ช.การช่างเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกแข็งแกร่งพร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาล0.25 บาท/หุ้น

ช.การช่าง เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกแข็งแกร่ง พร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น





ช.การช่าง เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2558 มีรายได้รวม 19,671 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,132 ล้านบาท ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 80,859 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะมีรายได้รวมแตะ 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ พร้อมลุยงานภาครัฐขานรับนโยบายขับเคลื่อนการลงทุนพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล

ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK) กล่าวว่า ปัจจุบัน ช.การช่าง มีความมั่นคงและแข็งแกร่งมาก สามารถสร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยผลประกอบการ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 19,671 ล้านบาท เติบโต 15% (QoQ) และ 9.0% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 2,132 ล้านบาท เติบโต 420% (QoQ) และ 208% (YoY)  โดยคาดว่าในปี 2558 จะมีรายได้แตะระดับที่ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้เดิมคือ 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 80,859 ล้านบาท โดยงานเหล่านี้สามารถรับรู้รายได้อีกหลายปีข้างหน้าอย่างมั่นคง ทั้งนี้ Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมงานในอนาคตที่อยู่ระหว่างการเจรจาและรอลงนาม และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบผลการดำเนินงาน และมีมติให้บริษัทจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปี 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 423.47 ล้านบาท

ในส่วนของโครงการงานก่อสร้างของบริษัทมีความก้าวหน้าเป็นอย่างดีเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่น โครงการก่อสร้างสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ก้าวหน้า 76.0%  โครงการก่อสร้างสถานีและทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก้าวหน้า 66.0% โครงการก่อสร้างทางด่วนศรีรัช – วงแหวน ก้าวหน้า 54.0% โครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีใน สปป.ลาว ก้าวหน้า 52.0% รวมถึงโครงการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก้าวหน้า 36.0% ซึ่งขบวนรถจะเริ่มทยอยส่งถึงประเทศไทยในเดือนกันยายน 2558 นี้ เพื่อเริ่มดำเนินการติดตั้งและทดสอบระบบ

ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทลงนามโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่า 3,620 ล้านบาท  ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่า 1,071 ล้านบาท 2.โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 1,381 ล้านบาท และ 3.โครงการก่อสร้างอาคารพิเคราะห์บำบัดโรคและบริการ พร้อมระบบสาธารณูปการ  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 1,168 ล้านบาท   ในส่วนของงานในอนาคต บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการก่อสร้างต่างๆ รวมถึงงานลงทุนพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายสีส้ม
ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงคลอง 19-แก่งคอย และช่วงจิระ-ขอนแก่น โครงการมอเตอร์เวย์ ช่วงพัทยา-มาบตาพุด โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลจะเร่งผลักดันให้เปิดการประมูลในปี 2558

สำหรับความคืบหน้าของการควบรวมกิจการระหว่าง BECL และ BMCL นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมจะจัดตั้งแล้วเสร็จและดำเนินการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในสิ้นปี 2558 ดร. สุภามาส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ครึ่งปีแรก ปี 2558 ช.การช่างมีผลประกอบการที่แข็งแกร่

ทั้งรายได้จากโครงการก่อสร้างและรายได้จากการปรับพอร์ทการลงทุนของบริษัทอย่างเหมาะสม  ทำให้บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน  บุคลากร  ที่จะเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างและร่วมโครงการลงทุนขานรับนโยบายภาครัฐที่มุ่งผลักดันพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศให้พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในปีนี้ด้วย”

CH. Karnchang records a strong first half performance, ready to pay interim dividend of Bt 0.25 per share





CH. Karnchang reported the operating performance for the first half of 2015 with total revenue of Baht 19,671 million and net profit of Baht 2,132 million with current backlog of Baht 80,859 million. The company anticipated to generate total revenue of Baht 40,000 million for 2015 as expected, while moving full stream forward in alignment with the government’s infrastructure development strategic plan.   

Dr. SupamasTrivisvavet, President, CH. Karnchang Public Company Limited (CK) said that “We manage to maintain a strong and stable business this year with good revenue and profit.  In the second quarter of 2015, CK recorded total revenue of Baht 19,671 million, growing 15% quarter-on-quarter and 9% year-on-year.  Our net profit for the period is Baht 2,132 million, showing a rocketing growth of 420% quarter-on-quarter and 208% year-on-year. We anticipate total revenue of Baht 40,000 million for the whole year, higher than previous target of Baht 30,000 million. Our current backlog is Baht 80,859 million, which will continue to generate a stable income over the next several years. The backlog value does not include the projects which are under negotiation and awaiting contract signing. The company’s Board of Directors Meeting on 26 August 2015 had a resolution to pay the interim dividend for the first half of 2015 operating results at the rate of Bt 0.25 per share, totaling Bt 423.47 million.” 

All projects in the current backlog are progressing as planned. The construction of the MRT Blue Line stations and tunnel is now reaching 76% completion, theMRT Green Line stations and viaduct now 66% completed, the Si Rat - Outer Ring Road Expressway now 54% completed,  the Xayaburi Hydroelectric Power Project in Lao PDR now 52% completed, the production of rolling stock for the MRT Purple Line now 36% completed and the first car train is expected to be delivered to Thailand in September 2015 for installation and testing.

During the first half of 2015, CK signed three new construction contracts worth Bt 3,620 million, comprising the construction of manhole and electrical underground ductbank for the BTS Light Green line extension (Bearing - SamutPrakan) worth Bt 1,071 million, the construction of medical center and utilities for Mae Fah Luang University worth Bt 1,381 million and the constrction of diagnosis and treatment building and facilities for Mae Fah Luang University worth Bt 1,168 million. The company is ready to participate in bidding for new infrastructure projects including the MRT Orange Line (Thailand Cultural Centre - Min Buri), the dual-track railways - Chachoengsao-Klong 19-Kaeng Khoi route and Chira junction-KhonKaen route, the motorway – Pattaya–Map Ta Phut route, and the Suvarnabhumi Airport Phase 2. The bidding of these projects  is expected within 2015.

The amalgamation between Bangkok Expressway Plc (BECL) and Bangkok Metro Plc (BMCL) is currently awaiting approval from the Cabinet and is expected to be completed and the new company to be listed in SET by the end of 2015.

“The outstanding first-half performance is a result of strong revenue streams from construction projects and prudent investment portfolio management. CH. Karnchang is now in excellent position with financial strength and workforce to enter the bidding and investments in line with the government’s infrastructure development policy which will drive the country’s economy and strengthen Thailand’s competitiveness for AEC this year.” added Dr. Supamas.