายใต้ โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ในปีที่3 นี้ ผมถือว่าเป็นโครงการนำร่องหลังจบการศึกษา เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพของศิษย์พระดาบส ในด้านการประกอบอาชีพภายใต้สาขาวิชาที่เรียนมา รวมทั้งให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจจากประสบการณ์จริง โดยให้ศิษย์พระดาบสรุ่นที่ 38 จำนวน 22 คน รวมตัวกันทดลองเปิดร้านรับซ่อมและบริการต่างๆ ภายในพื้นที่ของโรงเรียนพระดาบส จำนวน 12 ร้าน จาก 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ งานช่างยนต์ (ซ่อมมอเตอร์ไซค์และเครื่องจักรทางการเกษตร), งานช่างไม้เครื่องเรือน (รับออกแบบและทำเฟอร์นิเจอร์), งานช่างไฟฟ้า (รับเดินระบบไฟฟ้า), งานช่างแอร์ (ซ่อม ติดตั้งและล้างแอร์), งานการเกษตร (ติดตา ตอนกิ่งไม้), งานช่างเชื่อม (เชื่อมเหล็กและโลหะ), งานช่างมุ้งลวดและเหล็กดัด (ซ่อมและติดตั้งมุ้งลวดเหล็กดัด), งานช่างอิเล็กทรอนิกส์ (รับทำวิทยุทรานซิสเตอร์), งานช่างพื้นฐาน (ตะไบเหล็ก), งานเคหบริบาล (จัดดอกไม้และเย็บเสื้อผ้า), งานช่างแกะสลักน้ำแข็ง (ออกแบบและแกะสลักน้ำแข็ง) และงานซ่อมอุปกรณ์และเครื่องมือไฟฟ้า ผู้ที่สนใจอยากใช้บริการสามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนพระดาบส ถนนสามเสน ทุกวันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.”






งานช่างยนต์                                                                                 งานช่างไม้เครื่องเรือน


งานซ่อมอุปกรณ์และเครื่องมือไฟฟ้า


งานเคหบริบาล