MSN on July 22, 2015, 08:22:09 AM
KTAMทุ่ม496ล้านจ่ายปันผล-ลดทุนTLGFอัตรา0.2122บาท พร้อมเปิดขาย2กองทุนตราสารหนี้ชู6เดือนยิลด์2%ต่อปี

นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย  จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท  ( TLGF ) ครั้งที่ 13  และลดเงินทุนจดทะเบียน ครั้งที่ 12  สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558   โดยจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.2060 บาท   ในวันที่ 17 สิงหาคม 2558  และจ่ายคืนลดเงินทุนจดทะเบียน ในอัตรา 0.0062  บาท ในวันที่ 18  สิงหาคม 2558  คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 496 ล้านบาท

นอกจากนี้  บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 25( KTFFE25 ) เสนอขายในวันที่ 23 - 28 กรกฎาคม   2558     อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประกอบด้วย MTN ที่ออกโดย  Banco ABC  ( Brasil )  ,  MTN ที่ออกโดย   Banco  Santander  (Brasil )  S.A., MTN ทออกโดย  Tuekiye  IS Bankasi A.S  ,  เงินฝากประจำ   PT  Bank Rakyat Indonesia  (PERSERO ) Tbk , เงินฝากประจำ  Yapi ve Kredi Bankasi  A.S.   ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ผลตอบแทนประมาณ 2.00 % ต่อปี

พร้อมทั้ง อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2 )  อายุ 3 เดือน  เสนอขายถึงวันที่ 24  กรกฏาคม 2558  เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย  81% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารทิสโก้  จำกัด (มหาชน)  ผลตอบแทนประมาณ 1.15% ต่อปี

สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุ โดยมีแรงซื้อเข้ามาตลอดสัปดาห์จากความคาดหวังว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกรอบหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาแถลงว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะขยายตัวต่ำกว่าในครึ่งปีแรก นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจเข้ามาซื้อเพื่อหวังทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกรอบ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 10,637 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุตั้งแต่ 3 ปีลงมาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการปรับเพิ่ม Fed Fund Rate ในปีนี้ หลังประธานเฟด ได้แถลงต่อคณะกรรมการการเงินของสภาผู้แทนฯ ว่า  เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวตามคาด ในขณะที่พันธบัตรอายุมากกว่า 3 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงจากการที่นักลงทุนยังคงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถึงแม้วิกฤตหนี้กรีซจะคลี่คลายไปแล้วก็ตาม โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 bps. มาอยู่ที่ 0.68% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -1 bps. มาอยู่ที่ 1.67% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -8 bps.มาอยู่ที่ 2.34% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นท่าทีของเฟด เกี่ยวกับช่วงเวลาในการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดและต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้