SENA ผนึกกำลัง บี.กริม เพาเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ เปิดฉากลุยโครงการ Solar Farm ร่วมกัน
บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทยผนึกบริษัท "บี.กริม เพาเวอร์" ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ร่วมลงทุนธุรกิจ "โซลาร์ ฟาร์ม" ด้านผู้บริหาร "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" มั่นใจช่วยต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดเตรียมจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในสิ้นปี"58 พร้อมเตรียมต่อยอดในธุรกิจ Solar Rooftopในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)กล่าวในงานลงนามในสัญญาความร่วมมือธุรกิจกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ว่า "จากความเป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี โดยมี Core Value มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Centric) ประกอบกับแนวคิดการบริการหลังการขาย 360 องศา ที่จะดูแลลูกค้าหลังการขายตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้บ้าน ทำให้บริษัทฯ มองเห็นความสำคัญในการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ซึ่งการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน เจ้าของบ้านสามารถนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้เองในบ้าน หรือขายให้กับภาครัฐ เพื่อสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอได้"
หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ทำให้บริษัทฯ เริ่มตระหนักถึงความอันตรายจากที่ภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ จึงเริ่มมีการศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานอย่าง บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จนตกลงที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจ Solar Farm เป็นการเริ่มต้นการทำธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Economy of Scale นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้บ้านในโครงการของเสนา ด้วย Solar Rooftop
"การร่วมทุนกับ บี.กริม เพาเวอร์ ถือเป็นมิติใหม่ในการลงทุนของ SENA หลังจากบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาแนวทางในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจ และ บี.กริม เพาเวอร์ ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชั้นนำของโลก ทำให้เราตัดสินใจร่วมลงทุนธุรกิจ Solar Farm โปรเจคแรกนี้ร่วมกับทาง บี.กริม เพาเวอร์ และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากต่างมีจุดแข็ง โดยSENA ถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯชั้นนำของเมืองไทย มีที่ดินพร้อมสำหรับรองรับการก่อสร้าง หรือขยายการลงทุน ขณะที่ บี.กริมเพาเวอร์ ก็มีความชำนาญด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เมื่อผนวกกันแล้ว จะยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และแข็งแกร่งในอนาคต" ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
"เป้าหมายหลักในการลงทุนธุรกิจ Solar Farm จริง ๆ แล้วก็เพื่อต่อยอดไปยัง Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา การทำ Solar Farm จะทำให้ประหยัดต้นทุน ได้ราคาแผงโซล่าร์ที่ถูกลง อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดธุรกิจ Recurring Income ของบริษัทฯ สร้างผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน รัฐจะรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด กำหนดให้ราคาเป็นแบบ Feed In Tariff ที่ 5.66 บาทต่อหน่วย (KW/H) เป็นระยะเวลา 25 ปี ทำให้เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับลูกบ้าน และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท"ผศ.ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “การร่วมมือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ด้วยเหตุที่ บี.กริม เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้าและไอน้ำอยู่แล้วทั้งหมด 10 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ และยังมีโรงไฟฟ้าที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอีก 8 โรง กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,200 เมกะวัตต์ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความพร้อมในทุกด้าน บี.กริม เพาเวอร์ จึงขยายธุรกิจมาทางด้านพลังงานทดแทน เช่น แสงแดด และ ลม รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว และพม่า ในธุรกิจพลังงาน ทั้งที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และ น้ำ โดยวางเป้าหมายไว้ว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้าจะมีกำลังการผลิตถึง 5,000 เมกะวัตต์
ในการพิจารณาการลงทุนของ กลุ่ม บี.กริม จะเน้นการเป็นพันธมิตรยาวนานกับบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือและมีชื่อเสียงที่ดี กลุ่มเสนา ก็เป็นผู้ร่วมลงทุนที่เราภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันและเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า เราจะร่วมมือกันก่อสร้างและบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด”