SIRI เตรียมออกหุ้นกู้ เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจตามแผนงานปี 2558 20-29 พ.ค. นี้ ผ่านสาขาของ SCB เผยผู้ถือหุ้นกู้แสนสิริ รับสิทธิเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “แสนสิริ แฟมิลี่ – บอนด์ โฮลเดอร์” (Sansiri Family – Bond Holder)
แสนสิริ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว อายุ 5 ปี มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจตามแผนงานปี 2558 และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต เริ่มจำหน่าย 20-29 พฤษภาคมนี้ ผ่านสาขาของ SCB เผยผู้ถือหุ้นกู้แสนสิริ รับสิทธิเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “แสนสิริ แฟมิลี่ – บอนด์ โฮลเดอร์” (Sansiri Family – Bond Holder)
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อดำเนินธุรกิจตามแผนงานในปี 2558 อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมทั้งเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต บริษัทได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว อายุ 5 ปี จำนวนรวม จำนวนรวม 2,000,000 หน่วย (สองล้านหน่วย) มูลค่าหุ้นกู้รวม 2,000 ล้านบาท (สองพันล้านบาท) สำหรับผลตอบแทนของหุ้นกู้ดังกล่าว คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ เท่ากับ 4.75% ตลอดอายุหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนและกำหนดวงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาทและทวีคูณของ 100,000 บาท โดยแต่งตั้งให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และจะเริ่มเปิดจองซื้อในวันที่ 20 – 29 พฤษภาคมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ
“เงินทุนที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการขยายธุรกิจในอนาคต นอกเหนือจากการพึ่งพาวงเงินกู้จากธนาคาร และเพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาโครงการเพื่อตอบรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุม รวมทั้งขยายการพัฒนาโครงการสำหรับรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างจังหวัด และกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2558 จำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 37,000 ล้านบาท” นายวันจักร์ กล่าว
สำหรับหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน ระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ของบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ที่เสนอขายในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ ‘BBB’ (Triple B Straight) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ BBB+ (Triple B Plus) อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถในการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งการดำรงสถานะการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ เดือนเมษายน 2558 บริษัทมีจำนวนโครงการที่เปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งสิ้น 109 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 143,572 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากการมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและการมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่งเป็นสำคัญ มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างน่าพอใจ รวมถึงยอดขายที่รอการส่งมอบอีกในปริมาณมากโดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้าแล้วถึง 34,657 ล้านบาท
“การนำเสนอหุ้นกู้ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากหุ้นกู้ที่บริษัทนำเสนอนั้นให้อัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ และเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น การนำเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก” นายวันจักร์ กล่าว
นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทยังได้จับมือกับพันธมิตรธุรกิจสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเป็น ผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ของแสนสิริให้ประสบความสำเร็จอย่างดีต่อเนื่องเสมอมา เปิดตัว “แสนสิริ แฟมิลี่ – บอนด์ โฮลเดอร์” (Sansiri Family – Bond Holder) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ กับการเปิดตัวบริการสำหรับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกครอบครัวแสนสิริ โดยผู้ถือหุ้นกู้แสนสิริจะได้รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าและกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงสามารถใช้บริการที่ “Sansiri Lounge” ที่พร้อมให้บริการทั้ง 2 สาขา คือ สยามพารากอน และเซ็นทรัล เฟสติดวัล ภูเก็ต และพิเศษ สำหรับผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป สามารถรับบริการ “ผู้ช่วยส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส Sansiri Lifestyle Assistance” จาก Quintessentially Lifestyle (ควินเทสเซนเชียลลี่ ไลฟ์สไตล์) ผู้ให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคลชั้นนำระดับโลก ที่ช่วยเนรมิตให้ทุกจินตนาการของลูกค้าเป็นจริงได้ตั้งแต่เรื่องง่ายที่สุดไปถึงเรื่องยากซับซ้อนที่สุด ประสบการณ์ความสุขเพื่อครอบครัวแสนสิริ ที่แสนสิริมุ่งมั่นสร้างสรรค์กิจกรรม บริการ และสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อตอบสนองความสุขในการใช้ชีวิตแก่สมาชิกครอบครัวแสนสิริ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sansiri Family – Bond Holder โทร. 02-201-3999