แสนสิริเขย่าวงการอสังหาฯ ปิดการขาย เดอะโมนูเมนต์ สนามเป้า ใน 1 วัน ประกาศเดินหน้าเปิดตัว เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต
แสนสิริเขย่าวงการอสังหาฯ ปิดการขาย เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ใน 1 วัน ประกาศเดินหน้าเปิดตัว เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต คอนโดฯ ภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอสต่อเนื่องทันที เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2558 รายได้โต 27%
แสนสิริ เขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ปี 58 ประกาศปิดการขายคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวเป็นโครงการแรกของปีนี้ “เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า” ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท ตอกย้ำตำแหน่ง เจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนในทำเลติดแนวรถไฟฟ้า เผยกระแสตอบรับดี จากจุดเด่นของโครงการ และทำเลที่ตั้ง ซึ่งนับเป็นมาสเตอร์พีซของถนนพหลโยธิน ประกาศ sold out ใน 1 วัน!! โกยยอดขายรวมอีก 1,500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัว โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต (THE LINE) คอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาทต่อเนื่องทันที - เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2558 รายได้เติบโตขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถปิดการขายโครงการ “เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า” (THE MONUMENT SANAMPAO) โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดของแสนสิริ ซึ่งนับเป็นมาสเตอร์พีซของถนนพหลโยธิน ด้วยความเป็นส่วนตัวเพียง 86 ยูนิต โครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินห่างจากบีทีเอส สนามเป้าเพียง 300 เมตรราคาเริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาท หลังจากเปิดการขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าสามารถปิดการขายได้ทันทีใน 1 วัน สร้างยอดขายได้ถึง 1,500 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย (พรีเซล) ของแสนสิริ ณ ปัจจุบัน (1 มกราคม- 18 พฤษภาคม 2558) สามารถทำได้แล้ว 6,500 ล้านบาท
แสนสิริเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมมายาวนานกว่า 31 ปี ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าจนส่งผลให้โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วจากศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งบนพื้นที่กว่า 1 ไร่บนนถนนพหลโยธินใกล้รถไฟฟ้าสนามเป้า ที่มุ่งหมายให้โครงการเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของย่านนี้ นอกจากนี้การออกแบบโครงการยังพิถีพิถันใส่ใจรายละเอียดทุกตารางเมตร เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าของตัวอาคารที่มีความโค้งได้องศาไล่ระดับ ตกแต่งโพเดียมให้น่าสนใจด้วยแผงระแนงหินแกรนิต สูงถึง 8 ชั้น ยาวเต็มตลอดแนวพร้อมไฟแรนดอมไปกับตัวอาคาร ทำให้ดูหรูหรามีเอกลักษณ์
ส่วนกลางของโครงการเดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ตั้งแต่พื้นที่โถงต้อนรับ (The Lobby Lounge) ชั้น 1 ซึ่งงดงามโดดเด่นด้วยหินอ่อน White River ที่มีเส้นสายลวดลาย เปรียบเสมือนชิ้นงานศิลปะจากธรรมชาติล้ำค่า The Monument Club ส่วนกลางที่ชั้น 9 ทั้งชั้น นับว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ครบวงจรที่สุด เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ โดยเน้นการใช้วัสดุหินอ่อน และไม้ มาสร้างเสน่ห์ของความร่วมสมัยในรูปแบบของงาน Handcraft อาทิห้องสมุด (The Library) ห้องดื่มชา (The Tea Room) ห้องสังสรรค์ (The Social Lounge) ห้องดูหนัง (The Theatre Room)) ห้องนวดส่วนตัว (The Private Massage Room) และห้องเอนกประสงค์ (The Multi-Purpose Room) ไม่ว่าจะเป็นพื้นหินอ่อน Alabescato ในส่วนของ The Social Lounge ซึ่งจัดเป็นหินที่หายาก และมีความพิเศษคือ มีเส้นลายของแร่ในเนื้อหินที่คมชัด สวยงาม หรือหินอ่อน Lue’vy Grey ที่นำมาใช้ในห้อง The Tea Room โดยมีแหล่งกำเนิดจากประเทศอิตาลี หรือพื้นไม้ Hexagon Basket Weave พื้นไม้สักลายดั้งเดิมที่มีประวัติยาวนาน เป็นแบบลายสานหกเหลี่ยม ซึ่งใช้เทคนิคการต่อลายและติดตั้งแบบงานฝีมือ ช่วยเพิ่มความหรูหรา ส่วนบริเวณด้านบนสุดของอาคาร Rooftop Amenities Floor ชมวิวเมืองในมุมมองใหม่ไปกับ The Sky Pavilion สวนชั้นดาดฟ้าบนชั้น 22 ได้รับการดีไซน์ขึ้นเป็นสวนแนวตั้งที่ร่มรื่น โดยการออกแบบนั้นมีจุดมุ่งหมายให้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดกลมกลืน เน้นสร้างบรรยากาศสงบและเป็นส่วนตัวตัดขาดจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายภายนอก
ส่วนบริเวณชั้น 23 ถูกออกแบบให้เป็น The Infinity Edge Pool โดยเลือกใช้หิน Silver Grey Quartzite ในพื้นสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นหินสีเทาที่มีเส้นสายของแร่สีเงิน จนสามารถเกิดประกายของเนื้อหิน และให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างจากหินทั่วไป ส่วนฟิตเนสที่ชั้น 24 เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า สามารถมองลงมาเห็นวิวของเมืองได้ชัดเจน และเห็นสระว่ายน้ำในชั้น 23 ที่ห้อมล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ให้การออกกำลังกายและการพักผ่อนมีสุนทรียภาพยิ่งขึ้น
นอกจากส่วนกลางที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านแล้ว แสนสิริยังคัดสรรอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องพักเป็นพิเศษ โดยคำนึงดีไซน์ความสวยงามหรือฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ พื้นไม้ภายในห้องพักที่ปูเป็นลายแพทเทิร์น Herringtonbone (พื้นลายก้างปลา) ซึ่งเป็นการวางลายชิ้นไม้แบบต่อมุม ทำให้เกิดมุมมองลายซิกแซก,มือจับประตู Samsung Digital Doorlock, สุขภัณฑ์ TOTO Neorest Automatic Water Closet ซึ่งเป็นระบบไฮบริด ช่วยประหยัดพลังงาน และอนุรักษ์น้ำ รวมถึงมีรีโมทควบคุมการทำงาน, กระจก Insulated Glass หรือกระจก 2 ชั้น ที่เว้นช่องไว้ตรงกลางเพื่อช่วยลดความร้อน และลดเสียง รบกวนจากภายนอก นับว่าเป็นเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานสำหรับอาคารสมัยใหม่อย่างได้ผล, Video Door Phone & Home Automation, ชุดครัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Kuppersbusch จากประเทศเยอรมัน รวมถึงระบบเสียงที่ใช้ในห้อง The Theatre Room ที่ได้ชุดเครื่องเสียง และจอ LED ขนาด 85 นิ้วจากแบรนด์ Bang & Olufsen ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีมาผสานกับดีไซน์ได้อย่างลงตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ นับเป็นการผสมผสานระหว่างความสุขสงบไปกับธรรมชาติแวดล้อมด้วยกลิ่นอายคลาสสิคในรูปแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม และการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่ทันสมัยตรงใจคนรุ่นใหม่ บนทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ย่างก้าวของความฝันและความสำเร็จที่พร้อมจะส่งต่อประสบการณ์ดีๆเหล่านี้ เพื่อเป็นมรดกให้รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป
“สำหรับโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า นับเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดของแสนสิริที่มีการเปิดตัวเป็นโครงการแรกในปีนี้ และประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย ต่อเนื่องจากโครงการ เดอะ เวอร์ติเคิล อารีย์ และ ออนิกซ์ บาย แสนสิริ ในทำเลติดถนนพหลโยธิน ที่บริษัทประสบความสำเร็จสามารถปิดการขายได้รวดเร็วเช่นเดียวกันในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งเป็นความสำเร็จที่ต่อเนื่องจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมทุกโครงการ ที่บริษัทพัฒนาในทำเลติดแนวรถไฟฟ้า อาทิ โครงการ SIRI at Sukhumvit, PYNE by Sansiri, The Vertical Aree, และ ONYX by Sansiri เป็นต้น ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัว โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต (THE LINE) คอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาทต่อเนื่องทันที” นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาสแรก 2558 บริษัทมีรายได้รวม 6,971 ล้านบาท เติบโตขึ้น 27 % จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมสูงถึง 64% ของรายได้จากการขายทั้งหมด และมีกำไรสุทธิ 541 ล้านบาท
“ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้จากการทยอยโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าได้ถึง 6,224 ล้านบาท จากการโอนที่อยู่อาศัย อาทิ โครงการดีคอนโด ซายน์ เชียงใหม่, โครงการเดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่, บ้านเคียงฟ้า หัวหิน, ดีคอนโด นครระยอง และบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ พัทยา เป็นต้น นอกจากนี้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่เตรียมทยอยส่งมอบอีกถึง 13 โครงการ โดยจะเริ่มโอนโครงการนายน์ บาย แสนสิริ, ดีคอนโด ฮาย เชียงราย, ดีคอนโด กาญจนวณิช หาดใหญ่ ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากการโอนตามเป้าหมายที่มีการปรับเพิ่มเป็น 36,000 ล้านบาท ” นายเศรษฐา กล่าว