FC on April 30, 2015, 03:28:26 PM


ผู้ประพันธ์: นันทนา วีระชน

บทโทรทัศน์: ปลายปากกา

ผู้กำกับ: ประทุม มิตรภักดี

ผู้ผลิต: สยม สังวริบุตร

นำแสดงโดย:

1.   ขวัญจิต  ศรีประจันต์                   แสดงเป็น  บัวผ่อง

2.   ชนะพล สัตยา                                    “         ปกรณ์พล

3.   อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์                     “          เพลงลำ

4.   นนทพันธ์ ใจกันทา                            “          เจิด

5.   ศรัณย่า ชุณหศาสตร์                         “          ทองน้ำงาม

6.   กฤษฎา สุภาพพร้อม                          “          ฝาจีบ

7.   กชกร  ส่งแสงเติม                             “          ฝาจุก

8.   ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์                 “         งามไฉไล

9.   มนตรี  เจนอักษร                               “          กำนันฝอย

10. มณีนุช เสมรสุต                                 “         โพยมยง

11. ศิรินทรา นิยากร                                “          บัวสาย

12. พลรัตน์ รอดรักษา                             “          อรรถ

13. รชยา  รักกสิกรณ์                              “          โฉมตรู

14. ทนงศักดิ์ ศุภการ                               “          ดัสกร

15. สมจิตร จงจอหอ                               “          บัวเผื่อน

16. รติพงษ์ ภู่มาลี                                   “           กุชงค์

17. พิมพ์ชนก เลี่ยนกัตวา                        “           ไข่กา

18. ปนัดดา โกมารทัต                            “           ดาหวัน

19. สิริยา  นฤนาท                                  “           เฉวียน

20. เสกสรรค์ รอดประเสริฐ                     “           แสบ

21. ลัทธชัย เวียนตระกูล                        “           แสน

22. กฤษณ์ลักษณ์ เป้าทอง                   “            เพลงลำ(ตอนเด็ก)
« Last Edit: May 29, 2015, 12:55:54 PM by FC »

FC on April 30, 2015, 03:29:12 PM
เพลงลำ  สาวสวยเข้มดุเป็นลูกสาวคนเดียวของ บัวสาย  แม่เพลงลำตัดคนดังของบ้านบางลำสุพรรณบุรี   ตั้งแต่จำความได้เพลงลำมีเพียงแม่บัวสายกับ น้าบัวเผื่อน ที่เลี้ยงดูเธอมา เธอไม่รู้จักพ่อ หรือที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร นอกจากแม่บัวสายซึ่งไม่ยอมพูดถึงสักครั้ง วันหนึ่งเมื่อเพลงลำยังเด็กบัวสายกลับจากเล่นลำตัด พบเด็กหญิงวัยแบเบาะคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่พุ่มไม้หน้าบ้าน  บัวสายสงสารจึงอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา เธอตั้งชื่อให้ว่า ไข่กา เด็กทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่และน้อง เพลงลำสวย มีสง่าเสียงดีเหมาะที่จะหัดเล่นลำตัด  แต่เธอไม่ยอม  ไม่ว่าบัวสายจะบังคับอย่างไรก็ตาม  เพลงลำกลับชอบที่จะหัดชกมวยไทยกับน้าบัวเผื่อนมากกว่าและทำได้ดีเสียด้วย  นอกจากนั้นยังเก่งเรื่องเครื่องยนต์รถ ไถนาและอุปกรณ์ต่างๆ  เพราะเป็นลูกมือให้น้ามาตั้งแต่เด็กๆ  ตรงข้ามกับไข่กาที่อยากจะเป็นลำตัดเหลือเกินทั้งที่ไม่สวยและเสียงไม่ดี  บัวสายมีคณะลำตัดที่มีชื่อเสียงมาก  ครอบครัวนี้และชาวบ้านใกล้เคียงทำนาด้วยวิธีดั้งเดิมไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้รถไถ ไม่ใช้รถเกี่ยวข้าว  ทำให้ กำนันฝอย กับลูกคือ ฝาจีบ และ ฝาจุก   ลูกชายและลูกสาวไม่ค่อยพอใจนัก  เพราะครอบครัวกำนัยฝอยทำกิจการค้าปุ๋ยเคมี  และมีรถเกี่ยวข้าวให้เช่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ของบางลำมีหนี้สินกับครอบครัวนี้มากจนถูกยึดนาไปหลายราย  เพราะเชื่อใจกำนันฝอยที่ทำเหมือนใจดีให้พวกเขาซื้อปุ๋ยในราคาเงินเชื่อ  ตกลงว่าขายข้าวได้แล้วจะเอามาคืน  จากแค่ซื้อปุ๋ยก็จะโดนบังคับให้เช่ารถเกี่ยวข้าวในราคาสูงลิบจนต้องหมดตัวไปตามๆกัน แต่ไม่ใช่ครอบครัวของบัวสาย   และชาวบ้านใกล้เคียงทำให้ ครอบครัวกำนันฝอยไม่พอใจนัก ที่จริงแล้วกำนันฝอยเคยหลงรักบัวสายตั้งแต่เริ่มเป็นสาวรุ่น แต่เมื่อบัวสายไปเล่นลำตัดที่กรุงเทพแล้วท้องกลับมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อทำให้กำนันฝอยอกหักกินเหล้าจนพ่อกับแม่ต้องจับให้แต่งงานกับแม่เพลงลำตัดสาวสวยคู่ปรับกับบัวสายจนมีลูกสองคน  กำนันฝอยเป็นม่ายเพราะเมียตายมาหลายปีแล้ว ทั้งฝาจีบและฝาจุกทำตัวเป็นนักเลงประจำหมู่บ้านมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นคู่ปรับกับเพลงลำ และไข่กาตลอดมา  แม้ฝาจุกจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากฝาจีบซึ่งเป็นพี่ชายสักนิดอาจจะร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ จะอย่างไรก็ตามครอบครัวกำนันฝอยทำอะไรครอบครัวบัวสายไม่ได้มากนัก  เพราะครอบครัวนี้เป็นที่รักของชาวบ้านมากกว่า ทั้งเรื่องของการฝึกลำตัดให้เด็กๆที่สนใจหรือจะฝึกมวยกับเพลงลำในหน้าแล้งเป็นการสอนให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ  เพลงลำเป็นคนฉลาด กล้า ไม่กลัวใครเมื่อโดนแกล้งจึงตอบโต้จนกำนันฝอยต้องเสียเงินมากมาย  ในคณะฯของบัวสายมี เจิด เป็นพ่อเพลงที่เก่งมากอยู่ด้วย  เจิดมาฝึกกับบัวสายตั้งแต่เด็กเขาเป็นกำลังสำคัญของคณะฯ  บัวสายเลี้ยงเจิด และคนอื่นๆเหมือนลูกหลาน   บ้านนี้มีกฎระเบียบและข้อห้ามหลายอย่าง  เพราะมีคนมาก แต่ก็อยู่กันมาได้ เจิดนั้นรักเพลงลำมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม  เขาอายุมากกว่าเพลงลำไม่กี่ปี  แต่สำหรับเธอแล้ว  เจิดเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น

ปกรณ์พล  นักศึกษาปริญญาโท  ตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์ เรื่องลำตัดเพลงพื้นบ้านของไทย  จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล   เมื่อลำตัดคณะแม่บัวสายมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเขาจึงต้องไปบางลำ ปกรณ์พลเป็นลูกชายคนเดียวของ อรรถ และ โฉมตรู พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้านการสื่อสารในระดับนานาชาติ ร่ำรวยมาก  แต่ปกรณ์พลไม่เคยสนใจกิจการของพ่อเขาเลย  ชายหนุ่มชอบดนตรี  และงานศิลปวัฒนธรรมทุกประเภทเขาเหมือนกับโฉมตรูมากกว่า  ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทชื่อ  กุชงค์ ซึ่งเข้ามาช่วย อรรถทำงานมากกว่าปกรณ์พลเสียอีก  เมื่อกุชงค์รู้ว่าเพื่อนจะต้องไปอยู่บางลำเขาก็อดห่วงไม่ได้  เขากังวลว่าปกรณ์พลจะหาข้อมูลได้ไม่ดีนัก เพราะ งามไฉไล  ไฮโซสาวสวยคงไม่ยอมง่ายๆ งามไฉไลเป็นลูกสาวคนเดียวของ โพยมยง  นักธุรกิจม่ายสาวที่รวยมาก  ครอบครัวนี้รวยจากการค้าเพชรและเล่นหุ้น ครอบครัวอรรถกับโฉมตรูสนิทสนมกับโพยมยงและสามีมานานจนกระทั่งสามีเธอตายจากไป ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะงามไฉไลที่ติดปกรณ์พลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันที่ตามใจเธอ  ชายหนุ่มเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว  แต่งามไฉไลไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น  เธอรักเขา  และพยายามประกาศตัวว่าเป็นคู่รักของเขาเสมอ  เธอไม่ยอมรับว่าเธอกับปกรณ์พลไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย  ขณะที่ชายหนุ่มชอบศิลปวัฒนธรรมไทย  ชอบมีชีวิตที่เรียบง่าย  งามไฉไลกลับชอบความหรูหรา  ฟุ่มเฟือย  วางอำนาจ อวดรวย  เธอจึงไม่ค่อยน่ารักอีกแล้วในสายตาของปกรณ์พล  ดังนั้นคนในบ้านจึงไม่แปลกใจนักเมื่อเขารีบออกไปบางลำแต่เช้าก่อนที่งามไฉไลจะมาขอตามไปด้วย  ปกรณ์พลขับรถไปเกือบถึงบ้านบัวสายแต่แล้วรถเสียกลางทาง  เขาโชคดีที่เพลงลำขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีเธอจึงพาเขาไปส่งที่อู่รถของ ช่างเอื้อง  เมื่อย้อนกลับมายังรถที่จอดอยู่  ปกรณ์พลหนักใจเมื่อรู้ว่าต้องรออะไหล่หลายวันเขาไม่กลับกรุงเทพฯ  แต่เลือกที่จะไปนอนค้างที่วัดตามที่ช่างเอื้องแนะนำมากกว่า  ค่ำแล้วเมื่อปกรณ์พลเดินเกือบถึงวัด  เขาเห็นเพลงลำถูกรุมทำร้าย  แม้จะเก่งเรื่องต่อสู้ป้องกันตัวแต่การที่เธอถูกรุมจากฝาจีบและลูกน้องก็ไม่ง่ายที่เธอจะจัดการพวกมันได้ ปกรณ์พลมาช่วยทันเวลาเขาใช้ไม้ท่อนใหญ่ตีจนพวกนั้นหนีกระเจิง เจ็บกันหลายคนโดยเฉพาะฝาจีบกับนายแสบคนสนิทที่ถูกฟาดหัวอย่างแรง  เพลงลำจึงพาเขาไปพักที่ค่ายมวยของน้าบัวเผื่อน เธอไม่กล้าปล่อยเขาไว้ตามลำพังเพราะรู้ดีว่าฝาจีบคงพาพวกมาล้างแค้นแน่นอน  เช้าวันต่อมาปกรณ์พลต้องตอบคำถามมากมายเรื่องการมาทำวิทยานิพนธ์ของเขา ชายหนุ่มแปลกใจที่บัวเผื่อนแนะนำให้เขาไปที่อื่นรวมทั้งเพลงลำกับไข่กาด้วย  แต่เมื่อเขายืนยันว่าเขาต้องการมาเป็นลูกศิษย์แม่บัวสายต้องการข้อมูลของที่นี่จริงๆเพลงลำจึงยอมพาไปพบบัวสาย  แต่เขากลับต้องวิ่งหนีออกจากบ้านแทบไม่ทันเมื่อ  บัวสายปล่อยหมาเฝ้าบ้านนับสิบตัวออกมาไล่เขา  แม้กระนั้นปกรณ์พลก็ไม่ยอมแพ้  เพลงลำนึกชอบที่เขา ใจสู้  เธอกับไข่กาจึงพาเขาไปหาเจิดให้ช่วยพูดกับบัวสายอีกครั้ง  เจิดเป็นลูกศิษย์คนโปรดของบัวสาย     เขามีวิธีพูดให้บัวสายใจอ่อนยอมรับปกรณ์พลให้อยู่เรียนรู้เรื่องลำตัดได้  แต่เขาต้องผ่านบททดสอบของเธอก่อน  ปกรณ์พลดีใจขณะที่เพลงลำกับไข่กากลุ้มใจแทนเพราะรู้ว่าบททดสอบของบัวสายนั้นคืออะไร

วันรุ่งขึ้น  ปกรณ์พลถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง  เขาต้องออกไปช่วยทำนาตามบททดสอบของบัวสาย  ครอบครัวนี้จะทำนาในหน้านา และจะรับงานลำตัดเมื่อหลังการเก็บเกี่ยว  เพลงลำคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มเต็มใจทำงานแม้จะเงอะงะบ้าง แต่ความตั้งใจจริงของเขาก็ทำให้เพลงลำพอใจ แต่ลึกลงไปในใจแล้วเพลงลำรู้สึกว่าเขามีบุญคุณที่มาช่วยเธอจากพวกฝาจีบได้ทันเวลา  มิฉะนั้นเธออาจพลาดถูกพวกมันฉุดไปแล้ว  พฤติกรรมที่เลวร้ายของฝาจีบอีกอย่างคือชอบฉุดสาวๆที่พอใจไปปล้ำแล้วยังถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์  ขู่ไม่ให้แจ้งความเสียอีก  เพลงลำจึงนึกขอบใจปกรณ์พลที่ช่วยเธอไว้ อะไรที่เธอพอจะช่วยเขาได้เธอก็อยากช่วย  ความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีความรู้สึกดีๆต่อกัน  ทว่าความที่ไม่เคยชินกับงานหนักกลางแดดจัดๆ  ปกรณ์พลหมดแรงเป็นลมไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง  เพลงลำ  เจิด และไข่กาต้องช่วยกันพาเขากลับไปพักกับบัวเผื่อนโดยไม่ให้บัวสายรู้  ชายหนุ่มไข้ขึ้นสูงทั้งคืนเพลงลำเป็นทุกข์เป็นร้อนห่วงใยเขามากจนไข่กาผิดสังเกต  เธอบอกไข่กาว่ากลัวปกรณ์พลจะมาตายที่นี่แล้จะเกิดเรื่องใหญ่ แต่ไข่กากับเจิดไม่ค่อยเชื่อนัก  อย่างไรก็ตามเพลงลำตัดสินใจค้นโทรศัพท์มือถือของเขามาเปิดเพื่อหาหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อทางบ้าน  ทันทีที่เปิดเครื่องเสียงเรียกก็ดังขึ้น  เพลงลำรับสายจึงต้องฟังงามไฉไลโวยวายต่อว่าอยู่หลายคำกว่าจะพูดกันรู้เรื่องว่าให้ไปรับปกรณ์พลที่โรงพยาบาลในอำเภอ
 
เมื่อถึงโรงพยาบาล ไข่กาแยกกลับบ้านกับเจิดก่อนที่บัวสายจะสงสัย  เพลงลำอยู่กับปกรณ์พลตลอดเวลาจนกระทั่งงามไฉไลกับโพยมยงซึ่งเป็นแม่มาถึงโรงพยาบาล  เธอประกาศตัวเป็นแฟนของ ปกรณ์พลอย่างชัดเจน เมื่อชายหนุ่มเพ้อถึงเพลงลำทำให้งามไฉไลนั่งไม่ติดเธอตามไปอาละวาดกับเพลงลำอีก  ประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเพลงลำเข้าใจผิด งามไฉไลพาปกรณ์พลกลับกรุงเทพฯ เธอพยายามอาสามาดูแลชายหนุ่มแต่เขาก็หลบเลี่ยงตลอดเวลา  ในช่วงเวลาเดียวกันที่บางลำ  กำนันฝอยจัดงานเปิดตัว ฝาจีบลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน  คนใหม่แทนคนเก่าที่แกบีบจนลาออกไปเอง  เพลงลำรู้ทันจึงเสนอ ชื่อเจิดลงสมัครแข่งขันด้วย  ฝาจีบจึงเปิดศึกตัดกำลังบ้านเสียงของเจิด เริ่มต้นด้วยการใช้รถเกี่ยวข้าวแอบไปขโมยเกี่ยวข้าวที่ออกรวงงามๆของนา นางสำอาง เพื่อนบ้านของบัวสายจนหมดเพียงชั่วข้ามคืน เพลงลำระแวงอยู่แล้วจึงชวน ไข่กา  เจิด และคนอื่นๆ ไปค้นเหล็กท่อนใหญ่ๆจากอู่ช่างเอื้องตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณต้นข้าว  เธอกับพวกนำท่อนเหล็กเหล่านั้นไปปักเป็นแนวตั้งแทรกปนไปกับต้นข้าวรอบแนวคันนาที่รถเกี่ยวจะลงได้  กลางดึกคืนนั้น  เพลงลำ เจิด ไข่กา ไปเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างมั่นใจว่าต้องได้ตัวคนร้ายแน่ๆ  ดึกมากแล้วเมื่อเสียงรถเกี่ยวข้าวดังขึ้นแต่ไกล ไม่นานนักก็เห็นเงารถเลื่อนลงนา  เสียงดังกระทบกันของโลหะ  และเสียงฝาจีบกับพวกโวยวายลั่น  เมื่อรถเกี่ยวเกี่ยวเหล็กท่อนเข้าไปจนพังหมด รถเกี่ยวพัง  ทำให้กำนันฝอยโกรธพวกเพลงลำมากขึ้นไปอีก  ส่วนปกรณ์พลเมื่อฟื้นไข้เขาก็หนีกลับไปบางลำอีก  คราวนี้ไม่ใช่เพื่องานวิจัยอย่างเดียว  แต่เพื่อหัวใจด้วยเขารักเพลงลำ  และรู้ดีว่าต้องพิสูจน์ตัวเองกับบัวสายมากเพียงใดแต่เขาก็พร้อมจะสู้  เพลงลำดีใจมากเมื่อพบปกรณ์พลอีกครั้ง  เธอไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป  เพลงลำเองก็รักเขามากเช่นกัน  ทว่าความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย  เริ่มจากงามไฉไลที่มาตามเขาไม่เลิกรา  แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ อรรถพ่อของปกรณ์พลเมื่อเขารู้ว่าลูกชายมาบางลำมาอยู่กับคณะลำตัดบัวสาย  อรรถก็อยู่ไม่ติดออกมาตามปกรณ์พลกลับไปด้วยตัวเอง 

ที่บ้านบัวสายเธอต้อนรับอรรถด้วยปืนลูกซองมาดเข้มดุ  ไม่ทำให้อรรถกลัวแต่แววตาที่หมางเมิน  เกลียดชังทำให้อรรถต้องยอมถอยกลับไป เพลงลำงงที่เห็นบัวสายโกรธแค้นอรรถมากขนาดนั้น  คนที่เข้าใจสถานการณ์ดีที่สุดคือบัวเผื่อน  เขาจำอรรถได้ว่าเคยไปเฝ้าดูบัวสายเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ เมื่อก่อนที่เธอจะท้องกลับมา  บัวเผื่อนนึกรู้ทันทีว่าอรรถเป็นพ่อของปกรณ์พล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บัวสายยื่นคำขาดห้ามเพลงลำติดต่อกับปกรณ์พลโดยไม่บอกเหตุผลที่เธอรู้แก่ใจว่าพี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร  เพลงลำเป็นลูกของอรรถเหมือนกับปกรณ์พล งามไฉไลตามรังควานเพลงลำกับบัวสายอย่างน่ารำคาญ   ลำพังเพลงลำเธอทนได้ แต่เธอทนให้ใครมาดูถูกแม่ไม่ได้  หญิงสาวจึงขอร้องให้ปกรณ์พลกลับไป  ทั้งเธอและเขาต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ  หน้าที่ของลูกที่ดี  ปกรณ์พลยอมกลับกรุงเทพฯ  และยอมหมั้นกับงามไฉไลตามความต้องการของอรรถ  เขากลับมาคราวนี้เหมือนคนที่ไม่มีหัวใจ โฉมตรูเห็นลูกแล้วสงสารจับใจ  เธอแปลกใจที่อรรถเคี่ยวเข็ญลูกชายอย่างไม่เคยทำมาก่อน  ส่วนเพลงลำยอมหัดลำตัดเพื่อประชันในงาน  สืบสานศิลปวัฒนธรรมงานใหญ่ของจังหวัดโดยมีฝาจีบเป็นคู่ประชัน กำนันฝอยยอมเสียเงินมากมายเพื่อให้ลูกชายชนะ แม้จะต้องโกงคะแนนก็ตาม คนที่เข้ามาเพิ่มความวุ่นวายคืองามไฉไลกับโพยมยงที่ตามมาช่วยสบทบเงินค่าจ้างหน้าม้ามาโห่ฮาเพลงลำ   

เช้าวันงาน บัวสายป่วยต้องผ่าตัดไส้ติ่งกระทันหัน  เพลงลำไม่มั่นใจในการขึ้นเวที  แต่เจิดช่วยเป็นกำลังใจให้  ส่วนปกรณ์พลแปลกใจเมื่องามไฉไลกุลีกุจอพาเขามาดูการประชันลำตัด เขาไม่รู้ว่าอรรถตามมาดูด้วย  เมื่อผลการประชันออกมาว่าเพลงลำชนะฝาจีบอย่างงดงาม เขาหายสงสัยทันทีเมื่องามไฉไลกับโพยมยงตามไปต่อว่ากำนันฝอยกับลูกที่ทำงานไม่สำเร็จ  เพลงลำกับคณะไม่แพ้และโดนฉีกหน้าให้อายอย่างที่ตกลงกันไว้  ตัวตนของว่าที่คู่หมั้นกับแม่ทำให้ปกรณ์พลกลุ้มใจมาก ส่วนอรรถตามมาเยี่ยมบัวสายที่โรงพยาบาล  เขาถามบัวสายว่าเพลงลำเป็นลูกของเขาใช่หรือไม่  แต่เธอไม่ตอบ บัวสายเมินหนีทั้งที่น้ำตากลบตา  แต่ไม่นานนักก็อดใจไม่ได้เธอเหน็บแนมต่อว่าเขาเรื่องศักดิ์ศรีผู้ดี  และความต่ำต้อยของการเป็นแม่เพลงลำตัดของเธอ  เพียงเท่านี้อรรถก็เข้าใจ  เขาได้แต่ขอโทษที่ปล่อยให้เธอต้องอุ้มท้องกลับบางลำ และเลี้ยงลูกคนเดียว  ทั้งสองคนไม่รู้ว่าเพลงลำกลับมาจากงานประชันแล้วและยืนอยู่ที่หน้าห้องนั้นเอง  เธอได้ยินทุกอย่าง  หญิงสาวรีบหลบไปก่อนที่อรรถจะออกมาพบเธอเข้า หญิงสาวเข้าไปพบบัวสายเมื่อเห็นว่าอรรถกลับไปแล้ว  เพลงลำตั้งใจว่าจะทำให้แม่มีความสุขที่สุดจึงไม่พูดถึงพ่ออรรถสักคำ เธอตั้งใจจะเป็นแม่เพลงลำตัดที่ดีให้ได้ 
   
ที่กรุงเทพโฉมตรูได้ต้อนรับ ดัสกร เพื่อนเก่าเมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์ ที่จริงดัสกรคือคนรักของเธอก่อนจะแต่งงานกับอรรถ  ดัสกรมาพบเธอเพื่อลาเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดคือเขาอยากพบลูกโฉมตรูปฏิเสธไม่ยอมให้พบปกรณ์พล  แต่ดัสกรก็พบกับปกรณ์พลจนได้ในวันหนึ่ง  แม่ ปริก คนรับใช้เก่าแก่ที่ตามโฉมตรูไปสวิสด้วยรู้ความจริงดีว่าปกรณ์พลเป็นลูกดัสกรกับโฉมตรู  เป็นความจริงที่เป็นความลับบอกใครไม่ได้

ก่อนงานหมั้นงามไฉไลกับโพยมยงไปพบกำนันฝอยที่บ้านเธอต้องการทำลายเพลงลำกับแม่ให้ถึงที่สุด หญิงสาวจ้างฝาจีบให้ไปเผาบ้านของบัวสาย  ฝาจีบนั้นเมื่อพบงามไฉไลเขาหลงรักเธอทันที  และตั้งใจจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้  บ้านบัวสายถูกเผาตามแผน ในช่วงเวลาเดียวกันงามไฉไลติดต่อจ้างคณะลำตัดบัวสายไปแสดงในงานหมั้นของเธอกับปกรณ์พล  เธอต้องการประจานเพลงลำกับแม่ให้ได้อายกลางงาน บัวสายไม่อยากให้เพลงลำรับงาน  แต่เพลงลำยอมรับงานนี้โดยบอกว่า “แม่สอนอยู่เสมอว่าเราต้องทำหน้าที่ของศิลปินพื้นบ้านให้ดีที่สุด สง่างามที่สุด เพื่อจะสืบสานมรดกชิ้นนี้ไว้ให้กับลูกหลานสืบไป” งานคราวนี้ก็เป็นงานแสดงครั้งหนึ่งเท่านั้น  หลังจากงานนี้เพลงลำบอกบัวสายว่าเธอจะแต่งงานกับเจิดเพื่อช่วยกันทำงานรักษาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านต่อไป บัวสายสงสารลูกสาวมากเพลงลำทำทุกอย่างเหมือนเป็นหน้าที่เท่านั้น  เพลงลำมีชีวิต มีวิญญาณ แต่ไม่มีจิตใจ งานครั้งนี้เพลงลำเรียกค่าจ้างหนึ่งล้านบาท โพยมยงกับ   งามไฉไลยอมตกลง ข่าวงานหมั้นของปกรณ์พลและงามไฉไลทำให้ฝาจีบ กับฝาจุกกลุ้มใจ ร้อนใจมากที่สุด  ฝาจีบรักงามไฉไล  ส่วนฝาจุกรักปกรณ์พล  สองพี่น้องวางแผนจับตัวทั้งสองคนกลางงานหมั้นเพื่อจัดงานแต่งงานของตนแทน  ที่วุ่นวายคือสองพี่น้องยุให้กำนันฝอยจับโพยมยง และรวบรัดเป็นเมียด้วยเสียอีกคน  ที่โรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ  งานหมั้นจัดอย่างหรูหรา งามไฉไลรอเวลาแสดงลำตัดอย่างตื่นเต้น  ส่วน  เพลงลำข่มใจให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งที่เธอเจ็บปวดเหลือเกิน บัวสายสงสารลูกสาวแต่ก็ดีใจที่เพลงลำเข้มแข็งเหมือนเธอ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน งามไฉไลฉวยโอกาสขึ้นเวทีขณะกำลังแสดง เธอประจานเพลงลำเสียๆหาย  แต่การที่เธอลามดูถูกไปถึงการเป็น  “คนลำตัด”  กลับทำให้เพลงลำกับบัวสายได้รับความเห็นใจจากแขกในงานมากขึ้น  ก่อนเหตุการณ์จะลุกลามต่อไป ฝาจีบกับพวกจัดการดับไฟความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นทันที  เพลงลำโดนปกรณ์พลฉุดลงจากเวทีให้ไปหลบใต้โต๊ะด้วยกัน  เจิดกับบัวเผื่อนช่วยบัวสายหลบไปหลังเวที  เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าไฟจะเปิดอีกครั้ง  โพยมยงตกใจแทบสิ้นสติเมื่อรู้ว่างามไฉไลหายไป  ส่วนฝาจีบอารามรีบร้อนเขาจึงทิ้งกำนันฝอย และฝาจุกอยู่ที่โรงแรมนั่นเอง  งามไฉไลตกใจมากเมื่อรู้ว่าฝาจีบจับตัวเธอมา  หญิงสาวพยายามต่อรองให้เขาปล่อยเธอไปโดยเสนอเงินจำนวนมากให้แต่ฝาจีบไม่สนใจเขาพูดชัดเจนว่าเขาต้องการตัวเธอเท่านั้น 

ดึกมากแล้วเมื่อกุชงค์กับปกรณ์พลพาเพลงลำกลับบ้านที่บางลำอย่างปลอดภัย ทั้งสองคนสงสัย  ฝาจีบว่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้  พวกเขาไปรับบัวเผื่อนให้ไปตามฝาจีบด้วยกัน  บัวเผื่อนนึกรู้ว่าฝาจีบต้องไปที่กระท่อมร้างกลางนาไม่ไกลนักแน่ๆ  ที่นาแห่งนี้กำนันฝอยยึดมาจากลูกหนี้คนหนึ่ง  เกือบเช้าแล้วเมื่อปกรณ์พลกับกุชงค์และน้าบัวเผื่อนตามไปช่วยงามไฉไล  ทั้งสามคนแปลกใจที่ไม่พบหญิงสาวที่นั่นมีเพียงฝาจีบกับพวกเท่านั้น   ทว่าระหว่างทางที่ย้อนกลับไป  ทั้งสามคนก็พบงามไฉไลนอนสิ้นสติอยู่บนคันนา   สภาพของเธอบอกได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น  ปกรณ์พลกับกุชงค์รีบพาเธอส่งโรงพยาบาลเขาบอกกุชงค์ว่า ที่เขาช่วยงามไฉไลก็เพราะเธอเป็นเหมือนน้องสาวของเขามากกว่า  งามไฉไลรักษาตัวอยู่หลายวันโดยไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น  เธออ้างว่าจำไม่ได้อย่างเดียว  ปกรณ์พลได้พบดัสกรบ่อยครั้งขึ้น  ความสนใจในเรื่องดนตรีเหมือนกันทำให้ทั้งสองคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบกัน   ดัสกรรู้ทันทีว่าปกรณ์พลคือลูกชายของเขาแน่ๆ  ดังนั้นเขาจึงนำกีตาร์ตัวโปรดไปฝากไว้ที่โฉมตรูโดยบอกว่าฝากให้ลูกชายของเขาด้วย   ดัสกรกำลังจะจากไป  แต่งามไฉไลกลับย้อนมาวุ่นวายกับปกรณ์พลอีกครั้ง

FC on May 14, 2015, 09:27:04 AM
“อ๊อฟ” ติดใจเพลงพื้นบ้าน ฟุ้งอยากลองขึ้นเวทีจริงสักครั้ง



           ต้องมารับบทเป็นหนุ่มเมืองกรุงที่หลงใหลการร้องเพลงลำตัดเป็นพิเศษในละครเพลงรักโรแมนติกคอเมดี “เพลงรักเพลงลำ” สำหรับพระเอกหน้าหวาน “อ๊อฟ-ชนะพล” ที่ถึงแม้งานนี้จะไม่ได้ร้องเพลงลำตัดแบบจริงจังแต่ดูท่าจะติดใจไม่น้อย “เรื่องนี้ผมรับบทเป็นปกรณ์พลครับ เป็นคนรวยพ่อมีธุรกิจแต่ไม่เคยสนใจกิจการของพ่อเลย เป็นคนชอบดนตรี งานศิลปวัฒนธรรมทุกประเภท และกำลังศึกษาปริญญาโททำวิทยานิพนธ์ เรื่องลำตัดเพลงพื้นบ้านของไทย จึงทำให้ต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลที่ของคณะแม่บัวสาย (แม่ขวัญจิต) สำหรับผมเองเคยเล่นละครเพลงคู่กับทับทิมมาแล้วในเรื่อง “โทน” แต่ก็ค่อนข้างแตกต่างกับเรื่องนี้ครับ เพราะเรื่องนี้จะเป็นเพลงพื้นบ้านทั้งเรื่อง วิธีการร้อง การรำ ก็จะต่างกันออกไปครับ ผมเองในเรื่องจะไม่ได้ร้องเพลงเยอะเท่าทับทิม แต่เท่าที่สัมผัสผมรู้สึกว่าเพลงพื้นบ้านของไทยมีเสน่ห์มากครับ มีการต่อกลอนกันไปมาสนุกดีครับ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากลองขึ้นเวทีแสดงจริงๆ สักครั้ง เพราะนี่ขนาดในละครยังสนุกกันขนาดนี้ ผมว่าบนเวทีจริงๆ น่าจะสนุกมากแน่ๆ ยังไงผมก็ฝากติดตามละครเรื่องนี้กันด้วยนะครับ และสำหรับใครที่อยากลองร้องเพลงพื้นบ้าน ผมมีกิจกรรม “คนรุ่นใหม่...หัวใจเพลงลำ” มาให้ร่วมสนุกกันครับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแฟนเพจ BBTV Channel 7 ได้เลย” ติดตามชม “เพลงรักเพลงลำ” ได้ทุกวัน ศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

« Last Edit: May 29, 2015, 12:56:38 PM by FC »

FC on May 19, 2015, 03:39:16 PM
“ทับทิม” ปลื้มได้สืบสานวัฒนธรรมไทย


 
          เคยรับบทเป็นนักร้องมาแล้วสำหรับนางเอกหน้าหวาน “ทับทิม-อัญรินทร์” ที่ล่าสุดกับบทบาทใหม่ที่ต้องมาร้องเพลงลำตัดในละคร “เพลงรักเพลงลำ” งานนี้สาวทับทิมทุ่มสุดตัว ฝึกร้องเพลงพื้นบ้านเพื่อนแฟนๆ โดยเฉพาะ “เรื่องนี้ทับทิมรับบทเป็นเพลงลำค่ะ เติบโตขึ้นมาในคณะลำตัด แต่ชอบการต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจ เรื่องนี้ได้เล่นกับแม่ขวัญจิตด้วย รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะที่ได้ร่วมงาน แม่จะคอยสอนวิธีการร้อง การเอื้อน ให้นักแสดงทุกคน ซึ่งเรื่องนี้ทัมทิมเองค่อนข้างทำการบ้านหนักพอสมควรเพราะเคยร้องแต่เพลงทั่วไปนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องมาร้องเพลงพื้นบ้านแถมในเรื่องต้องเป็นคนที่ร้องเก่งด้วย เลยยิ่งต้องฝึกฝนให้มากขึ้นค่ะ และที่สำคัญเรื่องนี้เป็นละครที่ส่งเสริมการอนุรักษ์เพลงพื้นบ้าน ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมไทยค่ะ ทับทิมว่าเพลงพื้นบ้านเป็นเพลงที่เพราะทั้งจังหวะ ทำนอง เนื้อหาบทกลอนที่มีความคล้องจองกัน เชื่อว่าละครเรื่องนี้จะทำให้แฟนๆ หลงรักเพลงพื้นบ้านของเรามากขึ้นค่ะ”
 
          ติดตามชม “เพลงรักเพลงลำ” ได้ทุกวัน ศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

FC on May 27, 2015, 09:08:52 AM
“อ๊อฟ-ทับทิม” นำทีมนักแสดง โชว์ร้องเพลงพื้นบ้านสุดฟิน! ในกิจกรรม “คนรุ่นใหม่..หัวใจเพลงลำ”








 
          เนื้อเรื่องเข้มข้นเข้ามาทุกทีสำหรับละครเรื่อง “เพลงรักเพลงลำ” ที่ทำเอาแฟนๆ ลุ้นกันตัวโก่งกับความรักระหว่างปกรณ์พลกับเพลงลำว่าจะลงเอยอย่างไร แต่ก่อนที่จะไปฟินกันต่อในจอ ช่อง 7 สี ขอเอาใจแฟนละคร จัดให้ฟินกันสดๆ กันแบบถึงใจถึงอารมณ์ ณ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ด้วยกิจกรรม “คนรุ่นใหม่..หัวใจเพลงลำ” ให้แฟน ๆ ได้กระทบไหล่พระนางอย่าง “อ๊อฟ-ชนะพล” “ทับทิม-อัญรินทร์” นอกจากนี้ยังได้พบกับ “ไม้-นนทพันธ์” “บิ๊ก-กฤษฎา” “เกี่ยวก้อย-ขวัญกวินทร์” “กุ๊กกิ๊ก-กชกร” พร้อมด้วมคณะลำตัด “แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์” ที่มามอบความสนุกให้กับแฟนๆ กันแบบจัดเต็ม โดยกิจกรรมในวันนี้เราได้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากการส่งคลิปร้องเพลงพื้นบ้าน จำนวน 3 คน มาร่วมสร้างความสนุก โชว์การประชันเพลงพื้นบ้านกันแบบสดๆ ทำให้บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากนักแสดง เรียกได้ว่างานนี้แฟนละครฟินกันไปตามๆ กัน ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมสาวทับทิม เผยว่า

          “ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ละครทุกคนที่ส่งคลิปเข้ามาร่วมสนุกกับกิจกรรมของเรานะคะ ขอบคุณสำหรับการตอบรับละครที่ดีขนาดนี้ด้วย ทับทิมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมของไทย ทับทิมว่าเพลงพื้นบ้านของเรามีเสน่ห์และมีความไพเราะมาก อยากให้เยาวชนไทยร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ไม่ให้เพลงเหล่านี้หายไปจากวัฒนธรรมของเรานะคะ”

          ด้านหนุ่มอ๊อฟ เสริมว่า “กิจกรรมวันนี้สนุกมากครับ น้องๆ ทุกคนมีความสามารถมาก ขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับที่ร่วมสนุกกันเข้ามา ขอบคุณแฟนๆ ละครทุกคนที่มารอเจอพวกเรากันตั้งแต่เช้าด้วยนะครับ ยังไงผมก็ขอฝากละครเพลงรักเพลงลำด้วยครับ”