FB on September 02, 2015, 08:33:46 PM
Movie Guide: Spotlight และ Son of Saul ประกาศศักดาความเยี่ยม! บนเวที New York Film Critics Circle Awards และ National Board of Review







Spotlights - Official Trailer [ซับไทย / เข้าฉาย 14ม.ค.59]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6Llj8bMbbXM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6Llj8bMbbXM</a>

Son of Saul Trailer 1 (2015) - Geza Rohrig Holocaust Drama Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs</a>

          เรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วงการประกาศผลรางวัลจากเวทีต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยล่าสุดอีกสองเวทีใหญ่อย่าง นิวยอร์ก ฟิล์ม คริติกส์ เซอร์เคิล อวอร์ดส์ (New York Film Critics Circle Awards) และ เนชั่นแนล บอร์ด ออฟ รีวิว (National Board of Review - หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งอเมริกา) ก็ได้ประกาศผลรางวัลในสาขาต่างๆ ทั้งหมดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          โดยในส่วนของเวที นิวยอร์ก ฟิล์ม คริติกส์ เซอร์เคิล อวอร์ดส์ (New York Film Critics Circle Awards) นั้น ... ไมเคิล คีตัน ก็ได้พิสูจน์ฝีมือการแสดงโดยการสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากผลงานดราม่าสุดเข้มข้น "Spotlight" ในขณะที่ ลาสซโล เนเมส สามารถคว้ารางวัลผลงานการกำกับเรื่องแรกยอดเยี่ยมจาก "Son of Saul" ผลงานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวมาครอบครองไว้ได้อย่างสำเร็จ

          และทางฝั่งของเวที เนชั่นแนล บอร์ด ออฟ รีวิว (National Board of Review) นั้น ... "Spotlight" ก็ได้รับการโหวตให้ติดอันดับเป็น หนึ่งในเก้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี(เคียงคู่กับผลงานอย่าง Sicario, Room, Creed, The Hateful Eight เป็นต้น) และ "Son of Saul" ก็ได้คว้ารางวัลในสาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ตามที่สื่อใหญ่หลายสำนักได้คาดการณ์กันเอาไว้ก่อนหน้านี้

          Spotlight คือภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเรื่องจริงของเหตุการณ์สุดอื้อฉาวที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เมื่อทีมนักข่าวฝีมือพระกาฬจากหนังสือพิมพ์บอสตันโกลบในนาม 'ทีมสปอตไลท์'ได้ร่วมกันสืบหาความจริง เพื่อทำสกู้ปข่าวเปิดโปงคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโบสถ์ท้องถิ่นที่ลุกลามจนสร้างความสั่นสะเทือนไปโลก ... ขุดคุ้ย สั่นคลอน คริสตจักร : มีกำหนดเข้าฉาย 14 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

          Son of Saul คือผลงานที่เคยประกาศศักดาความเยี่ยมโดยการคว้ารางวัลเกียรติยศอันดับสองหรือ Grand Prix จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด ... โดยภาพยนตร์นั้นบอกเล่าถึงเรื่องราวของ ซอล นักโทษชายชาวฮังกาเรียน-ยิวที่ถูกกักกันอยู่ในค่ายเอาชวิทซ์ เขาทำงานอยู่ในหน่วยพิเศษ (เรียกว่า Sonderkommando) ซึ่งทำหน้าที่เก็บศพชาวยิวด้วยกันเองจากห้องรมแก๊สหรือจากสาเหตุการตายอื่นๆ มาเผา ... วันหนึ่งเขาได้เจอกับศพของเด็กชายที่ตัวเขารู้สึกผูกพันด้วยอย่างประหลาด ด้วยเหตุนี้ซอลจึงพยายามตามหารับบี (หมายถึงอาจารย์หรือผู้เป็นที่เคารพในศาสนายูดาห์) เพื่อจะมาทำพิธีฝังศพเด็กชายคนนี้อย่างถูกต้องตามประเพณี : มีกำหนดเข้าฉาย 25 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: January 11, 2016, 02:48:12 PM by FB »

FB on December 22, 2015, 02:44:05 PM
Movie Guide: หนังที่ว่ากันว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดของโลกที่ออกฉายในปี 2015 SON OF SAUL









Son of Saul "Official Trailer" 2015
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=sWQTfbXLTHQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=sWQTfbXLTHQ</a>

          เจ้าของรางวัลกรังด์ปรีซ์ เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2015
          เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลลูกโลกทองคำ 2016
          เต็งหนึ่งรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ 2016
          หนังที่ว่ากันว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดของโลกที่ออกฉายในปี 2015
          SON OF SAUL

กำกับการแสดง ลาสโล เนเมช

แสดง เกซา เรอห์ริก, เลเวนเท โมลนาร์, เออร์ส เรคชิน

ประเภท ดราม่า / ประเทศ ฮังการี / ความยาว 107 นาที

กำหนดฉาย 25 กุมาพันธ์ 2016

          เดือนตุลาคมปี 1944 ช่วงเวลาอันมืดหม่นของสงครามโลกครั้งที่ 2

          ชาอูล ออสแลนเดอ (เกซา เรอห์ริก) เป็นชาวยิวฮังกาเรียนที่ถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ – ค่ายที่ถือได้ว่าใหญ่และโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด ในค่ายกักกันแห่งนั้น ชาอูลถูกสั่งให้ใช้แรงงานในแผนกฌาปนกิจ นั่นก็คือ การทำลายศพของนักโทษยิวที่ตายหลังจากถูกส่งตัวไปสังหารหมู่ในห้องรมแก๊สพิษ

          วันนั้นก็เหมือนๆ กับทุกวัน ชาอูลและเพื่อนๆ ต้องขนศพไปทำลาย แต่มันต่างกันตรงที่...มีศพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งชาอูลเชื่อว่า มันคือศพของลูกชายของเขา

          ชาอูลฝังใจเหลือเกินตั้งแต่พลัดพรากกับลูกชายในช่วงโดนกวาดต้อนเมื่อหลายปีก่อน ว่าตนเองเป็นพ่อที่เลว ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลลูก เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานให้กับเขา ชาอูลตัดสินใจขโมยศพเด็กคนนั้นมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง

          แต่ในค่ายกักกันอันแสนหฤโหด และมีทหารนาซีรักษาการณ์อย่างแน่นหนา ความตั้งใจของชาอูลในครั้งนี้ จึงเดิมพันด้วยชีวิต

          Son of Saul กำกับโดย ลาสโล เนเมช ผู้กำกับหน้าใหม่ชาวฮังกาเรียน วัย 38 ปี ที่เพิ่งเคยทำหนังยาวเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เนเมชทำหนังสั้น (และชนะรางวัลจากหลายเทศกาล) จำนวนหนึ่ง และเขาเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้แก่ เบลา ทาร์ คนทำหนังชั้นครูชาวฮังกาเรียน

          เนเมช มีพ่อเป็นผู้กำกับเช่นกัน (อันดราส เยเลช) ในตอนเด็ก เนเมชหัดทำหนังเพราะตอนเองหลงใหลในหนังสยองขวัญ ต่อมาเขาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในสาขาประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก่อนจะไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์โดยตรงที่นิวยอร์ก

Son of Saul เป็นหนังยาวเรื่องแรกของเขา ที่ผสมผสานความเป็นหนังระทึกขวัญและหนังสะท้อนสังคมได้อย่างทรงพลังและลงตัว หนังเปิดตัวครั้งแรกด้วยการได้รับเลือกฉายในสายประกวดของเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2015 และสามารถคว้ารางวัลกรังด์ปรีซ์มาครองได้สำเร็จ นักวิจารณ์หลายสำนักยกให้เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปี และประเทศฮังการีก็ส่งหนังเรื่องนี้เป็นตัวแทนของประเทศไปเข้าชิงรางวัลออสการ์
« Last Edit: January 11, 2016, 02:48:24 PM by FB »

FB on December 22, 2015, 02:51:18 PM
Movie Guide: “Son of Saul” ผ่านเข้ารอบรองสุดท้าย! ติด 1 ใน 9 เตรียมชิงรางวัล ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 88









Son of Saul Trailer 1 (2015) - Geza Rohrig Holocaust Drama Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs</a>

          Son of Saul ภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงชื่นชมถึงความยอดเยี่ยมจากสื่อใหญ่หลายสำนักมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ ยังคงเดินหน้าเข้าชิงรางวัลแบบต่อเนื่องไม่หยุด และล่าสุดก็ได้ผงาดความเยี่ยม! ผ่านเข้ารอบรองสุดท้าย ติดเป็น 1 ใน 9 ผลงานเตรียมชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ครั้งที่ 88 ซึ่งถือเป็นงานรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์

          ในปีนี้ได้มีการคัดเลือกจากจำนวนภาพยนตร์ที่แต่ละประเทศส่งมามากถึง 80 เรื่อง จนทางคณะกรรมการได้คัดให้เหลือเพียง 9 เรื่อง โดย Son of Saul ผลงานจากประเทศฮังการีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวนั้นได้ผ่านเข้าชิงในรอบรองสุดท้ายเคียงคู่ไปกับภาพยนตร์อย่าง Mustang (จากประเทศฝรั่งเศส), Labyrinth of Lies (จากประเทศเยอรมนี), The Fencer (จากประเทศฟินแลนด์) เป็นต้น

          และในขั้นตอนลำดับต่อไป ภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาโดยคณะกรรมการเฟส 2 ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด เพื่อลงคะแนนแล้วคัดเลือกให้เหลือเป็นผลงาน 5 เรื่องสุดท้ายที่จะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งจะทำการประกาศผลผู้เข้าชิงรอบสุดท้ายกันในวันที่ 14 มกราคมที่จะถึงนี้

          Son of Saul คือผลงานที่เคยประกาศศักดาความเยี่ยมโดยการคว้ารางวัลเกียรติยศอันดับสองหรือ Grand Prix (แกรนด์ พริคซ์)จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด ... โดยภาพยนตร์นั้นบอกเล่าถึงเรื่องราวของ ซอล นักโทษชายชาวฮังกาเรียน-ยิวที่ถูกกักกันอยู่ในค่ายเอาชวิทซ์ เขาทำงานอยู่ในหน่วยพิเศษ (เรียกว่า Sonderkommando) ซึ่งทำหน้าที่เก็บศพชาวยิวด้วยกันเองจากห้องรมแก๊สหรือจากสาเหตุการตายอื่นๆ มาเผา ... วันหนึ่งเขาได้เจอกับศพของเด็กชายที่ตัวเขารู้สึกผูกพันด้วยอย่างประหลาด ด้วยเหตุนี้ซอลจึงพยายามตามหารับบี (หมายถึงอาจารย์หรือผู้เป็นที่เคารพในศาสนายูดาห์) เพื่อจะมาทำพิธีฝังศพเด็กชายคนนี้อย่างถูกต้องตามประเพณี : มีกำหนดเข้าฉาย 25 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: January 11, 2016, 02:48:38 PM by FB »

FB on January 11, 2016, 02:49:13 PM
Movie: SON OF SAUL



Son of Saul "Official Trailer" 2015
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=sWQTfbXLTHQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=sWQTfbXLTHQ</a>

           เจ้าของรางวัลกรังด์ปรีซ์  เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2015 เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลลูกโลกทองคำ 2016 เต็งหนึ่งรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ 2016หนังที่ว่ากันว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดของโลกที่ออกฉายในปี 2015 SON OF SAUL
          กำกับการแสดง ลาสโล เนเมช

          แสดง เกซา เรอห์ริก, เลเวนเท โมลนาร์, เออร์ส เรคชิน

          ประเภท ดราม่า / ประเทศ ฮังการี / ความยาว 107 นาที

          กำหนดฉาย 25 กุมภาพันธ์ 2016

เดือนตุลาคมปี 1944 ช่วงเวลาอันมืดหม่นของสงครามโลกครั้งที่ 2

          ชาอูล ออสแลนเดอ (เกซา เรอห์ริก) เป็นชาวยิวฮังกาเรียนที่ถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ – ค่ายที่ถือได้ว่าใหญ่และโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด ในค่ายกักกันแห่งนั้น ชาอูลถูกสั่งให้ใช้แรงงานในแผนกฌาปนกิจ นั่นก็คือ การทำลายศพของนักโทษยิวที่ตายหลังจากถูกส่งตัวไปสังหารหมู่ในห้องรมแก๊สพิษ

          วันนั้นก็เหมือนๆ กับทุกวัน ชาอูลและเพื่อนๆ ต้องขนศพไปทำลาย แต่มันต่างกันตรงที่...มีศพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งชาอูลเชื่อว่า มันคือศพของลูกชายของเขา

          ชาอูลฝังใจเหลือเกินตั้งแต่พลัดพรากกับลูกชายในช่วงโดนกวาดต้อนเมื่อหลายปีก่อน ว่าตนเองเป็นพ่อที่เลว ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลลูก เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานให้กับเขา ชาอูลตัดสินใจขโมยศพเด็กคนนั้นมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง แต่ในค่ายกักกันอันแสนหฤโหด และมีทหารนาซีรักษาการณ์อย่างแน่นหนา ความตั้งใจของชาอูลในครั้งนี้ จึงเดิมพันด้วยชีวิต

          Son of Saul กำกับโดย ลาสโล เนเมช ผู้กำกับหน้าใหม่ชาวฮังกาเรียน วัย 38 ปี ที่เพิ่งเคยทำหนังยาวเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เนเมชทำหนังสั้น (และชนะรางวัลจากหลายเทศกาล) จำนวนหนึ่ง และเขาเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้แก่ เบลา ทาร์ คนทำหนังชั้นครูชาวฮังกาเรียน

          เนเมช มีพ่อเป็นผู้กำกับเช่นกัน (อันดราส เยเลช) ในตอนเด็ก เนเมชหัดทำหนังเพราะตอนเองหลงใหลในหนังสยองขวัญ ต่อมาเขาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในสาขาประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก่อนจะไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์โดยตรงที่นิวยอร์ก

          Son of Saul เป็นหนังยาวเรื่องแรกของเขา ที่ผสมผสานความเป็นหนังระทึกขวัญและหนังสะท้อนสังคมได้อย่างทรงพลังและลงตัว หนังเปิดตัวครั้งแรกด้วยการได้รับเลือกฉายในสายประกวดของเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2015 และสามารถคว้ารางวัลกรังด์ปรีซ์มาครองได้สำเร็จ นักวิจารณ์หลายสำนักยกให้เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปี และประเทศฮังการีก็ส่งหนังเรื่องนี้เป็นตัวแทนของประเทศไปเข้าชิงรางวัลออสการ์

FB on January 11, 2016, 02:52:17 PM
20 เกร็ดชวนรู้ก่อนไปชม Son of Saul (ซัน ออฟ ซาอูล) เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม 2016



          1.Son of Saul เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ ลาสโล เนเมช ผู้กำกับหนุ่มวัย 38 ปี
          2.ลาสโล เนเมช เป็นชาวฮังกาเรียน มาเรียนต่อที่ปารีส จบด้านรัฐศาสตร์-ประวัติศาสตร์ และไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์ ก่อนจะย้ายไปทำงานในสายภาพยนตร์ที่บ้านเกิด โดยทำตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ ให้กับหนังเรื่อง The Man from London ของสุดยอดผู้กำกับชาวฮังกาเรียน - เบล่า ทาร์
          3.แม้จะมีหนังว่าด้วยค่ายกักกันและสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสร้างมาเป็นจำนวนมาก แต่ Son of Saul นับเป็นหนังเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่มีเนื้อหาพูดถึง กลุ่มซอนเดอร์คอมมานโด (Sonderkommando) หรือนักโทษชาวยิวที่ทำหน้าที่กวาดต้อนนักโทษคนอื่นๆ ไปห้องรมแก๊สและจัดการทำลายศพหลังจากรมแก๊สเสร็จสิ้น
          4.คนที่จะมาทำหน้าที่ "ซอนเดอร์คอมมานโด" นั้น จะได้รับการคัดเลือกจากทหารนาซีโดยตรง และงานนี้นับเป็นงานที่ทำร้ายจิตใจมากงานหนึ่ง เพราะนักโทษชาวยิวจำเป็นต้องเห็นและคอยคุมเพื่อนร่วมเชื้อชาติเดินเข้าห้องแห่งความตาย (ห้องรมแก๊ส) ทุกวัน จากนั้นก็ทำลายศพด้วยการเผา หรือแยกชิ้นส่วนไปฝัง
          5."ซอนเดอร์คอมมาโด" จะได้รับอภิสิทธิ์กว่านักโทษคนอื่นๆ เล็กน้อย คือไม่ต้องโดนคุมตลอดเวลา สามารถไปไหนก็ได้ในค่ายกักกัน แต่ทว่าทหารนาซีก็จะฆ่าซอนเดอร์คอมมานโดทิ้งทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อไม่ให้ข้อมูลเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แพร่งพรายออกสู่ภายนอก
          6.Son of Saul เล่าเรื่องของ นักโทษชาวยิวฮังกาเรียนคนหนึ่งที่ชื่อว่า ชาอูล เขาทำหน้าที่ซอนเดอร์คอมมานโด วันหนึ่งเขาต้องทำลายศพที่เขาเชื่อว่าเป็นลูกชายของตนเอง เขาจึงตัดสินใจพยายามทำทุกอย่างเพื่อประกอบพิธีศพให้ลูกแบบถูกต้องตามหลักศาสนา นับเป็นภารกิจเสี่ยงตายมากๆ ในค่ายกักกัน
          7.ฉากหลังใน Son of Saul คือ ค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ ค่ายกักกันที่ถูกขนานนามว่า "โรงฆ่ามนุษย์ล้านศพ" นับเป็นค่ายที่ใหญ่และโหดเป็นลำดับต้นๆ ในบรรดาค่ายที่กองทัพนาซีใช้กักกันชาวยิว ว่ากันว่า มีชาวยิวถูกสังหารราว 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวยิวที่ถูกกวาดต้อนมาจากทุกประเทศในยุโรป
          8.ค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ แห่งที่ 1 มีขนาด 40 ตารางกิโลเมตร มีอาคารคุมขังนักโทษเกือบ 20 หลัง และมีการขยายเป็นค่ายเอาช์วิตซ์ 2 และ 3 เพิ่มอาคารคุมขังเกือบ 100 หลัง
          9.ชาวยิวที่ถูกต้อนมาอยู่ในค่ายกักกัน จะต้องใช้แรงงาน, ถูกใช้เป็นหนูทดลองทางการแพทย์อันแสนวิปริต, ถูกใช้เป็นเป้าซ้อมยิงปืน และท้ายที่สุด ชาวยิวทุกคนจะถูกเกณฑ์เข้าห้องรมแก๊สพิษในทุกๆ วันเพื่อกำจัด โดย "ซอนเดอร์คอมมานโด" จะเป็นคนทำหน้าที่กวาดต้อนเพื่อนนักโทษเข้าห้องรมแก๊ส และหลังจากทุกคนหมดลมหายใจแล้ว "ซอนเดอร์คอมมานโด" ก็จะต้องช่วยกันเผาศพ เคลียร์พื้นที่ เพื่อต้อนนักโทษกลุ่มต่อไปเข้ามา
          10.ผู้กำกับ ลาสโล เนเมช ถ่ายทำหนังเรื่องนี้โดยใช้ฟิล์ม 35 มม. และใช้ขนาดภาพ (Aspect Ratio) 1.33 ต่อ 1 (คล้ายสี่เหลี่ยมจตุรัส) เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับหนัง
          11.เกซ่า เรอห์ริก ผู้รับบท ชาอูล ตัวละครนำของเรื่องนั้น เป็น อาจารย์มหาวิทยาลัย, นักเขียนและกวีวัย 48 ปี เขาไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ แต่ลาสโล เนเมช บอกว่า เขาเลือกให้เรอห์ริกมารับบทนี้ เพราะเขาดูเป็นโนบอดี้ มีความเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ เกซ่า เรอห์ริก มีพื้นฐานความรู้เรื่องศาสนายิวเป็นอย่างดี (เขาเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ยิว)
          12.ลาสโล ไรค์ ผู้ออกแบบงานสร้างของหนัง สร้างค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ขึ้นมาใหม่จากโกดังเก่าแถบชานเมืองกรุงบูดาเปสต์ (ฮังการี)ซึ่งที่แห่งนั้นเคยเป็นค่ายทหารของกองทัพโซเวียตตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
          13.ฉากภายนอก ผู้กำกับเนเมช และผู้กำกับภาพมาเทียส แอร์ดลี ใช้แสงธรรมชาติ โดยไม่มีการจัดแสงเพิ่มเติม
          14.หนังใช้เวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 28 วัน
          15.Son of Saul นั้นเป็นเรื่องแต่ง แต่ข้อเท็จจริงเกือบทั้งหมดนั้นอ้างอิงมาจากหลักฐานจริง โดยมีพื้นฐานมาจากหนังสือ 2 เล่ม คือ Auschwitz: A Doctor's Eyewitness Account หนังสือที่เขียนโดยหมอชาวยิวคนหนึ่งที่เป็นนักโทษในค่ายเอาช์วิตซ์ และหนังสือ Voices from Beneath the Ashes ซึ่งเป็นการรวบรวมบทบันทึกจริงๆ ของเหล่าซอนเดอร์คอมมานโดที่เขียนเก็บเอาไว้
          16. ผู้กำกับ ลาสโล เนเมช อธิบายพล็อตเรื่องของ Son of Saul ว่า มันเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ต้องการจะทำพิธีศพ พิธีกรรมเพื่อแสดงถึงความเป็นมนุษย์ ในสถานการณ์และสถานที่ที่ไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์เลยอย่างในค่ายกักกัน
          17. Son of Saul เป็นโปรเจคต์ที่ไม่มีใครกล้าลงทุนเลย เพราะทุกคนมองว่าเป็นหนังที่เครียดและหดหู่เกินไป (และไม่มีทางได้ทุนคืน) เนเมชสร้างหนังเรื่องนี้ได้โดยเงินสนับสนุนจาก Hungarian Film Fund ของประเทศฮังการีบ้านเกิด โดยใช้ทุนสร้างไป 1.6 ล้านเหรียญฯ และเมื่อหนังออกฉาย Son of Saul ก็กลายเป็นหนังที่ได้ทั้งเงินและรางวัลอย่างคาดไม่ถึง
          18.คลาร่า รอยเออร์ ผู้เขียนบทร่วมของ Son of Saul นั้นไม่เคยเขียนบทหนังมาก่อนเลย เธอเรียนจบสาขาวรรณกรรมยิว และจบสาขาประวัติศาสตร์ เธอตกลงใจมาร่วมงานเพราะลาสโล เนเมช เป็นคนชักชวน เนเมชบอกว่า เขาไม่อาจหาคนที่เข้าใจพื้นหลังทางประวัติศาสตร์ของเรื่องเป็นอย่างดีเท่ากับรอยเออร์อีกแล้ว
          19. เอลี วีเซล (เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพปี 1986), อิมเร เคอร์เทสซ์ (เจ้าของรางวัลโนเบลวรรณกรรมปี 2002) และโคลด ลองซ์มานน์ (ผู้กำกับสารคดีมหากาพย์ว่าด้วยค่ายกักกันเรื่อง Shoah) ทั้งหมดต่างยกย่อง Son of Saul ว่าเป็นหนังที่พูดถึงค่ายกักกันได้ทรงพลังที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างเป็นหนังมาเลยทีเดียว
          20. Son of Saul ได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์ และรางวัล FIPRESCI (สมาคมนักวิจารณ์นานาชาติ) จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปี 2015 และล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศฮังการี ในการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ

          25 กุมภาพันธ์ 2016

FB on January 11, 2016, 02:55:27 PM
Movie Guide: Son of Saul “ดีงาม ! ทรงพลัง ! สุดสะเทือนใจ !” คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม “หนังที่ดีที่สุดของโลก”









Son of Saul Trailer 1 (2015) - Geza Rohrig Holocaust Drama Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs</a>

          หลังจากกวาดเสียงชื่นชมว่า นี่คือหนังที่ดีที่สุดของโลกที่ออกฉายในปี 2015 การันตีด้วยเสียงชื่นชมถึงความยอดเยี่ยมจากสื่อใหญ่หลายสำนัก รวมไปถึงการเดินหน้าเข้าชิงรางวัลจากสถาบันเวทีต่างๆ อย่างต่อเนื่องไม่หยุด และล่าสุดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา "Son of Saul" ผลงานจากประเทศฮังการีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวนั้นก็ได้ประกาศศักดาความเยี่ยมอีกครั้งกับการสามารถคว้า รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Motion Picture – Foreign Language) จากเวทีใหญ่อย่าง ลูกโลกทองคำ (Golden Globe Award) ครั้งล่าสุดมาครอบครองไว้! โดยสามารถเฉือนเอาชนะผลงานคู่แข่งอย่าง Mustang (จากประเทศฝรั่งเศส), The Fencer (จากประเทศฟินแลนด์), The Club (จากประเทศชิลี) และ The Brand New Testament (จากประเทศเบลเยี่ยม) ได้สำเร็จ

          Son of Saul คือผลงานที่คอภาพยนตร์ต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับการที่เคยคว้ารางวัลเกียรติยศอันดับสองหรือ Grand Prix จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด ... โดยภาพยนตร์นั้นบอกเล่าถึงเรื่องราวเดือนตุลาคมปี 1944 ช่วงเวลาอันมืดหม่นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ... ชาอูล ออสแลนเดอ (เกซา เรอห์ริก) เป็นชาวยิวฮังกาเรียนที่ถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ – ค่ายที่ถือได้ว่าใหญ่และโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด ในค่ายกักกันแห่งนั้น ชาอูลถูกสั่งให้ใช้แรงงานในแผนกฌาปนกิจ นั่นก็คือ การทำลายศพของนักโทษยิวที่ตายหลังจากถูกส่งตัวไปสังหารหมู่ในห้องรมแก๊สพิษ

          วันนั้นก็เหมือนๆ กับทุกวัน ชาอูลและเพื่อนๆ ต้องขนศพไปทำลาย แต่มันต่างกันตรงที่...มีศพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งชาอูลเชื่อว่า มันคือศพของลูกชายของเขา ชาอูลฝังใจเหลือเกินตั้งแต่พลัดพรากกับลูกชายในช่วงโดนกวาดต้อนเมื่อหลายปีก่อน ว่าตนเองเป็นพ่อที่เลว ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลลูก เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานให้กับเขา ชาอูลตัดสินใจขโมยศพเด็กคนนั้นมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง แต่ในค่ายกักกันอันแสนหฤโหด และมีทหารนาซีรักษาการณ์อย่างแน่นหนา ความตั้งใจของชาอูลในครั้งนี้ จึงเดิมพันด้วยชีวิต ... ร่วมพิสูจน์ความเยี่ยมพร้อมกัน 25 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

FB on January 19, 2016, 03:22:29 PM
Movie Guide: โดนใจนักวิจารณ์ “Spotlight” และ “Son of Saul” คว้ารางวัลใหญ่! จากเวที Critics’ Choice Awards ครั้งที่ 21







"Spotlight" Wins Best Picture | 2016 Critics' Choice Awards | A&E
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=_kjCK8zbaQo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_kjCK8zbaQo</a>

Son of Saul Trailer 1 (2015) - Geza Rohrig Holocaust Drama Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs</a>

          ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ ทั้งหมดออกมาสดๆ ร้อนๆ แล้วสำหรับเวทีรางวัล Critics' Choice Awards ครั้งที่ 21 ซึ่งเป็นรางวัลที่จัดโดย BFCA (The Broadcast Film Critics Association) หรือสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ อันประกอบไปด้วยนักวิจารณ์ทางโทรทัศน์, วิทยุ และออนไลน์ โดยถือเป็นสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเลยก็ว่าได้

          สำหรับ "Spotlight คนข่าวคลั่ง" ภาพยนตร์ดราม่าสุดเข้มข้นที่หลายเสียงทั่วโลกต่างการันตีชื่นชมยกย่องให้เป็น สุดยอดผลงานคุณภาพแห่งปี ก็ได้กระหึ่มความเยี่ยมโดนใจนักวิจารณ์โดยสามารถคว้าไปได้ถึง 3 รางวัลใหญ่ จากเวทีนี้ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ทีมนักแสดงยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (ทอม แม็คคาร์ธี และ จอช ซิงเกอร์) ... โดยภายในงานนั้นได้มี สตีฟ โกลิน (ผู้อำนวยการสร้าง), จอช ซิงเกอร์ (ผู้เขียนบทภาพยนตร์), สองนักแสดงจากภาพยนตร์ ราเชล แมคอดัมส์, ไบรอัน ดาร์ซี่ เจมส์ รวมไปถึง ซาซ่า ไฟเฟอร์ นักข่าวหญิงมือหนึ่งด้านการสัมภาษณ์ตัวจริงจากทีม Spotlight เป็นผู้ขึ้นไปรับรางวัลบนเวที

          "ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ได้มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นปรากฏการณ์เรื่องนี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุน เหล่าทีมนักแสดงอันแสนวิเศษ, จอช ซิงเกอร์ (ผู้เขียนบทภาพยนตร์), ทอม แม็คคาร์ธี (ผู้กำกับภาพยนตร์) นี่ถือว่าเป็นประสบการณ์ทำงานที่พิเศษมาก รวมไปถึงเหล่านักข่าวทั้งหลายที่เป็นภาพตัวแทน - ตัวอย่างสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขาน่าทึ่งมาก ... ขอบคุณมากครับ" - ผู้อำนวยการสร้าง สตีฟ โกลิน กล่าวขณะรับรางวัล (ชมวีดีโอ : https://youtu.be/_kjCK8zbaQo)

          "ฉันว่าพวกเราทุกคนคงเห็นด้วยอยู่แล้วว่า ทีมบุคคลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ เหล่านักข่าวตัวจริงของทีม Spotlight ... ร็อบบี้ โรบินสัน, ไมเคิล เรเซนเดส, แม็ตต์ คาร์โรล, ซาซ่า ไฟเฟอร์ (ที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับเราด้วยในคืนนี้) และคนอื่นๆ ภายในทีม ขอบคุณสำหรับการนำเสนอเรื่องราวความจริงอันแสนสำคัญอย่างกล้าหาญ ขอบคุณทอม แม็คคาร์ธีสำหรับการนำบุคคลเหล่านี้มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวในภาพยนตร์ แด่จอช ซิงเกอร์ (ผู้เขียนบทภาพยนตร์), ทอม ออร์เทนเบิร์ก (ผู้อำนวยการบริหารการสร้าง) ... ขอบคุณมากๆ ค่ะ" - ราเชล แมคอดัมส์ นักแสดงหญิงมากฝีมือ ผู้รับบทเป็น 'ซาซ่า ไฟเฟอร์' ในภาพยนตร์ กล่าวขณะรับรางวัลอย่างภาคภูมิใจ (ชมวีดีโอ : https://youtu.be/vvoqcaRnNVY)

          และในด้านของ "Son of Saul" ... หลังจากที่ ขึ้นแท่นกลายเป็นตัวเก็ง 1 ใน 5 เตรียมชิงรางวัลในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีงานรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างออสการ์ (Oscars - The Academy Awards) ไปจนถึงการสามารถ คว้ารางวัลในสาขาเดียวกันนี้จากเวทีลูกโลกทองคำ (Golden Globe Award) ครั้งล่าสุดมาครอบครองไว้สำเร็จ ... ล่าสุดความแรงของ "Son of Saul" ก็ไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะยังสามารถ คว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม จากเวที Critics' Choice Awards ครั้งที่ 21 นี้ด้วยเช่ยกัน โดยสามารถเฉือนเอาชนะผลงานคู่แข่งอย่าง The Assassin (จากประเทศไต้หวัน), Goodnight Mommy (จากประเทศออสเตรีย), Mustang (จากประเทศฝรั่งเศส) และ The Second Mother (จากประเทศบราซิล) มาได้สำเร็จ

          "Spotlight คนข่าวคลั่ง" อ้างอิงจากเรื่องจริงของเหตุการณ์สุดอื้อฉาวที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เมื่อทีมนักข่าวฝีมือพระกาฬจากหนังสือพิมพ์บอสตันโกลบในนาม 'ทีมสปอตไลท์' ได้ร่วมกันสืบหาความจริง เพื่อทำสกู้ปข่าวเปิดโปงคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโบสถ์ท้องถิ่นที่ลุกลามจนสร้างความสั่นสะเทือนไปโลก! ... ถึงเวลาแล้วที่คอหนังเมืองไทยจะร่วมเปิดโปงความจริงช็อคโลก ประเด็นสุดร้อนแรง พร้อมพิสูจน์ความยอดเยี่ยมพร้อมกัน "Spotlight คนข่าวคลั่ง" : วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

          Son of Saul คือภาพยนตร์จากประเทศฮังการี ซึ่งเป็นผลงานที่เคยประกาศศักดาความเยี่ยมโดยการ คว้ารางวัลเกียรติยศอันดับสอง หรือ Grand Prix จาก เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ มาแล้ว ... โดยบอกเล่าถึงเรื่องราวเดือนตุลาคมปี 1944 ช่วงเวลาอันมืดหม่นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ... ชาอูล ออสแลนเดอ (เกซา เรอห์ริก) เป็นชาวยิวฮังกาเรียนที่ถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ – ค่ายที่ถือได้ว่าใหญ่และโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด ในค่ายกักกันแห่งนั้น ชาอูลถูกสั่งให้ใช้แรงงานในแผนกฌาปนกิจ นั่นก็คือ การทำลายศพของนักโทษยิวที่ตายหลังจากถูกส่งตัวไปสังหารหมู่ในห้องรมแก๊สพิษ

          วันนั้นก็เหมือนๆ กับทุกวัน ชาอูลและเพื่อนๆ ต้องขนศพไปทำลาย แต่มันต่างกันตรงที่...มีศพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งชาอูลเชื่อว่า มันคือศพของลูกชายของเขา ชาอูลฝังใจเหลือเกินตั้งแต่พลัดพรากกับลูกชายในช่วงโดนกวาดต้อนเมื่อหลายปีก่อน ว่าตนเองเป็นพ่อที่เลว ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลลูก เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานให้กับเขา ชาอูลตัดสินใจขโมยศพเด็กคนนั้นมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง แต่ในค่ายกักกันอันแสนหฤโหด และมีทหารนาซีรักษาการณ์อย่างแน่นหนา ความตั้งใจของชาอูลในครั้งนี้ จึงเดิมพันด้วยชีวิต ... ร่วมพิสูจน์ความเยี่ยมพร้อมกัน 25 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

FB on February 17, 2016, 08:03:00 AM
Movie Guide: นักวิจารณ์แถวหน้าของประเทศไทย เทใจ การันตี SON OF SAUL ยอดเยี่ยม ขึ้นแท่นหนังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุด เตรียมคว้าหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์









Son of Saul - Official Trailer [ซับไทย / เข้าฉาย 25 ก.พ.59]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=DvxIogrbS38" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=DvxIogrbS38</a>

Son of Saul เต็ง 1 หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ปีนี้!!
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PBUMx9-nm7o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PBUMx9-nm7o</a>

          หลังเปิดฉายรอบนักวิจารณ์รอบแรกในไทยไปเมื่อ 12 กุมภา ที่ผ่านมา SON OF SAUL ( ซัน ออฟ ซาอูล )ภาพยนตร์ เจ้ารางวัล GRAND PRIX จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ปีนี้ รวมถึงการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาเดียวกัน และถือเป็นเต็งหนึ่งในสาขานี้โดยแท้จริง

          " เป็นหนังที่น่าทึ่งมากในการนำเสนอ ไม่เคยเห็นวิธีการนำเสนอที่แปลกมาก ๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังพิเศษมาก ๆ .ไม่รู้สึกว่าโหดร้าย หนังมีแอคชั่นมีการแสดงที่น่าทึ่งมาก เป็นหนังที่ถูกทำมาจนซ้ำซากแล้ว กลายเป็นเรื่องที่แปลก ด้วยบารมีที่ไปกวาดรางวัลจากที่โน่นที่นั่น โอกาสชนะรางวัลก็สูงมาก ถ้าชนะก็เป็นเรื่องนี้เพราะเป็นการใช้ประโยชน์จากภาพยนตร์ที่น่าทึ่งมาก เป็นหนังที่ฉลาดมาก ๆ เรารู้ว่าเรากำลังตามใคร และเป้าหมายคืออะไร ฉลาดมาก !" – อ.ประวิทย์ แต่งอักษร
          " เรื่องเป็นเรื่องหนัก แต่ก็ถือว่าโดดเด่น เพราะ ผกก.มองจากตัวพระเอก เป็นวิธีการที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นเรื่องหนักแต่ก็ดูสนุก เป็นตัวเต็งจริง ๆ ทั้งวิธีการและการเล่า คิดว่ามันคงได้ออสการ์แน่ๆ " – คุณก้อง ฤทธิ์ดี คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ในเครือบางกอกโพสต์
          " SON OF SAUL เป็นหนังที่สะเทือนใจ และ ทำให้เราเห็นถึง ฝีไม่ลายมือของผู้กำกับไฟแรงจากคานสื แม้จะ สะเทือนใจแต่ก็ทำให้เราได้เห็น ลีลาของหนัง เด็ดขาดและกระชาก อารมณ์มาก ๆ " - คุณวิคเตอร์ ผู้จัดเทศกาล WORLD FILM
          " หนังมีพลังมาก ความสมจริงของมัน เหมือนทำให้เราไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น กดดัน หดหู่ แต่ถึงดี เป็นหนังที่ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่ง ดูแล้วซึมซับ เชลยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 " - คุณนิ้วกลม นักเขียน
          " ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกคนไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เหมือนโรงงาน ถ้ามองในมุมออสการ์ ก็คงต้องพูดว่า มันดีในแง่ประวัติศาสตร์ และ สงสัยเหมือนคนที่อยู่ในค่ายว่า เกิดขึ้นได้ยังไง " - คุณจิระนันท์ พิตรปรีชานักเขียน นักแปล และ กวีเจ้าของรางวัลซีไรต์
          " เอารางวัลออสการ์ best foreign language film ไปเลย SON OF SAUL ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างทรงพลังมาก ทึงในเทคนิคภาพด้านาพยนตร์ที่ ผกก. นำมาใช้ เป็นหนังที่ใช้บรรยากาศของค่ายกักกันเอาท์ชวิตว์ พาคนดูไปบุกดูความโหดร้ายแบบนั้นได้อย่างทรงพลังมาก ๆ ในหนังที่เล่าเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์ถือว่าเรื่องนี้ ดีที่สุด และมี ลองเทคที่น่าขนลุก ออย่างฉากที่ นาซีกวาดต้อนคนยิวเพื่อไปยิงทิ้ง ฉากลองเทคฉากนั้นขนลุกมาก ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน" – คุณเอิร์ธ ออสการ์ นักวิจารณ์ภาพยนตร์

          พิสูจน์ความยอดเยี่ยม ของ SON OF SAUL ได้
          25 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: February 17, 2016, 08:05:05 AM by FB »

FB on February 18, 2016, 03:33:52 PM
Movie Guide: 20 เกร็ดชวนรู้ก่อนไปชม Son of Saul (ซัน ออฟ ซาอูล) เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม 2016



Son of Saul เต็ง 1 หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ปีนี้!!
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PBUMx9-nm7o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PBUMx9-nm7o</a>

          1.Son of Saul เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ ลาสโล เนเมช ผู้กำกับหนุ่มวัย 38 ปี
          2.ลาสโล เนเมช เป็นชาวฮังกาเรียน มาเรียนต่อที่ปารีส จบด้านรัฐศาสตร์-ประวัติศาสตร์ และไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์ ก่อนจะย้ายไปทำงานในสายภาพยนตร์ที่บ้านเกิด โดยทำตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ ให้กับหนังเรื่อง The Man from London ของสุดยอดผู้กำกับชาวฮังกาเรียน - เบล่า ทาร์
          3.แม้จะมีหนังว่าด้วยค่ายกักกันและสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสร้างมาเป็นจำนวนมาก แต่ Son of Saul นับเป็นหนังเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่มีเนื้อหาพูดถึง กลุ่มซอนเดอร์คอมมานโด (Sonderkommando) หรือนักโทษชาวยิวที่ทำหน้าที่กวาดต้อนนักโทษคนอื่นๆ ไปห้องรมแก๊สและจัดการทำลายศพหลังจากรมแก๊สเสร็จสิ้น
          4.คนที่จะมาทำหน้าที่ "ซอนเดอร์คอมมานโด" นั้น จะได้รับการคัดเลือกจากทหารนาซีโดยตรง และงานนี้นับเป็นงานที่ทำร้ายจิตใจมากงานหนึ่ง เพราะนักโทษชาวยิวจำเป็นต้องเห็นและคอยคุมเพื่อนร่วมเชื้อชาติเดินเข้าห้องแห่งความตาย (ห้องรมแก๊ส) ทุกวัน จากนั้นก็ทำลายศพด้วยการเผา หรือแยกชิ้นส่วนไปฝัง
          5."ซอนเดอร์คอมมาโด" จะได้รับอภิสิทธิ์กว่านักโทษคนอื่นๆ เล็กน้อย คือไม่ต้องโดนคุมตลอดเวลา สามารถไปไหนก็ได้ในค่ายกักกัน แต่ทว่าทหารนาซีก็จะฆ่าซอนเดอร์คอมมานโดทิ้งทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อไม่ให้ข้อมูลเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แพร่งพรายออกสู่ภายนอก
          6.Son of Saul เล่าเรื่องของ นักโทษชาวยิวฮังกาเรียนคนหนึ่งที่ชื่อว่า ชาอูล เขาทำหน้าที่ซอนเดอร์คอมมานโด วันหนึ่งเขาต้องทำลายศพที่เขาเชื่อว่าเป็นลูกชายของตนเอง เขาจึงตัดสินใจพยายามทำทุกอย่างเพื่อประกอบพิธีศพให้ลูกแบบถูกต้องตามหลักศาสนา นับเป็นภารกิจเสี่ยงตายมากๆ ในค่ายกักกัน
          7.ฉากหลังใน Son of Saul คือ ค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ ค่ายกักกันที่ถูกขนานนามว่า "โรงฆ่ามนุษย์ล้านศพ" นับเป็นค่ายที่ใหญ่และโหดเป็นลำดับต้นๆ ในบรรดาค่ายที่กองทัพนาซีใช้กักกันชาวยิว ว่ากันว่า มีชาวยิวถูกสังหารราว 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวยิวที่ถูกกวาดต้อนมาจากทุกประเทศในยุโรป
          8.ค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ แห่งที่ 1 มีขนาด 40 ตารางกิโลเมตร มีอาคารคุมขังนักโทษเกือบ 20 หลัง และมีการขยายเป็นค่ายเอาช์วิตซ์ 2 และ 3 เพิ่มอาคารคุมขังเกือบ 100 หลัง
          9.ชาวยิวที่ถูกต้อนมาอยู่ในค่ายกักกัน จะต้องใช้แรงงาน, ถูกใช้เป็นหนูทดลองทางการแพทย์อันแสนวิปริต, ถูกใช้เป็นเป้าซ้อมยิงปืน และท้ายที่สุด ชาวยิวทุกคนจะถูกเกณฑ์เข้าห้องรมแก๊สพิษในทุกๆ วันเพื่อกำจัด โดย "ซอนเดอร์คอมมานโด" จะเป็นคนทำหน้าที่กวาดต้อนเพื่อนนักโทษเข้าห้องรมแก๊ส และหลังจากทุกคนหมดลมหายใจแล้ว "ซอนเดอร์คอมมานโด" ก็จะต้องช่วยกันเผาศพ เคลียร์พื้นที่ เพื่อต้อนนักโทษกลุ่มต่อไปเข้ามา
          10.ผู้กำกับ ลาสโล เนเมช ถ่ายทำหนังเรื่องนี้โดยใช้ฟิล์ม 35 มม. และใช้ขนาดภาพ (Aspect Ratio) 1.33 ต่อ 1 (คล้ายสี่เหลี่ยมจตุรัส) เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับหนัง
          11.เกซ่า เรอห์ริก ผู้รับบท ชาอูล ตัวละครนำของเรื่องนั้น เป็น อาจารย์มหาวิทยาลัย, นักเขียนและกวีวัย 48 ปี เขาไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ แต่ลาสโล เนเมช บอกว่า เขาเลือกให้เรอห์ริกมารับบทนี้ เพราะเขาดูเป็นโนบอดี้ มีความเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ เกซ่า เรอห์ริก มีพื้นฐานความรู้เรื่องศาสนายิวเป็นอย่างดี (เขาเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ยิว)
          12.ลาสโล ไรค์ ผู้ออกแบบงานสร้างของหนัง สร้างค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ขึ้นมาใหม่จากโกดังเก่าแถบชานเมืองกรุงบูดาเปสต์ (ฮังการี)ซึ่งที่แห่งนั้นเคยเป็นค่ายทหารของกองทัพโซเวียตตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
          13.ฉากภายนอก ผู้กำกับเนเมช และผู้กำกับภาพมาเทียส แอร์ดลี ใช้แสงธรรมชาติ โดยไม่มีการจัดแสงเพิ่มเติม
          14.หนังใช้เวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 28 วัน
          15.Son of Saul นั้นเป็นเรื่องแต่ง แต่ข้อเท็จจริงเกือบทั้งหมดนั้นอ้างอิงมาจากหลักฐานจริง โดยมีพื้นฐานมาจากหนังสือ 2 เล่ม คือ Auschwitz: A Doctor's Eyewitness Account หนังสือที่เขียนโดยหมอชาวยิวคนหนึ่งที่เป็นนักโทษในค่ายเอาช์วิตซ์ และหนังสือ Voices from Beneath the Ashes ซึ่งเป็นการรวบรวมบทบันทึกจริงๆ ของเหล่าซอนเดอร์คอมมานโดที่เขียนเก็บเอาไว้
          16. ผู้กำกับ ลาสโล เนเมช อธิบายพล็อตเรื่องของ Son of Saul ว่า มันเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ต้องการจะทำพิธีศพ พิธีกรรมเพื่อแสดงถึงความเป็นมนุษย์ ในสถานการณ์และสถานที่ที่ไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์เลยอย่างในค่ายกักกัน
          17. Son of Saul เป็นโปรเจคต์ที่ไม่มีใครกล้าลงทุนเลย เพราะทุกคนมองว่าเป็นหนังที่เครียดและหดหู่เกินไป (และไม่มีทางได้ทุนคืน) เนเมชสร้างหนังเรื่องนี้ได้โดยเงินสนับสนุนจาก Hungarian Film Fund ของประเทศฮังการีบ้านเกิด โดยใช้ทุนสร้างไป 1.6 ล้านเหรียญฯ และเมื่อหนังออกฉาย Son of Saul ก็กลายเป็นหนังที่ได้ทั้งเงินและรางวัลอย่างคาดไม่ถึง
          18.คลาร่า รอยเออร์ ผู้เขียนบทร่วมของ Son of Saul นั้นไม่เคยเขียนบทหนังมาก่อนเลย เธอเรียนจบสาขาวรรณกรรมยิว และจบสาขาประวัติศาสตร์ เธอตกลงใจมาร่วมงานเพราะลาสโล เนเมช เป็นคนชักชวน เนเมชบอกว่า เขาไม่อาจหาคนที่เข้าใจพื้นหลังทางประวัติศาสตร์ของเรื่องเป็นอย่างดีเท่ากับรอยเออร์อีกแล้ว
          19. เอลี วีเซล (เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพปี 1986), อิมเร เคอร์เทสซ์ (เจ้าของรางวัลโนเบลวรรณกรรมปี 2002) และโคลด ลองซ์มานน์ (ผู้กำกับสารคดีมหากาพย์ว่าด้วยค่ายกักกันเรื่อง Shoah) ทั้งหมดต่างยกย่อง Son of Saul ว่าเป็นหนังที่พูดถึงค่ายกักกันได้ทรงพลังที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างเป็นหนังมาเลยทีเดียว
          20. Son of Saul ได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์ และรางวัล FIPRESCI (สมาคมนักวิจารณ์นานาชาติ) จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปี 2015 และล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศฮังการี ในการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ
         
          25 กุมภาพันธ์ 2016

FB on March 02, 2016, 03:40:51 PM
Movie Guide: ออสการ์ รัก Son of Saul (ซัน ออฟ ซาอูล) “ยอดเยี่ยมชนะใจผู้ชม ! คว้ารางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม





Son of Saul Trailer 1 (2015) - Geza Rohrig Holocaust Drama Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3wMzPztPavs</a>

รีวิว Son of Saul ตัวเต็งหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=m0NRGWnYOR4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=m0NRGWnYOR4</a>

          หลังจากกวาดเสียงชื่นชมว่า นี่คือหนังที่โดดเด่นทั้งด้านเนื้อหาและเทคนิคการถ่ายทำที่ออกฉายในปี 2015 การันตีด้วยเสียงชื่นชมถึงความยอดเยี่ยมจากนักวิจารณ์และผู้ชมรวมไปถึงการเดินหน้าคว้ารางวัลรางวัลจากสถาบันเวทีต่างๆ อย่างต่อเนื่องไม่หยุด และล่าสุดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา "Son ย่างาบันเวทีต่างๆ of Saul" ภาพยนตร์จากประเทศฮังการีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวนั้นก็ได้ประกาศศักดาความเยี่ยมอีกครั้งกับการสามารถคว้า รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ประจำปี 2016 มาครองได้!

          Son of Saul คือผลงานที่คอภาพยนตร์ต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับการที่เคยคว้ารางวัลเกียรติยศอันดับสองหรือ Grand Prix จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์และรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ โดยภาพยนตร์นั้นบอกเล่าถึงเรื่องราวเดือนตุลาคมปี 1944 ช่วงเวลาอันมืดหม่นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ... ชาอูล ออสแลนเดอ (เกซา เรอห์ริก) เป็นชาวยิวฮังกาเรียนที่ถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ – ค่ายที่ถือได้ว่าใหญ่และโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด ในค่ายกักกันแห่งนั้น ชาอูลถูกสั่งให้ใช้แรงงานในแผนกฌาปนกิจ นั่นก็คือ การทำลายศพของนักโทษยิวที่ตายหลังจากถูกส่งตัวไปสังหารหมู่ในห้องรมแก๊สพิษ

          วันนั้นก็เหมือนๆ กับทุกวัน ชาอูลและเพื่อนๆ ต้องขนศพไปทำลาย แต่มันต่างกันตรงที่...มีศพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งชาอูลเชื่อว่า มันคือศพของลูกชายของเขา ชาอูลฝังใจเหลือเกินตั้งแต่พลัดพรากกับลูกชายในช่วงโดนกวาดต้อนเมื่อหลายปีก่อน ว่าตนเองเป็นพ่อที่เลว ไม่เคยได้มีโอกาสดูแลลูก เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานให้กับเขา ชาอูลตัดสินใจขโมยศพเด็กคนนั้นมา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง แต่ในค่ายกักกันอันแสนหฤโหด และมีทหารนาซีรักษาการณ์อย่างแน่นหนา ความตั้งใจของชาอูลในครั้งนี้ จึงเดิมพันด้วยชีวิต ...

          ร่วมพิสูจน์ความเยี่ยมพร้อมกัน

          วันนี้เฉพาะที่ ลิโด้ – สกาล่า – house Rca – SFW – เมเจอร์รัชโยธิน เอสพลานาดรัชดา และ เมกาบางนา