คลาสสิก โกลด์ฯ แนะควรพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบการลงทุน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ( 11 พ.ค. – 15 พ.ค.) ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.65 USDต่อออนซ์ (+2.91%) โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 1,179-1,227 เหรียญ สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถ breakout ออกจากกรอบ sideway ที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 2 เดือนขึ้นมาได้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาลดต่ำกว่าระดับ 90 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในปี 2015 นี้ ทั้งนี้มองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในรอบที่ผ่านมานั้นยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เสียส่วนใหญ่ ซึ่งปริมาณความต้องการทองคำที่แท้จริงยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก เมื่อมองจากการรายงานความต้องการทองคำที่จัดทำขึ้นโดยสภาทองคำโลก จะเห็นว่าความต้องการทองคำลดลง 1 % เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1,079 ตัน ดังนั้นสัญญาณการ breakout ขึ้นมาของราคาทองคำจึงควรพิจารณาถึงปัจจัยอื่นประกอบการลงทุนด้วย สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ยังไม่แนะนำให้ follow long ถึงแม้ว่าราคาจะ breakout ขึ้นมาได้ เนื่องจากกองทุน SPDR ยังทยอยขายทองคำออกมาอยู่ การเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า และหากราคาย่อตัวลงลึก แนะนำให้ cut loss ทันที
SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (11 พ.ค. - 15 พ.ค.) ขายทองคำออกมา 4.41 ตัน ทำให้มีสถานะถือทองคำเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ทั้งสิ้น 723.91 ตัน โดยวันจันทร์ที่ผ่านมากองทุน SPDR ขายทองคำออกมาอีก 5.67 ตัน ทำให้ปริมาณการถือครองทองคำสุทธิอยู่ที่ 718.24 ตัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา SPDR ซื้อทองคำสุทธิทั้งสิ้น 4.51 ตัน ในขณะที่เดือนมีนาคม SPDR ขายทองคำสุทธิทั้งสิ้น 34.01 ตัน จากรายการการถือครองทองคำของ SPDR จะเห็นว่ากองทุน SPDR ยังคงขายทองคำออกมาอยู่ถึงแม้ว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นแรงกดดันไม่ให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าทองคำในตลาด COMEX รายสัปดาห์ สิ้นสุด 12 พ.ค. พบว่า มีสถานะคงค้าง(Open Interest) 405,612 สัญญา เพิ่มขึ้น 5,624 สัญญา โดยสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Non-Commercial เพิ่มขึ้น 5,000 สัญญา เป็น 77,440 สัญญา ส่วนสถานะขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Commercial เพิ่มขึ้น 3,340 สัญญา มาอยู่ที่ 77,502 สัญญา จากรายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าจะเห็นว่ายอดการถือครองสัญญาของนักลงทุนกลุ่มต่างๆยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ไม่สามารถบอกอะไรได้มากนัก
ประเด็นที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์ ได้แก่
- รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)
- รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(ECB)
- ผลการประชุมนโยบายการเงินและแถลงการณ์ของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)
- การประกาศดัชนี PMI ในหลายประเทศ
- ค่าเงินดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่
- วันอังคาร ยอดขออนุญาตก่อสร้าง เดือน เม.ย.,ยอดบ้านที่เริ่มสร้างแล้ว เดือน เม.ย.
- วันพุธ ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์
- วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์,ดัชนีPMI ภาคการผลิต (เบื้องต้น) เดือน เม.ย., ดัชนีกิจกรรมภาค
การผลิตในเขตเขตฟิลาเดลเฟีย เดือน พ.ค., ยอดขายบ้านมือสอง เดือน เม.ย., ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ เดือน เม.ย.
- วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน) เดือน เม.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน เม.ย.
Classic Gold Group ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมายาวนาน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุน ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง
www.classicgoldfutures.co.th