happy on August 27, 2015, 06:51:17 PM

จัดจำหน่ายโดย      แฮนด์เมด ดิสทริบิวชั่น

ชื่อภาพยนตร์         NO ESCAPE หนีตายฝ่านรกข้ามแดน

ภาพยนตร์แนว         แอ็คชั่น-ระทึกขวัญ

กำหนดเข้าฉาย      10 กันยายน 2558

กำกับการแสดงโดย      John Erick Dowdle (จอห์น อีริค ดาวเดิล)

ลิงค์ตัวอย่างภาพยนตร์   https://www.youtube.com/watch?v=0KzuCvjv0Bs

นำแสดงโดย…


Owen Wilson  (โอเว่น วิลสัน ) รับบท Jack Dwyer (แจ็ค ดไวเยอร์ )
 ผลงานที่ผ่านมาภาพยนตร์ Night at the Museum : Secret of the Tomb , Midnight in Paris

Pierce Brosnan  (เพียร์ซ บรอสแนน)  รับบท  Hammond (แฮมมอนด์)
ผลงานที่ผ่านมาภาพยนตร์ The November Man, I Don’t Know How She Does It

Lake Bell  (เลค เบลล์) รับบท  Annie Dwyer ( แอนนี่ ดไวเยอร์)
ผลงานที่ผ่านมา Wet Hot American Summer : First Day of Camp (TV Series), Man Up  , Million Dollar Arm


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=0KzuCvjv0Bs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=0KzuCvjv0Bs</a>

เรื่องย่อภาพยนตร์ No Escape หนีตายฝ่านรกข้ามแดน

                  ภาพยนตร์ระทึกขวัญข้ามชาติ เรื่องราวของนักธุรกิจชาวอเมริกัน (โอเว่น วิลสัน)  เขาและครอบครัวมาตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวยแต่แล้วอยู่ๆ ก็เกิดความไม่สงบภายในประเทศ มีการก่อรัฐประหารซึ่งเขาและครอบครัวต้องตกอยู่ในวงล้อมที่วุ่นวายนั้น พวกเขาต้องหลบหนีเพื่อหาที่ปลอยภัยจากพวกกบฏที่โจมตีเมือง

                  ภาพยนตร์เรื่อง “NO ESCAPE หนีตายฝ่านรกข้ามแดน” นำแสดงโดย โอเว่น วิลสัน, เพียร์ซ บรอสแนน และ เลค เบลล์ ผลงานการกำกับของ จอห์น เอริค ดาวเดิล และบทภาพยนตร์โดย จอห์น เอริค ดาวเดิล และ ดรูว์ ดาวเดิล








เกี่ยวกับการถ่ายทำ

                  จอห์น ดาวเดิล ได้พล็อตเรื่อง NO ESCAPE  ตอนที่เขาวางแผนมาเที่ยวกับพ่อของเขาที่ประเทศไทยประมาณ ปี 2006 ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางหนึ่งวัน ก็มีรัฐประหารเกิดขึ้นมันทำให้เขาลังเลที่จะมาประเทศไทย แต่พ่อ ของเขาก็ยืนยันที่จะเดินทาง เพราะคิดว่าทุกอย่างไม่น่าจะเลวร้ายอย่างที่คิด เขาจึงตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทย ทว่าท่ามกลางรถถังที่เรียงรายบนถนน และกฎอัยการศึกที่ถูกบังคับใช้ แต่ที่ประเทศไทยก็ยังสงบ ไม่ได้มีบรรยากาศที่รุนแรง และการท่องเที่ยวก็ยังไม่ติดขัดอะไร จุดนี้เขาเลยฉุกคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาถ้าสถานการณ์มันไม่ได้สงบแบบนี้ เขาเลยผุดไอเดียเรื่องชาวต่างชาติที่ติดอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งที่รุนแรงกับเด็กซักหนึ่งคนหรืออาจจะมากกว่านั้น

                  ดังนั้นเมื่อเขากลับมายังสหรัฐ เขาก็เล่าความคิดนี้ให้น้องเขาฟัง ซึ่งก็ได้ผลในทันทีทั้งคู่ตัดสินใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนนั้นเลย และความคิดของเรื่อง NO ESCAPE นี้ก็ช่วยให้พวกเขามี อะไรทำในช่วงนั้น ด้วย ซึ่งการทำงานร่วมกันมันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพวกเขา ที่จริงมันง่ายมากด้วยซ้ำพวกเขาเติบโตมาด้วยกันอายุไล่เลี่ยกัน พวกเขาใช้ห้องร่วมกันจนกระทั่งจอห์นออกไปเรียนที่โรงเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์ ส่วนดรูว์ก็เรียนทางด้านธุรกิจ พวกเขากลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งตอนเรียนจบ และทั้งคู่ชอบงานเขียน และจอห์นต้องการเป็นผู้กำกับ ส่วนดรูว์ต้องการเป็นผู้อำนวยการสร้าง มันทำให้พวกเขาเป็นคู่พี่น้องมหัศจรรย์. พวกเขาสามารถทำความต้องการของพวกเขาได้ พวกเขากลายเป็นทีมที่สร้างภาพยนตร์ได้เลย “เราไม่ได้มีปัญหามากอย่างที่คิด เราค่อนข้างสามัคคีกัน มันยากที่เชื่อว่านี่คืองานที่ใช้เวลาหลายวัน” จอห์นกล่าว.

                  และคู่พี่น้องก็เขียนบทภาพยนตร์ร่วมกันซึ่งมันก็เสร็จอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงหกอาทิตย์ ซึ่งตอนนั้นมัน อยู่ในช่วงเตรียมการถ่ายทำภาพยนตร์ระทึกขวัญแนววิทยาศาสตร์เรื่อง QUARANTINE ช่วงฤดูร้อนปี2007  ซึ่งเรื่องนี้ทั้งคู่ก็เขียนบทร่วมกันและจอห์นเป็นคนกำกับ

                  พวกเขาต่างสนใจในรายละเอียดเรื่องหนึ่ง พวกเขาต้องการตัวละครหลัก แจ็ค ดไวเยอร์ จะมีหลายบุคลิคมันต้องดูเป็นธรรมชาติ ดรูว์และจอห์นคิดภาพของภาพยนตร์ไว้และใส่ความคิดไว้ในตัวแจ็ค  แจ็คจะเป็นคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา “…เรากำลังจะบอกว่า เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่ไม่ได้มีทักษะการต่อสู้อะไรเลย และเขาก็ต้องการให้ลูกๆของเขา ปลอดภัยจากสถานการณ์เลวร้าย ซึ่งลูกๆ ที่พูดถึงนี้ไม่ใช่วัยรุ่นที่สามารถปกป้องตัวเองได้ แต่เป็นเด็กน้อยที่ต้องการการปกป้อง…”  ดรูว์กล่าว.

                  พี่น้องดาวเดิลได้เดินทางมาหาข้อมูล พวกเขามาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับครอบครัวของพวกเขาอีกครั้ง เขามาพร้อมกับญาติอายุห้าขวบและเจ็ดขวบ ในบทของภาพยนตร์เรื่อง NO ESCAPE นี้ พวกเขาจำลองความรู้สึกของญาติผู้น้องของพวกเขา จำลองอารมณ์และสถานการณ์เหมือนกับพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากและต้องเอาตัวรอด น้องสาวของพวกเขาจึงเป็นต้นแบบของลูซี่กับบีซซ์ ที่รับบทโดย สเตอลิง เจอรินส์ และ แคลร์ เกียร์ ในภาพยนตร์

                  พูดถึงเรื่องทุนสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาอยู่ไม่ใช่น้อย ทางจอห์นและดรูว์ต้องระดมเงินจากบริษัท ถึงห้าแห่งเพื่อที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งกินเวลาถึงเจ็ดปีเลยทีเดียว “…มันเป็นงานที่เหนื่อยเอาการกว่าจะ ระดมทุนได้ การทำให้เด็กตกอยู่ในอันตราย เนื้อเรื่องแบบนี้ก็ทำให้คนอื่นๆ หยุดคิดนิดนึง และกลัวว่าเนื้อหาจะอ่อนไหวเกินไป…” จอห์นกล่าว

                  แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้ไฟเขียวให้ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้พวกเขาบินมาประเทศไทยและเริ่มศึกษาเรื่องการถ่ายทำและเตรียมการถ่ายทำในประเทศไทย นอกจากนั้นพวกเขายังต้องคัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบท แจ็ค  ดไวเยอร์ แอนนี่ ดไวเยอร์ และ แฮมมอนด์ ซึ่งก็ได้นักแสดงอย่าง โอเว่น วิลสัน, เลค เบลล์ และ เพียร์ซ บรอสแนน มารับบทสำคัญนี้

                  พูดถึงวิลสัน เขามีประสบการณ์ทางภาพยนตร์สูงและเคยได้รับบทนำมาหลายเรื่อง เรื่องนี้เขาต้องรับบทเป็น พ่อ และมีสัญชาตญานความเป็นพ่อสูง เขาต้องสามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่าได้ถ้าต้องปกป้องลูก ซึ่งวิลสันเอง โดยพื้นฐานคนดูจะติดภาพนักแสดงอารมณ์ดี ตลก อยู่ ซึ่งนี่อาจจะช็อคคนดูได้ด้วยบทบาทนี้  จอห์นกล่าวว่า  “…ผมและดรูว์คิดถึงเรื่องนักแสดงตลก ถ้าพวกเขาสามารถทำให้คนดูตลกได้ ซึ่งถือเป็นศาสตร์ขั้นสูง พวกเขาก็ สามารถแสดงบทอื่นๆได้ดีเหมือนกัน…”

                  ในขณะเดียวกันพูดถึง บรอสแนน ทางจอห์นและดรูว์คิดว่าเขานี่แหละ เหมาะกับบทของ แฮมมอนด์มากที่สุด แล้ว พวกเขาสลัดภาพ บอนด์ใน 007 ออกจากตัวบรอสแนน บทนี้มีความต่างออกไป แต่ทั้งนี้ตัวละครตัวนี้ ก็ยังมีลูกเล่น มีความกวน เกเร และดิบอยู่ “…เพียร์ซเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์สูงมาก ๆ เราเขียนบทให้เขาเป็นคนที่ซับซ้อนเข้าใจยากและมีอดีตที่เป็นปริศนา…” ดรูว์กล่าว. พี่น้องดาวเดิล สนใจในงานของเพียร์ซตั้งแต่ปี 2005 ที่เขารับบทในภาพยนตร์เรื่อง THE MATADOR

                  เบลล์มีการพูดคุยกับพี่น้องดาวเดิลแบบไม่ธรรมดา ไม่ใช่การพูดคุยต่อหน้าแต่ทว่าเป็นการ  สไกบ์คุยกัน “…สิ่งที่พวกเราทำได้คือการหัวเราและยิ้ม พวกเขาอบอุ่นมาก บางครั้งฉันแอบคิดเองว่า ทำไมคนที่ดูใจดี อบอุ่นถึงเขียนเรื่องราวที่ดำมืดได้ถึงขนาดนั้น…”  เบลล์เสริม  “…ฉันรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มันท้าทายมาก มันเป็นการแสดงอารมณ์ที่ต่อเนื่อง มันเป็นเรื่องราวที่เดิมพันสูง เหมือนเป็นการทดสอบความอดทน ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ แต่รวมถึงพลังความแกร่งของร่างกายด้วย…”

                  เมื่อถึงเวลาที่พร้อมสำหรับการถ่ายทำ จอห์นและดรูว์ ดีใจกว่าใครๆ เพราะเขาทั้งคู่จะได้เห็นบทที่พวกเขาเขียน ออกมาเป็นเรื่องราวซักที จากที่ทั้งคู่ได้ร่วมต้อสู้กันมาจนถึงวันที่งานเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง  “…เราไม่ได้เปลี่ยนแปลง บทภาพยนตร์มากนัก เพราะเราอยากให้มันดูสมจริงมากขึ้น…” ดรูว์กล่าว

                  เรื่องหนึ่งในบทภาพยนตร์ที่ดาวเดิลถือว่าสำคัญมาก คือ ชื่อของประเทศและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดที่ไหน ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะบอกว่าเป็นจะเป็นกัมพูชา แต่เพราะไม่อยากให้รู้กระทบถึงความอ่อนไหวทางการเมืองของแต่ละประเทศที่กล่าวถึงในภาพยนตร์ เพราะอาจจะมีการเปรียบเทียบกับประเทศจริงๆ ได้ ดังนั้นภาพยนตร์จึงไม่มีการระบุชื่อประเทศและตำแหน่งที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น “…ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัวที่ติดอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่วิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อความสงบถูกกระทบด้วยเหตุการณ์ป่วนเมืองเราต้องการให้เห็นถึงการเอาตัวรอดของครอบครัวที่ต้องมีการต้องสู้บ้าง ซึ่งจริงๆ เราต้องการบทแบบแอ็คชั่นของครอบครัว…”

                  กองถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มงานถ่ายทำที่ประเทศกัมพูชาเพราะพวกเขามองว่าเป็นประเทศที่สงบน่าไปเที่ยวแต่ว่าพอไปใช้ชีวิตอยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ดาวเดิลก็ให้ย้ายกองไปยังประเทศไทยเพราะว่าองค์ประกอบต่างๆ ในภาพยนตร์ที่ถ่ายทำที่กัมพูชาไม่เพียงพอ จอห์นและดรูว์จึงย้ายกองไปที่ประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะอยู่ทางภาคเหนือและติดกับชายแดนพม่า ซึ่งพื้นที่มันดูเข้ากับเนื้อเรื่องมีทางหนีทีไล่ไปยังประเทศอื่นได้ และนอกจากนั้นยังมีทีมงานมืออาชีพและอุปกรณ์ต่างๆที่สนับสนุนการถ่ายทำได้ด้วย

                  เพื่อที่จะให้นักแสดงรู้สึกถึงความเป็นครอบครัว พี่น้องดาวเดิลได้พาพวกเขามาที่เมืองไทยล่วงหน้าการถ่ายทำถึงสองสัปดาห์ เพื่อให้ได้ถ่ายรูปและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้สนิทกันมากขึ้น พวกเขาไปที่อุทยานแห่งชาติ ไปขี่ช้างและร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างภาพและอารมณ์ให้สมจริงเวลาถ่ายทำฉากครอบครัว  “…ฉากในภาพยนตร์ที่เรา เขียนขึ้นนั้น คือสถานการณ์ที่ครอบครัวจะต้องปลอดภัย คนเป็นพ่อต้องทำให้ ครอบครัวปลอดภัย นักแสดงต้องรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถือต้องคิดว่าถ้าลูกของคุณจริงๆ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ แบบนั้น คุณจะทำอะไร เบลล์อาจจะยังไม่ได้เป็นแม่ แต่เธอต้องรู้สึกให้ได้ว่า เจอรินส์และเกียร์เป็น แรงบันดาลใจที่เธอต้องการ…”

                  สิ่งที่พี่น้องดาวเดิลต้องการสื่อสารไปยังผู้ชมภาพยนตร์เรื่อง NO ESCAPE นี้ ดรูว์กล่าวว่า “…สำหรับพวกเรา เนื้อหาหลักเรามุ่งเน้นไปในเรื่องความเข้มแข็งของครอบครัวถ้าครอบครัวช่วยกันไม่มีอะไรที่พวกเขาจะฝ่าไปไม่ได้ ในตอนต้นของเรื่องบทบาทของพ่อจะทำให้รู้สึกว่าเขาทำให้ครอบครัวแย่และมันน่าจะดีถ้าไม่มีเขา แต่พอมาในช่วงที่วิกฤตสุดๆของเรื่อง เขาก็พบว่าจริงๆ แล้ว เขามีความสำคัญ เขาต้องช่วยครอบครัวของเขา ให้รอดพ้นจากสถานการณ์ปฏิวัตินี้ไปให้ได้ มันเป็นการช่วยเหลือและฝ่าฟันอุปสรรคของครอบครัว…”