จัดจำหน่ายโดย HANDMADE DISTRIBUTION
ชื่อภาพยนตร์ Monster Dark Continent สงครามฝูงเขมือบโลก
ภาพยนตร์แนว มอนสเตอร์-ไซไฟ
จากประเทศ ประเทศอังกฤษ
กำหนดฉาย 18 มิถุนายน 2558
ผู้กำกับ Tom Green (ทอม กรีน)นักแสดงนำ
JOE DEMPSIE (โจ เดมป์ซี) รับบท FRANKIE (แฟรงค์กี้)
ผลงานที่ผ่านมา New World (TV Series) / Southcliffe (TV Series) / GAME OF THRONES (TV Series)
JOHNNY HARRIS (จอห์นนี่ แฮร์ริส) รับบท NOAH FRATER (โนอาห์ เฟรเธอร์)
ผลงานที่ผ่านมา Welcome to the Punch , Snow White and the Huntsman , War Horse
SOFIA BOUTELLA (โซเฟีย โบเทลล่า) รับบท ARA (เอรา)
ผลงานที่ผ่านมา Street Dance2 , Permis d’aimer (TV Series) , Les Cordier , Juge et flic (TV Series)
SAM KEELEY (แซม คีลีย์) รับบท MICHAEL (ไมเคิล)
ผลงานที่ผ่านมา This Must Be the Place , What Richard Did , Raw (TV Series)
NICHOLAS PINNOCK (นิโคลัส พินน็อค) รับบท FORREST (ฟอร์เรสต์)
ผลงานที่ผ่านมา Captain America : The First Avenger , Little Foxes , Doctor (TV Series)
PARKER SAWYERS (ปาร์คเกอร์ ซอว์เยอร์) รับบท SHAUN WILLIAMS (ฌอนน์ วิลเลี่ยม)
ผลงานที่ผ่านมา Jack Ryan : Shadow Recruit , Hyde Park on Hudson , The Assets (TV Mini-Series)ห้ามขัดคำสั่ง!!! ห้ามตั้งคำถาม!!!!
ถ้ายังไม่อยาก “ตาย”
หน้าที่เดียวคือ…
“ทำภารกิจให้สำเร็จ”
แฮนด์เมด ดิสทริบิวชั่นเตรียมความระทึกของ
ภาพยนตร์มอนส์เตอร์-ไซไฟ
"สงครามฝูงเขมือบโลก"
Monsters Dark Continent
จากผลงานการกำกับของ ทอม กรีน
อำนวยการสร้างโดย กาเร็ตต์ เอ็ดเวิร์ดส ผู้กำกับ GODZILLA
เรื่องย่อ MONSTERS DARK CONTINENT…สงครามฝูงเขมือบโลก
Monsters : Dark Continent ภาพยนตร์ภาคต่อของ Monsters ที่นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของโนอาห์ นายทหารอเมริกัน ที่ถูกส่งไปตะวันออกกลางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ จากการคุกคามของเหล่าสัตว์ประหลาด เขามีภารกิจสำคัญที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือทหารนายหนึ่งออกจากเขตแดนของเหล่าสัตว์ประหลาดร้ายให้ได้ ระหว่างการต่อสู้อย่างดุเดือด ยานพาหนะประจำหน่วยถูกโจมตีจนไม่เหลือซาก แต่พวกเขากลับได้รับความช่วยเหลือจากเด็กสาวท้องถิ่นที่อาสาเป็นผู้นำทางพาพวกเขาออกไปจากพื้นที่อันตราย ในที่สุดทั้งสามคนจะสามารถหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนค้นพบความจริงก็คือ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดบนโลกมนุษย์อาจจะไม่ใช่พวกเอเลี่ยนอีกต่อไป… Monsters : Dark Continent ผลงานการกำกับของ “ทอม กรีน” นำแสดงโดย โจเซฟ เดมป์ , จอห์นนี่ แฮร์ริส , โซเฟีย โบเทล่า , แซม คีลีย์ , นิโคลัส พินน็อค , ปาร์คเกอร์ ซอว์เยอร์ และ ไคย์ล โซลเลอร์ 18 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ MONSTERS DARK CONTINENT
ค่าย Vertigo Films สนใจทำหนังภาคต่อของ Monstersที่เข้าฉายในปี 2010 อลัน นิปโบล ผู้ก่อตั้ง Vertigo และ เจมส์ ริชาร์ดสัน ต่างมองเห็นถึงศักยภาพภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาอธิบายว่า “…เราไม่เคยทำตามกระแส เรารักที่จะทำบางอย่างในแบบที่มันควรจะเป็น นั่นคือสิ่งที่เราจะทำเป็นอย่างแรกเมื่องบประมาณจำกัด แนวคิดดีๆ ทีมงานกระชับๆ มีสถานที่ถ่ายทำ ตัดต่อด้วยระบบดีๆ และมีผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ นั่นมันทำให้มีอิสระในการทำงานและส่งผลดีต่อ ภาพยนตร์เป็นอย่างมาก…” “…ภาคต่อเรื่องนี้ ยังคงสร้างอยู่ในเงื่อนไขเดิม พรสวรรค์ที่เป็นที่ยอมรับ ผู้กำกับ นักแสดง ทีมงาน ที่ยอดเยี่ยม ภาคต่อนี้จะดีมากขึ้นถ้าเรา ได้คนที่ทำหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกมาและคอยเสริมสิ่งต่างๆ ให้กับพวก เขา มันเป็นการผสมที่ถูกต้องทำให้การสร้างเรื่องนี้จะเป็นแนวทางเดียวกับภาคแรก…” นิปโบล กล่าวเสริม บทภาพยนตร์ ตั้งแต่ภาคแรกที่นำเสนอภาพของสัตว์ประหลาดที่ เหมือนเป็นปลาหมึกยักษ์บุกโลก(10 ปีมาแล้วนับจากภาคแรก) พวกมันมีการพัฒนาและปรับตัวและฆ่ายากขึ้น เซป บาร์เกอร์ กล่าว “…สัตว์ประหลาดพวกนั้นมันมีวิวัฒนาการอีกขั้น ทีมงานพยายามหาสิ่งอ้างอิงจากหินและสีของดินที่จอร์แดนเพื่อสร้างวิวัฒนาการของสัตว์ประหลาดเพื่อให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลก ผิวของมันจะหนาขึ้นเพราะพวกมันอยู่ท่ามกลางทะเลทรายเป็นเวลานาน มันเหมือนเอาแมงกระพรุนมาตากแห้งก็จะได้ผิวที่เหมาะกับการอยู่ในทะเลทราย…” บาร์เกอร์ อธิบายถึงวิวัฒนการของเหล่าสัตว์ประหลาดว่า “…เราพบว่าถ้าพวกมันมีพัฒนาการที่รวดเร็ว ทำไมถึงไม่พัฒนาเป็นอย่างอื่น? เราอาจจะได้ภาพของม้าตัวใหญ่ ที่มีหกขาเคลื่อนที่ได้เร็ว และนี่คือตัวอ่อนจากตัวเล็กๆเหมือนลูกหมา จนตัวใหญ่โตเหมือนยักษ์ และมันมีปรสิตคอยเกาะอยู่ที่หลัง ผมไม่คิดว่าผมจะเคยเห็นอะไรแบบนี้ หลังจากได้ภาพที่ดีทรอยด์และจอร์แดนมาแล้ว ทางการตัดต่อ ริชาร์ด เกร์แฮม และทีมของบาร์เกอร์ ใช้เวลาหนึ่งปีในการตัดต่อมีการทำภาพกราฟฟิคใส่ระบบ VFX ที่เบอร์ลิน ซึ่งมันค่อนข้างหนักในการตัดต่อ ทั้ง กรีน และ Grahamใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม เป็นภาพของมหากาพย์ที่ สวยงาม…” นิปโบล กล่าว “…ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะครองใจแฟน ภาพยนตร์ไซไฟและแฟนภาพยนตร์จากภาคแรก ภาพยนตร์มันดูง่ายขึ้น และยังนำเสนอแนวทางใหม่ๆในการ ถ่ายทำ ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่อง MONSTERS DARK CONTINENT จะมีคนติดตาม ทอม เป็นหนึ่ง ในคนทำหนังที่ยากจะลืม ผมภูมิใจในภาพยนตร์ที่ออกมาเรื่องนี้มาก…” กรีน ยอมรับว่านี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีการทำภาพยนตร์ การทำภาพยนตร์ให้ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส “ ผมหวัว่าเขาจะภูมิใจในผลงานที่สร้างสรรค์ กรีน กล่าวว่า “…แม้ว่า แกเร็ธ จะไม่ได้รับการสนับสนุนใน เรื่องของต้นทุนการผลิต แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ และทำมันออกมาจนสำเร็จ เขารักทุกฉากในภาพยนตร์ เขา บอกกับผมเขาภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทุกๆฉากของภาพยนตร์..”Tom Green ผู้กำกับภาพยนตร์ MONSTERS DARK CONTINENT
ทอม กรีน มีผลงานการกำกับและสร้างซีรี่ย์ที่โด่งดังทางช่อง 4 คือ Misfits (ได้รับรางวัล BAFTA ในสาขาซีรีย์ยอดเยี่ยม) แต่ นิปโบล และ ริชาร์ดสันกลับสนใจในผลงานตอนที่สร้างขึ้นเพื่อจบการศึกษามากกว่า อย่างเรื่อง Kid และผลงานที่เขาถ่ายทำขึ้นตอนที่เขาเรียนอยู่ปี 2 เรื่อง Brixton’ 79 นิปโบล กล่าวว่า “…ผลงานทั้งสองเรื่องมันน่าประทับใจเอามากๆ แม้จะอยู่ในกองขยะ เขาก็ยังสร้างสิ่งที่พิเศษ ได้อยู่เสมอ เขามีความสามารถที่จะพาภาพยนตร์ไปในแนวทางที่เราต้องการและถูกต้อง…” ทอม กรีน เปิดใจว่า “… ผมชอบภาพยนตร์เรื่อง Monsters และชอบการนำเสนอด้วย สำหรับผมมันเหมือนเป็นนวัตกรรมชิ้นเอกของคนทำหนังในรอบหลายปีที่ผ่านมา มันมีน้อยมากที่จะทำภาพให้ออกมาเป็นแบบนั้นแต่เพราะบางคนมีความสร้างสรรค์ทางความคิดและสามารถขยายโลกและสร้างโลกออกมาจากจินตนาการให้จับต้องได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงยึดติดกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกเหมือน กับว่าผมกำลังทำงานของตัวเอง ผมเลยสนใจที่จะไปและพูดคุยกับพวกเขา และพอพวกเขาบอกว่า พวกเขา ต้องการสร้างหนังที่มีอิสระและสนับสนุนคนทำหนังให้ถ่ายทำตามแบบที่พวกเขาต้องการ…” Vertigo เล่าไอเดียคร่าวๆ ให้ กรีน ฟัง แล้วเขาค่อยไปทำงานเรื่องบทร่วมกับบาซู “…ผมไม่ค่อยโฟกัสมากในเรื่องของการหยิบส่วนใดส่วนหนึ่งมาเล่า เรื่องในภาพยนตร์ ผมแค่เห็นว่ามันเป็นจุดกระโดดออกมา พวกสัตว์ประหลาดในโลก และมันจะทำอะไรกับโลกเราได้บ้าง? ผมต้องการสร้างสัตว์ประหลาดที่ครองโลก ” กรีน เสริมว่า “…ผมอยากจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามอยู่เสมอ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ทำเป็นเรื่องแรก แต่มันมีความรู้สึกเหมือนผมสร้างเรื่องได้เลย และผมสนใจที่จะให้สัตว์ประหลาดมาเป็นสัญลักษณ์ในการพูดถึงสงคราม และข้อจำกัดของมนุษย์…” กรีน ชอบแนวทางของ เอ็ดเวิร์ดส ที่สร้างสัตว์ประหลาดและการอุปมาให้กับตัวละคร เขาและ บาซู โฟกัสกับตัวละครหลักสองตัวในกลุ่มทหารสหรัฐจาก “หน่วยจัดการสัตว์ประหลาด” ที่ต้องทำงานในพื้นที่ของโซนติดเชื้อ ในสถานที่กักกันสัตว์ประหลาด อยู่ด้านหลังชายแดน ชายหนุ่มอายุน้อยที่ไม่เหลือความเชื่อ และ ชายอีกคนที่ไม่เหลือความเมตตา ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องให้พวกเขาค่อยๆ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ต้องอดทนกล้ำกลืนฝืนใจอย่างมากเกี่ยวกับตัวละครในภาพยนตร์ MONSTERS DARK CONTINENT
หนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่คอยสร้างปัญหา คือ โนอาห์ เฟร์เทอร์ นายทหารที่สูญเสียความเป็นมนุษย์ที่เห็นใจ สัตว์ ประหลาดและสร้างความเสียหายให้กับประเทศ เพราะเขาพยามจัดการกับโซนติดเชื้อ ในขณะเดียวกัน ก็มี เหตุการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่โหดร้ายกลุ่มคนไม่พอใจกับกลุ่มทหารอเมริกัน มันไม่ใช่บทที่เล่น หลังจากพบกับ กรีน เพื่อดื่มกาแฟและพูดคุยในเรื่องบท แฮริส กระตือรือล้นมาก เขาอยากทดสอบความสามารถของเขา แฮริส กล่าวว่า “..มันตัดสินใจง่ายมาก เพราะหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย และ มันมีบางอย่างที่คุณต้องกลัว และนั่นก็เป็นความท้าทาย ผมว่านะในส่วนของ ทหารชาวอเมริกันผมว่าไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ความน่ากลัวอยู่ตรงบทของเขาที่ค่อนข้างป่าเถื่อนพอตัวเลยครับ…” ตัวละครหลักตัวอื่นทหารหนุ่มชื่อ ไมเคิล พาร์คเกอร์ เด็กจากถนนเมนจากดีทรอย เขาลงสมัครมาสังกัด ในหน่วย ทุกอย่างถูกสื่อสารผ่านออกมาจากสายตาของเขา เราจะรับรู้เรื่องราวผ่านสายตาเขา ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง ที่แวดล้อมอยู่ สัตว์ประหลาดที่ยิ่งใหญ่ ความน่ากลัวและความพิสดาร กรีน เลือกนักแสดงหนุ่มชาวไอริช แซม คีย์เลย์ นักแสดงที่เคยร่วมงานกับเขาใน Misfits คีย์เลย์ พูดถึงบท ไมเคิล ที่เขาได้รับให้ฟังว่า “…เขาไปยังตะวันออกกลางปลายทางของทหารที่จะทำให้ประเทศภูมิใจ และความจริงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก็ตบหน้าเขาอย่างแรง…” กรีน ต้องการให้นักแสดงของเขาเข้าถึงโลกในภาพยนตร์ หนึ่งในนั้นคือ ชายหนุ่มวัย 23 ชื่อ เจสซีย์ เนกี้เขา แสดงเป็น คอนเวย์ ทหารจากดีทรอยด์ที่เคยออกรบที่อีรักมา 2 ครั้ง “…มันเหมือนเล่นๆ แต่เขาเนี่ยของจริง…” ในการถ่ายทำมีทหารมาทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางทหารเมื่อเราทำการคัดเลือกตัวแสดง มีการพาไปฟิตร่างกาย และฝึกเพื่อที่จะให้พวกเขาดูสมจริงเวลาอยู่ในกล้อง จอห์นนี่ แฮริส ต้องฝึกหนักเพื่อให้ร่างกายฟิตเหมือนทหาร “…ผมมีพุงและไม่มีกล้ามท้อง กล้ามแขน ตอนผมไปคัดเลือกตัวแสดงเป็นทหาร ผมเลยต้องกลับไปทำการบ้านเยอะ มันเหมือนเป็นระบบให้เดินผมว่ามันน่าจะซัก 6 สัปดาห์ที่ผมต้องเตรียมตัว ผมไปฟิตหุ่นกับนักแทรนเนอร์ จิอาโคโม ฟาร์ซี ที่ฟิตหุ่นให้กับ มาร์ค สตรอง เพื่อเล่นเรื่อง Welcome To The Punch นักแสดง ทุกคนเดินทางไปจอร์แดน และสัปดาห์ต้นๆ เราก็ได้พบกับเขาและก็เริ่มฝึก…” ฟาร์ซีย์ ยังทำงานร่วมกับ แซมคีย์เลย์ “…เขาทำให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นั่นมันก็ถูกต้องแล้วเพราะเราต้องการเหมือนเป็นทหารจริงๆ รู้สึกแบบทหารจริงๆ และเมื่อใส่เกียร์แล้วมันก็ ต้องเดินหน้า คุณจะต้องใส่เกราะที่อกใส่บูทนั่นมันทำให้ดูสมจริง คุณว่าไหมแต่มันก็เหนื่อยหน่อยเพราะ อากาศที่ร้อนในชุดแบบนั้น…” ความชื้นจะเหลือน้อยมากเวลาถ่ายทำ อากาศร้อนถึงสามสิบองศา แต่ก็ไม่มี อันตรายใดๆเกิดขึ้น ทุกคนต้องดื่มน้ำค่อนข้างมากระหว่างถ่ายทำเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ MONSTERS DARK CONTINENT
การเลือกสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งจะต้องมองในเรื่องของขนาดของพื้นที่เป็นหลักเพราะ จะต้องใส่ความร้อนและฝุ่นลงไปเพื่อให้ได้บรรยากาศของตะวันออกกลาง พิวช์ อธิบายว่า “…เราพิจารณาสถานที่ถ่ายทำที่ดีที่สุด เรารู้ว่าเราต้องการภูมิทัศน์แบบไหน และตัว ทอม เองก็ต้องการให้ออกมาเหมือนกับตะวันออกกลาง เพราะเป็นสถานที่ที่ยังมีสงครามให้เห็นอยู่ ซึ่งนั่นมันสำคัญ มาก เราถ่ายทำที่ ดีทรอยด์ มิชิแกนเป็นเวลา 4 วัน และถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง MONSTERS DARK CONTINENT กว่า 28 วันที่จอร์แดนช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2013 จอร์แดนดูเหมาะมาก เพราะด้วยสภาพของทุ่งหญ้าแห้งๆ ทางตอนเหนือของ เมืองอัมมาน์ และไล่มาเรื่อยๆจนถึงทางตอนใต้แถวๆ วาดี้ สภาพพื้นที่ทำให้ภาพที่ออกมาดูเหมือน ภาพยนตร์ อมตะเรื่อง Lawrence Of Arabia ของ เดวิด ลีน ในปี 1962 …” ทอม กรีน เล่าว่า “…ตอนเราไปสำรวจพื้นที่ที่จอร์แดน ผมชอบลักษณะของเมือง อัมมาน และเมื่อเราสำรวจ จนถึงพื้นที่ทางทหาร ผมก็รู้เลยว่าเราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เราต้องการใด้ และก็ใช้ VFX ช่วย แล้วเมื่อเราลงมาจนถึงเมือง ควาบา และ วาดี รัมม์ มันเหมาะที่จะสร้างเมือง คุณสามารถจินตนาการ ได้เลยว่าที่นี่น่าจะมีไดโนเสาร์ หรือ คุณอาจจะรู้สึกได้ว่าบริเวณนี้อาจจะมีเอเลี่ยนอยู่ เพราะสภาพพื้นที่มันใช่ และผมก็คิดว่า การเดินทางที่เหลือเชื่อนี้จะพาตัวละคร คือ แซม เด็กหนุ่มจาก ดีทรอยด์ไปยังพื้นที่สงคราม… จะต้องมีเสียงอึกกระทึกในภาพยนตร์ ก่อนที่ความเงียบจะพาเขาเข้าไปยังพื้นที่ ที่อันตรายมากขึ้น ผมคิดว่ามันเหลือเชื่อ มันน่าสนใจมาก จะได้สัมผัสการเดินทางผ่านตัวละคร ซึ่งจะส่งต่อ ไปยังคนดูได้ดี…” ประเทศจอร์แดนจึงกลายเป็นสถานที่เหมาะที่สร้างค่ายทหาร เพราะมีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องตกแต่งสถานที่ด้วย อุปกรณ์ให้ดูเหมือนกองทหารสหรัฐ เนื้อเรื่องของ กรีน และ บาซู จะถูกตีกรอบด้วยงบประมาณที่จำกัด แต่การถ่ายทำต้องใช้รถฮัมวี่ขนาดใหญ่ ในสถานการณ์อันตรายเพื่อให้ได้ภาพที่สมจริง ต้องใช้เฮลิปคอปเตอร์ แบบแบล็คฮอคว์ของจริงเพื่อเอามาเข้าฉากเป็นเวลาสองชั่วโมงทำให้แต่ละวันตารางจะแน่นมากและไม่สามารถ หลุดคิวอะไรได้ การถ่ายทำจึงเหมือนเป็นการผจญภัยสำหรับ กรีน , พิวช์ และทีมงานเล็กๆของพวกเขา การขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ ไปยังแคมป์ของชาวปาเลสไสตน์ ผ่านหินสีแดง ไปค่ายทหารของจริง ไปหมู่บ้าน ชาวเบดูอิน สิ่งสำคัญคือความสมจริง ต้องให้ความรู้สึกว่าเป็นของแท้ เพราะภาพยนตร์สามารถสร้างหอไอเฟลได้สูงเทียม ขอบฟ้า แต่มันไม่จริงคนดูรู้ กรีน เสริมว่า “…ถ้าโลกหรือสิ่งมีชีวิตแบบใหม่คือสัตว์ประหลาดนี้ไม่ได้รู้สึกสมจริง ภาพยนตร์ก็จะสื่อถึงคนดูไม่ได้ เมื่อเราเริ่มคิดจะทำหนังแนวนี้ แนวสงคราม ผมก็เริ่มทำวิจัย ผมดูสารคดี เยอะมาก ผมทำงานอย่างใกล้ชืดกับเหล่าทหาร ที่ช่วยผมคิดไอเดียต่างๆ ต่อยอดความคิดช่วยฝึกนักแสดง และให้คำแนะนำ คุณจึงเห็นวิธีการของทหารจริงๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ และผมพัฒนาเนื้อเรื่องให้มีความเป็นดราม่าโดยอาศัยรายละเอียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ กับทหารที่อธิบายให้ผมฟัง ผมฟังเรื่องต่างๆ ที่ถูกปิดไว้ระหว่างเดินทางไปตะวันออกกลาง ซึ่งกลายเป็นกุญแจในการสร้างโครงเรื่องของผม ทุกอย่างที่เกิด ขึ้นในภาพยนตร์ ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการรวบรวมเรื่องราวจากทั้งสารคดีและจากทหาร จริงๆมันสำคัญมากในการเล่าเรื่องให้สมจริงในทิศทางที่เป็นจริง…” กรีน กล่าว ผู้กำกับภาพ คริส รอสส อธิบายว่า “… ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้กล้องตัวโดยใช้แสงธรรมชาติที่จอร์แดน เราพยามจะถ่ายทอด ภาพที่ออกมาให้ดูโหดร้ายโดยเฉพาะการใช้ฟิล์มกับฉากต่อมา ตอนที่ ตัวละคร เฟรเทอร์ และ พาร์ค พบว่าตัวเองขาดการติดต่อกับศูนย์บัญชาการและติดอยู่กลางทะเลทราย ส่วน ใหญ่จะมีการหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพใต้ดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงเพราะจะคุมแสงลำบาก ทั้งตาสะท้อนและมีเงา บัง แต่สำหรับเรามันเหมาะมากกับภาพแบบนี้ มันให้ความรู้สึกน่าสะพรึงกลัว เราใช้แสงนั้นสร้างภาพแดด เผาและตัวละครกำลังจะขาดน้ำ…” ทีมงานจ้างทหารที่ไม่ใช่นักแสดงมาร่วม เข้าฉาก กรีน พบกับคนท้องถิ่นในสถานที่ที่เขาจัดให้เป็นโซนติดเชื้อ หนึ่งวันใน วาดี้ รัมม์ ทาง เบนพิวช์ เล่าว่า “…หัวหน้ากลุ่มในชนเผ่าเบดูอินพา ทอม เข้าไปในหมู่บ้าน เขาพบกับครอบครัวทุกรุ่นที่ยังมีชีวิตอยู่ พบเด็กๆ กำลังเรียนหนังสือ ซึ่งความแตกต่างของอายุและการอยู่ร่วมกันมีการใส่ลงไปในภาพยนตร์ เพื่อให้ภาพยนตร์ ดูสมจริงขึ้น…”