BETREND READ TOWN ครั้งที่ 5 พบกับครั้งแรกของนิทรรศการ“100 เล่มหนังสือไทยที่โด่งดังทั่วเอเชีย”อวดโฉมในงาน
"หนังสือ" ที่นักเขียนได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นงานเขียนอันทรงคุณค่า นอกจากจะเป็นหนังสือที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ให้ความรู้ ความเพลิดเพลิน รวมทั้งเปลี่ยนแนวคิด และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ได้รับการยอมรับจากนักอ่านชาวไทยเท่านั้น หนังสือยอดนิยมเหล่านี้ยังได้รับการซื้อลิขสิทธิ์และแปลเป็นภาษาต่างชาติหลากหลายภาษาไปสู่นักอ่านในหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย
เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการรักการอ่านอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย รวมถึงมองเห็นคุณค่าของงานเขียนที่ดีที่ควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นผลงานอันทรงคุณค่า BETREND เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด และผู้ผลิตหนังสือกว่า 100 สำนักพิมพ์ จัดงาน BETREND READ TOWN ครั้งที่ 5 ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 -12 สิงหาคมศกนี้ ที่ อีเว้นท์ ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ
โดยคุณสายสวาท เลิศเจริญเสริมสุข ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้า BETREND เดอะมอลล์ทุกสาขา เอ็มโพเรียม และ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์โสตร์ กล่าวว่า "BETREND เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านขึ้นในสังคมไทยอย่างยั่งยื่น จึงผลักดันให้เกิดการจัดงาน BETREND READ TOWN ขึ้นทุกปีโดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 รวบรวมหนังสือทุกประเภท ทั้งหนังสือวรรณกรรม เรื่องสั้น หนังสือเด็ก หนังสือ How-to จากกว่า 100 สำนักพิมพ์ อาทิ ร้านนายอินทร์, นานมีบุ๊คส์, ณ บ้านวรรณกรรม, บุ๊คไทม์, แจ่มใส, สยามอินเตอร์, มะนุดผู้เขียนเพลงรัก ฯลฯ และยังต้องการสนับสนุนงานเขียน และบทประพันธ์อันทรงคุณค่า จึงได้นำมาเป็นไฮไลท์สำคัญ"
สำหรับงาน BETREND READ TOWN ในปีนี้ พบกับสุดยอดหนังสือขายดีและครั้งแรกกับนิทรรศการ "100 เล่มหนังสือไทยที่โด่งดังทั่วเอเชีย" ที่รวบรวม 100 งานเขียนไทยสร้างชื่อที่ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์และแปลเป็นภาษาต่างชาติกว่า 10 ประเทศทั่วโลก อาทิ ไต้หวัน จีน เกาหลี ฮ่องกง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ อาทิ เวลาในขวดแก้ว ความสุขของกะทิ และอีกมากมายมาแนะนำให้คนไทยได้รู้จัก และเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของคนไทยด้วยกัน ซึ่งงานเขียนเหล่านี้ถือเป็นวรรณกรรมอันทรงคุณค่าที่ควรได้รับการเผยแพร่และสนับสนุนต่อไป
ความรู้สึกของนักเขียนไทยต่อผลงานที่ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์
คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของนามปากกา "ทมยันตี" กล่าวว่า "ยินดีที่ผลงานของเราเผยแพร่ไปสู่ระดับสากลมากขึ้น และเท่าที่ผ่านมาเราเคยได้อ่านหนังสือแปลจากต่างประเทศเป็นภาษาไทย เป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้เราได้มีโอกาสเห็นผลงานของไทยถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากขึ้น มีของนักเขียนอีกหลายท่านได้ถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศ หนังสือที่ต่างชาติให้ความประเทศสนใจ เช่นเรื่อง ล่า, อันธการ เรื่องพวกนี้ติดต่อเข้ามามากที่สุด ส่วนทางจีนชอบแนวของโรสลาเรนกับลักษณวดี เช่นเลือดขัตติยาไปดังในจีน คิดว่าถ้านักเขียนสอดแทรกความรู้อย่างมีศิลปะลงไปในนวนิยาย นวนิยายจะเป็นที่นิยมมากขึ้น อย่างเช่น คุณวรรณวรรธน์ ประพันธ์ค้นคว้าข้อมูลเหมือนกัน ถ้านวนิยายมีเหตุผล มีข้อมูลที่ถูกต้องบ้าง นวนิยายเรื่องนั้นจะอยู่และขายได้นาน"
คุณโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ เจ้าของสำนักพิมพ์ สุขภาพใจ กล่าวถึงความรู้สึกที่ผลงานได้ถูกซื้อลิขสิทธิ์ และถูกเผยแพร่ไปในต่างประเทศว่า " ดีใจที่หนังสือปรัชญาแนวพุทธศาสนาของไทยเป็นที่พึ่งให้กับคนได้จริงๆ ซึ่งหนังสือ "เดินสู่อิสรภาพ" สามารถก้าวไปสู่หนังสือสู่สากลแบบภาษาจีนและไต้หวัน เป็นหนังสือปรัชาญาที่อ่านและเข้าใจง่าย ทำให้เข้าถึงคนสากลมากขึ้น สำหรับเล่มนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์และถูกแปลเป็นภาษาจีนเนื่องจากคนจีนแผ่นดินใหญ่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมาก และจะศึกษาธรรมะผ่านการฟังธรรมและการอ่าน โดยมีการตีพิมพ์ไปที่ประเทศจีนและไต้หวัน ส่วนใหญ่หนังสือที่ต่างชาตินิยมซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลคือ หนังสือภาพ หนังสือสำหรับเด็ก และหนังสือแนวการ์ตูนความรู้ ส่วนหนังสือแนววรรณกรรม และเรื่องสั้นหากเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลจึงจะได้รับความสนใจจากต่างชาติ สำหรับตนเองมองว่าการอ่านเป็นไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่ง แม้เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้การอ่านเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร แต่เสน่ห์ของการอ่านหนังสือ คือคอนเท็นท์ที่มีความลึกซึ้ง นอกจากนี้การอ่านช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านต่างๆ ทั้งด้านสังคม การเรียนการศึกษา เป็นเสมือนเครื่องมือขับเคลื่อนและยกระดับตนเองให้อยู่ในสังคมได้ "
เช่นเดียวกับ คุณวสุรีย์ พิศุทธิ์สินธพ ที่กล่าวว่า "รู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่หนังสือฝีมือคนไทยล้วนๆ ตั้งแต่การเขียนเนื้อเรื่อง การวาดภาพ ได้ไปวางขายที่ต่างประเทศ หนังสือที่เคยได้อ่านได้ถูกแปลและเผยแพร่สู่ต่างประเทศ ทำให้หนังสือของเราดูมีคุณค่า ส่วนหนังสือที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจที่จะไปแปลต่อส่วนใหญ่ต้องเป็นหนังสือที่เข้าใจง่าย มีภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตรงกับหนังสือของเรา เช่น เรื่อง ลา ฟลอร่า มีลักษณะเป็นการ์ตูนซึ่งได้รับความสนใจและถูกซื้อลิขสิทธิ์จากมาเลเซียและเกาหลี และหนังสืออีกรูปแบบต่างชาตินิยมนำไปแปลคือหนังสือขายดีของเมืองไทย อยากจะฝากถึงคนรุ่นใหม่ให้หันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของตัวเองเปรียบเหมือนการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองโดยผ่านการอ่านหนังสือ และเชื่อว่าทุกคนมีหนังสือในดวงใจ ลองหาหนังสือที่ชอบหยิบมาอ่าน จะทำให้เกิดจุดประกายทำให้รู้สึกว่าอยากอ่านหนังสือเล่มต่อไปค่ะ"
ด้าน คุณจิรัฎฐ์ พรพนิตพันธุ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสารวัยรุ่นและผู้เขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค "มะนุด" หนังสือแนวปรัชญา อ่านง่าย ที่ปอกเปลือกทัศนคติ ความคิดและความรู้สึกของวัยรุ่นยุคนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา กล่าว ถึงรสนิยมการอ่านของคนไทยว่า "ส่วนตัวมีความเชื่อว่าประเทศที่เจริญแล้วจะต้องมีการอ่านที่เพิ่มขึ้น นักเขียนเองก็ต้องปรับตัว คนก็ต้องอัพเดตต้องเสพความรู้เกี่ยวกับงานเขียน สำหรับผลงานหนังสือ "มะนุด" มาจากการเล่นโซเชียล และรู้ว่าคนสนใจในโลกโซเชียล ก็เลยเขียนสเตตัสสั้นๆสะท้อนมุมมอง และทัศนคติการใช้ชีวิตลงในโซเชียล เมื่อเกิดเป็นกระแสจากการดกไลค์และแชร์ จึงนำสเตตัสเหล่านั้นมารวมเล่ม สิ่งนี้ทำให้สามารถดึงคนให้กลับมาอ่านหนังสือได้ส่วนนึง งานเขียนที่มีประสิทธิภาพควรเป็นงานเขียนที่มีคนอ่านแล้วเอาไปใช้มันต่อได้ จริงๆ สำหรับตัวเองมีทุกวันนี้ได้เพราะชอบอ่าน อยากให้ทุกคนลองเปิดอ่านโดยไม่ต้องซื้อก็ได้ เราหวังเพียงว่าสิ่งที่เราเขียนจะมีประโยชน์ต่อคนบางกลุ่มก็ดีใจแล้ว"
สุดท้าย คุณระพี อุทกะพันธุ์ ผู้บริหารร้านนายอินทร์ กล่าวถึงมุมมองต่อวงการหนังสือไทยในปัจจุบันว่า " ปัจจุบันคนทำหนังสือต้องมีการปรับเนื้อหาหนังสือให้ตอบโจทย์ผู้อ่านมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนพิถีพิถันในการเลือกอ่านหนังสือที่เหมาะกับตนเองมากขึ้นด้วย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen-Y และ Gen-Z ซึ่งให้ความสนใจหนังสือประเภท How-to คู่มือทำธุระกิจขนาดย่อม หรืองานอดิเรกที่ชอบและสามารถช่วยสร้างรายได้เพิ่มได้ ซึ่งในฐานะของสำนักพิมพ์ก็ต้องพยายามหาหนังสือเหล่านี้มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนอ่านกลุ่มนี้ให้ได้ ซึ่งการอ่านถือเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะหาความรู้หรือสิ่งใหม่ๆ เหมือนเป็นการแชร์ประสบการณ์จากนักเขียนสู่ผู้อ่าน เป็นรากฐานของการสร้างความรู้และสามารถมาช่วยพัฒนาประเทศของเราให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น"
นอกจากไฮไลท์ข้างต้นแล้ว ภายในงานตกแต่งบรรยากาศในคอนเซ็ปต์ "Book Camp" ให้คนรักหนังสือเพลิดเพลินไปในบรรยากาศสบายๆ และกิจกรรมเพื่อคนรักหนังสือที่ไม่ควรพลาด อาทิ เสวนากับ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของนามปากกา "ทมยันตี" จากสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, พูดคุยกับนักเขียนและบรรณาธิการบริหารนิตยสารชื่อดัง คุณจิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ เจ้าของผลงานหนังสือ "มะนุด" หนังสือแนวปรัชญาอ่านสนุก ที่สะท้อนมุมมอง ความรู้สึกและการใช้ชีวิตของวัยรุ่นยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี, พูดคุยกับ คุณช่า บันทึกของตุ๊ด บล็อกเกอร์ที่โด่งดั่งในโซเชียล ถึงเรื่องราวจากบล็อกเกอร์สู่เส้นทางนักเขียนหนังสือสู่นักเขียนบทละคร, กิจกรรมแนะนำหนังสือ "สวนปริศนา Secret Garden" หนังสือระบายสีลายเส้นสวยงามออกแบบสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ได้รับการตีพิมพ์แล้วกว่า 13 ประเทศทั่วโลก เสริมสร้างสมาธิผ่อนคลายอารมณ์และความเครียดจากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, เปิดตัวหนังสือ "คู่มือเลี้ยงกระต่าย" ฉบับเลี้ยงง่าย และน่ารัก พบคุณวิลาวัณย์ คนเลี้ยงกระต่าย เจ้าของอาณาจักร iRei's Family และ คุณศิวพร อโนทัยสินทวี สุดยอดแฟนพันธุ์แท้วรรณกรรมเยาวชนปี 2006 จากสำนักพิมพ์ บุ๊คไทม์, กิจกรรม เสวนา "จากหนังสือดี...สู่ละครดัง" พบกับ "ภาคินัย" นักเขียนชื่อดังเจ้าของผลงานหนังสือนิยายที่ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ พร้อมเปิดตัวหนังสือนิยายเล่มใหม่ "Lost Land เกาะที่ถูกลืม" วางจำหน่ายที่งานนี้ก่อนใคร และพบกับนักเขียนที่กำลังมาแรงอย่าง Rabbit Rose และคุณปองวุฒิ จากสำนักพิมพ์ ก้าวกระโดด, พูดคุยกับ หมอเอิร์ท เน็ตไอดอลชื่อดังร่วมถ่ายทอดประสบการณ์เขียน Blog และ Facebook ยังไงให้น่าสนใจ ,กิจกรรมสาธิตทำเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ เพื่อต้อนรับเทศกาลวันแม่ ในธีม "มือใหม่หัดอบให้แม่" โดยวิทยากร เชฟณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ ผู้เขียนตำรา "มือใหม่หัดอบ" จากสำนักพิมพ์แสงแดด และเพลิดเพลินไปกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน เดอะวอยซ์ในวันเสาร์และอาทิตย์
พิเศษสำหรับคนรักหนังสือ พบหนังสือคุณภาพลดสูงสุดถึง 80% ซื้อสินค้าภายในงานครบ 800 บาท แลกรับฟรีสมุดโน๊ตมีสไตล์จาก BETREND และพิเศษสำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิต แสดงบัตรไทยไลฟ์การ์ด รับฟรีกระดาษอเนกประสงค์ดีไซน์สวย (Paper Pattern) เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะงานนี้
เลือกสรรงานเขียนประทับใจ ในบรรยากาศสบายๆ พร้อมกิจกรรมสุดสร้างสรรค์มากมาย ในงาน "BETREND READ TOWN ครั้งที่ 5" ตั้งแต่วันที่ 6 – 12 สิงหาคมศกนี้ ชั้น G อีเว้นท์ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ
