MSN on August 24, 2015, 02:00:48 PM
กสอ. รุกเสริมกลยุทธ์เมคโอเวอร์ SMEs ไทยล้ำนำเทรนด์หวังปักธงเจ้าตลาด AEC ดันยอดส่งออกทะลุ 2.2 ล้านล้านบาท

กสอ. ชี้ตลาด AEC โตไม่หยุด จากปัจจัยผู้บริโภคกลุ่มบีเซ็กเม้นท์ เพิ่มขึ้นเป็น 65% ในอีก 15 ปีข้างหน้า













กรุงเทพฯ 24 สิงหาคม 2558 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมรุกเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทย ผ่าน “โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด” โดยเปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 2,520 ราย แล้วทำการคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพต่อยอดพัฒนาสินค้าออกวางขายในเชิงพาณิชย์ 262 ราย เข้ารับการปรึกษาแนะนำเชิงลึกเพื่อพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค และรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนโดยการผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญร่วมกันโมดิฟายผลิตภัณฑ์ให้ดูโดดเด่นสวยงามสะดุดตา โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพเป็นผู้นำตลาด ได้แก่ อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป และกลุ่มอุตสาหกรรมของใช้และของตกแต่งบ้าน พร้อมตั้งเป้าส่งออกในปี 2559 มากกว่า 2.2 ล้านล้านบาทจากมูลค่าการส่งออก1.92 ล้านล้านบาท ในปี 2557 ที่ผ่านมา

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) เปิดเผยว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ  AEC ถือเป็นโอกาสทองของภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในการเพิ่มยอดขายและยอดส่งออกสินค้าเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด AEC ในภาพรวมจะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยให้สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าหลังก้าวสู่อาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2559 มูลค่าการส่งออกในตลาดอาเซียนจะสูงเกิน 2.2  ล้านล้านบาท เนื่องจากภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยจำนวนประชากรใน 10 ประเทศสมาชิกที่มากกว่า 600 ล้านคน ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มสัดส่วนชนชั้นกลางในอีก 15  ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 65 ส่งผลให้ดีมานด์ความต้องการบริโภคและกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

ทั้งนี้ เพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว กสอ. จึงเดินหน้าส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการจัดทำ “โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด” โดยเปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 2,520 ราย จากนั้นผู้เชี่ยวชาญทำการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพต่อยอดพัฒนาสินค้าในเชิงพาณิชย์ 262 ราย เข้าพัฒนาเชิงลึก โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ผ่านการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และดีไซน์ให้ดูทันสมัย ควบคู่ไปกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นสวยงาม

สะดุดตา รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศในอาเซียนมีวัฒนธรรมและระดับรายได้ที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มประเทศรายได้สูงได้แก่ สิงคโปร์ และบรูไน 2.กลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง-สูง ได้แก่ มาเลเซีย และไทย และ 3.กลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง-ต่ำ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมาร์ อินโดนิเซีย สปป.ลาว และกัมพูชา ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การผลิตสินค้าและบริการให้สอดคล้องตามความต้องการที่หลากหลายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพเป็นผู้นำตลาด AEC ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่

กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งทั้ง 3อุตสาหกรรม สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศปีละมากกว่า       6 แสนล้านบาท เนื่องจากไทยถือเป็นแหล่งผลิตที่มีวัตถุดิบหลากหลายและมีคุณภาพ รวมทั้งการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความชื่นชอบที่หลากหลายและการหมุนผ่านอันรวดเร็วของเทรนด์แฟชั่น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องมุ่งพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างกระบวนการผลิต และสร้างสรรค์วัตถุดิบให้มีรูปแบบ มีคุณภาพ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องกับแนวโน้มแฟชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอันหลากหลาย

กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านการผลิต ด้วยอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศ ด้านทรัพยากรบุคคลในสายวิชาการและแรงงานที่มีฝีมือ ตลอดจนเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทันสมัย ส่งผลให้ไทยมีศักยภาพส่งออกของอุตสาหกรรมอาหารต่อปีได้ปริมาณมากโดยในปี 2557 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมอาหารของไทยมีมูลค่าการส่งออกราว 9.15 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งตลาดส่งออกอาหารที่สำคัญของประเทศไทยก็คือ ตลาดอาเซียน คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาคือญี่ปุ่น และจีน

กลุ่มอุตสาหกรรมของใช้และของตกแต่งบ้าน สินค้ากลุ่มนี้ไทยถือว่ามีศักยภาพค่อนข้างมาก โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา มีมูลค่าส่งออกทั่วโลกรวมกันราว 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งแม้ว่าภาพรวมตลาดทั่วโลกยังคงซบเซา แต่สำหรับตลาดอาเซียนแล้วนั้น  ในช่วง 4-5 ปี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตลาดที่เติบโตสูงและน่าจับตามองที่สุด โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม ตามนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศและก่อนการเข้าสู่การเปิด AEC ซึ่งดึงดูดความสนใจด้านการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามมา ทั้งกลุ่มโรงแรม คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า

นายอาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับโอกาสของผู้ประกอบการ SMEs ไทยในตลาด AEC นั้น เนื่องจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนค่อนข้างเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ส่งผลให้ในปี 2557 ที่ผ่านมา ผู้ประการกลุ่ม SMEsไทย สามารถส่งสินค้าไปขายในตลาดอาเซียน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.92 ล้านล้านบาท โดย 5 อันดับประเทศที่นำเข้าสินค้าไทยสูงสุด คือ มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ อินโดนีเซีย และ สปป.ลาว แต่เนื่องจากในภาพรวมขณะนี้สินค้าสินค้าล้นตลาดและขายไม่ได้ราคา ในระยะยาวผู้ประกอบการจึงประสบปัญหาขาดทุน ประเด็นเหล่านี้จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนของ กสอ. นั้น ที่ผ่านมาได้สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน ผ่านการดำเนินโครงการส่งเสริมศักยภาพด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นใน 5 เรื่องหลัก คือ 1.ติดอาวุธทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการทั้งใหม่และเก่า 2.เร่งรัดการเพิ่มผลิตภาพให้กับกิจการ 3.ต่อยอดนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ 4.สร้างเสริมความเข้มแข็งของกลุ่มอุตสาหกรรมให้เกิดเครือข่ายเชื่อมโยงการผลิตในรูปแบบคลัสเตอร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งระบบ และ 5.ดำเนินการอย่างบูรณาการเสริมสร้างปัจจัยที่เอื้อหนุนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ การจัดฝึกอบรมให้ความรู้และบริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการอุตสาหกรรม การนำสินค้าไปออกบูธจัดแสดง เผยแพร่และทดสอบตลาดทั้งในและต่างประเทศการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อชาวต่างชาติ การส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และการเพิ่มศักยภาพทางการตลาดอินเทอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ เป็นต้น

ในภาพรวมแม้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยจะค่อนข้างได้เปรียบประเทศคู่แข่งในแง่ความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ มีความสามารถในการปรับตัวภายใต้ภาวะทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเร็วและมีความสามารถในการประยุกต์เอาทักษะด้านการผลิตและบริการมาเป็นจุดแข็งได้ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีจุดอ่อนที่จำเป็นต้องพัฒนาอย่างจริงจังอยู่หลายประการ เนื่องจากที่ผ่านมาเราอาศัยข้อได้เปรียบด้านแรงงานและทรัพยากรมากกว่าความเข้มแข็งทางเทคโนโลยี ปัจจุบันจึงต้องเผชิญแรงกดดันสองทางคือติดอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศที่มีความได้เปรียบด้านต้นทุนราคาถูก เช่น จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย กับประเทศที่เป็นผู้นำด้านแรงงานที่มีทักษะและมีผลิตภาพสูง เช่น อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน นอกจากนี้ข้อกำจัดในด้านความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงการสื่อสารภาษาต่างประเทศ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องร่วมมือกันยกระดับขีดความสามารถและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ทัดเทียมนานาประเทศด้วยเช่นกัน นายอาทิตย์ กล่าวสรุป
« Last Edit: August 24, 2015, 02:17:47 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:03:30 PM


ชื่อธุรกิจ          บริษัท เอิร์ธส โซน จำกัด
ชื่อผู้ประกอบการ      -
ประเภทอุตสาหกรรม      เครื่องสำอาง
ที่อยู่            226/31 อาคารริเวียร่า บางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี 11120
โทรศัพท์         02-960-1335 ต่อ 8
อีเมล์            crm_01@earths.co.th   
ลักษณะกิจการ         ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางและบำรุงผิวพรรณ
 
ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

เอิร์ธส เป็นแหล่งรวมความงามที่นำเอาสารสกัดจากธรรมชาติที่ดีที่สุดทั่วทุกมุมโลก มาถ่ายทอดเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับแหล่งที่มา คุณสมบัติ คุณประโยชน์ และคุณค่าสำหรับมวลมนุษย์ โดยเฉพาะในเรื่องของความงาม โดยเน้นให้วัตถุดิบที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติจากพืชเท่านั้น และวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่การดูแลและบำรุงศีรษะจรดปลายเท้า รวมไปถึงแก้ปัญหาเฉพาะจุด อย่างเช่น ผมร่วง รากผมไม่แข็งแรง แก้ปัญหาผิวเปลือกส้ม ปกป้องแสงแดด เรามีผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาไว้รองรับ ซึ่งการคิดสูตรผลิตสินค้าออกมาจะดูที่ลักษณะผิวพรรณ อายุ ของผู้ใช้จริง และสารสกัดนำมาใช้จะมาจากพืชและแร่ธาตุเท่านั้น
« Last Edit: August 24, 2015, 02:18:20 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:03:36 PM
ELIGARF GLASS





ชื่อธุรกิจ          ELIGARF GLASS JEWELRY & ARTS
ชื่อผู้ประกอบการ      คุณวีรินท์ น้อยจินดา
ประเภทอุตสาหกรรม      เครื่องประดับและของตกแต่ง
ที่อยู่            126/1073 หมู่ที่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
โทรศัพท์         081-5947076
อีเมล์            tun_noichinda@hotmail.com               
ลักษณะกิจการ         ออกแบบและผลิตเครื่องประดับและของตกแต่งจากแก้วเป่า
 
ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

เครื่องประดับและของตกแต่งบ้าน ELIGARF GLASS JEWELRY & ARTS เน้นการพัฒนาดีไซน์ที่แปลกใหม่ ไม่ค่อยมีให้เห็นตามท้องตลาดทั่วไป เน้นทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านตัวแทนนำส่งออกไปขาย สำหรับจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจเครื่องประดับจากแก้วเป่านั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเป่าแก้วอยู่แล้ว โดยการนำเอาความรู้และความชื่นชอบด้านศิลปะมาประยุกต์ ผลิตเป็นเครื่องประดับที่สวยงาม ตามความชื่นชอบของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
« Last Edit: August 24, 2015, 02:18:38 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:03:43 PM
น้ำมันมะพร้าวทรอปิคานา





ชื่อธุรกิจ          บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด
ชื่อผู้ประกอบการ      คุณสุรเดช นิลเอก กรรมการผู้จัดการ
ประเภทอุตสาหกรรม      อาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ที่อยู่            35/9 หมู่.4 ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120
โทรศัพท์         0-3432-6833-6
อีเมล์            info@tropicanaoil.com      
ลักษณะกิจการ         ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำมันมะพร้าว

ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

มะพร้าวเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติของคนไทยมาแต่เนิ่นนาน คนสมัยก่อนมักปลูกมะพร้าวเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติ ไว้ในบริเวณบ้านเพื่อเก็บผลมาประกอบอาหาร อีกทั้งยังใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ ของมะพร้าวอีกมากมาย คุณประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของมะพร้าวคือสมุนไพรอันเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ สามารถนำส่วนต่างๆ ของมะพร้าวมาทำยาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งทางแพทย์แผนไทยแผนตะวันออกด้วยคุณประโยชน์ของมะพร้าวหลายประการทั้งเป็นแหล่งอาหาร เครื่องเรือน เครื่องใช้ ยารักษาโรค เหล่านี้จึงกลายเป็นที่มาของ TROPICANA  ที่นำเอาภูมิปัญญาดั้งเดิมซึ่งสั่งสมกันมานานผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดึงเอาสรรพคุณต่างๆ จากมะพร้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์และได้ประสิทธิภาพสูงสุด แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นบริสุทธิ์ของธรรมชาติในด้านดีๆ ของน้ำมันมะพร้าวไว้      
« Last Edit: August 24, 2015, 02:18:55 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:03:50 PM
เต้าหู้ไข่ขาว





ชื่อธุรกิจ          บริษัท มงคลเกษมรุ่งเรือง จำกัด
ชื่อผู้ประกอบการ      คุณวรินทร์ญาณ์ พรมวิเศษ
ประเภทอุตสาหกรรม      อาหารและอาหารแปรรูป
ที่อยู่            598 หมู่ 8 ตำบลกบินทร์  อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 25110
โทรศัพท์         081-450-0089
อีเมล์            warinya63@gmail.com   
ลักษณะกิจการ         จำหน่ายไข่ไก่และเต้าหู้ไข่ไก่

ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

บริษัท มงคลเกษมรุ่งเรือง จำกัด มีแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าจากไข่ขาว ซึ่งมีโปรตีนสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบทุกชนิด ปราศจากไขมันมีกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย เด็ก ที่รับประทานอาหารยาก แต่ต้องการโปรตีนสูง ผู้ที่ออกกำลังกายที่เน้นเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์มีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย บรรจุในถ้วยรูปทรงทันสมัยสะดวกพร้อมทาน แปรรูปด้วยความร้อนระดับพาสเจอร์ไรซ์ ไม่ใส่สารกับบูดหรือวัตถุกันเสีย แช่เย็นอายุการเก็บ ประมาณ 2 สัปดาห์ ใช้แบรนด์ Steamed egg white โดยตลาดเป้าหมายหลัก คือ สถานที่ออกกำลังกายแบบเน้นสร้างกล้ามเนื้อ โรงพยาบาล รัฐและเอกชน รวมทั้ง Modern Trade กลุ่ม Premium store เช่น Siam Paragon, Tops Market, Villa market, Foodland เป็นต้น
« Last Edit: August 24, 2015, 02:19:12 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:05:23 PM
ขนมแม่เอย





ชื่อธุรกิจ          บริษัท ขนมแม่เอย - เปี๊ยะแอนด์ พาย (2003) จำกัด
ชื่อผู้ประกอบการ      คุณดิศรณ์ มาริษชัย กรรมการผู้จัดการ
ประเภทอุตสาหกรรม      อาหาร
ที่อยู่            5-7 ถนนบำรุงเมือง แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทรศัพท์         02 -6220588-9, 02-6220998 กด 0
อีเมล์            -         
ลักษณะกิจการ         ผลิตขนมไทยโดยมีขนมเปี๊ยะและข้าวต้มมัดเป็นผลิตภัณฑ์เด่น

ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

ขนมแม่เอยเกิดจากความตั้งใจที่จะทำขนมไทยให้อร่อย รสชาติดี ไม่หวานจัดจนเกินไป และมีความแปลกใหม่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จึงได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาการทำขนมอย่างต่อเนื่อง โดยการรับฟังความคิดเห็นและคำติชมจากลูกค้านำมาปรับปรุงคุณภาพ พร้อมยึดหลักความสดใหม่จากการคัดสรรวัตถุที่มีคุณภาพ ปรุงด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน ปัจจุบันขนมแม่เอยได้พัฒนาให้มีหลากหลายไส้ อาทิ ทุเรียน กล้วย สตรอเบอร์รี่ ชาเชียว สัปปะรด มะตูม และมะม่วง ทั้งนี้ สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ขนมแม่เอยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คือการพัฒนาคุณภาพขนมและบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามทันสมัย สอดคล้องตามความชื่นชอบของผู้บริโภคในปัจจุบัน
« Last Edit: August 24, 2015, 02:19:32 PM by MSN »

MSN on August 24, 2015, 02:09:18 PM
อัจฉราไข่วิจิตร



ชื่อธุรกิจ          อัจฉราไข่วิจิตร (Atchara Design Shop)
ชื่อผู้ประกอบการ      คุณอัจฉรา ทิพยรัต
ประเภทอุตสาหกรรม      ไลฟ์สไตล์และของตกแต่งบ้าน
ที่อยู่            อาคารสีลมแกลเลอเรีย ชั้น 3 เขตบางรัก แขวงบางรัก กรุงเทพฯ10500
โทรศัพท์         02-6300485, 086-7765325
อีเมล์            -      
ลักษณะกิจการ         ออกแบบ และผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่เปลือกแข็งทุกชนิด เช่น ไข่นกเลิฟเบิร์ด   ไข่นกกระทา ไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่ห่าน ไข่นกอีมู ไข่นกกระจอกเทศ ฯลฯ

ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์

งานออกแบบทั้งโครงสร้างและออกแบบการตกแต่  บนเปลือกไข่ พัฒนาเทคนิคที่ทำให้เปลือกไข่มีความแข็งแรงคงทน ใช้งานได้จริง วิธีการประดิษฐ์และขั้นตอนการเตรียมงานซับซ้อนหลายขั้น เป็นงานฝีมือทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จเป็นชิ้นงาน ซึ่งใช้ความประณีตบรรจงในการตกแต่งให้มีความวิจิตรสวยงาม มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและราคาให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับเป็นของขวัญของที่ระลึกได้ในทุกโอกาสทุกเทศกาล และรับออกแบบให้เฉพาะรายบุคคล
« Last Edit: August 24, 2015, 02:19:48 PM by MSN »